จนตอนที่ซินชานและซุนหม่านเซียงพาซินเหลยมาปรากฏตัวที่บ้านซิน ซินต้าฉุยและคุณย่าต่างตกใจ มองดูซินเหลยคุกเข่าให้พวกเขาเรียกคุณปู่คุณย่า ทั้งสองคนตาแดงก่ำ
“คุณปู่ คุณย่า ลุงสอง ป้ารอง ขอโทษครับ เมื่อก่อนผมไม่รู้เรื่อง ผม ผมอยากจะอยู่ที่นี่สักพัก ได้ไหมครับ?”
ในห้องรับแขก เป็นครั้งแรกที่ซินเหลยขอร้อง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะอยู่ในหมู่บ้านที่เมื่อก่อนเขารังเกียจ
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ที่นี่ก็เป็นบ้านเจ้าเหมือนกัน อยากจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ เจ้ามาอยู่ได้ ปู่ก็ดีใจนัก”
ซินต้าฉุยพยักหน้าติดต่อกัน หลานคนที่สองเปลี่ยนนิสัยแล้วหรือ?
ซุนหม่านเซียงอ้าปากอยากจะพูดอะไร แต่โดนซินชานห้ามไว้ ไม่ให้เธอพูด
แบบนี้ซินเหลยก็มาอยู่ที่หมู่บ้านแล้ว
คนในหมู่บ้านต่างวิจารณ์กันใหญ่ ต่างพูดกันถึงเรื่องนี้ แต่นี่กลับถือเป็นเรื่องดีต่อบ้านซิน
ซินต้าฉุยอารมณ์ดียิ้มไม่หุบเลยทุกวัน คุณย่าก็มีท่าทีอ่อนโยนเช่นกัน
ลุงไป๋และไป๋ซิ่วเหมยเห็นซินเหลยไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วเหมือนกัน ไม่รังเกียจไม่เรื่องมาก พวกเขาก็สบายใจ
เฉินเยี่ยนและซินห้าวยังพาซินเหลยไปบ้านเฉินด้วย คนบ้านเฉินก็ยินดีต้อนรับเขามาก เพียงแค่เห็นเขา หวางนิวก็คิดถึงเฉินเวยขึ้นมาอีก ไปแอบร้องไห้ลับหลัง
ซินเหลยยังไปโรงงานกระดาษด้วย เขาสนใจโรงงานกระดาษมาก ถามคำถามเฉินจงหลายเรื่องเลย
ซินห้าวยังพาซินเหลยไปเดินเล่นในหมู่บ้าน พาซินเหลยลงแม่น้ำ จับปลา เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้ผิดคำพูด เธอทำปลาตุ๋นน้ำแดงให้เขากิน
ซินเหลยกินหมั่นโถวไปสามชิ้นใหญ่ สุดท้ายยังใช้หมั่นโถวจิ้มกับน้ำซอสปลากินด้วย พูดว่าหอมอร่อยไม่หยุด
ซินเหลยยังพาสุนัขตัวใหญ่สองตัวเดินรอบหมู่บ้านตั้งสองวัน
ใบหน้าซินต้าฉุยและคุณย่าเต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกวัน ตอนนี้หลานชายคนเล็กยอมกลับมาที่หมู่บ้านเกษตรกรแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้พวกเขาก็รู้สึกสนิมสนมกันขึ้นมา พวกเขาคิดว่าพวกเขาแก่แล้ว แต่กลับยิ่งมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างสบายใจมากขึ้น
ซินหงได้ข่าวก็กลับมา เห็นความเปลี่ยนแปลงของหลานชายก็ประหลาดใจ
มีคนมากมายในหมู่บ้านต่างมาที่บ้านซิน มาสืบว่าซินเหลยมีภรรยาหรือยัง อยากจะหาคู่ให้ซินเหลย
เพราะซินเหลยหน้าตาโดดเด่นจริงๆ ไม่ด้อยไปกว่าซินห้าวเลย ครอบครัวที่มีลูกผู้หญิงก็อยากจะดองกับบ้านซิน
แต่โดนบ้านซินปฏิเสธไปหมด พวกเขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ เรื่องแต่งงานของซินเหลยต้องผ่านซุนหม่านเซียง ถ้าพวกเขาตกลงไป ซุนหม่านเซียงต้องเอาชีวิตพวกเขาแน่ๆ
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป เหมือนซินเหลยได้ทำทุกเรื่องที่ตอนเด็กเขาอยากจะทำหมดแล้ว และก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้ว เขาเดินมาตรงหน้าเฉินเยี่ยน
“พี่สะใภ้ ผมอยากจะทำงานที่โรงงานกระดาษ จะให้ทำกะกลางคืนก็ได้นะ ได้ไหม?”
ซินเหลยถามเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนมองซินเหลยด้วยความตกใจ แต่เธอรู้ ซุนหม่านเซียงหางานในเมืองให้ซินเหลย ซินเหลยไม่ยอม แล้วทำไมถึงอยากไปทำที่โรงงานกระดาษ? โรงงานกระดาษอยู่ในหมู่บ้านเกษตรกรนะ ซินเหลยเขาทนลำบากได้หรือ?
“ซินเหลย บอกพี่สะใภ้มา เธออยากจะทำงานที่โรงงานกระดาษจริงๆ หรือแค่อยากจะอยู่ที่นี่?”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าซินเหลยไม่มีประสบการณ์ทำงาน เธอเลยถามอย่างจริงจัง
“ทำงานที่โรงงานกระดาษนั้นเหนื่อยมาก โดยเฉพาะกะกลางคืน ไม่ได้นอนทั้งคืน ถึงแม้นอนก็ได้แค่งีบอยู่ข้างกระดาษพักเดียว หน้าตามอมแมมเปรอะฝุ่นทุกวัน จะแก่เร็ว เธออยากทำจริงหรือ?”
เฉินเยี่ยนอธิบายงานกับซินเหลย เธอไม่อยากให้ซินเหลยทำหนึ่งวันแล้วก็เปลี่ยนใจ
ซินเหลยโดนเฉินเยี่ยนถามสายตาแลดูสับสน
“พี่สะใภ้ พูดตามจริง ผมก็ไม่รู้ แม่ผมหางานให้ แต่ผมไม่อยากไป เพราะผมได้ยินมาว่า ที่จริงพวกเขาไม่ได้ชอบผมเลย เพียงแค่เห็นแก่หน้าพ่อเลยไม่รับผมไม่ได้ ผมไม่อยากไปทำให้รำคาญ ผมอยากจะไปโรงงานกระดาษ ที่จริงผมก็ไม่รู้ว่าผมอยากจะทำหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะรับความลำบากนี้ได้ไหม เพราะเมื่อก่อนผมไม่เคยทำงาน ผมแค่รู้สึกว่าคนในครอบครัวพี่สะใภ้ดี คนที่นั่นก็สนิทสนมกันมาก บางทีพวกเขาอาจจะไม่รังเกียจผม ผม ที่จริงแล้วผมก็ไม่รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง ผมสามารถทำอะไรได้”
ซินเหลยรู้สึกงุนงง เขาอยากจะเปลี่ยนแปลง แต่เขาไม่มีทิศทาง
เฉินเยี่ยนมองเขา และก็มองออก ตอนนี้ซินเหลยเหมือนเด็กคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะเลือกอะไร แต่เฉินเยี่ยนรู้ โรงงานกระดาษไม่เหมาะกับซินเหลย
งั้นซินเหลยทำอะไรได้?
เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้รู้จักซินเหลยดีเป็นพิเศษ และไม่รู้ว่าซินเหลยมีความสามารถอะไร เหมือนจะไม่มีความสามารถอะไรเลย
“ซินเหลย อีกไม่กี่วันพี่ชายเธอจะลงไปภาคใต้ พอดีเลยเขาไปคนเดียวฉันไม่วางใจ ถ้าเธอยังไม่ได้คิดดีก็ตามพี่ชายเธอไปด้วยกันเถอะ”
อยู่ๆ เฉินเยี่ยนก็คิดได้ว่าให้ซินเหลยตามซินห้าวลงไปทางใต้
“ลงใต้? ผมยังไม่เคยออกนอกเมืองเราเลย”
ซินเหลยคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะพูดแบบนี้
“แล้วเธอกลัวไหม?”
