TB:บทที่ 319 การแก้แค้นของพวกชาวญี่ปุ่น (1)

 

ในที่สุดนินจาที่หลบหนีไปก็ได้มาถึงอาคารหลังเล็กที่มีสภาพเก่าแก่หลังหนึ่ง อาคารนี้เคยเป็นที่พักตอนที่เขามาที่อังกฤษ ในตอนนี้ ที่นี่จึงเป็นที่ซ่อนตัวของเขา

เมื่อเข้ามาข้างในอาคาร นินจาหยิบยาออกมาจากถุงใส่ยาขนาดเล็กที่เขาพกติดตัวออกมา จัดการกลืนมันลงท้อง จากนั้นก็นั่งสมาธิเพื่อรวบรวมพลังและปรับลมหายใจของตน

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง นินจาคนนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาได้หายไประดับนึงแล้ว

 

ในฐานะระดับกำเนิดโดยปกติแล้วเขาแทบไม่ได้เจ็บหนักเหมือนอย่างวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นบาดแผลธรรมดาหรือไม่ก็อาการบาดเจ็บทั่วไป การรักษาอาการจึงไม่ซับซ้อนมากนัก

หลังจากนั้น นินจาก็ค่อยๆถอดชุดที่สวมอยู่ออก

นินจาคนนี้เริ่มถอดจากหมวกนินจา ทันทีที่เขาถอดหมวกที่สวมอยู่ออก ทันใดนั้นใบหน้าที่ใครก็ตามที่ได้เห็นแล้วจะต้องร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก แต่เมื่อนินจาถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่ออกกลับเป็นร่างกายของผู้ชาย…

 

หากมีคนพบเจอเขาเข้า อีกฝ่ายก็จะเข้ามาต่อยหน้าและเหยียบเท้าทันที โดยเฉพาะกับคนที่มีใบหน้าดุจสาวงามที่มีร่างกายเป็นผู้ชาย เขาล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจุดประสงค์ของสวรรค์คืออะไร

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่นินจาสวมเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิง ด้วยใบหน้าที่งดงามและส่วนสูง 1.6 เมตรของเขา ทำให้คนอื่นเห็นว่าเขาเป็นคนที่มีร่างกายบอบบาง ไม่มีใครดูออกเลยว่าเขาเป็นผู้ชาย

 

หลังจากถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกไปแล้ว นินจาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เติมน้ำในอ่างอาบน้ำในระดับที่เหมาะสมแล้วลงไปแช่ในอ่างทันที

นินจานั่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ลุกออกมาจากอ่างอาบน้ำแล้วสวมเสื้อผ้าธรรมดาไม่ต่างกับคนทั่วไป จริงอยู่ที่เขาเป็นนินจาแต่เขาก็ไม่สามารถสวมชุดนินจาอยู่ตลอดทั้งวันได้ เพราะเขายังมีงานอื่นที่ต้องทำ จึงไม่จำเป็นต้องสวมชุดนินจาตลอดเวลา

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ นินจาได้ติดต่อไปหาสมาคมอินากาวะที่ญี่ปุ่น

ที่เรือนสี่ประสานแบบดั้งเดิมใน ประเทศญี่ปุ่น ชายวัยห้าสิบคนหนึ่งได้รับสายจากนินจา

 

ชายแก่คนนี้เป็นประธานสมาคมอินากาวะและยังเป็นบิดาของโยชิโระ ทาเบะ อิจิดะ

“ท่านทาเบะ นายน้อยถูกจับตัวไปครับ กังเทียน จงซานและอิโนะอูเอะ ทุกคนถูกฆ่าตายหมดแล้ว ผมเป็นคนเดียวที่หนีรอดมาได้ครับ” นินจาบอกเรื่องต่างๆให้อีกฝ่ายฟังด้วยภาษาญี่ปุ่น

