เจิ้งอวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอรู้สึกกลัวพวกพี่สะใภ้หงอวี้ทั้งสามคน เพราะสามคนนั้นเป็นพวกเดียวกัน ส่วนเธอตัวคนเดียว มีเรื่องกับสามคน พวกเธอจะกำจัดตัวเองเหมือนกัน
ไม่แน่สุดท้ายแล้วตัวเองเป็นคนทำงานมากที่สุด ก็ยังไม่มีจุดจบที่ดี ไม่แน่พวกเธอก็จะหาข้ออ้างไล่ตัวเองออกไปเหมือนกัน
แต่คำพูดก็พูดออกไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะกลับคำพูด
เรื่องแบบนี้เป็นพวกพี่สะใภ้หงอวี้ทำเกินไปจริงๆ
คิดมาถึงตรงนี้พี่สะใภ้เจิ้งอวี่ก็ลุกขึ้นยืน ตอนนี้เธอกับสามคนนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันอย่างชัดเจนแล้ว ถึงแม้จะโดนกำจัด ก็ไม่สามารถถอยกลับได้แล้ว
ส่วนตอนแรกพวกพี่สะใภ้หงอวี้ทั้งสามคนไม่ได้สนใจที่คุณป้าทั้งสองคนทำงานน้อย พวกเธอทำงานเยอะ เพราะพวกเธอได้ค่าจ้างมากกว่า ส่วนคุณป้าสองคนนั้นได้น้อย แต่ช่วงหลังเธอคิดว่าไม่ยุติธรรม อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังออกมาแย่งงานทำอีก ไม่ใช่ว่าทำให้งานล่าช้าหรือไง!
อีกทั้งครอบครัวพวกเธอก็มีคนอยากจะเข้ามาทำที่โรงงาน แล้วโรงงานก็ไม่รับคนแล้ว จึงต้องทำให้ป้าสองคนนี้ออกไป แบบนี้คนในครอบครัวตัวเองจะได้มีโอกาสเข้ามาทำในโรงงาน ดังนั้นเธอเลยเสนอให้ผลัดเปลี่ยนกันแบกกระดาษ
แบกกระดาษเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก ใช้แรงมาก เธออยากให้ป้าสองคนนั้นหกล้มจนเคล็ด อย่างมากโรงงานก็ชดใช้เงินให้ทั้งสองคนหน่อย แล้วที่โรงงานก็มีเงิน ยังไงก็ไม่ใช่พวกเธอที่ชดใช้ ที่เสียหายก็ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพวกเธอ พวกเธอเลยไม่สนใจ แล้วคุณป้าสองคนนี่ก็ทำงานต่อไม่ได้แน่นอน แบบนี้พวกเธอก็สามารถอ้างเรื่องคนแก่ที่โรงงาน แล้วเอาคนที่บ้านมาทำงานที่โรงงานได้
คิดไม่ถึงว่านี่เพิ่งเริ่มไม่กี่ครั้ง ครั้งนี้บังเอิญเฉินเยี่ยนมาเจอพอดี
มาเจอก็ดีเหมือนกัน จะได้ให้เฉินเยี่ยนเห็นว่าป้าสองคนนี่ไม่ได้เรื่อง พอดีกับที่เฉินเยี่ยนเป็นคนที่พูดด้วยได้ แค่เธอตกลง คนที่บ้านตัวเองก็สามารถเข้ามาทำได้แล้ว
ส่วนเรื่องนี้ก็เป็นเฉินเยี่ยนที่ออกหน้า ถึงแม้คนอื่นจะว่า ก็ต้องว่าเฉินเยี่ยนที่ไม่มีน้ำใจ ไม่เหลือทางเดินให้คนแก่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเธอ
เฉินเยี่ยนยิ้มเย็นชา เธอเข้าใจความหมายของพี่สะใภ้หงอวี้ขึ้นมาทันที นี่คิดจะผลักความรับผิดชอบมาที่ตัวเองสินะ คำนวณไว้รอบคอบดีจริงๆ ถ้าให้พวกเธอสมหวังดั่งใจ งั้นตัวเองก็จะไม่เข้าไปมีความส่วนร่วมด้วย
