เฉินเยี่ยนคิดถึงเรื่องเฉินเวยท้อง พูดกับซินห้าว “ตอนนี้พวกเราไม่มีทางรู้ว่าลูกเป็นของใคร เรื่องนี้คุณบอกซินเหลยไป ถามความคิดเขา ดูว่าเขาคิดจะจัดการยังไง”
ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนเข้าใจความคิดเขา เลยพูด “ถ้าเด็กเป็นของซินเหลย งั้นเขาก็มีสิทธิ์รู้ อีกอย่างซินเหลยผ่านเรื่องนี้มาเขาเปลี่ยนไปแล้ว ให้เขาเป็นคนตัดสินใจเถอะ”
ซินห้าวคิดแล้วก็พยักหน้า
เฉินเยี่ยนฟังซินห้าวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตลอด หลังซินเหลยรู้เขาเงียบไปนาน บอกว่าถ้าแม้เฉินเวยจะไม่ดี แต่เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าเฉินเวยยอมคลอดลูกออกมา งั้นเขาก็ยอมเลี้ยงเด็กคนนี้ แต่เขาจะไม่ช่วยเฉินเวย
ซุนหม่านเซียงก็ตกลง ยังไงก็จะเก็บเด็กคนนี้ไว้ ถ้าเป็นหลานเธอ เธอก็จะช่วยเลี้ยง ถึงแม้มีลูกแล้ว ซินเหลยจะแต่งงานลำบากหน่อย แต่ด้วยฐานะของซินเหลย เธอไม่เชื่อว่าลูกชายจะไม่ได้แต่งกับภรรยาที่ดี
เพียงแต่เรื่องราวไม่ราบรื่นขนาดนั้น เฉินเวยฟังการตัดสินใจของบ้านซินก็แทบคลั่ง เธอใช้ลูกมาขู่ เพราะหวังว่าเธอจะไม่ติดคุก เธอรู้ว่าข้างในเป็นยังไง เธอไม่อยากเข้าไปเผชิญอีก แต่คิดไม่ถึงว่าถึงแม้เธอจะมีลูก บ้านซินก็ยังไม่คิดจะช่วยเธอ
อีกทั้งซุนหม่านเซียงบอกว่าเฉินเยี่ยนท้องแล้ว เฉินเวยด้านหนึ่งแสดงท่าทีว่าเป็นไปไม่ได้ อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกกลัว เธอคลั่งจนแทบจะเข้าไปดึงทึ้งซุนหม่านเซียง อารมณ์รุนแรง เฉินเวยเลือดออก จนเธอโดนส่งตัวเข้าโรงพยาบาลก็แท้งแล้ว
“ฮาฮา นี่คือหลานของคุณ ตอนนี้ไม่มีแล้ว พวกคุณบ้านซินจะไม่มีทายาทสืบสกุล”
เฉินเวยรู้ว่าไม่มีลูกแล้ว เลยหัวเราะเยาะและสาปแช่งซุนหม่านเซียง
ซุนหม่านเซียงด่าเธอไปหลายประโยค ไม่มีเด็กแล้ว เธอก็ไม่ต้องมาเจอเฉินเวยอีก ดังนั้นเธอเลยไปหา
หลังซินเหลยรู้เรื่องก็เงียบไปครึ่งค่อนวัน เขาบอกว่าเขาอยากเจอเฉินเวย แต่ซุนหม่านเซียงห้ามไม่ให้เขาไปเจอ
ลูกเฉินเวยไม่มีแล้ว เรื่องของเธอและบ้านซินก็จบลงแบบนี้
พริบตาเดียวก็ปีใหม่แล้ว ปีใหม่ซินชานและซุนหม่านเซียงกลับมาที่หมู่บ้าน เห็นเบื้องหลังพวกเขาไม่มีเงาของซินเหลย ซินต้าฉุยและคุณย่ารู้สึกผิดหวัง
