ตระกูลเกากับตระกูลหลิงงั้นรึ!
นี่ตระกูลเกาถึงกับส่งเตียงมังกรมาเป็นของขวัญเชียวรึ!
สองพันธมิตรตระกูลเฉินและตระกูลซันรวมทั้งคนของตระกูลหลง เมื่อได้ยินคำพูดของเกาจิ้นสง และเห็นของขวัญที่เขานำมามอบให้กับตระกูลหลิง ทุกคนต่างก็รู้สึกราวกับถูกตบหน้ากลางสาธารณชน และต่างก็มีสีหน้าตกอกตกใจ..
แม้กระทั่งหลงฮ่าวเฉียงที่นั่งกองอยู่กับพื้นก็ถึงกับกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ!
ตระกูลเกามาที่นี่ด้วยเรื่องการแต่งงานรึ!ว่าแต่เป็นการแต่งงานของผู้ใดกัน?
หรือจะเป็นเกาเทียนหลง!
ที่ทุกคนคิดว่าน่าจะเป็นเกาเทียนหลงนั้นเพราะตามธรรมเนียมประเพณีจีนแล้ว ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายมาเจรจาเรื่องการแต่งงานและส่งของหมั้นหมายมาให้ฝ่ายหญิง การที่ฝ่ายหญิงจะออกหน้าเจรจานั้น เป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้น หรือหากจะมีก็น้อยมากๆ
แต่เมื่อเห็นการแต่งตัวของเกาเทียนหลงในวันนี้ที่ดูแสนจะธรรมดานั้นเฉินจิ้งเฉวียนกับซันเจิ้นหวู่ก็มั่นใจว่าไม่น่าจะใช่เกาเทียนหลง..
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน..จู่ๆ เฉินจิ้งเฉวียนก็ถึงกับหน้าเสีย และได้แต่คิดอยู่ในใจเงียบๆว่า ตระกูลเกาจะมาที่นี่ด้วยเรื่องการแต่งงานของผู้ใดนั้นไม่สำคัญ แต่สำคัญที่จังหวะเวลาการมาถึงของตระกูลเกาต่างหากเล่า!
นั่นเพราะอีกเพียงแค่สามวันก็จะถึงวันประลองของสามตระกูลใหญ่แล้วและวันนี้ก็คือวันที่ตระกูลเฉินกับตระกูลซันต้องมาบ้านตระกูลหลิง เพื่อสอบถามเรื่องสถานที่สำหรับประลองยุทธ..
แต่เมื่อตระกูลซันกับตระกูลเฉินมาถึงไม่เพียงหลิงหยุนให้คนเฝ้าประตูเป็นผู้ต้อนรับแต่ยังให้ยายขายผักเป็นผู้ส่งมอบแผนที่แทนด้วย!
หลังจากนั้นหลงฮ่าวเฉียงซึ่่งเป็นตัวแทนของตระกูลหลงก็ถูกหลิงหยุนตบหน้า และหักขาทั้งสองข้าง!
แต่เหตุการณ์ยังไม่ทันจะคลี่คลายดีตระกูลเกาก็โผล่มาแสดงมิตรภาพที่แนบแน่นของสองตระกูลอย่างเปิดเผย..
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า..เรื่องการแต่งงานนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง แท้ที่จริงแล้วการมาของตระกูลเกาในครั้งนี้ ก็เพื่อจะประกาศต่อหน้าทุกคนว่า เวลานี้ตระกูลเกากับตระกูลหลิงคือพันธมิตรกันนั่นเอง!
ตระกูลเกาตั้งใจที่จะไม่มาถึงจนเร็วเกินไปและไม่มาถึงจนช้าเกินไป พวกเขาเลือกที่จะมาถึงในเวลาที่เหมาะเจาะยิ่งนัก!
และในเวลานี้เกาจิ้นสงกับหลิงลี่..สองผู้เฒ่าแห่งตระกูลเกาและตระกูลหลิง ต่างก็ยืนจับมือทักทายกันอย่างสนิทสนม! และการที่ตระกูลเกาซึ่งเป็นฝ่ายหญิงแต่กลับเป็นฝ่ายนำของขวัญมามอบให้ตระกูลหลิงเช่นนี้ จึงนับว่าเป็นการให้เกียรติและให้หน้าตระกูลหลิงยิ่งนัก!