หลังของคุณยายซูและคุณยายหวางยิ่งงอลงเข้าไปใหญ่ มือพวกเธอที่ผอมและหยาบกร้านกำลังสั่น ดูแล้วน่าสงสารมาก
“เยี่ยนจื่อ เธอไม่ต้องลำบากใจ พวกฉันแก่แล้วจริงๆ ทำไม่ไหวแล้ว ให้คนอายุน้อยทำเถอะ เธอดีกับพวกฉันมาก พวกฉันจะจดจำไว้”
คุณยายซูพูด คนเขาดีกับเธอ ถึงแม้เธอจะลำบาก แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาลำบากใจ
“ใช่แล้ว เยี่ยนจื่อ ถ้าไม่ได้เธอและหลานชายใครเขาจะยอมให้พวกฉันที่จะใกล้ลงหลุมแล้วเข้ามาทำ พวกฉันก็ไม่สามารถทำอยู่ที่นี่ได้นาน พวกฉันต้องไปแล้ว”
คุณยายหวางเช็ดน้ำตา ถึงแม้ครอบครัวตัวเองจำเป็นต้องใช้เงิน แต่เธอรู้อะไรผิดถูก
“ควรจะไปตั้งนานแล้ว พวกป้าไปแล้ว เยี่ยนจื่อหาคนที่อายุน้อยมาอีกสองคน ช่วงนี้ความต้องการกระดาษมาก งานทำไม่เสร็จ พวกฉันเหนื่อยจนปวดเอวไปหมด คนอายุน้อยมาแล้ว จะได้มีแรงมาทำงานเพิ่มขึ้น พวกฉันก็จะได้เสียแรงน้อยหน่อย”
พี่สะใภ้หงอวี้สีหน้าดีใจ บรรลุจุดประสงค์แล้ว กลับไปเธอจะไปบอกกับคนในหมู่บ้าน บอกว่าเฉินเยี่ยนมาเจอป้าซูป้าหวางสองคนทำงานไม่ไหวพอดี ดังนั้นเลยให้พวกเธอออกไป ส่วนตัวเอง ก็จะรีบกลับบ้านแม่ เรียกพี่สะใภ้ตัวเองมา ถ้าให้พวกเหม่ยเฟิ่งแย่งไปก่อนจะไม่ดี
“เยี่ยนจื่อ ไม่อย่างนั้นฉันกลับไปเรียกให้ภรรยาน้องชายฉันมาดีกว่า เธอรีบมา จะได้รีบทำงาน รีบมาช่วยงาน เธอว่าจริงไหม?”
พี่สะใภ้ซิ่วเฟินยิ้ม แววตามีความพึงพอใจ บ้านเธออยู่ใกล้โรงงานมากที่สุด ดังนั้นเธอเลยแย่งก่อนได้
“ฉันก็จะให้พี่สะใภ้ฉันมาเหมือนกัน เยี่ยนจื่อ เธอว่าไง?”
เหม่ยเฟิ่งก็ไม่ยอมน้อยหน้า
“พวกเธออย่าแย่งกัน เยี่ยนจื่อยังไม่ได้บอกเลยว่าจะรับกี่คน เรื่องนี้ฉันเป็นคนเสนอก่อน ถ้าต้องการแค่คนเดียว ก็ต้องให้พี่สะใภ้บ้านฉันก่อน บ้านพวกเธอก็รอคราวหน้า”
แววตาพี่สะใภ้หงอวี้ร้อนรน บ้านแม่เธอไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนี้ ดังนั้นเลยไปเรียกให้มาตอนนี้ไม่ได้ แต่เธอจะยอมให้อีกสองคนแย่งตัดหน้าไปก่อน
“เยี่ยนจื่อ เธอต้องการกี่คนล่ะ”
เหม่ยเฟิ่งยิ้มถาม
ใช่ ให้คนแก่สองคนเข้ามาพวกเขาทำงานได้น้อย แต่เดิมทีคนเก็บขอบกระดาษห้าคนก็เพียงพอแล้ว คุณยายสองคนทำงานเท่ากับคนเดียวทำ ยังมากกว่าด้วยซ้ำ เหมือนอย่างที่พวกเธอพูดที่ไหน
มองดูสีหน้าพวกเธอสามคน เฉินเยี่ยนร้องหืมออกมา เพื่อให้ครอบครัวตัวเองได้ผลประโยชน์ ให้คนในครอบครัวมีชีวิตที่ดีเธอไม่คัดค้าน แต่วิธีที่พวกเธอทำทำให้ตัวเองรังเกียจ เหยียบย่ำคุณยาย สละเธอเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวตัวเอง คนแบบนี้ เธอดูถูก และไม่ชอบ
