TB:บทที่ 317 แย่งคืนมา

 

บนใบหน้าของหวู่เต่าเทียนได้ผุดรอยยิ้มอำมหิตออกมาในตอนที่เขาได้จ้องมองเหล่าชาวญี่ปุ่นที่ยืนล้อมเขาอยู่ พวกชาวญี่ปุ่นที่ไม่รู้จักเจียมตัว ถ้าเกิดพวกแกตายขึ้นมา อย่ามาโทษฉันว่าเป็นพวกใจร้ายก็แล้วกัน!

ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ถือขวดไวน์อยู่ในมือเข้าประชิดตัวหวู่เต่าเทียน ใช้ขวดฟาดเข้าไปที่ศีรษะของอีกฝ่ายทันที

 

แต่ก่อนที่ขวดไวน์จะถูกศีรษะของหวู่เต่าเทียน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ตามมาด้วยอาการเจ็บแปลบที่หน้าท้อง เนื่องจากความเจ็บปวดที่ไม่อาจต้านทานทำให้ชาวญี่ปุ่นที่ถือขวดอยู่ ล้มลงไปกองแทบเท้าของหวู่เต่าเทียนทันที จากนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มกระตุกเกร็ง

เนื่องจากว่า ก่อนที่ขวดไวน์ของชาวญี่ปุ่นจะฟาดถูกหัวของเขา หวู่เต่าเทียนก็รีบส่งหมัดไปที่ท้องของชาวญี่ปุ่นด้วยความเร็ว

วิชาหมัดที่เขาใช้ในครั้งนี้ไม่ใช่หมัดปืนลม ชาวญี่ปุ่นกระจอกแบบนี้ไม่มีคุณสมบัติมากพอให้หวู่เต่าเทียนใช้หมัดปืนลมได้ หมัดที่เขาใช้เป็นเพียงแค่หมัดธรรมดาเท่านั้น แต่ด้วยพลังมหาศาลของหวู่เต่าเทียน ทำให้ชาวญี่ปุ่นไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้

 

เมื่อเห็นว่าสหายของตนถูกหวู่เต่าเทียนจัดการ พวกชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆก็เริ่มจู่โจมหวู่เต่าเทียนทันที

อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดฝีมืออย่างหวู่เต่าเทียนแล้ว เปล่าประโยชน์ ของพวกนี้ไม่มีทางทำอะไรคนอย่างเขาได้!

คนที่ใช้ขวดไวน์ เปล่าประโยชน์ ถูกหวู่เต่าเทียนต่อยหมัดเดียวเห็นดาว

คนที่ใช้ไม้เบสบอลเหล็ก เปล่าประโยชน์ ถูกหวู่เต่าเทียนต่อยหมัดเดียวลงไปนอนนิ่งที่พื้น

คนที่ใช้ดาบตงหยางเปล่าประโยชน์ ถูกหวู่เต่าเทียนหักกระดูกไปหลายชิ้น

……

ในเวลาเพียงไม่กี่นาที พวกชาวญี่ปุ่นกว่ายี่สิบคนในบาร์ถูกหวู่เต่าเทียนจัดการ จนลงไปนอนเรียงรายกันอยู่ที่พื้นพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

 

“ไอ้พวกสวะ”

หวู่เต่าเทียนถ่มน้ำลายใส่ แล้วก่นด่าพวกชาวญี่ปุ่นที่นอนกองอยู่บนพื้น

แต่จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของบาร์ว่า “อย่าขยับ!”

เมื่อเขาหันกลับไปมองก็ได้พบกับพวกชาวญี่ปุ่นห้าคนทำท่าชักปืนออกมาพร้อมกับจ่อปืนมาทางเขา

หวู่เต่าเทียนส่งสายตาเยือกเย็นกลับไป จากนั้นก็ส่งสายตาขึ้นไปมองเพดานด้วยความว่างเปล่าในใจ

หลังจากนั้น ชาวญี่ปุ่นหนุ่มอายุสามสิบปีสวมสูทสีขาว โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สวมเสื้อเชิ้ตตัวใน ทำให้แผงอกแกร่งและมัดกล้ามหน้าท้องได้ปรากฏสู่สายตา อีกฝ่ายนั่งอยู่ที่โซฟาตัวหนึ่งใช้ปากคาบซิการ์เอาไว้ กำลังจ้องมองหวู่เต่าเทียนอยู่ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นหัวหน้าของชาวญี่ปุ่นทั้งหมด

เมื่ออีกฝ่ายได้เห็นหน้าจี้โมซี ในดวงตาคู่นั้นก็เต็มไปด้วยความปรารถนา

 

เมื่อสังเกตเห็นว่าชาวญี่ปุ่นคนนี้กำลังจ้องมองจี้โม่ซีไม่วางตา เฉินหลงจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิด

“บอกมาสิว่าอยากให้ฉันไล่พวกนายออกไปยังไงดี?” ชาวญี่ปุ่นที่นั่งอยู่บนโซฟาเบนสายตาไปที่หวู่เต่าเทียนด้วยความภาคภูมิใจ เอ่ยถามอีกฝ่ายเป็นภาษาจีนกลางด้วยสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในขณะเดียวกัน เหล่าลูกน้องของเขาที่กำลังจ่อปืนไปที่หวู่เต่าเทียน ต่างคิดว่าตัวเองนั้นเป็นฝ่ายชนะแล้ว

 

“พี่เทียน ไอ้หมอนี้เป็นหัวหน้าแก๊งโตเกียวชื่อ ทาเบะ โยชิโระ ครับ” หม่าเวินหันไปกระซิบข้างหูหวู่เต่าเทียนเสียงเบา

“ไล่? พูดเป็นเล่น! นี่นายบ้าหรือโง่กันแน่ ถึงได้กล้ามาต่อรองกับฉันในถิ่นของฉันแบบนี้” หวูเต่าเทียนจ้องมองทาเบะโยชิโระที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยสายตาดูถูก

ทันทีที่ได้ยินคำพูดจากปากของหวู่เต่าเทียน โยชิโระอดไม่ได้ที่จะเปิดปากหัวเราะลั่นออกมา เขาหันไปพูดคุยกับเหล่าลูกน้องว่า “ฮ่าฮ่า ตลกชะมัด พวกแกได้ยินที่มันบอกว่าฉันพูดเล่นไหม ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

แน่นอนว่าลูกน้องของเขาได้ให้ความร่วมมือกันเป็นเป็นอย่างดี ระเบิดหัวเราะออกมาไปพร้อมกับผู้เป็นนาย

จากนั้น โยชิโระได้คลี่ยิ้มออกมาแล้วหันกลับไปพูดกับหวู่เต่าเทียนว่า “แล้วนายไม่เห็นปืนในมือพวกฉันรึไง? คุกเข่าซะ!”

จากนั้น โยชิโระเอื้อมมือไปหยิบปืนพกสีเงินออกมาพร้อมกับเล็งไปที่หวู่เต่าเทียน

“นายอยากตายจริงๆใช่ไหม?” เมื่อเห็นโยชิโระเล็งปืนมาที่ตัวเองแล้ว หวู่เต่าเทียนจึงถามอีกฝ่ายกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“แกน่ะสิ ตาย!”

โยชิโระจ้องมองหวู่เต่าเทียนตาเขม็งแล้วยิงกระสุนออกไปทันที

ปัง!

ลูกกระสุนพุ่งออกจากกระบอกปืนไปที่ศีรษะของหวู่เต่าเทียน

“รนหาที่ตายจริงๆ!”

เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างของหวู่เต่าเทียนก็ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของชาวญี่ปุ่นทั้งห้าที่ถือปืนอยู่ เขาส่งหมัดออกไปจัดการกับศัตรูทั้งห้าคน

โยชิโระที่ถือปืนพกสีเงินอยู่เห็นลูกน้องถูกจัดการไปทีละคน จึงส่งกระสุนอีกครั้ง

หลังจากจัดการพวกลูกกระจ๊อกเสร็จแล้ว เขาจึงหันกลับไปจ้องมองที่โยชิโระด้วยสายตาอาฆาต แล้วค่อยๆก้าวเดินเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่าย

 

ทันใดนั้น โยชิโยะตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี เขาไม่เข้าใจสภานการณืที่เกิดขึ้น เมื่อกี้เขายังเป็นผู้คุมเกม แต่หลังจากที่เขายิงปืนออกไปแล้ว ทำไมสถานการณ์ถึงได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ เป็นไปได้ยังไง!?

“บอกมาสิว่านายอยากตายแบบไหน” หวู่เต่าเทียนพูดกับโยชิโระด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นกว่าเดิม

ไอ้บ้านี่กล้ายิงปืนใส่เขา แต่งั้นก็ตายเสียเถอะ แต่ติดอยู่ที่ว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะใช้วิธีไหนจัดการกับอีกฝ่าย จึงถามความเห็นว่าอีกฝ่ายอยากตายแบบไหน เขาจะได้จัดให้ตามที่ขอ อันที่จริงเขาก็ควรจะคิดว่าตัวเองควรจะฆ่าไอ้หมอนี่ยังไง อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นทหารมาก่อน ถึงจะต้องฆ่าศัตรู แต่ก็ต้องคิดถึงจิตใจของอีกฝ่ายเช่นกัน

 

โยชิโระกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอดังอึกแล้วตอบกลับไปด้วยเสียงสั่น “ไม่… อย่า..อย่าฆ่าผมเลยครับ ผ..ผมจะคืนที่นี่ให้คุณ ข้อร้อง คุณอย่าฆ่าผมเลยระครับ”