–เฒ่าเกา..ท่านจงใจมาในช่วงเวลาเหมาะเจาะเช่นนี้ บอกข้ามาว่าท่านกำลังคิดที่จะอะไรกันแน่-
หลิงลี่ที่จับมือเกาจิ้นสงแน่นพร้อมกับจ้องมองด้วยแววตาซาบซึ้งใจและเอ่ยถามเกาจิ้นสงผ่านกระแสจิต..
–เรื่องของหลิงหยุนกับเฉินเฉินนั้นข้าเองก็ทราบเรื่องมาก่อนแล้ว แต่ข้าเพียงแค่รอให้การประลองในครั้งนี้ผ่านพ้นไปเสียก่อน และหากตระกูลหลิงโชคดีเป็นฝ่ายชนะ ข้าจะพาหลิงหยุนไปสู่ขอหลานสาวของท่านด้วยตัวเอง…-
เกาจิ้นสงได้ฟังถึงกับหัวเราะเสียงดังและตอบกลับไปเสียงดัง “เฒ่าหลิง.. เฉินเฉินกับหลิงหยุนคบหากันมานาน ทั้งคู่ต่างก็ผูกพันกันลึกซึ้ง ข้าจึงมาเพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานให้กับพวกเขาทั้งคู่ ใครจะเป็นฝ่ายไปหาใครนั้นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลยไม่ใช่รึ”
วันนี้ดูเหมือนเกาจิ้นสงจะดุดันร้อนแรงยิ่งนักคำพูดที่เอ่ยออกมาล้วนไม่สนใจเรื่องหน้าตาของตนเองด้วยซ้ำไป อีกทั้งระหว่างที่พูดคุยกับหลิงลี่ เกาจิ้นสงก็เหลือบมองเฉินจิ้งเฉวียนด้วยสายตาที่เกลียดชัง และเย็นชา..
การกระทำของเกาจิ้นสงในวันนี้เท่ากับเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่าตระกูลเกาเลือกที่จะมาเวลานี้ เพราะต้องการบอกกับทุกคนว่าตระกูลเกาเลือกที่จะอยู่ข้างตระกูลหลิง และเท่ากับเป็นการตบหน้าตระกูลเฉินด้วย!
“ฮ่า..ฮ่า.. วันนี้ฤกษ์งามยามดียิ่งนัก!”
หลิงลี่นั้นเข้าใจความหมายในคำพูดของเกาจิ้นสงได้ดีจึงได้แต่ย้ำเจตจำนงค์ในการมาของตระกูลเกาครั้งนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง!
และในเวลานี้เรื่องระหว่างหลิงหยุนกับเกาเฉินเฉินก็ได้ถูกแพร่สะพรัดไปทั่วทั้งปักกิ่งในทันที! ในระหว่างที่หลิงลี่กับเกาจิ้นสงพูดคุยกันอย่างสนิทสนมนั้นหลิงเย่วก็เดินออกไปต้อนรับเกาซิงฉางกับภรรยาด้วยตัวเอง วันนี้นับว่าตระกูลเกาตั้งใจให้หน้าตระกูลหลิงอย่างมาก เขาจึงต้องรีบออกไปต้อนรับ..
ทางด้านหลิงหยุนที่ไม่ได้พบเจอเกาเฉินเฉินมานานหลายวันเมื่อพบกันครั้งนี้เขาเองก็ถึงกับตกตะลึงไม่น้อย เกาเฉินเฉินนั้นเป็นถึงดาวโรงเรียนมัธยมจิงฉู และในวันนี้แต่งหน้าแต่งตัวมาอย่างงดงาม ทำให้ยิ่งสวยผิดหูผิดตากว่าปกติยิ่งนัก!
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าความสวยงามที่เพิ่มมากขึ้นก็คือครั้งนี้เกาเฉินเฉินดูมั่นอกมั่นใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย!
…….
“เฉินเฉิน..”
