ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
ภายใต้ฝีมือสั่งการของเซียวอวี๋ ออสซิเดี้ยนไร้ต้านก็ยิ่งมายิ่งอ่อนแอ จนสุดท้ายร่างกายของมันก็เผยโฉมออกมา
แม้ทางฝั่งกองทัพมนุษย์จะกล่าวได้ว่าสูญเสียอย่างหนัก หลายคนตกตายโดยไม่ทันตั้งตัว กระนั้นการสังหารออสซิเดี้ยนไร้ต้านลงได้ก็นับว่าคุ้มค่า
เพราะศพของออสซิเดี้ยนไร้ต้านนั้นมีประโยชน์มหาศาล สามารถนำไปใช้หลอมสร้างได้หลายสิ่ง
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ของออสซิเดี้ยนไร้ต้านแย่ลงเรื่อยๆ เซียวอวี๋ก็บังคับมังกรน้อยบินโฉบลงต่ำ ขวานพรากวิญญาณในมือยกขึ้นฟันออกไป ในมือที่ถือทอนฟาของมังกรน้อยก็ฟาดตามออกไปเช่นกัน หนึ่งคนหนึ่งมังกรบินวนฟาดซ้ำไปซ้ำมาจนออสซิเดี้ยนไร้ต้านร้องโหยหวน
หลังจากมาถึงขั้นที่ห้า มังกรน้อยก็แข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าอานูบีสแล้ว เพียงแต่ออสซิเดี้ยนไร้ต้านนี้มีเกราะพลังงานห่อหุ้มร่าง ปราศจากเกราะพลังงานนี้ แน่นอนว่าออสซิเดี้ยนไร้ต้านตนนี้คงเละไปแล้ว
ตอนนี้ออสซิเดี้ยนไร้ต้านมีสภาพร่อแร่เต็มทน มังกรน้อยโจมตีออกไปอีกครั้ง ออสซิเดี้ยนไร้ต้านพยายามจะฝืนป้องกันหากแต่มันไม่หลงเรี่ยวแรงอีกแล้ว มังกรน้อยตื่นเต้นยิ่ง หลังจากมาถึงขั้นที่ห้า เจ้าตัวยักษ์นี่จะเป็นเหยื่อรายแรกของมัน!
เมื่อเห็นมังกรน้อยเปวี่ยงทอนฟาเข้าหาร่างที่โงนเงนของออสซิเดี้ยนไร้ต้าน ทุกคนก็อ้าปากค้าง
เจ้านี่ใช่มังกรหรือ? หรือเดี๋ยวนี้พวกมังกรหันมาใช้อาวุธกันแล้ว? ทั้งอาวุธนี้ยังแปลกประหลาดมากและทรงพลังมากด้วย
เปรี้ยง!
ทอนฟาฟาดเข้าใส่ออสซิเดี้ยนไร้ต้านอย่างจังจนร่างของอันสูงใหญ่ของมันล้มคว่ำลงสนั่นพื้น
ทุกคนเฮลั่น ต่างคนต่างเตรียมวิ่งเข้าไปแบ่งชิ้นส่วนของออสซิเดี้ยนไร้ต้าน อย่างไรก็ตาม มังกรน้อยยกเท้าขึ้นเหยียบร่างของออสซิเดี้ยนไร้ต้านเอาไว้ ผู้ใดยังจะเข้าไปได้?
“ทุกคนหยุดอยู่ตรงนั้น!” เซียวอวี๋ที่พาดขวานไว้บนบ่าตะโกนลงมาจากหลังมังกรน้อย
หลังบรรลุขอบเขตขั้นที่หก เซียวอวี๋ก็มีกลิ่นอายแข็งแกร่งแผ่ออกจากร่าง ดังนั้นทุกคนจึงหยุดเท้าทันทีที่ได้ยิน
“ข้าจะเป็นคนแบ่งสรรศพของเจ้านี่เอง มีผู้ใดคัดค้านหรือไม่?” เซียวอวี๋วางท่านักเลงโตพลางกวาดมองฝูงชนอย่างเฉื่อยชา
ทุกคนต่างหันไปมองหน้ากัน จู่ๆก็มีเสียงตะโกนออกมาจากฝูงชน “นี่จะได้อย่างไร?”
