ตอนที่ 1871

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,871 : โศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าของต้วนหลิงเทียน!

 

และเมื่อพลังลึกลับของมังกรเทพยดา 9 กรงเล็บนั่นไม่มีหลงเหลืออยู่อีกต่อไป นั่นหมายความว่า…ต้วนหลิงเทียนจะไม่ถูกขับออกไป!!

 

เมื่อเป็นแบบนี้หมายความว่าต้วนหลิงเทียนสามารถ อยู่ดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวจนหมดสระได้!

 

ถึงตอนนั้นน่ากลัวพลังฝึกปรือคงก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่แล้ว!

 

ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าจะก้าวหน้าไปถึงขอบเขตใดๆ

 

แต่แน่นอนว่าไม่พ้น 2 ขอบเขตใหญ่ๆแน่!

 

เพราะสุดท้ายแล้วพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวในสระชำระมังกรนี่ มันก็ถูกสั่งสมมาเป็นเวลา 5,000 ปี!

 

แน่นอนว่าทุกเรื่องที่กล่าวมาต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้เลย!

 

ต้วนหลิงเทียนที่ไม่รู้ตัวว่าได้บ่มเพาะพลังในสระชำระมังกรไปนานแค่ไหนแล้วในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขากระทำก็คือสำรวจระดับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวที่เหลืออยู่ในสระ…ว่าเขาดูดซับมันไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว

 

‘ให้ตายเถอะ ข้ายังดูดซับไปไม่ถึง 1 ใน 10 ส่วนของสระด้วยซ้ำ แต่ด่านพลังฝึกปรือของข้ากลับบรรลุถึงอริยะเซียนขั้นสูงสุดแล้ว! นี่ถ้าดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวนี่หมดสระ…ไม่ใช่ว่าข้าจะทะลวงไปถึงขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเลยรึไง?’

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ลมหายใจของต้วนหลิงเทียนกลายเป็นหอบถี่ขึ้นมาอีกครั้ง

 

เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวในสระชำระมังกรอันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มังกรจะมีปริมาณมหาศาลปานนี้ ทำให้เขารู้สึกเสมือนฝันไปจริงๆ

 

‘อย่างไรก็ตาม…พลังวิญญาณฟ้าดินเหลวมากมายมหาศาลขนาดนี้ ข้าจะดูดซับมันได้หมดก่อนที่จะถึงเวลาส่งตัวออกไปหรือไม่?’

 

หลังจากนั้น ต้วนหลิงเทียนก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

 

และเขานึกถึงเรื่องนี้ได้ทันไร อยู่ดีๆต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกเหมือนจะวูบไป

 

หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกหายใจไม่ออก กระทั่งครู่ต่อมายังรู้สึกว่าร่างหวิวๆพิกล

 

อย่างที่ไม่ทันตั้งตัว ร่างเขาร่วงตกลงมาบนพื้นดังตุ๊บ!

 

“เทียนเอ๋อ!”

 

ไม่ทันที่จะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นในหูก่อนใดอื่น และเขาสามารถบอกได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงของบิดาเขา

 

หากเป็นปกติ ต้วนหลิงเทียนย่อมยินดีไม่น้อยที่ได้ยินเสียงเรียกของบิดา

 

แต่ทว่าตอนนี้

 

“ขะ…ข้า ไฉนถึงออกมาอยู่นี่ได้?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่ตกตะลึง เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าเขาได้กลับมาอยู่ในหุบเขาแล้ว

 

ต้องทราบด้วยว่าเขาพึ่งดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวในสระชำระมังกรไปไม่ถึง 1 ใน 10 เลยด้วยซ้ำ!

 

‘นี่มันอะไรกัน ข้ายังดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวในสระได้ไม่ถึง 1 ใน 10 เลย! ระ…หรือว่าเป็นเพราะเรื่องที่ข้าคิดก่อนหน้านี้ ข้าดันคิดถึงเรื่อง ‘ส่งตัวออก’ เป็นเพราะเหตุนี้งั้นหรือ?!’

 

ต้วนหลิงเทียนอื้ออึงสองตาปริบๆ แลดูเหมือนตัวโง่งมแล้ว

 

ครืนนน!!