ร่างของหลิงหยุนที่อยู่ห่างถึงยี่สิบเมตรนั้นเพียงขยับแค่ก้าวเดียวก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าเกาเฉินเฉินแล้ว เกาเฉินเฉินที่คิดไม่ถึงว่าจะได้พบเจอหลิงหยุนในทันทีเช่นนี้ก็ได้แต่ประหลาดใจ และตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออก แต่หลังจากนั้นก็เอ่ยถามหลิงหยุนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“หลิงหยุน..นี่นายผอมลงนะ!”
“ผอมก็ดีกว่าอ้วนไม่ใช่เหรอ”
หลิงหยุนตอบกลับไปทันทีและเอื้อมมือออกไปโอบเอวบอบบางของเกาเฉินเฉินไว้ แล้วพาเดินเข้าประตูบ้านไปทันที..
“เข้าไปในบ้านกันดีกว่า!”
ในเมื่อเกาเฉินเฉินมาถึงที่นี่หลิงหยุนจึงคร้านที่จะสนใจคนอื่นอีก.. เพราะแผนที่สนามประลองเขาก็ได้มอบให้แล้ว และหลงฮ่าวเฉียงก็ถูกเขาจับหักขาแล้ว เพียงแค่นี้ก็นับว่าตระกูลหลิงได้ฉีกหน้าทั้งสามตระกูลไปมากแล้ว!
เกาเฉินเฉินถูกหลิงหยุนโอบเอวต่อหน้าผู้คนเช่นนั้นก็ถึงกับใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย พร้อมกับร้องบอกหลิงหยุนตะกุกตะกัก””
“หลิง..หลิงหยุน.. ฉันยังไม่ได้ไปทักทายท่านปู่หลิงเลยนะ เสียมารยาท..”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“คุณไม่เห็นเหรอว่าอาวุโสทั้งสองกำลังยุ่งอยู่ ไว้ค่อยไปทักทายในบ้านก็ยังไม่สาย!”
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปสั่งเหล่ากุ่ยว่าไม่ต้องนำของลงจากรถและให้คนขับรถขับเข้ามาภายในบ้านได้เลย..
หลิงหยุนเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจเฉินจิ้งเฉวียนเฉินไห่เผิง ซันเจิ้นหวู่ และซันเทียนหลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะในสายตาของเขานั้น คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงแค่ซากศพเดินได้เท่านั้น และอีกไม่กี่วันก็ต้องตายแล้ว..
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็ใช้มังกรพรางร่างพาเกาเฉินเฉินไปยังบ้านในสวนชั้นที่สามและพาเข้าไปในห้องรับแขกพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ที่นี่เป็นบ้านส่วนตัวของผมเองไม่มีใครเข้ามายุ่มย่าม..” หลิงหยุนกระซิบบอกเกาเฉินเฉินโดยไม่ยอมปล่อยมือที่โอบเอวไว้และพาไปนั่งลงที่โซฟาพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
เกาเฉินเฉินเห็นเช่นนั้นจึงรีบถามหน้าแดง“นี่นาย.. นายคิดจะทำอะไร”
แทนคำตอบ..หลิงหยุนโน้มศรีษะลงพร้อมกับแนบริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของเกาเฉินเฉิน และเริ่มจูบเกาเฉินเฉินอย่างดูดดื่ม!
เกาเฉินเฉินเองก็ยกมือขึ้นโอบรอบคอหลิงหยุนไว้แน่นและจูบตอบเขาอย่างร้อนแรงเช่นกัน!
……
ทางด้านหลิงลี่ที่ยังคงยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ถึงกับบ่นพึมพำออกมา“เจ้าเด็กคนนี้มันจริงๆเชียว.. เฮ้อ..”
หลิงลี่กำลังจะหันไปเรียกหลิงหยุนให้มาทักทายเกาจิ้นสงแต่กลับพบว่าหลิงหยุนได้เดินโอบเอวเกาเฉินเฉินออกไปแล้ว จึงได้แต่บ่มพึมพำออกมา..
เกาจิ้นสงยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“เฒ่าหลิง.. เราสองคนก็แก่ๆกันหมดแล้ว ธรรมเนียมโบร่ำโบราณคงจะใช้กับเด็กรุ่นนี้ไม่ได้แล้วล่ะ!”
