ตอนที่ 759 ทะนุถนอม(3) โดย Ink Stone_Romance

 “เช้านี้มีประชุมตอนเช้า ใกล้ได้เวลาแล้วครับ”

เย่เซียวพยักหน้ารับก่อนจะมองเธอที่อยู่บนเตียงอีกทีถึงพยักหน้าเดินออกไป พยาบาลที่เฝ้าเวรอยู่รีบเดินเข้ามาหา เขาสั่งเสียงนิ่ง “รอเธอตื่น อย่าให้เธอออกจากโรงพยาบาล จัดตารางการตรวจร่างกายทั้งตัวไว้ก่อน ห้ามละเว้นที่ไหนสักที่ สายๆ ผมจะมาอีก รอผมมาแล้วค่อยให้เริ่มตรวจร่างกาย”

 “ค่ะ คุณเย่”

 “แล้วก็…” เย่เซียวหันกลับไปมองในห้องอีกแวบหนึ่ง “ถ้าเธอยังไม่ตื่นก็ให้เธอนอนอีกสักหน่อย”

เกรงว่านานทีเธอจะหลับสนิทขนาดนั้นถึงทำให้ไม่ตื่นเลยตลอดคืน

 “ค่ะ” พยาบาลพยักหน้ารับอีกที

เย่เซียวพูดสั่งไว้เสร็จถึงเดินออกไปนอกโรงพยาบาล นวดคลึงแขนหลายที หยูอันถามขึ้น “บาดเจ็บตรงแขนหรือครับ?”

 “เปล่า แค่เลือดหมุนเวียนไม่คล่อง นวดแป๊บหนึ่งก็พอ”

หยูอันจึงไม่ถามให้มากความ ทั้งคู่เดินตามหลังกันออกไปจากโรงพยาบาล หยูอันเปิดประตูเบาะหลังเมื่อเขาขึ้นรถแล้วถึงขับรถไปที่บริษัทไฟกรุ๊ป

รถยนต์มุ่งตรงสู่จุดหมายปลายทางโดยที่หยูอันปรายสายตามองเขาที่นั่งอยู่เบาะหลังผ่านกระจกหน้า ในที่สุดสักพักถึงเอ่ยปาก “ทำไมจู่ๆ เธอถึงเข้าโรงพยาบาลได้ แล้วยังพอดีกับเวลาที่เราเพิ่งกลับมาถึงด้วย?”

เย่เซียวที่กำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ได้ยินประโยคของหยูอันถึงเชยตาเหลือบมองเขาที ถามเสียงเรียบ “นายคิดว่าเธอจงใจ?”

“ไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ได้ ในเมื่อจุดประสงค์เธอไม่บริสุทธิ์”

 “ไม่ใช่” เย่เซียวตอบปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

หยูอันมองเขาแวบหนึ่ง เห็นเขาจดจ่อกับนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ใดๆ หยูอันถึงไม่พูดอะไรอีก

เรื่องเมื่อสิบปีก่อนพวกเขาล้วนเป็นผู้เสียหาย แต่ความจริงผู้ที่เสียหายมากที่สุดมาโดยตลอดก็คือเย่เซียว นอกจากเขาจะต้องพบเจอการทรยศหักหลังแล้วยังต้องรู้สึกผิดต่อลูกน้องยี่สิบห้าชีวิตที่สูญเสียไป โดนทำร้ายความรู้สึกอย่างมากทำให้บางครั้งเขาย่อมต้องรอบคอบระวังยิ่งกว่าเดิมเมื่อต้องเปิดรับความสัมพันธ์ใหม่ๆ

เขาปล่อยวางไป๋ซู่เย่ไม่ได้ ลืมไม่ลง ความรู้สึกนั่นมันฝังอยู่ในใจถึงขั้นฝังรากหยั่งลึกถึงกระดูก แต่ความรักแบบนี้ไม่เคยมีคำว่าเชื่อใจ

