ตอนที่ 140-2 ศึกใหญ่ระหว่างหานจื่อปะทะเฒ่าชั่วแซ่หลิว

จำนนรักชายาตัวร้าย

นางเป็นหมอที่มีวิชาแพทย์สูงส่ง จะต้องช่วยหลิวเซิ้งได้อย่างแน่นอน 

 

 

แต่ตอนนี้อวี้เฟยเยียนและซย่าโหวฉิงเทียนเดินทางไปที่สกุลสุ่ย ยังไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ จะทำอย่างไรกันดี 

 

 

“ในเสื้อของข้ามียาอยู่ รีบหยิบมันมาให้ข้าเร็ว!” หลิวเซิ้งเริ่มที่จะขยับเขยื้อนไม่ได้ จึงทำได้เพียงใช้ปากสั่งการเสิ่นถูเลี่ยเท่านั้น 

 

 

“ได้ๆ!” เสิ่นถูเลี่ยล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อของหลิวเซิ้ง แล้วหยิบถุงกำยานใบเล็กออกมาเปิดมันออก ด้านในมียาลูกกลอนสีฟ้าเขียวที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นกำจรกระจายออกมา 

 

 

“สีเขียวใช่ไหม?” 

 

 

“ใช่! ป้อนมันให้ข้า——” 

 

 

จมูกของหลิวอ้าวหลานไวนัก เพียงแค่ได้กลิ่นหอมของยานั้น ก็รู้ทันทีว่ายาที่อยู่ในมือของเสิ่นถูเลี่ยคือยาชั้นเลิศ 

 

 

‘พวกเขาไปเอายาชั้นเลิศที่มีความเข้มข้นสูงถึงเพียงนี้มาจากไหนกัน?’ 

 

 

ไวเท่าความคิด หลิวอ้าวหลานพุ่งเข้าไปหมายจะแย่งยาเม็ดนั้นในมือของเสิ่นถูเลี่ยทันที  

 

 

“อ๋าว——บรู๊ว——” 

 

 

วินาทีที่หลิวอ้าวหลานกำลังจะถึงตัวเสิ่นถูเลี่ยนั่นเอง ร่างสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้น มันกระโจนเข้าตะปบหลิวอ้าวหลานอย่างรุนแรง 

 

 

“อ๋าว——บรู๊ว——” 

 

 

หานจื่อสะบัดหัว ขนของมันสะบัดพลิ้ว 

 

 

“โจรเฒ่า เจ้าแย่งชิงยาของแม่นางน้อยซึ่งหน้าเช่นนี้ ไม่รู้น่าละอายบ้างหรือ?” 

 

 

“เจ้าถามข้าหรือยัง?”  

 

 

เมื่อหานจื่อเข้ามาบังหลิวเซิ้งเอาไว้ เสิ่นถูเลี่ยจึงอาศัยจังหวะนั้นป้อนยาใส่ปากหลิวเซิ้งทันที 

 

 

สีหน้าของหลิวเซิ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง เนื้อตัวสั่นเทาเหงื่อออกทั่วร่าง 

 

 

“ยานี่สามารถถอนพิษได้หรือ?” เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลิวเซิ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงและเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น เสิ่นถูเลี่ยก็เริ่มรู้สึกผิดปกติ 

 

 

“นี่คือยารักษาอาการบาดเจ็บที่ฮูหยินมอบให้!” 

 

 

ยาที่หลิวเซิ้งกินเข้าไปคือยาที่อวี้เฟยเยียนมอบให้แทนคำขอบคุณ เมื่อครั้งที่เขาพาคนไปช่วยสกุลอวี้จากการที่โจวเลี่ยส่งคนสกุลโจวไปลอบทำร้ายสกุลอวี้ที่จวนพระยาภักดี  

 

 

พอดีเลย ยานี้ได้ใช้ประโยชน์ในเวลานี้พอดี! 