หลิงลี่พยักหน้าเห็นด้วยและพูดขึ้นว่า “ที่นี่ไม่เหมาะจะพูดคุยกัน พวกเราเข้าไปคุยกันในบ้านจะดีกว่า!”
ภายใต้สายตาทุกคู่ที่กำลังจ้องมองมานั้นหลิงลี่กับเกาจิ้นสงต่างก็เดินเคียงข้างกันเข้าไปในบ้านตระกูลหลิงด้วยท่าทีสนิทสนม..
และภาพที่หลิงลี่กับเกาจิ้นสงเดินเคียงคู่กันไปนั้นก็ได้แพร่สะพรัดไปทั่งทั้งปักกิ่ง!
ตระกูลหลิงและตระกูลเกาจับมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการแล้ว!
………
“คุณชายเกา..พวกเราเข้าไปกันคุยกันที่บ้านของข้าจะดีกว่า!”
วันนี้ตระกูลเกามาด้วยเรื่องการแต่งงานของเกาเฉินเฉินกับหลิงหยุนดังนั้นหลิงเย่วกับเกาซิงฉางจึงไม่เกี่ยวข้อง..
เกาซิงฉางหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า“ดีๆ” ไอลีนโนเวล
เวลานี้..รถทั้งสามคันของตระกูลเกาค่อยๆเคลื่อนเข้าไปจอดในบ้านตระกูลหลิง แต่ผู้คนก็ยังคงยืนดู และไม่มีผู้ใดยอมกลับไป แม้แต่หลงฮ่าวเฉียงที่ถูกหลิงหยุนหักขา ยังต้องเดินลมปราณสะกดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไว้ชั่วคราว และยืนสังเกตการณ์ต่ออีกพักใหญ่..
ตระกูลหลิงได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
เวลานี้ตระกูลหลิงกำลังจะผงาดขึ้นอีกครั้งแล้ว!
ก่อนหน้านี้..หากคนตระกูลหลงไม่ว่าผู้ใดมาถึงบ้านตระกูลหลิง คนตระกูลหลิงจะต้องออกมาทักทาย และให้การต้อนรับขับสู้ด้วยความเคารพนบนอบ..
แม้กระทั่งคืนที่หลงฮ่าวเฉียงนำจดหมายฉบับนี้มาส่งให้ที่บ้านตระกูลหลิงเขาก็ยังได้รับการต้อนรับเช่นนั้นอยู่!
แต่ในวันนี้..หลงฮ่าวเฉียงมาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลหลิง ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากนัก ก็ถูกหลิงหยุนตบหน้า และจับหักขาทั้งสองข้างแล้ว!
“คุณชายหลง..ท่านก็เห็นแล้วว่าเด็กหลิงหยุนนั่นยะโสโอหังมากเพียงใด ตระกูลหลงของท่านควรจะเข้าร่วมประลองกับพวกเราไม่ดีกว่ารึ”
เฉินจิ้งเฉวียนเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของตนจึงได้พูดจายั่วยุหลงฮ่าวเฉียง เพื่อชักชวนให้ตระกูลหลงเข้าร่วมการประลองกับตนในครั้งนี้ด้วย..
“หึ..”
แต่หลงฮ่าวเฉียงกลับทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจและเลือกที่จะไม่ตอบ และพูดคุยในเรื่องนี้อีก! นั่นเพราะหลงฮ่าวเฉียงเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้องของหลงฮ่าวหลานเท่านั้น เขาจึงไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในเรื่องนี้..
หลงฮ่าวเฉียงได้แต่แอบคิดในใจว่า..ทันทีที่หลิงหยุนได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล ก็กล้าฉีกหน้าตระกูลหลงเช่นนี้เชียวหรือ
เวลานี้ตระกูลเกาได้ประกาศเป็นพันธมิตรกับตระกูลหลิงแล้วแม้ว่าตระกูลเกาจะไม่ได้มีอะไรน่าหวาดกลัวในโลกยุทธภพ แต่ในโลกของธุรกิจแล้ว แม้แต่ตระกูลหลงกับตระกูลเย่ก็ยังไม่กล้าประมาทตระกูลเกา!
และเรื่องการรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันของตระกูลหลิงกับตระกูลเกานั้นนับเป็นเรื่องใหญ่โตของวงการธุรกิจในประเทศนี้เลยทีเดียว!