ขณะนี้เย่เซียวที่คอยระแวงเธอมาตลอดสามารถพูดคำขาดว่าเมื่อคืนเธอไม่ได้เสแสร้ง ถ้าเช่นนั้นแล้วบางทีอาจจะไม่ใช่ความบังเอิญจริงๆ

หยูอันไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น

……………………

ประชุมช่วงเช้าวุ่นวายมาก

เย่เซียวนั่งอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะ ประชุมเช้าสองชั่วโมงดูนาฬิกาไปสี่ครั้ง กับเรื่องงานเขาจดจ่อกับมันอยู่เสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่ใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนี้

ไม่รู้ว่าเธอตื่นแล้วหรือยัง รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม อาหารเช้าล่ะ? ทานหรือยัง? อาหารของโรงพยาบาลจะถูกปากเธอหรือเปล่า?

เย่เซียวเหม่อลอยทันทีที่นึกถึงเธอ

“นายท่าน?” เสียงหยูอันดึงสติเขากลับมา

 “ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ?” มองเขาอย่างเป็นห่วงแวบหนึ่ง

เขาส่ายศีรษะ นิ้วยาวเคาะหน้าโต๊ะ “พักสิบนาที สิบนาทีหลังจากนี้ค่อยต่อ”

พูดสั่งเสร็จเขาเลื่อนเก้าอี้ ลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์เดินออกจากห้องทำงานโดยไม่หันกลับมา

หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ที่ยังนั่งอยู่ในห้องประชุมต่างมองกันและกัน “นายน้อยเป็นอะไรไป วันนี้ดูท่าทางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”

 “จะเป็นอะไรได้? เกิดเรื่องในวันแต่งงาน ในเวลาสั้นๆ แบบนี้จะให้กลับมาเหมือนเดิมคงยากอยู่หรอก”

 “แกคิดว่าเป็นแกหรือไง นายน้อยไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนั้น ได้ยินว่าในวันแต่งงานเจ้าสาวฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา ตอนที่ถูกลากศพออกไปเขาไม่แม้แต่จะปรายตามองสักนิด ยังคงเย็นชาเหมือนเดิมเสมอเลยนะ…” เสียงของคนนั้นแผ่วลงเรื่อยๆ เมื่อพูดมาถึงประโยคท้ายๆ

 “พวกแกเบื่อที่ทำงานมานานใช่มั้ย? ถ้าเบื่อไม่มีเรื่องอะไรให้ทำก็ไสหัวไปได้เลย!” หยูอันกระแทกปิดเอกสารดัง ‘ปึง–’เงยหน้าขึ้นปรายตาที่คมเฉี่ยวเย็นชาดั่งปลายมีดแหลมคมใส่พวกที่กระซิบกระซาบกัน หลังสองคนนั้นลนอยู่ครู่ก็รีบปิดปากเงียบ ก้มหน้าไม่กล้าสบตาหยูอัน ใครจะรู้ว่าหยูอันหูดีขนาดนั้นล่ะ!

……………………

เมื่อไป๋ซู่เย่ตื่นมานั้นท้องฟ้าข้างนอกก็สว่างเต็มที่แล้ว

ช่วงนี้ร่างกายเหนื่อยล้าเกินไปทำให้เมื่อคืนหลับสนิทและตอนนี้เริ่มมีพลังขึ้นไม่น้อย

เมื่อคืน…

ความคิดเธอหยุดชะงัก

จำได้เลือนรางคล้ายว่าเย่เซียวจะอยู่เคียงข้างตัวเอง แถมเขายังกอดตัวเองอยู่ทั้งคืน…

กระทั่งตอนนี้เธอยังจำอ้อมกอดเขาได้…

เธอหันหน้ามองไปตำแหน่งข้างกายอัตโนมัติ แต่ว่า ว่างเปล่า

เธอยื่นมือสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วลูบจับ ตรงนั้นเย็นเฉียบไม่มีไออุ่นใด กวาดมองทั้งห้องแวบหนึ่งก็ไม่มีร่องรอยที่เขาเคยมา…