“ซากุระ นายจะใช้วิธีอะไรก็ได้แต่ต้องช่วยโยชิโระออกมาให้ได้ ฉันจะส่งคนไปช่วยนายที่นครแห่งหมอก ไอ้เจ๊กสองคนนั่นที่ทำร้ายลูกฉัน มันต้องตาย!” หลังจากที่อิจิดะวางสายโทรศัพท์ เขาก็จัดกำลังคนกลุ่มหนึ่งไปที่นครแห่งหมอกทันที

 

“หึ รอก่อนเถอะ ฉันจะเอาคืนพวกแกแน่” หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียนร้อย ทาเบะคนพ่อจึงพูดพึมพำออกมา

ห้าวันต่อมา กลุ่มนักท่องเที่ยวสามกลุ่มจากญี่ปุ่นก็ได้มาถึงนครแห่งหมอก

กลุ่มนักทท่องเที่ยวมีประมาณ 40 คน และพวกเขาทุกคนล้วนเป็นนินจาอาวุโสจากสมาคมอินากาวะ ในนั้นมีนินจามีระดับพลังต่ำสุดไปจนถึงระดับสูงสุด นินจาสองคนที่มีระดับพลังสูงสุดคือนินจาสองคนที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด เมื่อพวกเขามาถึงนครแห่งหมอก พวกเขาก็ติดต่อไปหานินจาซากุระทันที

 

“ซากุระ สองคนนั้นเป็นใครกัน แล้วนายรู้รึป่าวว่าตอนนี้นายน้อยอยู่ที่ไหน?” นินจาคนหนึ่งเอ่ยถามซากุระ

“ท่างกังโช ผมได้หาข้อมูลของพวกเขาทั้งสองคนมาแล้วครับ คนแรกชื่อ หวู่เต่าเทียน ส่วนอีกคนชื่อเฉินหลง หวู่เต่าเทียนเป็นเจ้าถิ่นที่ไชน่าทาวน์ในนครแห่งหมอก ส่วนเฉินหลงเป็นชายหนุ่มชาวจีน เขาก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ลิเวอร์พูล ส่วนนายน้อย… ตอนนั้นผมช่วยเขาเอาไว้ไม่ได้ครับ…” ซากุระคุกเข่าลงตรงหน้านินจาคนหนึ่ง แล้วเล่าเหตุที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง

 

เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดจากซากุระ ใบหน้าของกังโชก็ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย เป้าหมายที่เขามาที่นี่คือการช่วยชีวิตนายน้อย ในเมื่อตอนนี้คนอื่นๆได้ตายจากไปแล้ว เขาไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือการติดต่อไปหาอิจิดะที่อยู่ที่ญี่ปุ่น แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขารู้มาจากซากุระ

หลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด ทาเบะอิจิดะถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ออกคำสั่งให้กังโชจัดการฆ่าหวู่เต่าเทียนและเฉินหลงรวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน

หลังจากที่พูดออกไปแบบนั้น ทาเบะอิจิดะในตอนนี้ดูเหมือนเด็กสิบขวบไม่มีผิด

“พวกเขาอยู่ที่ไหน?” กังโชหันไปถามซากุระด้วยสายตาอาฆาต

“ตอนนี้พวกเขากลับไปที่ปราสาทที่ลิเวอร์พูลแล้วครับ” ซากุระตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ลุกขึ้นได้แล้ว ออกเดินทางไปที่ลิเวอร์พูล แล้วฆ่าทุกคนที่อยู่ในปราสาทนั้นซะ!” กังโชออกคำสั่งด้วยท่าทางสบายๆ

ดาบนินจาของเขาไม่ได้อาบเลือดมานานแล้ว โลหิตที่หลั่งออกมาจากร่างของศัตรู ดอกซากุระที่ร่วงหล่นลงมาจากต้น ช่างเป็นภาพที่สวยงามที่สุดในโลก โลหิตที่สาดไปทั่วนภาและเพลงดาบที่งดงาม ช่างเป็นสิ่งที่น่าจดจำเหลือเกิน

ในตอนที่ลูกน้องของกังโชรีบเดินทางไปยังปราสาท ประจวบกับที่คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากป้อมยาม และกลุ่มคนพวกนั้นคือทหารรับจ้างหกนาย

