TB:บทที่ 316 ยึดพื้นที่

 

“บอร์แมน สหายร่วมอุดมการณ์ของคุณนี่ขยันกันน่าดูเลยนะครับ” เฉินหลงที่กำลังมองดูเหล่าทหารเยอรมัน… ไม่ใช่สิ ต้องเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทรักษาความปลอดภัยเว่ยหลงที่กำลังวิดพื้นกันอย่างจริงจัง หันไปพูดกับบอร์แมน

 

“แน่นอนสิครับ บอส เงินที่คุณจ่ายให้พวกเขาก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ พวกเขาก็ต้องขยันทำงานเพื่อตอบแทนคุณอยู่แล้วครับ” บอร์แมนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อีกอย่าง เทียซินกับลู่หงเองก็อยู่ที่นี่ด้วย ไม่แปลกที่พวกเขาจะขยันเป็นพิเศษ”

จากนั้น บอร์แมนก็หันไปมองคนที่นอนสบายใจเฉิบอยู่บนเก้าอี้เอน พร้อมกับทานผลไม้แสนอร่อยด้วยใบหน้าพึงพอใจ

เนื่องจากบอร์แมนเป็นคนขอให้เทียซินและสหายอีกคนมาเขาช่วยอบรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่กว่าจะลากทั้งตัวสองคนนี้มาได้ ทำเอาเขาเสียแรงไปไม่น้อย

 

แต่พอคิดๆดูแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงความแข็งแกร่งของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้แล้ว คนที่เก่งที่สุดเป็นแค่ผู้มีฝีมือเท่านั้น จะให้เอาไปเปรียบเทียบกับคนอยู่ในระดับกำเนิดอย่างสองคนนี้ได้ยังไงกันล่ะ? สุดท้าย คนพวกนี้จึงถูกเทียซินทารุณอย่างโหดเหี้ยม

หลังจากที่ได้รับบทเรียนสุดโหดจากเทียซิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนได้มีความพยายามในการฝึกฝนมากขึ้น ทำให้ความสามารถของพวกเขาเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

 

“นายก็อย่าใช้กำลังกับพวกเขามากนักล่ะ ส่วนฉันจะไปยิงเป้าซะหน่อย” จากนั้น เฉินหลงก็ได้หมุนตัวเดินไปยังคลังเก็บอาวุธ

ทันทีที่เขาได้ยินเฉินหลงพูดคำว่ายิงเป้า บอร์แมนก็ได้เผยความประหลาดใจออกมาผ่านใบหน้าของเขา

ไม่นานนัก เฉินหลงก็เดินออกมาจากคลังเก็บอาวุธ โดยที่มือของหนึ่งของเฉินหลงปืนไรเฟิล Barrett M82A1 ส่วนมืออีกข้างถือกล่องบรรจุกระสุนอยู่ และปืนพก M500 ที่เสียบอยู่บริเวณเอวของเขาอีกหนึ่งกระบอก

ตอนนี้ ในสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคน เห็นอีกฝ่ายเดินผ่านไปด้วยท่าทางสบายๆแล้ว ทุกคนถึงกับมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เฉินหลงในตอนนี้ดูเท่มาก!

 

“พวกนายคงเข้าใจแล้วสินะ ถ้าพวกนายขยันฝึกฝนอย่างหนัก พวกนายก็สามารถเป็นยอดฝีมือเหมือนบอสได้” บอร์แมนตะโกนเสียงดังออกมา

สามวันผ่านไป เฉินหลงกลับรู้สึกว่าชีวิตมันช่างน่าเบื่อเสียจริง

ในขณะเดียวกัน คนที่เพิ่งมาถึงที่นี่ได้ทำให้วันเวลาอันแสนน่าเบื่อของเฉินหลง น่าสนุกมากขึ้น

เฉินหลงรู้ดีว่าคนที่มาที่นี่คือใคร เขาคนนั้นคือหม่าเวิน(ลูกพี่หม่า) ที่เคยเจอกับอีกฝ่ายที่ไชน่าทาวน์มาก่อน

ในตอนที่เขาได้เห็นหน้าพี่หม่าอีกครั้ง ใบหน้าที่แสนจะเย่อหยิ่งและจองหองของเขาก็ได้หายไป และถูกแทนที่รอยยิ้มที่เป็นมิตรในทันที

“สวัสดีครับ คุณเฉิน” หม่าเวินกล่าวทักทาย พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่เป็นมิตรให้คนตรงหน้า

