ตอนที่ 677: การเฉลิมฉลองของอาณาจักร
ในขณะที่ เจี้ยนเฉินกำลังออกมาจากห้องของเขา ร่างกายของเขาดูเหมือนราวกับว่ากำลังแผ่กระจายแสงที่มองไม่เห็นซึ่งส่องทั่วทั้งโลก ด้านหน้าของเขา โลกทั้งโลกดูราวกับว่ามันหายไป
ในสายตาของเจี้ยนเฉิน โลกรอบ ๆ ตัวเขาก็ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความสามารถในการแยกแยะพลังงานลึกลับของโลก เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเองเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่ทั้งหมด ตราบเท่าที่เขาต้องการมัน เขาสามารถใช้พลังมิติเพื่อเดินทางไปยังที่อื่นได้ทันที ในความเป็นจริง เขาสามารถใช้พื้นที่รอบตัวเขาในระดับหนึ่งราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของเขา
ในโลกมีพลังงานจาง ๆ แต่เป็นพลังมหาศาลและเป็นอนันต์ที่ลอยอยู่ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่สามารถมองเห็นได้ในสายตามนุษย์ แต่เขาสามารถรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของมัน นี่คือพลังของโลกซึ่งมันแข็งแกร่งกว่าพลังเซียน
เมื่อทั้งกลุ่มที่อยู่นอกห้องของเจี้ยนเฉินเห็นเขา ทุกคนก็เงียบกริบ ไม่มีสักคนที่จะพูดอะไรออกมา พวกเขาจ้องที่เจี้ยนเฉินราวกับว่าเขาเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่จะได้เห็น ในช่วงเวลาที่ผ่านไปนี้ พวกเขาไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายเป็นนายน้อยสี่แห่งตระกูลเจียงหยางอีกต่อไป ทว่าพวกเขากำลังมองว่า อีกฝ่ายนั้นเป็นปัจเจกชนที่หาได้ยากยิ่งคนหนึ่งของทวีปเทียนหยวน
พวกเขากำลังมองเซียนผู้คุมกฎคนหนึ่ง
ฮ่าฮ่า ! เจ้ามีค่าเกินกว่าที่จะเป็นลูกหลานของครอบครัวไป๋ของข้า ! หลานชาย พรสวรรค์ของเจ้านั้นทำให้ข้าตกตะลึง ! ความจริงที่ข้ามีลูกหลานเช่นเจ้า ทำให้ข้ารู้สึกสบายใจอย่างสิ้นเชิง ! เสียงหัวเราะดังมาจากด้านหลัง ทำให้เกิดเสียงดังในบริเวณดังกล่าว หลังจากเสียงหัวเราะ ไป๋ไฮที่ได้ก้าวเข้ามาในพื้นที่ด้วยความภาคภูมิใจและความปิติยินดี
กลุ่มผู้อาวุโสหันไปมองไป๋ไฮเมื่อเขาเข้ามา แต่ยังไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าพูด ได้แต่หลบไปที่ด้านข้าง เพื่อให้เขาเดินตรงไปยังเจี้ยนเฉิน
ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี ด้วยความจริงที่ว่าเขาจะสามารถตัดผ่านจากการเป็นเซียนสวรรค์ขึ้นไปเป็นเซียนผู้คุมกฎนั้นเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันโดยสิ้นเชิง เมื่อเขาพบบางสิ่งในแหวนมิติของซิตูชิง เขาเพียงแต่ตั้งใจจะดูว่าทางลัดนี้เป็นอย่างไร เขาไม่เคยคิดว่าทางลัดนี้จะทำให้เขาเข้าใจความลึกลับของโลก และทำให้เขาได้รู้แจ้งและตัดผ่านได้ มันได้กระตุ้นเศษของความลึกลับของโลกในตัวเขา และพาเขาไปสู่ขอบเขตความคิดที่สูงส่ง ในท้ายที่สุดขนสัตว์ทั้งสามชิ้นได้ส่งเสริมเขาอีกครั้งเพื่อให้เขาสามารถตัดผ่านจากเซียนสวรรค์ขึ้นไปสู่เซียนผู้คุมกฎได้อย่างสมบูรณ์
“เซียงเอ๋อ เจ้ากลายเป็นเซียนผู้คุมกฏแล้วหรือ ? เสียงของไป๋หยุนเทียนสั่นไหวด้วยความตื่นเต้นในขณะที่นางถามเขา แม้ว่านางจะรู้คำตอบ นางก็อยากจะได้ยินคำตอบจากริมฝีปากของลูกนางเอง
นัยน์ตาของเจี้ยนเฉินจับจ้องบนร่างของมารดา เขายิ้มและตอบว่า ท่านแม่ ลูกชายของท่านไม่ได้ล้มเหลว ข้าตัดผ่านได้สำเร็จแล้ว !