หัวใจดำดิ่ง

หันข้างน้อยๆ นอนขดตัวเป็นก้อน

ที่แท้ก็ฝันจริงๆ…

นั่นสิ

เย่เซียวอยู่ต่างประเทศ จะปรากฏตัวในโรงพยาบาลได้อย่างไร ลองถอยมาสักหมื่นก้าวต่อให้ตอนนี้เขากลับประเทศแล้ว จากท่าทีเย็นชาที่เขามีต่อเธอช่วงนี้เขาก็ไม่มีทางมา…

นึกถึงเขาพาลนึกไปถึงน้ำเสียงจริงจังที่ฟังดูเย็นชาในสายโทรศัพท์ของเขา อัดอั้นในอกจนบีบรัดให้รู้สึกแย่ไปหมด

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ…

และจู่ๆ ก็พบว่าระยะนี้ระหว่างเธอกับเย่เซียว ความจริงมีแต่เย่เซียวที่เป็นฝ่ายเข้าหาตัวเองก่อน พอตอนนี้…ยามที่เธออยากจะเข้าหาเขากลับไม่รู้ว่าต้องใช้วิธีใด

………………

หัวหน้าพยาบาลที่เฝ้าเวรอยู่ได้รับสายจากเจ้านายกะทันหันก็ตกใจอย่างมาก ต่อให้อีกฝ่ายไม่อยู่ตรงหน้าแต่ก็ลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ

 “คุณเย่”

 “คนไข้ห้อง V208 ตื่นหรือยัง?”

 “เมื่อกี้ตอนไปตรวจห้องยังนอนอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้น่าจะตื่นแล้ว คุณจะคุยกับเธอหรือคะ? ฉันจะไปเรียกเธอมารับสาย”

 “ไม่ต้องหรอก” เย่เซียวบอกและถามเพียง “มีไข้มั้ย?”

 “เมื่อกี้ตอนไปตรวจห้องทุกอย่างปกติดีค่ะ”

 “อืม” น้ำเสียงเย่เซียวผ่อนคลายลงมาก “เตรียมอาหารเช้าชุดหนึ่งเข้าไปในห้องของเธอ ไม่เอาอาหารทะเล ไม่เอาเผ็ดและไม่มัน”

 “ได้ค่ะ คุณวางใจได้ ฉันจะรีบให้คนไปเตรียม”

เย่เซียวไม่ว่าอะไรอีกแค่เป็นฝ่ายวางสายไปก่อน

หัวหน้าพยาบาลเหลือเชื่อมากว่าคนที่เพิ่งโทรหาเธอจะเป็นเย่เซียวที่เย็นชาถึงขั้นฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาในตำนานคนนั้น?

นี่มันผู้ชายแสนดีที่เอาใจใส่มากๆ ต่างหาก!

 “คนไข้ห้อง V208 คงไม่ใช่คุณนายในอนาคตของเราหรอกนะ?” ไม่อย่างนั้นเจ้านายจะสั่งการไว้ละเอียดขนาดนี้ได้อย่างไร?

 “ก็ไม่แน่หรอก เมื่อวานเจ้านายมาอยู่เป็นเพื่อนทั้งคืนแหนะ!แล้วก็นะ จะว่าไปคุณไป๋หน้าตาคล้ายกับคุณนายคนก่อนมากเลย” พยาบาลอีกคนตอบรับ

 “งั้นเหรอ?” หัวหน้าพยาบาลอดถามไม่ได้ แต่ทันใดนั้นด้วยจรรยาบรรณในอาชีพก็ทำให้เธอโบกมือปัด ตั้งท่ากล่าว “ช่างเถอะ เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเรา รีบไปทำงานตัวเองได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณนาย”

……………………