“แม่ ซินเหลยออกไปกับเพื่อนนักเรียน เขาให้พวกเราเอาของมาเยี่ยม ของนี่ ของพวกนี้ซินเหลยเป็นคนเตรียมให้พ่อแม่ เขาบอกว่าอีกสักพักจะกลับมาเยี่ยมปู่ย่า”
ซินชานรู้ความคิดของพ่อแม่ นี่หวังจะให้ซินเหลยกลับมาด้วย แต่ตอนนี้ร่างกายซินเหลยยังไม่ไหว ไม่สามารถพามาทรมานได้ แล้วกลัวว่าคนแก่จะเป็นห่วงตามไปด้วย ซินเหลยจึงไม่ได้กลับมา
“ได้ ได้ พวกเราจะรอเขา ขอแค่เขาอยากมา เมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น”
ซินต้าฉุยพยักหน้า รู้ทั้งรู้ว่าซินชานปลอบใจเขา แต่เขาก็ยังถือเป็นเรื่องจริง
ซุนหม่านเซียงลดความจองหองจากเมื่อก่อนลงไปบ้าง อันที่จริงเธอกลับมาได้ ก็นับว่ามีพัฒนาการแล้ว
“เธอเป็นยังไงบ้าง ฉันดูว่าทำไมเธอยังผอมอยู่ขนาดนี้ ท้องนี่ดูไม่ออกเลย คลื่นไส้หรือเปล่า? เธอต้องกินให้มากหน่อย เธอไม่กิน หลานฉันยังต้องกินนะ”
พอซุนหม่านเซียงเห็นเฉินเยี่ยนก็พูดขึ้นมา เธอยอมกลับมา นอกจากซินชานขอร้อง ซินเหลยโน้มน้าวเธอแล้ว ก็มีเรื่องที่เฉินเยี่ยนท้องด้วย
ลูกในท้องเฉินเวยไม่มีแล้ว ตอนนี้ท้องของเฉินเยี่ยนถือเป็นสิ่งล้ำค่าในใจเธอ
“เยี่ยนจื่อกินไม่น้อยเลยนะ เธอกินแล้วไม่อ้วน เธอไม่คลื่นไส้ด้วย ลูกในท้องนี่เชื่อฟังดี”
ไป๋ซิ่วเหมยยิ้มยืนพูดอยู่ข้างๆ
“เชื่อฟัง? ไม่ทรมาน? นั่นไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลยนะ กลัวว่าจะท้องลูกผู้หญิงน่ะสิ เมื่อก่อนตอนที่ฉันท้องซินห้าวและซินเหลยทรมานไม่น้อยเลย แต่ฉันไม่เคยคลอดลูกผู้หญิงมาก่อน บ้านน้องสอง เธอคลอดลูกผู้หญิงมาสองคน ตอนนั้นเธอก็เป็นแบบนี้หรือเปล่า”
ซุนหม่านเซียงขมวดคิ้วเล็กน้อย เธออยากได้หลานชายนะ
ทำไมไป๋ซิ่วเหมยจะไม่เข้าใจความหมายของพี่สะใภ้คนนี้ เลยขำปล่อยผ่านไป
ปีใหม่ แต่ซุนหม่านเซียงกลับพูดจาไม่เป็นมงคล
ตอนที่กินข้าวเธอเอาแต่จ้องมองเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนไม่เลือกกิน ทั้งเนื้อทั้งผักเธอกินหมด เธอเจริญอาหารดี
พูดขึ้นมาถึงตอนนี้เธอท้องมาได้สามเดือนกว่าแล้ว เธอไม่มีอาการคลื่นไส้เลย และไม่ขี้เซาด้วย ไม่ต่างจากตอนปกติเลย ถ้าไม่แน่ใจ เธอคงไม่รู้สึกว่าตัวเองท้องอยู่เลย
แล้วเธอไม่ได้ดูอ้วนด้วย ท้องก็ดูเหมือนจะใหญ่แค่นั้น ตัวเธอเองยังแปลกใจเลย
เด็กคนนี้เลี้ยงง่ายขนาดนี้ หรือว่าจะเป็นลูกผู้หญิงอย่างที่แม่สามีว่า?