 

จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงหนึ่ง และเสียงนี้ก็เสมือนมือที่ฉุดดึงสติให้กลับคืน จากนั้นร่างคนก็พุ่งไปปานเส้นสายอัสนีมุ่งหน้าตรงไปยังประตูอย่างรีบร้อน ไม่คิดจะตอบคำถามของบิดา…

 

กล่าวให้ชัดพุ่งไปยัง ประตูสู่สระชำระมังกร

 

ตึงงง!!

 

ร่างต้วนหลิงเทียนพุ่งไปด้วยความเร็วสุดชีวิต แข่งขันกับประตูที่กำลังปิดตัว! และเขาก็สามารถพุ่งผ่านม่านพลังประหลาดได้ทันก่อนที่ประตูจะปิดตัวลงอย่างเฉียดฉิว!!

 

อนิจจาแม้เขาจะพุ่งร่างจนผ่านม่านพลังได้ทันก่อนประตูปิด…แต่เขาก็ไม่ได้ถูกส่งตัวไปสระชำระมังกรแต่อย่างใด

 

เขากลับปรากฏตัวอยู่ด้านหลังประตู ยังอยู่ในหุบเขาเหมือนเดิม!

 

“กลับเข้าไปไม่ได้แล้วหรือ…”

 

ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้

 

ไม่ทันรู้ตัวเขาก็หันกลับมามองประตูลึกลับกลางอากาศที่พึ่งปิดตัวลงไปอย่างเลื่อนลอย ยังพบว่าประตูดังกล่าวก็ค่อยๆจางลงช้าๆ…

 

ตอนแรกก็เพียงจางจนมองไปคล้ายร่างเงา สุดท้ายมันก็อันตรธานหายไปในอากาศอย่างสมบูรณ์

 

“เทียนเอ๋อ ลูก…”

 

ต้วนหรูเฟิงมองต้วนหลิงเทียนด้วยความงุนงง ด้วยไม่เข้าใจว่าต้วนหลิงเทียนทำอะไร

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ในใจก็รู้สึกยินดีนักที่ได้เห็นบุตรชายอีกครั้ง

 

แต่ใครจะรู้ว่าบุตรชายไม่เพียงไม่ยินดีที่ได้เห็นหน้าบิดาอย่างมันอีกครั้ง แต่ยังรุดเร่งหมายจะพุ่งกลับเข้าสระชำระมังกรโดยไม่คิดจะพูดจาอะไรสักคำ…ทว่าสระชำระมังกรนี่ทุกๆ 5,000 ปีเพียงเปิดให้ผู้คนเข้าไปได้คนเดียว ไม่อาจมีใครเข้าไปได้อีกเป็นคนที่สอง!

 

และหลังจากที่คนที่เข้าไปถูกขับออกมา ประตูสู่สระชำระมังกรก็จะปิดตัวลง ไม่มีใครอาจเข้าไปอีกได้และมันจะไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลยหากยังไม่ครบ 5,000 ปี!

 

เมื่อครบกำหนดเวลา ประตูจะหวนกลับมาปรากฏในโลกหล้าอีกครา ถึงตอนนั้นเพียงใช้กุญแจตะวันและกุญแจจันทรา ก็จะสามารถเปิดประตูสู่สระชำระมังกรได้อีกครั้ง

 

“ท่านพ่อ ข้า…”

 

ต้วนหลิงเทียนได้แต่หันไปมองต้วนหรูเฟิงตาละห้อยทว่าไม่รู้จะพูดอะไร ทำได้เพียงส่งยิ้มขื่นขมไปให้เท่านั้น

 

“น้องหลิงเทียน!”

 

“ท่านจ้าวตำหนักน้อย…”

 

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด แต่กู่ลี่กับกู่มี่ที่นั่งขัดสมาธิเข้าฌาณกลางอากาศก็ลืมตาขึ้นมาและมองทักต้วนหลิงเทียนอย่างดีใจ

 

เห็นต้วนหลิงเทียนกลับออกมาอย่างปลอดภัย พวกมันย่อมรู้สึกดีใจทั้งโล่งใจเป็นที่สุด

 

สุดท้ายภายใต้การมองมาด้วยสงสัยของทุกคน ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่กล่าวออกไปถึงความผิดพลาดของตัวเอง…ความผิดพลาดที่ทำให้สูญเสียโอกาสดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวในสระชำระมังกร ที่ยังพึ่งดูดซับไปได้ไม่ถึง 1 ใน 10 ส่วน!

