แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาโดนเฝิงหยู่ผ่านทางหน้าต่าง เฝิงหยู่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างมองดูเมฆบนท้องฟ้าและการจราจรบนท้องถนน สีหน้าของเขาดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก …

“เข้ามาได้”

ราล์ฟเข้ามาในห้องและแกล้งทำเป็นปาดเหงื่อบนหน้าผาก

“เจ้านายครับ นี่ครับจดหมาย ผมไปเอามาให้แล้ว”

เฝิงหยู่ยิ้มเมื่อเห็นลายมือที่คุ้นเคยบนซองจดหมาย “โอเค วางไว้ตรงนั้นแหละ คุณทำได้ดีมาก”

การชมเชยลูกน้องเป็นสิ่งสำคัญเวลาที่พวกเขาทำอะไรบางอย่างเพื่อคุณ

“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เจ้านายครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ราล์ฟรินชาหนึ่งถ้วยและวางไว้บนโต๊ะของเฝิงหยู่ก่อนจะออกไป

เฝิงหยู่ฉีกซองจดหมายและหยิบจดหมายออกมาอย่างระมัดระวัง กระดาษมีกลิ่นหอมของดอกไม้

เฝิงหยู่คุ้นเคยลายมือนี้มาก เขาจิบชาร้อนขณะอ่านจดหมายจากเซี่ยงไฮ้

จดหมายฉบับนี้มาถึงซีแอตเทิลเมื่อสองสามวันก่อน แต่เฝิงหยู่อยู่ในนิวยอร์ก ราล์ฟต้องมาที่นิวยอร์กพอดี เฝิงหยู่เลยสั่งให้เขานำจดหมายจากที่นั่นมาให้เขาด้วย

“อยู่ที่อเมริกาสบายดีมั้ย? งานยุ่งหรือเปล่า? คุณบอกว่าคุณทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่นั่น คุณน่าจะไม่มีเวลาพักผ่อนแน่เลย…ฉันได้เข้าร่วมสมาคมหัตถกรรมนักเรียนที่โรงเรียนด้วย กว่าคุณจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้ บางทีฉันอาจจะสร้างผลงานชิ้นเอกเสร็จแล้วก็ได้…”

โจวเค่อซิน เขียนเล่าเรื่องชีวิตประจำวันของเธอและเรื่องเล็กน้อยในจดหมายเท่านั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างเฝิงหยู่และโจวเค่อซินไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อกัน แต่เฝิงหยู่ก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากวิธีการที่เธอเขียนจดหมาย

เฝิงหยู่ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องดีหรือเปล่า เขาคิดว่าตั้งแต่เขาอยู่กับลีน่ามาในชาตินี้ โจวเค่อซินก็น่าจะหาความสุขของเธอเองได้ แต่เมื่อเฝิงหยู่คิดว่าโจวเค่อซินต้องอยู่ในอ้อมกอดของชายอื่น เขาก็รู้สึกไม่พอใจ

มีไม่กี่เรื่องที่จะทำให้เฝิงหยู่รู้สึกหนักใจ แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่การมีเงินมากก็สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย

อย่างน้อยปัญหาที่คนอื่นรู้สึกหนักใจก็จะไม่เกิดขึ้นกับเฝิงหยู่ เฝิงหยู่สามารถแก้ปัญหาของเขาได้อย่างง่ายดายด้วยเงิน แต่ในเรื่องของความสัมพันธ์ เงินก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเฝิงหยู่ก็ไม่อยากใช้เงินเพื่อจัดการเรื่องนี้

ต่อหน้าคิริเลนโก ฟู่กวางเจิ้ง และคนอื่นๆ เฝิงหยู่ทำตัวเหมือนผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และมักจะให้คำแนะนำแก่พวกเขาเสมอ แต่เขารู้ว่าเขาไม่ได้เรื่องเลยเมื่อต้องเจอกับปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของจริง

ในจดหมาย โจวเค่อซินบอกว่ามีรุ่นพี่ที่โรงเรียนกำลังตามจีบเธอและเธอยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยอมคบกับเขาหรือเปล่า ทันใดนั้น เฝิงหยู่ก็รู้สึกกลัวและกังวลว่าโจวเค่อซินจะยอมคบกับรุ่นพี่คนนั้น

แต่เฝิงหยู่คิดถึงสิ่งที่เขาสามารถให้โจวเค่อซินได้ ครึ่งหนึ่งของหัวใจเขาหรือชีวิตเขาที่ทุกคนอิจฉาหรอ?

เฝิงหยู่ไม่ยอมเลิกกับโจวเค่อซินหรอกและรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเลิกกับลีน่าเช่นกัน ตอนนี้เฝิงหยู่อิจฉาคนสมัยโบราณที่ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้หลายคน

แม้กระทั่งตอนนี้หลายประเทศยังยอมรับการมีภรรยาหลายคนอยู่ และในเอเชียบางประเทศก็มีกฎหมายรับรองด้วย แล้วทำไมจีนจึงยกเลิกแนวทางปฏิบัตินี้?

สิ่งที่ทำให้เฝิงหยู่หงุดหงิดมากขึ้นคือฮ่องกงยกเลิกแนวทางปฏิบัตินี้เหมือนกัน ไม่งั้นหนังสือเดินทางฮ่องกงของเฝิงหยู่ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

เดี๋ยวนะ…ผมมีหนังสือเดินทางสองเล่มนิหน่า!

เฝิงหยู่หัวเราะออกมา หนังสือเดินทางสองเล่มหมายความว่าเขามีตัวตนสองคน แล้วแบบนี้หมายความว่าเขาสามารถแต่งงานได้สองครั้งหรือเปล่า?