“ควรจะไปจริง”
เฉินเยี่ยนไม่ได้ตอบคำถามพวกเธอ แต่กลับพูดมาประโยคหนึ่ง
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ป้า เยี่ยนจื่อบอกแล้ว พวกป้ายังไม่รีบไปอีก หรือยังจะดึงดันอยู่ที่นี่ไม่ยอมทำงานรับแต่เงิน”
พี่สะใภ้หงอวี้เออออตามเฉินเยี่ยน จากนั้นชักสีหน้ารำคาญใส่ยายซูและยายหวางสองคน เธอไม่กลัวจะทำให้สองคนนี้ไม่พอใจ เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี ที่บ้านก็ไม่มีคนอายุน้อยคอยหนุนหลังให้ ดังนั้นเธอเลยไม่กลัว
คุณยายซูและคุณยายหวางมองดูที่นี่ ถอนหายใจ และไม่ได้เรียกร้องอะไร คนเขาดีกับพวกเธอ พวกเธอไม่สามารถดึงดันอยู่ที่นี่ต่อได้
พี่สะใภ้เจิ้งอวี่อยากจะพูดอะไร แต่ไม่ได้พูดออกมา สีหน้าดูทนไม่ได้ ส่วนหลายคนที่เหลือดูดีใจ คุณยายสองคนไปก็ดี แต่ไม่รู้ว่าเฉินเยี่ยนจะให้บ้านไหนเข้ามาแทน
ไม่ได้ จำเป็นต้องให้คนครอบครัวตัวเองเข้ามา สามคนนี้ต่างคิดว่าจะทำยังไงให้คนของตัวเองเข้ามา ไม่ให้คนบ้านอื่นเข้ามาได้
“ที่จริงคนที่ควรจะไป ไม่ใช่คุณยายสองคนนี้ แต่เป็นพวกพี่”
เฉินเยี่ยนมองไปยังพวกพี่สะใภ้หงอวี้ทั้งสามคน
คุณยายสองคนอึ้งไป พวกพี่สะใภ้หงอวี้ทั้งสามคนก็อึ้ง ตอบสนองคำพูดเฉินเยี่ยนไม่ทัน ส่วนคำพูดที่เดิมทีพวกเธอจะพูดให้เฉินเยี่ยนเอาคนในครอบครัวตัวเองเข้ามาก็กลืนลงท้องไปด้วย
พวกเธอเป็นถึงกำลังหลักในการทำงาน ไล่พวกเธอออก? เฉินเยี่ยนกินยาผิดมาหรือเปล่า
“พี่เถี่ยจู้ พี่ไปเรียกพ่อมาหน่อย ให้บัญชีสรุปค่าจ้างพวกเธอ ให้พวกเธอออกไป แล้วพรุ่งนี้เปิดรับสมัครคน เรียกมาห้าคนเลย”
เฉินเยี่ยนพูดกับเถี่ยจู้ที่กำลังเดินเข้ามาพอดี บอกว่าคนน้อยทำไม่ทันไม่ใช่หรือ งั้นเธอจะรับคนเพิ่ม
เถี่ยจู้พยักหน้า เขาไม่สงสัยในคำพูดของเฉินเยี่ยนเลยแม้แต่น้อย เขาก็ไม่ชอบพวกพี่สะใภ้หงอวี้หลายคนนี้ เวลาปกติตอนที่เห็นช่วยคุณยายสองคนได้ก็ช่วย แต่เขาไม่ได้เป็นคนควบคุมเรื่องนี้ ดังนั้นเขาไม่มีสิทธิ์มาตัดสิน ตอนนี้เฉินเยี่ยนยอมออกหน้าแล้ว เขาภาวนาให้เป็นอย่างนั้น
“เธอ เธอไม่ให้พวกฉันทำแล้ว? เพื่อคนแก่ที่ไร้ประโยชน์สองคนนี้? งานนี้พวกฉันเป็นคนทำนะ พวกฉันมีความชำนาญ เธอจะไล่พวกฉัน?”
พี่สะใภ้หงอวี้ชี้ไปที่เฉินเยี่ยนอย่างไม่อยากเชื่อ แม้แต่ฝันเธอยังคิดไม่ถึงเลยว่าผลจะออกมาเป็นอย่างนี้
“ใช่แล้ว อาศัยอะไรที่ไล่พวกเราไป? พวกเราทำผิดอะไร? พวกเราก็ทำงานไม่น้อยนะ”
พี่สะใภ้เหม่ยเฟิ่งก็ไม่อยากเชื่อ