“บอกผมมาว่าคุณมาทำอะไรที่นี่” เฉินหลงตอบพร้อมกับสบตากับหม่าเหวิน

“ได้เลยครับ คุณเฉิน คนอื่นๆเองก็อยู่ที่นี่ด้วยใช่ไหมครับ?” หม่าเวินถาม

“ครับ แล้วคุณมีธุระอะไรครับ?” เฉินหลงพยักหน้าตอบ

ตั้งแต่ที่หม่าเหวินรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ แสดงว่าอีกฝ่ายรู้ว่าหวู่เต่าเทียนอยู่ที่นี่ อีกอย่าง เรื่องแค่นี้ เฉินหลงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกฝ่ายอีก

 

“ดีเลยครับ คุณเฉิน ผมขอคุยกับพี่เทียนหน่อยได้ไหมครับ” เมื่อได้ยินว่าหวู่เต่าเทียนอยู่ที่นี่จริงๆ หม่าเวินก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาในทันที

“ได้ครับ”

จากนั้น เฉินหลงก็เรียกตัวหวู่เต่าเทียนมาที่นี่

“พี่เทียน!ฉันดีใจมากที่ได้พบคุณ” ทันทีที่ได้พบหน้าหวู่เต่าเทียน ราวกับว่าหม่าเวินได้พบกับมิตรสหายอีกครั้ง เขาจึงรีบลุกขึ้นยืนและทำท่าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ออกมา

“เสี่ยวหม่า? นายมีธุระอะไร?” หวู่เต่าเทียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“พี่เทียน กลับไปที่ไชน่าทาวน์กันเถอะ” หม่าเวินขอร้องพร้อมกับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังให้หวู่เต่าเทียน

“คำตอบของฉันคือไม่ ฉันมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้น ฉันจะไม่มีวันกลับไปที่นั่นเด็ดขาด” หวู่เต่าเทียนตอบพร้อมกับส่ายหน้า

 

“ต..แต่ พี่เทียน! พี่จะอยู่ที่นี่ไม่ได้นะ คนที่ไชน่าทาวน์กำลังรอให้พี่เทียนกลับไปอยู่นะครับ ตอนที่พี่ไม่อยู่ มีแก๊งแก๊งหนึ่งบุกเข้ามาในไชน่าทาวน์ ไม่ว่าพวกเราจะพยายามต้านมันเท่าไหร่ ก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้ไชน่าทาวน์ถูกแก๊งชาวญี่ปุ่นยึดไปแล้ว พวกมันทั้งขายยา รีดไถเงินจากชาวบ้าน และยังทำเรื่องเลวทรามอื่นๆอีก หัวหน้าของพวกมันเก่งมากจนพวกเราเอาชนะมันไม่ได้เลย ตอนนี้พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากขอให้พี่เทียนกลับไปแล้วจัดการพวกมันแล้วครับ…” ตอนนี้หม่าเหวินแสดงใบหน้าที่เจ็บปวดพร้อมกับร้องไห้ออกมาต่อหน้าหวู่เต่าเทียน ในตอนที่เขาเล่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นที่ไชน่าทาวน์ให้อีกฝ่ายรู้

เมื่อได้ยินว่าถิ่นของเขาถูกแก๊งชาวญี่ปุ่นยึดไปแล้ว หวู่เต่าเทียนก็ขมวดคิ้วเป็นปมทันที

แต่เนื่องจากว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะรับใช้เฉินหลง เขาจึงทำได้แค่ตอบอีกฝ่ายกลับไปว่า “ขอโทษนะ… ตอนนี้ฉันทำงานให้บอสเฉินแล้ว ฉันคงทำตามที่นายขอไม่ได้…”

“แต่… แต่ชาวญี่ปุ่นพวกนนั้นทำเกินไปแล้วจริงๆ พี่เทียน เห็นแก่คนอื่นๆที่ไชน่าทาวน์เถอะนะครับ ได้โปรดกลับไปกับผม… ” หม่าเวินไม่ยอมแพ้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมหวู่เต่าเทียนสุดความสามารถ

ในตอนที่หวู่เต่าเทียนกำลังจะพูด เฉินหลงก็ชิงพูดขึ้นมาว่า

“หวู่เต่าเทียน ในเมื่อชาวญี่ปุ่นมันมาแย่งถิ่นของนายไป นายก็ต้องไปแย่งมันกลับมาสิ! เอาเป็นว่า ครั้งนี้ฉันจะไปกับนายด้วยก็แล้วกัน!” เฉินหลงที่รู้สึกเบื่อหน่าย พอเห็นว่ามีคนนำเรื่องสนุกๆมาให้ มีหรือที่คนอย่างเขาจะปล่อยให้มันหลุดมือไป

“ได้ครับ”

 

เมื่อได้ยินว่าเฉินหลงอนุญาต หวู่เต่าเทียนจึงตอบตกลงทันที

อาณาเขตที่เขาเคยปกครอง ในตอนนี้ได้ถูกพวกชาวญี่ปุ่นยึดไปแล้ว เรื่องนี้ทำให้หวู่เต่าเทียนไม่พอใจเป็นอย่างมา ในเมื่อเฉินหลงยินดีให้เขากลับไปแล้ว ก็ได้เวลาปลิดชีพชาวญี่ปุ่นแล้ว!