 

 

“ไม่ใช่ยาถอนพิษ?” เสิ่นถูเลี่ยร้อนใจไม่น้อย 

 

 

เมื่อครู่หลิวอ้าวหลานบอกเองว่ากระบี่ของเขาอาบยาพิษจากเผ่าตันขวาเอาไว้ ชาวตันขวาล้วนแต่ใจคอโหดเ**้ยมชั่วช้าสามานย์ทั้งสิ้น 

 

 

‘แล้วตอนนี้หลิวเซิ้งถูกพิษของพวกเขาเข้า ทั้งไม่มียาถอนพิษอีกด้วย จะทำอย่างไรดี?!’ 

 

 

“ไม่เป็นไร——” 

 

 

หลิวเซิ้งมองเห็นภาพด้านหน้าเป็นสีดำสนิท เขามองอะไรไม่เห็นอะไรเลย และตอนนี้อาการเจ็บปวดทางร่างกายอื่นๆก็กำลังกำเริบอย่างหนัก 

 

 

“ขอเพียงแค่ข้าอดทนถึงวันที่นายท่านและฮูหยินกลับมาได้ ข้าก็มีทางรอดแล้ว!” 

 

 

การที่หลิวเซิ้งเอ่ยถึงอวี้เฟยเยียนขึ้นมาในเวลาเช่นนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน 

 

 

แม้ว่าเขาจะยังมีความคิดเชิงผู้ชายเป็นใหญ่ที่ว่า ระดับขั้นวรยุทธ์ของอวี้เฟยเยียนแตกต่างกับซย่าโหวฉิงเทียนเป็นอย่างมาก มากจนกระทั่งว่ามิคู่ควรที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับซย่าโหวฉิงเทียนได้ อยู่ก็ตาม แต่แท้ที่จริงแล้ว ในใจของเขากลับยอมรับในตัวอวี้เฟยเยียนตั้งแต่แรกแล้ว  

 

 

เสิ่นถูเลี่ยที่อยู่ด้วยกันกับหลิวเซิ้ง ไม่แน่ใจว่าหลิวอ้าวหลานมีพรรคพวกมาด้วยหรือไม่ จึงไม่กล้าทิ้งหลิวเซิ้งเอาไว้ 

 

 

เขารอจนกระทั่งอาหูเข้ามา เสิ่นถูเลี่ยถึงได้ปลีกตัว เตรียมที่จะไปจัดการหลิวอ้าวหลาน 

 

 

เพียงแต่ เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ตรงหน้า เสิ่นถูเลี่ยก็ถึงกับตกตะลึง 

 

 

‘หลิวอ้าวหลานสำเร็จถึงขั้นราชาอาวุโสมิใช่หรือ?’ 

 

 

‘แล้วเพราะถึงสู้ไม่ได้แม้กระทั่งสุนัขของซย่าโหวฉิงเทียน?’ 

 

 

ภาพตรงหน้าที่เห็น คือหานจื่อกำลังกำลังเล่นเกมส์แมวไล่ล่าหนูอยู่กับหลิวอ้าวหลาน  

 

 

ในฐานะที่เป็นสุนัขตัวหนึ่ง ไล่กวดหนูนับว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่แปลกก็คือตอนนี้หลิวอ้าวหลานกำลังสวมบทบาทเป็นหนูอยู่นะสิ 

 

 

“โจรเฒ่า รีบวิ่งหนีเร็วเข้า ข้าตามจะไล่ตามเจ้าเอง!” 

 

 

เมื่อครู่ ที่หลิวอ้าวหลานฟาดฝ่ามือลงไปที่กลางหน้าผากของสุนัขสีดำตัวใหญ่นั้นเต็มแรง ใครเล่าจะคาดคิดว่าเจ้าสุนัขตัวนั้นกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกลับเพียงแต่สะบัดหัวเล็กน้อย ราวกับฝ่ามือของหลิวอ้าวหลานเป็นเพียงการจักกะจี้มันเท่านั้น 

 

 

คราวนี้ ทำเอาหลิวอ้าวหลานตกใจเป็นอย่างมาก 

 

 

ต่อให้เป็นจักรพรรดิอาวุโส ถูกฝ่ามือของเขาข้าไปก็ต้องอวัยวะบอบช้ำกระเด็นออกไปไกลแล้ว 

 

 

‘แต่กับเจ้าหมาตัวนี้มันเกิดอะไรขึ้น?’ 