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ! ทำได้ดี ! ทำดีจริง ๆ ! ลูกชายของข้า เจียงหยางป้า ได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฏ ! เป็นลูกชายที่โดดเด่นที่ข้ามี ! เวลาไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกอ่อนแอลงไป เจียงหยางป้าพูดจาด้วยเสียงหัวเราะอันไพเราะ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนานและดังไปทั่วคฤหาสน์ทั้งหมด เพื่อให้คนที่อยู่นอกคฤหาสน์สามารถฟังความสุขอย่างแท้จริงในเสียงของเขา
ราชาแห่งอาณาจักรกเกอซุนเองก็รู้สึกตื่นเต้น การมีเซียนผู้คุมกฏในอาณาจักรของเขาเป็นเหตุการณ์ที่บังเอิญมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความจริงที่ว่าเซียนผู้คุมกฏนั้นได้หมั้นหมายกับพระธิดาของเขา
การที่เซียนผู้คุมกฏเป็นลูกเขยของเขา มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยฝันถึง แม้กระทั่งหนึ่งในแปดมหาอำนาจก็จะอิจฉาที่ได้มีโอกาสเช่นนั้น
ไฮ้ ! หลานชายที่รักของข้าช่างน่ากลัวเหลือเกิน ! เขาเป็นอัจฉริยะที่เป็นเซียนผู้คุมกฏ ! บางทีข้าอาจจะกำลังฝันถึงเรื่องนี้ ? ไป๋เต๋อพึมพำจากด้านข้างของราชา เมื่อครั้งที่เขาเจอเจี้ยนเฉินเมื่อหลายปีก่อน เขาได้ใช้อาวุธเซียนเพียงอย่างเดียวของเขา ก่อนที่จะถูกไล่ล่าโดยนิกายหัวหยุน มันเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ นับแต่นั้นมา แต่ตอนนี้เซียนตัวเล็ก ๆ ก็กระโดดขึ้นไปสู่ตำแหน่งของเซียนผู้คุมกฎ ! นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ไป๋เต๋อตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
……
ข่าวที่ว่านายน้อยสี่ของตระกูลเจียงหยางได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ ได้แผ่กระจายไปทั่วอาณาจักรอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับความหายนะ ข้อมูลนี้แพร่หลายออกไปทั่ว จากปากต่อปากของราษฎรในอาณาจักร ทุกคนกล่าวขานกันทั่ว สัตว์อสูรที่มีความสามารถในการส่งข้อมูลได้เร็วกว่ามนุษย์ก็ท่วมท้องฟ้า เพื่อส่งข้อมูลเหล่านี้ออกจากอาณาจักรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่นานนัก ทุกคนในอาณาจักรเกอซุนและอื่น ๆ ก็ตะลึงกับข่าว
ไม่นานหลังจากนั้น ราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนได้ออกแถลงการณ์ประกาศว่าวันนี้จะเป็นงานระดับชาติที่จะเฉลิมฉลองและได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงการขึ้นเป็นเซียนผู้คุมกฎของเจี้ยนเฉิน
ความจริงที่ว่าเมฆสีรุ้งหมายความว่าเจี้ยนเฉินกลายเป็นเซียนผู้คุมกฏนั้นได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งพื้นที่อาณาจักรที่ล้อมรอบอาณาจักรเกอซุนได้ยินเรื่องนี้ และราชาทุกคนที่ได้ยินก็ตกใจ พวกเขาเริ่มทยอยส่งทูตไปพร้อมด้วยของขวัญมากมาย ทูตเหล่านี้คือเซียนสวรรค์ซึ่งจะไปยังอาณาจักนเกอซุนได้เร็วขึ้น แม้แต่นิกายและตระกูลใหญ่ ๆ ในพื้นที่โดยรอบก็ส่งตัวแทนที่สำคัญที่สุดไปพร้อมด้วยของขวัญมากมายที่จะมอบให้
ในวันอันสดใสนี้ ทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรเกอซุนได้รวมตัวกันที่คฤหาสน์เจียงหยาง แม้กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหัวหยุนก็ได้มาพร้อมกับของขวัญเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ในเมืองลอร์
วันนี้ คฤหาสน์เจียงหยางได้ทำความสะอาดและตกแต่งประดับประดาด้วยของล้ำค่า เจียงหวูจี่ได้ต้อนรับแขก คนที่คาดหวังมากที่สุดในวันนั้นกลับไม่อยู่ เจี้ยนเฉินไม่ได้อยู่ที่นั่นและปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
จากนั้นเมื่อคฤหาสน์ทั้งหมดมีชีวิตชีวามากขึ้น กับแขกผู้มาเยือน เจี้ยนเฉิน ไป๋หยุนเทียน เจียงหยางป้า และราชาแห่งอาณาจักรเกอซุน รวมตัวกัน