เซียวอวี๋แค่นเสียงเย็นก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ด้วยขวานในมือข้าและทอนฟาในมือมังกรของข้า หากผู้ใดไม่เห็นด้วยก็ก้าวออกมาสู้กับมังกรของข้า หากชนะก็ให้คนผู้นั้นเป็นคนจัดสรร”
ได้ฟังวาจาอันไร้เหตุผลของเซียวอวี๋ แม้จะมีบางคนไม่พอใจ แต่เมื่อแววตาดุร้ายของมังกรน้อยกวาดมองมาพวกเขาก็สั่นสะท้านไปถึงวิญญาณจนต้องรีบก้มหน้าลงต่ำ
มีบางคนที่เคยปะทะกับพวกเซียวอวี๋เมื่อครั้งอยู่ในวิหารดำมาก่อน คนเหล่านี้ทราบว่าเซียวอวี๋นั้นแจกจ่ายอย่างยุติธรรมยิ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ส่งเสียงคัดค้านใดๆ
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครค้าน เขาก็กล่าวต่อ “ร่างกายของเจ้านี่เป็นวัตถุดิบในการหลอมสร้างสิ่งของอย่างดี ทว่านั่นก็ต้องการอาจารย์แปรธาตุฝีมือดีด้วย เอาล่ะ มาเริ่มประมูลเถอะ ผู้ใดให้ราคาสูงที่สุดก็จะได้ของไป เงินที่ได้ก็เอามาแบ่งกัน”
“แล้วจะแบ่งเงินกันอย่างไร?” มีบางคนตะโกนถามขึ้นมา
เซียวอวี๋ตอบเสียงเรียบ “ข้าจะแบ่งให้ตามผลงานที่ข้าได้เห็นจากบนฟ้า หากว่าเจ้าไม่พอใจก็เข้ามาสู้กับมังกรของข้า ถ้าเจ้าชนะก็เอาของไปได้เลย”
การตอบกลับของเซียวอวี๋ทำให้ทุกคนต่างปิดปากเงียบ ในใจของทุกคนต่างก่นด่าพฤติกรรมวางตัวเป็นใหญ่ แต่พวกเขาก็ได้แต่ด่า หากไม่กล้าตอแย
ครั้งนี้พวกเขาได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนแล้ว
เซียวอวี๋กวาดมองฝูงชนด้วยความพอใจ เมื่อทุกคนต่างหลบตา เขาก็กล่าวว่า “เริ่มประมูลที่หนึ่งล้านเหรียญทอง! การประมูลสามารถใช้ทั้งเงินสดและสิ่งของมีค่า เช่น ม้วนคัมภีร์เวท เวทอาวุธต่างๆได้”
หลังจากนั้นพักหนึ่ง การประมูลก็เริ่มต้นขึ้น ผู้ประมูลรายแรกก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นศัตรูเก่าของเขาอย่างร็อบจากตระกูลเคเนดี้
เวลานี้ร็อบมีท่าทีเคร่งขรึม หากแต่ก็แฝงไว้ด้วยความทะนง
จากนั้นคนอื่นๆก็ประมูลตาม ผู้คนที่มาอัลคีราฟครั้งนี้มีมากกว่าครั้งไหนๆ กระนั้นราคาที่สู้ไหวกลับไม่สูงมาก พวกเขาต่างรู้ดีว่าของพวกนี้เป็นเพียงวัตถุดิบที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้โดยตรง หากไม่มีช่างหลอมช่างแปรธาตุจัดการให้ ถึงได้ไปก็กลายเป็นไร้ประโยชน์
การประมูลค่อยๆดำเนินไปจนกระทั่งเซียวอวี๋ลงประมูลที่ราคาสิบล้านเหรียญทองจึงค่อยจบลง เห็นราคาที่สิบล้านแล้ว ทุกคนต่างก็เงียบเสียงพลางหันไปมองหน้ากัน
มากกว่าสิบล้านเหรียญทองถึงได้ไปก็ไม่คุ้มค่าแล้ว
สุดท้ายสิ่งของจึงตกเป็นของเซียวอวี๋ เซียวอวี๋มีเหรียญทองจำนวนมากจากการเก็บค่าผ่านทางก่อนหน้า ดังนั้นเขาจึงจ่ายด้วยเงินสดทั้งหมด
เซียวอวี๋ค่อยๆแบ่งเงินให้กับทุกคนตามผลงานที่เขาได้เห็น แม้ว่าการแบ่งเช่นนี้จะไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าใด หากแต่ทุกคนก็ยอมรับได้
กระทั่งถึงตอนที่ต้องแบ่งให้ตระกูลเคเนดี้ เซียวอวี๋ก็ไม่ได้หักเงินอะไร สิ่งใดควรจ่ายก็จ่าย นี่คือคุณสมบัติของผู้นำ
เมื่อแบ่งเงินเสร็จสิ้น เซียวอวี๋ก็เก็บร่างของอานูบีสคลั่งสงครามไป เขาตระเตรียมว่าหลังเสร็จเรื่องนี้แล้ว ก็จะนำร่างของมันกลับไปให้ฮิกกิ้นศึกษา บางทีเขาอาจจะสามารถสร้างของที่สุดยอดออกมาก็เป็นได้
ได้รับเงินกันแล้วทุกคนก็พึงพอใจ วิหารอัลคีราฟอยู่ข้างหน้าไม่ไกลแล้ว เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาก็คือขุมทรัพย์ในวิหารอัลคีราฟนี้เอง……