สิ่งที่เฝิงหยู่ต้องทำคือต้องพูดโน้มน้าวโจวเค่อซินและลีน่าให้ยอมรับเรื่องนี้ แต่ท่าจะยาก

เฝิงหยู่มีความคิดมากมาย แต่ในที่สุดเขาก็ยิ้มกับตัวเอง บางทีโจวเค่อซินอาจจะไม่ชอบเขาด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่สนใจ เขาจะไม่รบกวนเธอและเป็นแค่เพื่อนกับเธอ

……

โจวเค่อซินนั่งเท้าคางอยู่ข้างหน้าต่าง จดหมายฉบับสุดท้ายที่เธอได้รับคือเมื่อตอนเปิดเทอม ตอนนี้ใกล้จะปิดเทอมแล้วและเธอก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ

ฉันควรประหยัดเงินเพื่อส่งจดหมายด่วนแบบเขาบ้างดีมั้ย?

“เค่อซินกำลังทำอะไรอยู่อ่ะ? คิดถึงแฟนอยู่หรอ?” จู่ๆ หญิงสาวที่ร่าเริงก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของโจวเค่อซิน

โจวเค่อซิน ตกใจและจับหน้าอกของเธอ “ตกใจหมดเลย”

“การเขียนจดหมายทุกวันไม่ใช่ทางออกหรอกนะ เธอรู้จักอีเมลหรือเปล่า? แค่ส่งอีเมลหาเขาและเขาจะได้รับเวลาที่ออนไลน์ แบบนี้เร็วกว่าอีก และเธอก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อแสตมป์ด้วย”

โจวเค่อซินตาเป็นประกายทันที จริงสิ ทำไมฉันถึงไม่นึกถึงเรื่องนี้มาก่อน? มีคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนและฉันก็สามารถรับส่งอีเมลที่นั่นได้ ซึ่งจะเร็วกว่าจดหมายทั่วไปมาก

แม้ว่าฉันจะไม่เห็นลายมือของเขา แต่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องรอการตอบกลับของเขานานมากขนาดนี้

แต่ก่อนการเฝ้ารอจดหมายเคยเป็นความสุขของโจวเค่อซิน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นความทรมาน

โจวเค่อซินเคยถามตัวเองมาก่อน ก็แค่เพื่อนทางจดหมาย ทำไมเธอถึงต้องกระตือรือร้นที่จะให้อีกฝ่ายตอบกลับด้วย? ก็แค่พูดคุยเรื่องในชีวิตประจำวันของพวกเขาเท่านั้น

เพื่อนร่วมห้องและเพื่อนสนิทของโจวเค่อซินต่างล้อเลียนเธอว่าเพื่อนทางจดหมายของเธอคือแฟนของเธอและก็น่าแปลกที่เธอไม่เคยคิดจะปฏิเสธคำกล่าวนี้

แต่อีกฝ่ายจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไมโครซอฟต์ คนที่มีความสามารถอย่างนี้จะไม่มีแฟนได้ยังไง?

แม้ว่าเขาจะไม่มีแฟนในประเทศจีน แต่เขาก็ควรมีแฟนในสหรัฐอเมริกา ผู้หญิงสมัยนี้เปิดกว้างมากขึ้น

“เอ๊ะ เค่อซิน ฉันพูดกับเธออยู่ มัวคิดอะไรอยู่?”

“โอ้ เปล่าๆ ไม่มีอะไรจ๊ะ”

“แล้ววันหยุดแบบนี้ทำไมถึงยังอุดอู้อยู่ในหอพักล่ะ? ไปซูเปอร์มาร์เก็ตกันเถอะ ซูเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวหน้าโรงเรียนเรากำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษอยู่ ฉันได้รับคูปองมูลค่า 10 หยวนด้วยนะ!”

“อ๊ะ จริงหรอ? เธอโชคดีจัง เดี๋ยวขอฉันมัดผมก่อนนะ”

เมื่อพวกเธอเดินลงไปถึงชั้นแรกของหอพัก โจวเค่อซินก็มองเข้าไปในสำนักงานของหอพักตามปกติ เธอรู้สึกผิดหวังเมื่อไม่เห็นจดหมายที่เธอรออยู่

“นี่…หยุดมองเดี๋ยวนี้เลย มองไปที่หน้าต่างสำนักงานอยู่นั่นแหละ ไม่เบื่อหรือไง? พนักงานข้างในรู้จักเธอหมดแล้ว ถ้ามีจดหมายมา พวกเขาก็มาบอกเธอเองแหละ” เพื่อนร่วมห้องของโจวเค่อซินมองหน้าเธอ

“ฉันก็แค่ดูน่ะ ไปซูเปอร์มาร์เก็ตกันเถอะ”

“อย่าเพิ่งตื่นเต้นนะ โปรโมชั่นยังมีอยู่ เธอสามารถร่วมสนุกได้เหมือนกัน ถ้าเธอได้รับบัตรกำนัลมูลค่า 100 หยวน เราสามารถซื้อของฝากได้มากมายเลย”

……

โจวเค่อซิน และเพื่อนร่วมห้องของเธอกลับจากซูเปอร์มาร์เก็ตโดยถือถุงใหญ่คนละใบ พวกเธอซื้อขนมราคาถูกทั้งหมดที่หาได้และกิ๊บติดผม

ระหว่างทางกลับไปที่ห้องของพวกเธอ โจวเค่อซินก็เหลือบมองไปที่หน้าต่างของสำนักงานหอพักตามปกติ ทันใดนั้นเธอก็ผลักถุงของฝากที่เธอถือไว้ให้เพื่อนแล้ววิ่งไปที่สำนักงานทันที

“น้าจ้าว! จดหมายนั่น! จดหมายของฉัน!”