 

 

เพราะอะไรมันถึงได้ใช้สายตารอคอยมองมายังตนเอง ราวกับกำลังบอกว่า ‘เร็วเข้า รีบมาเกาให้ข้าอีก?’ 

 

 

หลิวอ้าวหลานยังฟาดฝ่ามือใส่หานจื่ออย่างต่อเนื่องอีกถึงสี่ครั้ง แบ่งเป็นที่หัว หลัง เอว และท้อง แต่สุดท้ายหานจื่อก็นอนคอยตีพุงอยู่ที่พื้น สีหน้าสุขกายสบายดีทุกอย่าง 

 

 

นี่หานจื่อเห็นวิชาไม้ตายของหลิวอ้าวหลานเป็นการจักกะจี้รูปแบบใหม่ไปแล้วหรือนี่ 

 

 

วินาทีนั้น หลิวอ้าวหลานกำลังเกิดความสงสัยว่าตนเองกลังฝันไปใช่หรือไม่ 

 

 

หลิวอ้าวหลานที่กำลังตกตะลึงงงงวยเปลี่ยนเป้าหมาย หันไปฟาดฝ่ามือใส่พุ่มหลิวเขียวขจีที่ด้านข้างแทน 

 

 

ผลลัพธ์ก็คือ ต้นหลิวแตกกระจายหักโค่นเพียงชั่ววินาที 

 

 

ก็ไม่มีปัญหานี่นา! 

 

 

‘เพราะอะไรวิชาไม้ตายของเขาเมื่อใช้กับเจ้าสุนับสีดำยักษ์ที่ไม่รู้ว่าอยู่ในระดับขั้นอะไรตัวนี้แล้วกลับไม่ได้ผลอะไรเลย?’ 

 

 

วินาทีที่หลิวอ้าวหลานเดินเข้ามาตรงหน้าหานจื่อ เพื่อพินิจพิจารณาว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่นั่นเอง หานจื่อก็พุ่งตัวกระโจนขึ้นมากัดจมูกของหลิวอ้าวหลานทันที 

 

 

“อ๊าก——” 

 

 

ความเจ็บปวดบนใบหน้า ทำให้หลิวอ้าวหลานรับรู้ในที่สุดว่า เจ้าหมาตัวนี้คือสัตว์ป่าที่ดุร้ายตัวหนึ่ง 

 

 

‘แม่เจ้า เมื่อครู่ที่มันทำตัวกระเง้ากระงอดน่ารัก เป็นการเสแสร้งทั้งหมดหรือนี่!’ 

 

 

“อ๋าว——บรู๊ว——” 

 

 

หานจื่ออ้าปากกว้าง แล้วพุ่งเข้าหาหลิวอ้าวหลานทันที ทำเอาเขาตกใจจนหมุดหนีไปที่นั่นที่นี่วุ่นวายอลหม่าน นี่คือภาพที่เสิ่นถูเลี่ยเห็น 

 

 

หลิวอ้าวหลานที่เลือดท่วมหน้า กำลังวิ่งหนีสุดชีวิต หานจื่อเองก็ไล่กวดตามหลังอย่างสนุกสนานเปรมปรีด์ 

 

 

ทุกครั้งที่หลิวอ้าวหลานทะยานไปกลางอากาศ หานจื่อก็จะกระโจนตามขึ้นไปขวางหน้าเขาเอาไว้ได้ทุกครั้ง 

 

 

“เชอะ โจรเฒ่า เจ้าจะบิน?” 

 

 

“ข้าก็จะให้เจ้าบิน” 

 

 

หานจื่อตวัดอุ้งเท้าฟาดร่างหลิวอ้าวหลานอีกครั้ง และเพื่อเป็นการสั่งสอนให้เขาหลาบจำ หานจื่อจึงใช้กรงเล็บบนอุ้งเท้ากรีดลงบนร่างของหลิวอ้าวหลานจนเป็นแผลลึกโดยไม่มีเกรงใจแม้แต่น้อย 

 

 

เมื่อเป็นเช่นนี้หลายครั้งเข้า ในที่สุดหลิวอ้าวหลานก็ขยาดกลัว ไม่คิดจะทะยานขึ้นไปกลางอากาศอีก 

 

 

“นี่สุนัขจริงหรือเปล่า?” 