แต่ระหว่างที่หลงฮ่าวเฉียงกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเครื่องมีสื่อสารในตัวของเขาก็ดังขึ้น และเมื่อหยิบขึ้นมาดู เขาก็เห็นข้อความเพียงแค่สองคำเท่านั้น
‘กลับมา!’
หลงฮ่าวเฉียงกำจดหมายที่หลิงหยุนโยนใส่ตนเองไว้แน่นก่อนจะหันไปสั่งยอดฝีมือข้างๆสองคนว่า
“พวกเจ้าสองคนพยุงข้ากลับไป!”
……….
“หึ..ตระกูลหลงมีดีแค่นี้เองงั้นรึ”
เฉินจิ้งเฉวียนมองหลงฮ่าวเฉียงที่เดินไปขึ้นรถด้วยสภาพทุลักทุเลพร้อมกับพึมพำออกมา..
ซันเจิ้นหวู่ที่ยืนนิ่งเงียบมานานจึงกระซิบถามเฉินจิ้งเฉวียนว่า“อาวุโสเฉิน.. พวกเราจะทำเช่นไรต่อไปดี”
เฉินจิ้งเฉวียนทำเสียงขึ้นจมูกอย่างหงุดหงิดพร้อมกับขยำแผนที่ในมือ และตอบไปด้วยความไม่พอใจ
“หึ..จะให้ทำเช่นไรเล่า ก็ต้องรออีกสามวันให้ถึงวันประลองน่ะสิ!”
“ไห่เผิง..พวกเรากลับกันได้แล้ว!”
หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว..หลิงอี๋ก็ยกมือขึ้นตบหน้าอกตัวเอง พร้อมกับยิ้มออกมา และพูดขึ้นว่า
“หลิงชี..วันนี้ข้ามีความสุขยิ่งนัก!”
หลิงชียิ้มกว้างพร้อมกับพูดขึ้นว่า“หัวหน้า.. ข้าเองก็ไม่เคยรู้สึกภูมิอกภูมิใจเช่นวันนี้มาก่อนเช่นกัน!”
“เอาล่ะ..ภารกิจของเราเสร็จสิ้นแล้ว กลับไปรายงานเหล่ากุ่ยกันดีกว่า” หลิงอี๋ร้องบอก..
……
เวลานี้นับว่าเป็นวันที่ตระกูลหลิงคึกครื้นยิ่งนัก!
หลิงลี่พาเกาจิ้นสงไปนั่งสนทนากันเพียงลำพังในสวนชั้นที่ก้าส่วนหลิงเย่วก็พาเกาซิงฉางกับหลู่เฉียวเฟิงไปที่บ้านของตนเอง..
ทางด้านต่งซานชวนก็นั่งอยู่ในบ้านของหลิงเสี่ยวและทั้งคู่ดูเหมือนต่างก็มีสีหน้าท่าทางกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย นั่นเพราะเมื่อหลายปีก่อนที่ต่งยั่วหลานยืนยันจะแต่งงานกับหลิงเสี่ยวนั้น หลังจากใคร่ครวญถึงความสุขทั้งชีวิตของลูกสาว ต่งซานชวนจึงไม่เห็นด้วยและกีดกันทุกวิถีทาง หากไม่ใช่เพราะต่งยั่วหลานอ้อนวอนขอร้องจนถึงขั้นยอมตาย ต่งซางชวนก็คงไม่ยินยอมให้ลูกสาวของตนแต่งงานกับหลิงเสี่ยวเป็นแน่!
ตลอดเวลาสิบแปดปีมานั้น..นอกจากวันแต่งงานของต่งยั่วหลาน และวันที่หลิงซวี่เกิดแล้ว เขาก็ไม่เคยเหยียบเข้าบ้านตระกูลหลิงอีกเลย..
ครั้งนี้จึงนับว่าเป็นครั้งที่สามที่ต่งซานชวนเหยียบเข้าบ้านตระกูลหลิง!
จะมีพ่อคนใดบ้างที่อยากให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับผู้ชายที่ผูกพันรักใคร่ลึกซึ้งอยู่กับหญิงอื่นธรรมชาติของพ่อทุกคนย่อมรักลูกเป็นธรรมดา!