เฉินเยี่ยนยิ้มถาม
“ไม่กลัว ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น กลัวแค่จะสร้างความลำบากให้พี่ชาย”
ซินเหลยยืดอก เขากลัวเฉินเยี่ยนดูถูกเขา แต่แววตายังมีความกลัวอยู่ เขาไม่เคยเดินทางไกลเลย ทางใต้จะเป็นบังไงเขาไม่รู้เลย
“ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วทำเป็นทุกอย่าง จากไม่เคยก็ต้องเรียนรู้กันทุกคน เธอไม่ต้องกลัว อยู่ข้างๆ พี่ชายเธอไว้ไปเปิดหูเปิดตา พี่ชายเธอก็ไม่เคยไปทางใต้มาก่อน เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเธอไปดู มีเธอเป็นเพื่อนพี่ชาย สองคนช่วยเหลือกันมีที่ปรึกษา ฉันก็วางใจ ถึงพวกเธอจะไปแค่เที่ยวเดียว ฉันก็คิดว่าดีมาก แต่ละเมืองต่างมีของและทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไปดูหน่อยถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเธอ”
สีหน้าเฉินเยี่ยนอ่อนโยน ซินเหลยเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ทั้งเคารพและพึ่งพาเธอมาก เธอยินดีออกความเห็นให้ซินเหลย ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต่างเกลียดกันทั้งสองฝ่าย
“ได้ ผมเชื่อฟังพี่สะใภ้”
อยู่ๆ ซินเหลยก็มีความมั่นใจขึ้นมา พี่สะใภ้ยังไม่กลัว แล้วเขาจะกลัวอะไร เหมือนที่พี่สะใภ้บอก ถึงแม้จะทำอะไรไม่สำเร็จ ออกไปดูหน่อยก็ถือว่าดี คนโบราณชอบพูดกันว่าอ่านหนังสือหมื่นเล่ม มิสู้เดินทางหมื่นลี้ไม่ใช่หรือ
“พี่สะใภ้ ผมเกิดเรื่องครั้งนี้เป็นพี่กับพี่ชายออกเงินให้หมดเลย ตอนนี้ผมก็จะพูดไม่เกรงใจแล้ว เพราะผมไม่มีเงิน ฝั่งแม่ผมยังมีอยู่หน่อย แต่นั่นก็เป็นเงินที่พี่ชายให้แม่ ผมไปขอไม่ได้ ลงใต้ครั้งนี้ถ้าสามารถทำธุรกิจเล็กๆ ได้ ผมก็อยากจะทำธุรกิจเล็กๆ แน่นอน ตอนแรกเริ่มผมไม่มีเงินทุนอะไร ทำใหญ่โตไม่ได้ จะเริ่มจากเล็กๆ ก่อน รอผมมีเงิน ผมค่อยคืนให้พี่ชายและพี่สะใภ้ แต่ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินทุนอะไรเลย ถ้าผมเจออะไรดีๆ พี่สะใภ้สามารถให้ผมยืมเงินได้ไหม?”
ซินเหลยพูดมาถึงตอนสุดท้ายก็หน้าแดงเล็กน้อย แววตาดูเกรงใจ เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเรื่องเงินมาก่อนเลย ไม่มีเงินก็ไปขอซุนหม่านเซียง ใช้เงินมือเติบจนติดเป็นนิสัย ครั้งนี้เขาอยากทำงาน เขาถามมาแล้ว คนงานได้เงินเดือนหนึ่งไม่กี่สิบเหรียญ อย่างดีหน่อยก็ได้แค่ร้อยยี่สิบเหรียญ
ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ค่าของเงิน ซุนหม่านเซียงจะแอบให้เงินเขา เขาไม่ต้องการ นั่นก็เป็นเงินของพี่ชาย เขาไม่อยากเอาเงินของพี่ชายมาคืนให้พี่ชาย เขาอยากหาเงินด้วยตัวเอง
แต่เขาไม่มีเงินลงทุน ดังนั้นเขาคิดจะยืม เมื่อก่อนเขาไม่เคยรู้สึกละอายเลย ใช้ไปเดี๋ยวเงินก็มาเป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกละอาย
“ทำไมจะไม่ได้? ฉันให้เธอยืมเงินแน่นอน ถ้าเธอมีธุรกิจเล็กๆ อะไรที่เธอทำได้ ก็มาปรึกษาฉันกับพี่ชายเธอได้ ยังไงเขาก็มีประสบการณ์มากกว่าเธอ ตอนแรกถึงแม้จะขาดทุนก็ไม่เป็นไร เรียนรู้เป็นประสบการณ์ ขอแค่เธอหาเส้นทางของเธอเจอก็ดี แน่นอน เงินนี้เธอต้องคืนฉัน ฉันต้องเก็บไว้ซื้อเสื้อผ้าให้หลานชายหรือหลานสาวเธออีกนะ”
เฉินเยี่ยนก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ซินเหลยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“พี่สะใภ้วางใจได้ เงินนี่ผมต้องคืนพี่แน่นอน ผมไม่ยอมให้หลานชายหรือหลานสาวผมไม่มีเสื้อผ้าใส่หรอก!”
ซินเหลยกำหมัด รู้สึกซึ้งใจ พี่สะใภ้เชื่อมั่นเขามาก เขามองท้องเฉินเยี่ยน เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเขาไม่ใช่เด็กอีกแล้ว เขาโตแล้ว