ญาติที่รักของข้า เยว่เอ๋อและลูกเขยของข้าไม่ได้อยู่ในวัยหนุ่มสาวอีกต่อไปแล้ว การหมั้นหมายระหว่างพวกเขาก็นานมาแล้ว ในความเห็นของข้า เราควรจะหาวันที่ดีในการจัดพิธีแต่งงาน ราชายิ้มขณะพูด ตอนนี้เจี้ยนเฉินเป็นเซียนผู้คุมกฏแล้ว ราชาก็ไม่ต้องการอะไรมากนัก นอกจากการที่เจี้ยนเฉินจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่กับพระธิดาของเขา
เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เพราะพวกเขาก็ความคิดเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าพวกเขารู้ว่าลูกชายของพวกเขายอดเยี่ยมกว่ามาก แต่ทั้งสองคนก็ชอบองค์หญิงโหยวเยว่ ถ้าพวกเขาแต่งงานกัน พ่อแม่ทั้งสองก็ไม่ได้คัดค้าน
“เซียงเอ๋อและโหยวเยว่เป็นผู้ใหญ่แล้ว เจ้าไม่คิดว่าถึงเวลาแล้วหรือ … ไป๋หยุนเทียนถามคำถาม นางหวังอย่างยิ่งว่าเจี้ยนเฉินจะเห็นด้วย เพราะนางชอบความคิดที่จะให้โหยวเยว่และเจี้ยนเฉินแต่งงานกัน
เซียงเอ๋อ เจ้าเป็นเซียนผู้คุมกฎและเป็นผู้นำของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีซึ่งเป็นกำลังสำคัญในพื้นที่ ตอนนี้ พื้นที่นี้ เจ้าได้มีอำนาจมากนัก เจ้าคิดว่ามันไม่ถึงเวลาแล้วหรอกหรือ ? เจียงหยางป้ายิ้มอย่างสุภาพ
เจี้ยนเฉินนั้นยิ้มออกมาบาง ๆ พร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย เขาพูดว่า ท่านพ่อ ท่านแม่ ฝ่าบาท เนื่องจากพี่ใหญ่ของข้ายังไม่ได้รักษาแขนขาของเขา และยังไม่รู้ว่าพี่รองอยู่ที่ใด ตอนนี้คงจะไม่เหมาะที่จะทำพิธีแต่งงาน เจี้ยนเฉินรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ต้องการที่ทำพิธีในตอนนี้ เขาต้องการที่จะยืดเวลาให้นาน
เมื่อราชาได้ยินคำตอบของเจี้ยนเฉิน เขาก็ถอนหายใจ เขารู้ว่าจากการตอบสนองนี้ การแต่งงานระหว่างลูกสาวกับเจี้ยนเฉินจะหยุดนิ่งอยู่เรื่อย ๆ การตอบสนองของเจี้ยนเฉินมีความหมาย พี่ใหญ่ของเขาไม่มีแขนขาของเขาและน้องรองของเขาก็หายตัวไปไร้ร่องรอย หากไม่มีครอบครัวอยู่ที่นั่น การแต่งงานนั้นก็ไม่สมควรนัก
และได้มีการเจรจาเรื่องการแต่งงานได้จบลง เจี้ยนเฉินยังคงพูดคุยกับราชาแห่งอาณาจักรเกอซุนและพ่อแม่ของเขาเป็นเวลานาน ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะกลับมาที่ห้องของเขาเองและอยู่ในนั้น
ตอนที่เขาอยู่ตามลำพังในห้องของเขา เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนเตียงของเขา และหยิบกระดาษที่ว่างเปล่าและขนสัตว์ 3 ชิ้นมาศึกษา นับตั้งแต่ที่เขากลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ ความลึกลับของโลกไม่ได้เป็นความลึกลับ ในขณะนี้ที่เขาสามารถใช้อำนาจตามที่เขาปรารถนาได้ ด้วยพลังอำนาจที่มีในขณะนี้ ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในม้วนกระดาษที่สามารถจดจำได้
ไม่ต้องแปลกใจเลยที่มันสามารถพัฒนาความลึกลับของโลกได้ ความลึกลับของโลก ข้ารู้สึกได้ว่าพลังที่นี่จืดจางมาก เป็นไปได้ไหมว่า หลังจากที่ใช้ไปครั้งหนึ่ง ตราประทับที่เก็บพลังลึกลับไว้ในที่นี้ได้สูญเสียพลังไปอย่างสิ้นเชิง ? จากนั้นใช้ม้วนกระดาษนี้จะหมุนกลับเป็นม้วนกระดาษธรรมดา แต่ขนสัตว์ทั้ง 3 ชิ้นยังคงเป็นปริศนา เจี้ยนเฉินพูดพึมพำ
เขาเข้าใจธรรมชาติของม้วนกระดาษนี้ แต่ขนสัตว์อสูรยังคงเป็นปริศนาที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขา ขนสัตว์ทั้ง 3 ชิ้นยังคงรู้สึกคล้ายกับขนสัตว์อสูรอื่น ๆ แม้ความจริงที่ว่าความลึกลับของโลกถูกซ่อนอยู่ภายในขนสัตว์ เขาไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
ขนสัตว์ทั้ง 3 ชิ้นนี้ มันมีความซับซ้อนในธรรมชาติ มันมีความลับที่ชัดเจนซ่อนอยู่ที่นี่ แต่ความลับคืออะไร ? แม้ว่าข้าเป็นเซียนผู้คุมกฎ ข้าก็ไม่สามารถบอกได้ เจี้ยนเฉินถามตัวเองด้วยความอยากรู้อยากเห็น