ตอนที่ 757 ทะนุถนอม(1) โดย Ink Stone_Romance

ถังซ่งโอดครวญและแทบเป็นบ้าอยู่ทางนั้น

 “ช่วยฉันเช็คดูที่ระบบของโรงพยาบาลที่เธอไปผ่าตัดคราวก่อนหน่อยว่าเธอแท้งเองใช่มั้ย ดูประวัติของเธอให้ละเอียด”

 “แท้งอะไรเหรอ?” ถังซ่งรู้ว่า ‘เธอ’ ที่เขาพูดถึงหมายถึงใคร เขาเริ่มได้สติเลยลุกขึ้นจากกองผ้าห่ม “เธอเป็นคนเลือกทำแท้งเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ๆ ถึงกลายเป็นแท้งเองได้ล่ะ?”

 “ก็เลยให้นายไปเช็คดูไง”

 “ได้ได้ได้ พรุ่งนี้ฉันจะตื่นแต่เช้าไปเช็คให้นายเลยโอเคมั้ย?” ถังซ่งหาววอดอย่างง่วงงุน ดวงตาเริ่มหรี่ลง

 “ตอนนี้”

 “ล้อเล่นอะไรอยู่? คุณชาย นี่มันดึกดื่นแล้ว” ถังซ่งบอกปฏิเสธไป “ไม่ไป ฉันจะนอน!”

เย่เซียวกำโทรศัพท์ไว้ไม่เอ่ยเสียงและไม่วางสาย ทุกครั้งในเวลานี้จะหมายความว่า ‘ไม่มีอะไรให้คุย ไปก็ไป ไม่ไปก็ต้องไป’ ถังซ่งสบถคำหยาบทีเลิกผ้าห่มออกพลิกตัวลงจากเตียง “ชาติที่แล้วฉันต้องติดหนี้นายมาแน่ นายว่าฉันรู้จักใครไม่ว่า ทำไมต้องมารู้จักนายด้วย?”

“จะรอข่าวจากนาย” เย่เซียวมีเรื่องในใจ เสียงบ่นของถังซ่งไม่ส่งผลอะไรต่อเขา พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะวางสายไป

ถังซ่งทำได้แค่พร่ำบ่นว่าตัวเองชีวิตลำบากแต่ก็ไม่ได้ชักช้า เตรียมไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่ห้องหนังสือ

เพิ่งก้าวออกจากห้องก็ได้ยินเสียงปลดล็อกประตูที่ชั้นล่าง ถังซ่งชะงักกึก จากนั้นสองแขนกอดอกปรายตามองประตูอย่างเย็นชา ให้ตาย เขาอยากจะดูหน่อยว่าหัวขโมยที่ไม่คิดจะเอาชีวิตที่ไหนกล้ามาขโมยของถึงบ้านเขา!

ผลสุดท้าย…

ประตูถูกคนเปิดจากข้างนอก คนที่ยืนอยู่ตรงประตูไม่ใช่หัวขโมยหน้าตาร้ายกาจที่ไหน แต่เป็น…

อืม ผู้หญิงคนหนึ่ง

ผู้หญิงที่สวยมาก

เขาถังซ่งก็นับได้ว่าผ่านโลกมาเยอะ คนสวยแบบไหนที่ไม่เคยเห็นมาบ้าง? แต่การปรากฎตัวที่นี่ของผู้หญิงคนนี้กลับทำให้เขารู้สึกภาพตรงหน้าเป็นประกาย

เธอแต่งตัวธรรมดาโดยมัดผมยาวไว้ด้านหลังลวกๆ ปรอยผมปรกข้างแก้ม เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยาวขาเดฟ รองเท้าส้นสูงสีดำเผยให้เห็นข้อเท้าขาวเนียนสะอาด ข้างนอกสวมทับด้วยเสื้อโค้ทสีกากี

เรียบง่ายและดูตามแฟชั่น

สิ่งสำคัญที่สุดคือรูปร่างดีมาก

ถังซ่งเหลือบมองผ่านๆ ก็ดูออกว่าหน้าอกของผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คัพ E ก็ต้องคัพ D หน้าอกได้รูปเอวคอด ผมยาวสลวย นี่มันของงามชั้นดีเลย ไม่อยู่เป็นคนสวยดีๆ กลับมาเป็นหัวขโมยแทนเสียอย่างนั้น

