บทที่ 362

อู๋ตงไห่โพล่งออกมา “คุณไม่ต้องบอกผมก็เห็นอยู่ว่าลูกผมไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่ตอนนี้ที่ผมอยากรู้คือต้องทำยังไงต่อ?”

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อ “ผมคิดว่าต้องเพิ่มขนาดยาหน่อยครับ ไม่ว่าจะยังไงต้องทำให้คุณชายรองสงบสติให้ได้ก่อน”

อู๋ตงไห่พยักหน้าตอบ “แล้วรออะไรอยู่?!”

ผู้เชี่ยวชาญตอบว่า “ประธานอู๋ครับ ถ้าใช้ยาระงับประสาทมากเกินไปอาจจะส่งผล

เสียต่อร่างกายได้นะครับ ดังนั้น……”

อู๋ตงไห่โพล่งออกมา “ตอนนี้เขากำลังทำร้ายร่างกายตัวเองอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทำให้เขาสงบสติโดยเร็วที่สุด!”

“ครับ!” ผู้เชี่ยวชาญพยักหน้าตอบแล้วรีบเพิ่มขนาดยาทันที

เป็นอีกหนึ่งเข็มที่ฉีดเข้าไป แต่อู๋ฉีก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย

“มันแปลกจริงๆ ……” ผู้เชี่ยวชาญพูดต่อ “ฤทธิ์ยากล่อมประสาทนี้รุนแรงมาก ด้วยสองเข็มนี้แม้จะเป็นช้างก็ต้องสลบอย่างแน่นอน แต่คุณชายกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสองใดๆ มันไม่สมเหตุสมผลเลย……”

ในเวลานี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจพูดขึ้นว่า “แย่แล้วครับ ร่างกายของคุณชายกำลังสั่น หัวใจคงต้องเต้นเร็วผิดปกติแน่เลยครับ!”

หลังจากนั้นเขาก็หยิบเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาออกมาทันที เมื่อทำการทดสอบก็พบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของอู๋ฉีสูงถึง 180 ครั้งต่อนาที!

“นี่…..นี่มันดัชนีการเต้นของหัวใจหลังจากการออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจนเลยนะ……ถ้าหากยังเป็นแบบนี้อีก คุณชายจะเสี่ยงต่อหัวใจวายเลยนะครับ!”

อู๋ตงไห่รีบถาม “มันเสี่ยงมากไหม?”

แพทย์โรคหัวใจตอบว่า “ถ้าหัวใจวาย กล้ามเนื้อหัวใจอาจจะแข็งจนหัวใจล้มเหลว ซึ่งมันจะอันตรายถึงแก่ชีวิตเลยนะครับ!”

อู๋ตงไห่ถามอย่างตื่นตระหนก “แล้วต้องทำยังไง?!”

แพทย์โรคหัวใจตอบว่า “ต้องสงบสติอารมณ์ของคุณชายให้ได้ก่อนครับ ไม่เช่นนั้นหัวใจจะทนรับไม่ไหว……”

จิตแพทย์ด้านข้างพูดขึ้น “แต่เราทำไม่ได้ นี่เราฉีดยากล่อมประสาทไปสองเข็มแล้วนะครับ แต่คุณชายรองไม่มีท่าทีที่จะสงบเลย……”

อู๋ฉีในเวลานี้ยังคงดิ้นรนด้วยสุดแรง และอัตราการเต้นของหัวใจก็เร็วขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุด!

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจวิตกกังวลและพูดโพล่งออกมาว่า “ไม่ได้แล้วนะครับ! ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องแบบนี้ มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะครับ!”

อู๋ตงไห่รีบถามเพื่อนร่วมชั้นของอู๋ฉีที่ยืนหวาดกลัวอยู่ด้านข้าง “คืนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่? มีใครพอจะทำให้เขาสงบสติลงได้บ้าง?”

ทั้งสามต่างมองหน้ากัน จากนั้นก็มีหนึ่งในสามคนนั้นรวบรวมความกล้าแล้วตอบคำถามเขา “สวัสดีครับคุณอา คืนนี้อู๋ฉีกลับถึงห้องก็เริ่มกินอึเลยครับ เวลาที่เขาจะกินอึ ไม่มีใครห้ามเขาไว้ได้จริงๆ นะครับ จนกว่าเขาจะกินเสร็จถึงมีสติได้……เขาเป็นแบบนี้สองถึงสามรอบเลยครับ……”

อู๋ตงไห่ถามด้วยสีหน้าเย็นชา “หมายความว่าเขาต้องกินอึถึงจะสงบสติอารมณ์ได้งั้นหรือ?”

“ใช่ครับ……” ทุกคนพยักหน้าตอบ

อู๋ซินที่ยืนอยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณพ่อครับ หรือว่ามีคนกำลังจงใจแก้แค้นเสี่ยวฉีอยู่ครับ? เพราะในสองปีที่เสี่ยวฉีเข้าเรียนในมหาลัย เขาเคยทำร้ายเด็กผู้หญิงจากครอบครัวคนยากจนสองคนและดูเหมือนว่าทั้งสองจะเสียชีวิตไปแล้วด้วยนะครับ”

อู๋ตงไห่ตอบอย่างเฉยเมย “นายพูดเองไม่ใช่เหรอว่าเด็กผู้หญิงจากครอบครัวยากจนเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีปัญญาทำอะไรเราได้ อีกอย่างพ่อคิดว่ามันเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่า”

ในเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจพูดขึ้นด้วยความกังวลอีกครั้ง “ประธานอู๋ครับ อัตราการเต้นของหัวใจของนายน้อยเกิน 220 ครั้งต่อนาทีแล้วนะครับ ถ้าหากไม่รีบทำอะไรสักอย่างเขาต้องแย่แน่เลยครับ!”

อู๋ตงไห่กัดฟันแล้วพูดอย่างชัดเจน “ให้เขาไปกิน!”

อู๋ซินพี่ชายของอู๋ฉีรีบพูดโพล่งออกมา “พ่อครับ เราคงไม่ได้จะพาน้องไปกินอึที่ห้องน้ำใช่ไหมครับ! เพราะนั่นมัน……มันน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!”

อู๋ตงไห่พูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว! รักษาชีวิตเขาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด! พาเขาไปกินก่อน! ที่เหลือค่อยว่ากัน!”