ในปักกิ่งนั้นตระกูลต่งนับว่าเป็นตระกูลเล็กๆ เล็กเสียยิ่งกว่าหลายสิบตระกูลที่มาสร้างปัญหาให้กับตระกูลหลิงเมื่อวานเสียอีก..
แต่ถึงแม้ตระกูลต่งจะเป็นตระกูลเล็กๆแต่ต่งซานชวนก็ไม่เคยอาศัยชื่อตระกูลหลิงสร้างฐานะ และผลประโยชน์ให้กับตนเองเลย คนเช่นนี้นับว่าหาได้ยากยิ่งนัก!
หลังจากที่นั่งนิ่งเงียบอยู่นานในที่สุดต่งซานชวนก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมา..
“ฉันมีสองเรื่องที่อยากจะพูดกับเธอในวันนี้..”
“ที่ผ่านมาฉันเองก็ไม่เคยสนใจเรื่องชิงดีชิงเด่นของบรรดาตระกูลใหญ่นัก!แต่เมื่อคืนนี้ฉันได้ยินว่าตระกูลหลิงของเธอกำลังจะประลองกับตระกูลซันและตระกูลเฉินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้วก็ได้รู้เรื่องที่นักธุรกิจหลายๆคนได้มาขอยุติความร่วมมือต่างๆที่เคยมีให้ตระกูลหลิง..”
เมื่อพูดมาถึงตรงหนี้ต่งซานชวนก็ได้หยิบเอาสมุดบัญชีออกมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้า และพูดต่อว่า..
“ในบัญชีนี้มีเงินอยู่เจ็ดร้อยล้านฉันได้รวบรวมมาตลอดทั้งคืน หากตระกูลหลิงต้องการใช้เงินเร่งด่วน ก็นำเงินจำนวนนี้ไปใช้ก่อน!” หลิงเสี่ยวถึงกับนิ่งอึ้งไป..
ต่งซานชวนไม่เคยย่างกรายเข้ามาตระกูลหลิงนานกว่าสิบปีแต่กลับคิดไม่ถึงว่า.. ทันทีที่เขาทราบข่าวว่าตระกูลหลิงกำลังมีปัญหา และตกอยู่ในความลำบาก ก็รีบนำเงินมาช่วยเหลือทันที!
หลิงเสี่ยวนั้นรู้ดีว่า..ทรัพย์สินทั้งหมดของต่งซานชวนนั้น รวมๆกันแล้วก็ไม่น่าจะถึงห้าร้อยลานหวน อีกสองร้อยล้านที่เพิ่มขึ้นมานั้น คาดว่าต่งซานชวนน่าจะไปหยิบยืมมา..
การที่ตระกูลหลิงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและต่งซานชวนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเช่นนี้ จึงไม่ต่างจากการยื่นไฟที่อบอุ่นให้กับผู้คนที่กำลังเหน็บหนาว..
แต่ในขณะที่หลิงเสี่ยวกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรต่งซานชวนก็รีบชิงพูดขึ้นก่อนว่า..
“ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ!”
“แต่ฉันทำเพื่อยั่วหลานและหลิงซวี่หลานสาวสุดที่รักของฉัน!” “ฉันยังมีเรื่องที่เก็บอยู่ในใจมานานสิบปีต้องพูดออกมา!”
“ฉันเป็นพ่อของลูกสาวและหลานสาวที่อยู่กับเธอมานานสิบปี.. ลูกและหลานสาวของฉันต้องพบเจออะไรมาบ้างฉันย่อมรู้ดี..”
“ตลอดสิบแปดปีมานี้..ตระกูลต่งของฉันก็ไม่เคยใช้ชื่อตระกูลหลิงแอบอ้างหาผลประโยชน์ใดๆเลยแม้แต่น้อย ฉันหวังเพียงแค่ว่า.. จากนี้ไปตระกูลหลิงของเธอจะทำอะไร ขอให้คิดถึงความดี และความอดทนของลูกสาวกับหลานสาวฉันที่มีมาตลอดสิบแปดปีนี้ด้วย..”
หลิงเสี่ยวยังคงนั่งก้มหน้า..
ต่งยั่วหลานพูดจบก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้ม..