“เฮ้!ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจ รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้นะ เห็นแก่ว่าเธอเป็นผู้หญิง ฉันจะสงสารสักครั้ง”

หญิงสาวตรงประตูทัดผมที่ปรกข้างแก้มไว้หลังหูเผยใบหน้าเรียวงามออกมา ตวัดตามองเขาแวบหนึ่งแต่ไกล

ทั้งที่เป็น…สายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร แต่ถังซ่งกลับถูกสายตานั่นสะกดให้นิ่งค้าง ในใจเหมือนถูกไฟช็อตแปลกๆ

 “ถ้านายจะสงสารจริงๆ ยังจะมองจากข้างบนอยู่อีกเหรอ? ลงมาช่วยฉันยกกระเป๋า”

ให้ตาย!

ไฟช็อตบ้าอะไรเล่า!

เมื่อก่อนถังซ่งเดินออกไปไหน ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่แสดงท่าทีอ้อนแอ้นต่อหน้าเขาหรอกห? ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนใดนอกจากแม่เขาจะกล้าใช้เขา!แล้วยังออกคำสั่งได้หน้าตาเฉยขนาดนี้มาก่อน!

 “คุณ คุณเป็นใคร!กล้าใช้ผม คุณเรียกใช้ได้งั้นเหรอ?”

หญิงสาวก้าวเข้ามาช้าๆ ท่วงท่าเป็นธรรมชาติคล้ายเดินเข้าบ้านตัวเอง จากนั้นเธอแหงนหน้าอมยิ้มให้ถังซ่งน้อยๆ “ฉันคือใคร สงสัยต้องรบกวนให้คุณชายอย่างคุณลงมาดูด้วยตัวเองสักหน่อยแล้วล่ะ”

ถังซ่งพบว่าตอนหญิงสาวผู้นี้ยิ้มนั้นเหมือนมีไฟฟ้าสถิตอยู่ สายตาเกี่ยวกระหวัดเบาๆ นั่นก็อย่างกับปีศาจ คล้ายตัวร้ายในหนังที่เป็นประเภทดูดเอาพลังชีวิตของผู้ชายโดยเฉพาะ ผู้ชายที่ตกอยู่ในเงื้อมมือผู้หญิงแบบนี้ คิดว่าใช้นิ้วนับก็ไม่พอ

คุณชายถังก็เป็นมือปราบมารปีศาจโดยเฉพาะ ฉะนั้นจะปล่อยให้ปีศาจน้อยตัวนี้ทำตัวเหลิงในบ้านเขาได้อย่างไร?

ผูกสายคาดเอวไปก็เดินลงมาอย่างอ้อร้อ ตลอดทางใช้สายตากวาดมองร่างกายเธออย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็มายืนนิ่งตรงหน้าหญิงสาว

เขาฉายยิ้ม “รู้มั้ยว่าปกติฉันจะเช็คยังไงว่าใครเป็นใคร?”

 “คอยฟังอยู่” เธอไม่ได้ถอยหลังสักก้าว ปล่อยให้เขาเข้าใกล้โดยที่ไม่ห้าม

ถังซ่งยิ้มร้าย

ถัดจากนั้น…

สองมือตะครุบบั้นท้ายงอนของหญิงสาวไว้ออกแรงให้ร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาวโผเข้ามาในอ้อมกอดเขา อืม!สัมผัสมือไม่แย่เลย!อีกทั้งพอมองใกล้ๆ แบบนี้พบว่าโครงหน้าเธอได้รูปมากจริงๆ ผู้หญิงข้างนอกที่ผ่านการศัลยกรรมมาพวกนั้นเขาเจอมาเยอะ แต่ก็ไม่เคยเห็นใครมีเครื่องหน้าพอดีเท่าเธอมาก่อน เป็นธรรมชาติซึ่งทำให้ดูแล้วสบายตา

ผิวพรรณก็เนียนเด้ง อย่างน้อยก็ไม่เห็นรูขุมขนสักนิด

 “ฉันจะดูยังไง ปกติก็ต้องถอดให้เปลือยค่อยๆ ดู ฉันน่ะ ชอบดูหุ่นเพรียวขาวๆ นุ่มๆ…” ถังซ่งเป็นนักรักสนุกที่ชอบความคลุมเครือ พอนิสัยเจ้าชู้กำเริบไม่มีใครจะห้ามเขาได้อีก เขากดเสียงต่ำ รอยยิ้มทั้งร้ายทั้งเจ้าเล่ห์ สายตาชำเลืองมองข้างหน้าหญิงสาวอย่างมีเลศนัย สายตานั่นคล้ายได้ถอดเสื้อผ้าเธอออกจนเปลือยเปล่าไปแล้ว “อีกอย่าง ฉันจะถอดทั้งจากบนลงล่าง ถอดหมดแล้วค่อยมาดูให้ละเอียดทีละจุด…”