 

 

“แม่เจ้า!” 

 

 

“มันเข้าใจภาษามนุษย์ได้อย่างไร?” 

 

 

หลิวอ้าวหลานกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด วิ่งหนีสุดแรงเกิด จนเลือดสาดกระเซ็นเป็นทาง 

 

 

เจ้าสุนัขสีดำยักษ์ตัวนี้เจตนากลั่นแกล้งเขา บังคับให้เขาวิ่งอยู่ในระยะหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น หากเกินกว่านี้ มันก็จะลงโทษเขาตามบทลงโทษที่เคยกระทำไว้ก่อนหน้านี้ 

 

 

ดังนั้น สิ่งที่ผู้คนรอบข้างเห็นนั่นก็คือ หลิวอ้าวหลานกำลังวิ่งมาราธอนวนเวียนอยู่ภายในระยะที่หานจื่อกำหนด 

 

 

คนงานและช่างก่อสร้างที่หลบหนีไปซ่อนตัวก่อนหน้านี้เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ค่อยๆออกมาจากที่ซ่อนทีละคน  

 

 

สถานการณ์ตรงหน้าเป็นไปอย่างไหลรื่น จึงมีคนบางคนเริ่มอดรนทนไม่ไหว หัวเราะเสียงดังออกมา 

 

 

เสียงหัวเราะของช่างทั้งหลายกลายเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้กับหานจื่อ 

 

 

“ดูสิ ข้ากำลังจูงสุนัขเดินเที่ยวอยู่!” 

 

 

หานจื่อส่ายหางไปมา แล้วแยกเคี้ยวยิงฟันให้กับผู้คน 

 

 

นอกจากจะแสดงแสงยานุภาพแล้ว หานจื่อก็ไม่ลืมที่จะสั่งสอนหลิวอ้าวหลานไปในตัวด้วย 

 

 

“โจรเฒ่า เร็วเข้า!”  

 

 

หานจื่อกางกงเล็บที่อุ้งเท้าออก แล้วตะปบลากกางเกงของหลิวอ้าวหลานจนขาดวิ่น เผยให้เห็นแก้มก้นด้านในสีทองแดงของเขา 

 

 

“ฮ่าๆ!” บรรดาช่างก่อสร้างทั้งหลายที่กำลังรับชมเหตการณ์ตรงหน้าอยู่นั้นแต่ละคนต่างก็มือกุมท้องหัวเราะร่าออกมา 

 

 

นี่คือก้นของราชาอาวุโสเชียวนะ! 

 

 

ราชาอาวุโส ที่เก่งกาจถึงเพียงนั้น! 

 

 

อีกทั้งหลิวอ้าวหลานคือคนของสกุลหลิว หนึ่งในสกุลทั้งแปด ตระกูลที่ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงเลื่องลือ บนแผ่นดินอุ๋โยวแห่งนี้ยิ่งนัก 

 

 

วันนี้ราชาอาวุโสแห่งสกุลหลิวมาหาเรื่องประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นด้วยความน่าเกรงขาม ทว่ากลับถูกสุนัขของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเล่นงานจนต้องหนีหัวซุกหัวซุกล้มลุกคลุกคลาน อ่อนหัดของแท้ ว่าไหมเล่า! 

 

 

เมื่อครู่บทสนาระหว่างหลิวเซิ้งและหลิวอ้าวหลาน ทุกคนต่างก็ได้ยินโดยทั่วกัน 

 

 

เรื่องฉาวโฉ่ของสกุลหลิว ทำให้ผู้คนเริ่มที่จะซุบซิบขึ้นมาโดยไม่ยำเกรง ตาเฒ่าคนนี้แก่แล้วแต่ก็ยังแข็งแรงไม่เบา!