หลังจากนั้น เฉินหลงได้พาหวู่เต่าเทียนรวมถึงจี้โม่ซีไปยังนครแห่งหมอกแห่งไชน่าทาวน์

ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เฉินหลงและคนทั้งสามก็ได้มาถึงไชน่าทาวน์

“พวกมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน?” หวู่เต่าเทียนถาม

 

เมื่อมาถึงไชน่าทาวน์ หวู่เต่าเทียนก็ได้ตรงดิ่งไปยังรังของชาวญี่ปุ่นทันที ในเมื่อพวกมันบังอาจเข้ามารุกรานและยึดถิ่นของเขาไปในตอนที่เขาไม่อยู่ที่นั่น เขาก็จะสู้กลับโดยที่พวกมันยังไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน ใครก็ตามที่กล้ามาขวางทางเขา เขาจะจับพวกมันถ่วงน้ำที่แม่น้ำไท่อู่ซือให้หมด!

“ผมคิดว่าตอนนี้พวกมันน่าจะอยู่ที่บาร์ซากุระนะครับ” หม่าเวินกล่าวด้วยท่าทางเขินอาย

“บาร์ซากุระ?” หวู่เต่าเทียนหันไปถามหว่าเวิน

“บาร์ซากุระคือบาร์จีนโบราณแห่งหนึ่งในเมืองนี้ครับ” หม่าเวินตอบพร้อมกับก้มศีรษะลงต่ำ

 

หวู่เต่าเทียนที่ไม่ได้ถามอะไรอีก มุ่งตรงไปยังบาร์แห่งหนึ่งที่เมื่อก่อนเคยเป็นของเขา แต่ตอนนี้กลับถูกชาวญี่ปุ่นยึดไปในทันที

เมื่อมาถึงทางเข้าบาร์ หวู่เต่าเทียนไม่รอช้า เปิดประตูและเดินเข้าไปทันที ตามมาด้วยเฉินหลง จี้โม่ซี และหม่าเวินที่เดินตามเขาเข้าไปข้างใน

เมื่อเข้ามาข้างในบาร์ เฉินหลงเห็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่นหลายคนกำลังเต้นรำแบบตะวันออกอยู่บนเวที นิจากนั้น ยังมีพวกชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงร้องโหวกเหวกอยู่ด้านล่างเวที

หวู่เต่าเทียนเดินไปยังแผงควบคุมไฟฟ้า จัดการปิดเครื่องเสียงสเตอริโอ จากนั้นก็ทำให้ภายในบาร์สว่างขึ้นด้วยการเปิดไฟทุกดวง ทำให้แสงไฟสลัวๆก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยความสว่างในทันที

 

“เห็นประตูทางออกที่อยู่ตรงนั้นไหม คนที่ไม่เกี่ยวก็รีบไสหัวออกไปซะ ถ้าถูกลูกหลงขึ้นมาอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” หวู่เต่าเทียนกล่าวพร้อมกับยกนิ้วชี้ไปที่ประตูทางออกของบาร์

ทันทีที่หวู่เต่าเทียนพูดจบ แขกคนอื่นๆที่มาที่บาร์เพื่อหาความสุขก็รีบวิ่งออกไปจากบาร์ทันที

“ไอ้บ้า แก แกเป็นใครวะ?” ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งหันไปถามหวู่เต่าเทียนด้วยภาษาจีนกลางเสียงแข็ง

“ฉันชื่อหวู่เต่าเทียน ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของฉัน แต่พวกแกกลับฉวยโอกาสตอนที่ฉันไม่อยู่มายึดถิ่นของฉันไป เอาล่ะ ฉันจะจะนับถึงห้า ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ ไม่อย่างนั้น พวกนายเจ็บตัวแน่” หวู่เต่าเทียนตอบพร้อมกับระเบิดความโกรธออกมา

“ถ้านายอยากให้พวกเราไปมากล่ะก็ เห็นทีนายคงต้องแสดงพลังออกมาให้พวกเราได้เห็นซะแล้วสิ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะทำได้อย่างที่พูดรึป่าว!?” จากนั้นพวกชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในบาร์ต่างพร้อมใจกันหยิบขวดไวน์และไม้เบสบอลขึ้นมา แล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาหวู่เต่าเทียน