เฉินเยี่ยนลูบใบหน้า ผิวก็ดูชุ่มชื้นอยู่ ยังเนียนมากด้วย รูปร่างเธอก็ไม่เปลี่ยน ต่างพูดกันว่าถ้าท้องลูกผู้ชายแม่จะน่าเกลียด ท้องเด็กผู้หญิงแม่จะสวย ดูเหมือนตัวเองน่าจะท้องเด็กผู้หญิง
ลูกผู้หญิงก็ลูกผู้หญิง เธอก็ชอบเด็กผู้หญิงมาก คิดว่าอีกหน่อยเธอจะได้มีลูกสาวให้เธอแต่งตัวสวยงาม เฉินเยี่ยนรู้สึกมีความสุข
กินข้าวเสร็จ ซินชานและซุนหม่านเซียงไม่ได้ค้างที่นี่ พวกเขากลับไปคืนนั้นเลย ซินเหลยอยู่บ้านคนเดียว พวกเขาไม่วางใจ
ฝั่งบ้านซินที่นี่ก็ไม่ได้คิดมาก ปกติซินชานกลับมาคนเดียว ครั้งนี้ซุนหม่านเซียงตามกลับมาด้วยก็ไม่แย่แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้หวังจะให้ซุนหม่านเซียงเปลี่ยนในพริบตา
เฉินเยี่ยนใช้ชีวิตอย่างสุขใจ ทุกอย่างเป็นดั่งหวัง แต่จนปีใหม่ผ่านไป ช่วงชีวิตที่ดีงามของเฉินเยี่ยนก็โดนทำลาย เธอเริ่มอาเจียน อาเจียนจนหน้ามืดตามัวไปหมด กินอะไรก็อาเจียนออกมาหมด แม้แต่กลืนน้ำลายยังอยากจะอาเจียนเลย ทรมานจนเธออยากจะซบลงไปไม่ลุกขึ้นมา
แต่ก็แปลก อาเจียนเสร็จพอเห็นอาหารเธอก็อยากกินต่อ จนกินอิ่มก็อาเจียนอีก ทรมานไปแบบนี้
ทรมานเกือบหนึ่งเดือนเต็ม จนตอนที่เธอท้องได้ห้าเดือนท้องถึงค่อยป่องออกมาเหมือนลูกโป่งโดนเป่าลมเข้าไป เห็นว่าใหญ่แล้ว ใครก็มองออกแล้วว่าเธอท้อง
เรื่องเฉินเยี่ยนท้องเป็นที่พูดถึงในหมู่บ้าน คนส่วนมากต่างบอกว่าเธอท้องไม่ได้ บอกว่าอีกหน่อยบ้านซินจะต้องหาสะใภ้อีก ยังมีคนไม่น้อยที่ฝันอยากจะให้ลูกสาวตัวเองเป็นภรรยาซินห้าวอีกด้วย
เฉินเยี่ยนท้องครั้งนี้ ทำลายความหวังของคนไปไม่น้อยเลย
แน่นอน ทุกอย่างเฉินเยี่ยนได้ยินมาหมด แต่เธอไม่สนใจ ตอนนี้เธอกำลังซึ้งถึงความมหัศจรรย์ของชีวิตอยู่
ตอนที่เฉินเยี่ยนท้องได้หกเดือนกว่า คำตัดสินของซินเหลยก็ออกมา เหมือนอย่างที่พวกเขาเดาไว้เลย โทษจำคุกสองปีรอลงอาญาสามปี นี่ถือว่าเป็นผลที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนเฉินเวย เพราะเธอมีโทษครั้งก่อนอยู่ อีกทั้งเธอทำเรื่องเท็จว่าป่วยร้ายแรงออกมา ครั้งนี้เธอเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับซินเหลยด้วย ดังนั้นนอกจากห้าปีนั้นแล้ว เฉินเวยโดนตัดสินให้จำคุกอีกห้าปี หมายความว่าเฉินเวยต้องติดคุกสิบปี
สิบปีเลย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเฉินเวยต้องทิ้งไว้ในนั้น แต่เฉินเยี่ยนไม่สงสารเธอ เธออยากจะให้อยู่ในนั้นตลอดชีวิตไปเลยด้วยซ้ำ
ส่วนคนที่ช่วยเฉินเวยออกมา แน่นอนก็ไม่ได้ดีเหมือนกัน เขาก็โดนโทษจำคุก
ครั้งนี้ เขาและครอบครัวเขาโกรธแค้นเฉินเวยเป็นอย่างยิ่ง
เฉินเวยไม่เพียงแต่แฉเขา ยังแฉถึงคนพวกนั้นที่รังแกเธอตอนนั้นด้วย แบบนี้ เพราะเธอคนเดียว แต่เกี่ยวโยงไปถึงคนไม่น้อยเลย คนมากมายต่างเกลียดเฉินเวย ดังนั้นเข้าไปครั้งนี้ ชีวิตของเฉินเวยยิ่งแย่กว่าแต่ก่อนอีก เธออยู่ในนั้นได้รับความทรมาน เธอยังพลั้งมือทำคนบาดเจ็บสาหัส โทษเลยยิ่งยาวนานขึ้นอีก กว่าเธอจะออกมาอีกครั้ง ตอนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเฉินเยี่ยนสภาพไม่ใช่ลูกผีลูกคนนั้นก็เป็นเวลายี่สามปีให้หลังแล้ว แน่นอน นี่คือคำพูดในอนาคต ตอนนี้เฉินเยี่ยนและเฉินเวยต่างยังไม่รู้
โทษซินเหลยจำคุกสองปีรอลงอาญา หมายความว่าถ้าในสามปีนี้เขาไม่ทำผิดอีก ก็หมายความว่าเขาไม่ต้องติดคุก
วินาทีที่คำตัดสินออกมาซินเหลยร้องไห้ มีแค่คนที่เคยสูญเสีย คนที่เคยผ่านมาก่อนเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าอิสระนั้นล้ำค่าเพียงใด ครั้งนี้เป็นบทเรียนเพียงพอให้เขาเติบโตขึ้น