พูดจบ โยชิโระก็รีบโยนปืนพกไปข้างหน้าทันที

ทันใดนั้น หวู่เต่าเทียนก็เอื้อมมือไปหยิบปืนพกที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา ออกแรงบีบมันจนกลายเป็นเศษเหล็กแล้วโยนออกไปให้พ้นทาง

 

“สายไปแล้ว วินาทีที่นายเหนี่ยวไก นายก็ไม่มีโอกาสได้หายใจอีกต่อไปแล้ว เอาล่ะ บอกมาว่านายอยากตายยังไง อยากถูกซัดจนตาย ถูกรถชนตาย ถูกจัดการแบบลูกน้องทั้งห้าคน หรือถูกไฟครอกตายดีล่ะ?” หวู่เต่าเทียนถามพร้อมกับยกตัวอย่างวิธีลงโทษแบบเก่าแก่ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

ถึงแม้ว่าโยชิโระจะรู้วิธีการพูดภาษาจีนกลาง แต่เขากลับไม่รู้ว่าชื่อของบทลงโทษแบบเก่าๆนั้นหมายถึงอะไร แต่ถึงเขาจะไม่รู้ความหมาย แต่เขาก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นบทลงโทษที่น่ายินดีแน่

 

“ไม่ ไม่ ไม่ ขอร้อง อย่าฆ่าผมเลย ผมรู้ว่าผมทำผิด แต่ผมเป็นถึงลูกชายของประธานสมาคมอินากาวะแห่งญี่ปุ่น ถ้าคุณไว้ชีวิตผม ผมจะชดใช้ความเสียหายให้คุณแน่นอนครับ!”

“อินากาวะ? แล้วไง? ที่นี่ไม่ใช่ญี่ปุ่นของนายสักหน่อย ที่นี่คืออังกฤษ และที่ไชน่าทาวน์นี้ มันก็เป็นถิ่นของฉันคนนี้ ก่อนที่นายจะมายึดถิ่นของฉัน นายก็ควรคิดถึงผลที่จะตามมาด้วยสิ เพราะฉะนั้นตอนนี้นายต้องชดใช้ในสิ่งที่นายทำลงไปซะ!” พูดจบ หวู่เต่าเทียนก็หยิบดาบตงหยางขึ้นมา หมายจะใช้ใบมีดคมสลักตราบาปเอาไว้บนใบหน้าของโยชิโระ

 

“อย่า อย่านะ!” เมื่อเห็นว่าใบมีดกำลังกรีดอยู่บนใบหน้าของตน โยชิโระรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดจนฉี่แตก

ในขณะเดียวกัน จู่ๆเฉินหลงก็พูดขึ้นมาว่า “หวู่เต่าเทียน ระวัง!”

ทันทีที่เฉินหลงตะโกนออกมา ดาบนินจาสี่เล่มก็พุ่งตรงไปยังหวู่เต่าเทียนจากด้านบน ด้านล่าง ด้านซ้ายและด้านขวา

โชคดีที่หวู่เต่าเทียนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับกำเนิด ในตอนที่ได้ยินคำเตือนจากเฉินหลง เขาก็รู้สึกถึงสถานการณ์ที่ผิดแปลกไปจึงระวังตัวมากขึ้น ในตอนที่ดาบนินจาพุ่งเข้ามา หวู่เต่าเทียนจึงรีบใช้ดาบตงหยางในมือสกัดการโจมตีจากดาบนินจาทั้งสี่เล่ม

แต่หลังจากที่ดาบนินจาทั้งสี่เล่มถูกสกัดการโจมตี สถานการณ์ในตอนนี้ก็กลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง

หม่าเวินที่ไม่เคยเห็นนินจาญี่ปุ่นมาก่อนในชีวิตถึงกับอึ้ง

 

“ถ้าพวกนายยังไม่หยุด ฉันจะฆ่าเขาเดี๋ยวนี้!” พูดจบ หวู่เต่าเทียนก็เดินเข้าไปบีบคอโยชิโระและยกขึ้นจนตัวลอยเหนือพื้น เหมือนชูไก่ตัวหนึ่ง พร้อมกับตะโกนเสียงดังออกมา

แน่นอนว่า หลังจากที่หวู่เต่าเทียนทำแบบนั้น เขาก็หยิบดาบตงหยางขึ้นมา แต่ก็ถูกดาบลับพุ่งเข้ามาเหมือนก่อนหน้านี้

“นินจาญี่ปุ่น? ระดับกำเนิดทั้งสี่คน จุดประสงค์ของอินากาวะคืออะไรแน่? แค่ปกป้องขยะไร้ประโยชน์คนเดียว พวกเขายังส่งนินจาที่มีระดับกำเนิดมาถึงสี่คนเลยเหรอ…” เฉินหลงหันไปมองนินจาทั้งสี่ที่สงบนิ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ในสายตาของเฉินหลง อีกฝ่ายจะซ่อนตัวหรือไม่ มันก็ไม่ต่างกัน สุดท้ายเขาก็มองเห็นพวกเขาได้ชัดเจนอยู่ดี