“ให้ผมจัดการพวกมันเลยไหมครับหัวหน้า” ชายผิวเข้มที่ทาสีบนใบหน้าใช้ปืนสไนเปอร์เล็งไปทางกลุ่มคนที่อยู่ในปราสาทเอ่ยถามชายผิวขาวคนหนึ่งที่ทาสีบนหน้าสวมชุดเกราะ

“ดูสถานการณ์ไปก่อน” ผู้นำผิวขาวตอบเสียงเบา

 

ในตอนที่เขาตอบรับภารกิจนี้ เขาก็ได้รับข้อความจากอีกฝ่ายมาว่างานนี้เป็นงานที่ยากมาก แต่เพราะค่าจ้างที่อีกฝ่ายเสนอนั้นยากที่จะปฏิเสธมัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น

เนื่องจากวันนี้มีฝนตกปรอยๆ ทำให้เฉินหลงและคนอื่นๆจึงไม่ได้ออกไปนอกปราสาท พวกเขาจึงต้องใช้ความอดทนกับทหารรับจ้างพวกนี้เป็นอย่างมาก

สามชั่วโมงผ่านไป ก็ได้มีแขกกลุ่มใหญ่สามกลุ่มขับรถมาจากด้านนอกของปราสาท จากนั้นฉากที่น่าทึ่งก็ปรากฏขึ้นโดยที่ทหารรับจ้างทั้งหกเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะผู้โดยสารที่ลงมาจากรถ จู่ๆก็ได้หายตัวไปทีละคน

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ชายผิวดำที่ถือปืนสไนเปอร์จ้องมองพวกเขาด้วยความหวาดกลัว

 

“หัวหน้า หัวหน้าครับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ฝ่ายชายผิวขาวเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเช่นกัน “ฉันก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า ถ้าพวกมันไม่ใช่คน ฉันจะยกเลิกภารกิจนี้”

ภาพตรงหน้า พิสูจน์ให้ชายผิวขาวเห็นแล้วว่าภารกิจนี้เกินความสามารถของเขา เงินเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเขาไม่มีชีวิตให้ใช้มันแล้ว เขาจะมีเงินไปเพื่ออะไรกัน!?

ในขณะเดียวกัน เฉินหลงที่นั่งกอดจี้โม่ซีดูละครทีวีอย่างเบื่อหน่ายอยู่ในปราสาท สัมผัสได้ว่ามีนินจาบุกเข้ามาภายในปราสาท

“เต่าเทียน ไปเรียกสหายของนายที่กำลังเล่นนิวเวิล์ดมา” เฉินหลังหันไปสั่งหวู่เต่าเทียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาเหมือนกับว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อบ้านในปราสาทแห่งนี้

“รับทราบครับ”

หลังจากที่หวู่เต่าเทียนรับคำ จู่ๆเขาก็นึกถึงเต่ากวงหานขึ้นมา

หากคนบ้าเลือดอย่างเต่ากวงหานค้นพบวิชาใหม่ เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องเข้าไปในนิวเวิล์ดและฝึกฝนมันเป็นอย่างดี

 

“คุณภรรยาครับ รออยู่ตรงนี้แป๊ปนึงนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เธอจะต้องอยู่ข้างๆฉันเอาไว้นะ ฉันจะไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายเธอทั้งนั้น ฉันจะเป็นคนปกป้องเธอเอง” เฉินหลงหันไปจูบจี้โม่ซีครั้งหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“คุณสามี มีคนมาเหรอ?” จี้โม่ซีเอื้อมมือไปคว้าแขนของเฉินหลงไว้พร้อมกับเอ่ยถาม

“อืม… ฉันคิดว่าน่าจะเป็นพวกแก๊งชาวญี่ปุ่น พวกมันน่าจะมาแก้แค้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนน่ะ ฉันขอออกไปสะสางเรื่องทั้งหมดข้างนอกปราสาทก่อน ขืนทำที่นี่พัง มีหวังฉันจะต้องใจสลายแน่” เฉินหลงตอบเสียงเรียบก่อนจะเดินออกไป