หญิงสาวยิ้มเคอะเขิน นอกจากจะไม่ผลักเขาออกกลับยกแขนโอบลำคอถังซ่งแทน “ถ้าตอนนี้ให้นายถอด นายกล้ามั้ย?”

ถังซ่งพบว่าผู้หญิงคนนี้ช่างข่มอารมณ์เก่งเหลือเกิน ตัวเองหยอกเย้าขนาดนี้ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงหน้าแดงใจเต้น แกล้งทำเป็นขวยเขินกันไปนานแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้สุดยอดไปเลยที่หยอกเขาคืน!

ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์มามากจะนิ่งขนาดนี้ได้อย่างไร?

 “ฉันไม่เคยไม่กล้าทำจริงๆ ด้วยสิ โดยเฉพาะการปราบมารร้ายอย่างเธอ…” ถังซ่งว่าแล้วมือใหญ่ก็เริ่มเลื่อนจากบั้นท้ายเธอสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตเธอ “เธออย่าคิดจะหลบเชียว”

หญิงสาวไม่หลบกลับอมยิ้มตลอดเวลา โน้มหน้ากระซิบกล่าวข้างหูราวกับพ่นลมใส่“ถังซ่ง นายว่าถ้าพี่ห้านายรู้เข้าว่านายหยอกพี่สะใภ้ของนายดึกดื่นแบบนี้ กลับมาจะตัดแขนสองข้างนายทิ้งหรือเปล่า?”

ถังซ่งชะงัก

นี่มันเรื่องอะไร?

พี่ห้า?

พี่สะใภ้?!

ท่วงท่าของเขานิ่งค้างไปทันใด จากนั้นสายตาทั้งคู่ค่อยๆ เลื่อนมาบนใบหน้าหญิงสาวที่วินาทีถัดมาเจ้าตัวก็ทำหน้าบูดบึ้งเต็มที

ให้ตาย!

ผู้หญิงคนนี้มันโม่เหลียงเยียน ว่าที่ภรรยาในอนาคตของพี่ห้าถังอีไม่ใช่หรือ? เธอหมั้นกับถังอีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ตอนที่ถังซ่งเจอเธอครั้งแรกเธอยังเป็นต้นถั่วงอกที่ยังไม่เจริญเติบโตด้วยซ้ำ!นี่ไม่ได้เจอกันแค่กี่ปีเอง…

 “ยังไม่เอามือของนายออกอีกเหรอ?” โม่เหลียงเยียนผละแขนจากไหล่เขา ดวงตาสวยงามถลึงมองเขา “อยากให้ฉันไปฟ้องพี่นายจริงๆ หรือไง?”

 “ให้ตาย!” ถังซ่งได้สติกลับมาก็สบถทีและแทบจะเด้งตัวไปข้างหลังทันที “เธอ…เอ่อ…พี่สะใภ้ ถ้าพี่สะใภ้บอกว่าเป็นพี่สะใภ้ผมแต่แรก ผมจะรังแกพี่สะใภ้ได้ยังไง?”

โม่เหลียงเยียนกลั้นหัวเราะ “งั้นตอนนี้ฉันใช้นายให้ช่วยยกกระเป๋าให้ฉันได้หรือยัง?”

 “แน่นอนอยู่แล้วสิ!นี่เป็นสิ่งที่สุภาพบุรุษทุกคนควรทำ” ถังซ่งเปลี่ยนหน้าไวมาก ยิ้มตาหยีเดินไปตรงประตูขณะเดียวกันก็หันกลับมากล่าว “พี่สะใภ้ เรื่องเมื่อกี้เราถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกันนะ พี่สะใภ้อย่าไปพูดอะไรเหลวไหลต่อหน้าพี่ห้าของผมเชียว เขาต้องฆ่าผมแน่ๆ”

 “ได้สิ ดูความประพฤติของนายแล้วกัน”

………………………