 

โอกาสที่จะทำให้ทะลวงด่านพลังถึงขอบเขตเซียนมนุษย์ เซียนปฐพี กระทั่งไม่แน่ว่าอาจจะทะลึ่งทะลวงไปถึงขอบเขตเซียนนภาอยู่ในมือเขาแล้วแท้ๆ แต่กลับดูแลรักษาไม่ดี ทำหล่นหายไปอย่างโง่งม!

 

หากสวรรค์ให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง เขาจะไม่คิดถึงเรื่องกลับออกมาอันแสนบัดซบนั่นอีกเป็นครั้งที่สอง!

 

ถล่มมารดาของมัน!

 

เพียงเพราะคิดถึงเรื่อง ‘ส่งตัวออกไป’ เขาก็ถูกส่งตัวออกมาทันที…นี่มันโศกนาฏกรรมอันใดกัน?

 

“เอ่อ…อย่างนี้ก็มีด้วยหรือ?”

 

กู่ลี่ตะลึงงัน

 

มันหลงคิดว่าต้วนหลิงเทียนคงกอบโกยผลประโยชน์ได้เต็มที่แล้วถึงกลับออกมา แต่ไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนยังดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินเหลวในสระชำระมังกรนั่นได้ไม่ถึง 1 ใน 10…

 

ยิ่งไปกว่านั้นเป็นต้วนหลิงเทียนส่งตัวเองออกมาแท้ๆ!

 

ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็คือความจริงที่ไม่อาจหลีกหนี…

 

ด้านต้วนหรูเฟิงกับกู่มี่ถึงกับนิ่งไปไร้คำจะกล่าว แววตายังสลดลงด้วยรู้สึกเสียดายแทนต้วนหลิงเทียน…

 

และประสบการณ์ครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียนก็นับว่าน่าสงสาร และน่าเวทนานัก!

 

“เอาล่ะ…ชีวิตคนเรามันก็เป็นแบบนี้ อะไรๆ มันก็ไม่มีทางได้ดั่งใจไปซะทุกครั้งหรอก! ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไปเถอะ ข้าแค่ยอมรับมันเท่านั้น ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”

 

เผชิญหน้ากับทั้ง 3 คนที่ชักสีหน้าสลดใจมองมาด้วยแววตาเห็นใจ ต้วนหลิงเทียนพลันยิ้มบางๆส่ายหน้าไปมา กล่าวคำด้วยน้ำเสียงสบายๆ ราวกับทำใจได้แล้ว

 

จะอย่างไรเขาก็ทะลวงมาถึงอริยะเซียนขั้นสูงสุด อีกไม่นานก็สามารถทะลวงขอบเขตเซียนมนุษย์ได้ด้วยตัวเอง รีบร้อนมากไปก็ไม่ใช่ว่าจะดี ยังต้องห่วงรากฐานอะไรด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้นการเข้าไปในสระชำระมังกรครั้งนี้ผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไหนเลยจะเป็นเรื่องพลังฝึกปรือ? การที่เขาสามารถแปลงร่างเป็นนักรบมังกร 9 กรงเล็บ และเรื่องที่เคล็ด 9 มังกรสามารถยกระดับพัฒนาไปได้ต่างหากถึงจะเป็นผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!!

 

ทั้ง 2 เรื่องนั่น…มีค่ามากกว่าทะลวงด่านพลังฝึกปรือมากมายนัก!

 

‘ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเข้าสระชำระมังกรไปก็ยังไม่ทันถึง 3 เดือน แต่ด่านพลังกลับก้าวหน้าจากอริยะเซียนขั้นกลางไปถึงอริยะเซียนขั้นสูงสุด แค่นี้ก็มากพอให้ผู้อื่นอิจฉาตาร้อนแล้ว!’

 

เมื่อคิดได้ถึงเรื่องพวกนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่เก็บเอาเรื่องนี้มาคิดอีกต่อไป

 

เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนแลดูสบายๆ คล้ายไม่ใส่ใจอะไรมากมาย ทั้ง 3 คนก็พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก พวกมันเองก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล ด้วยกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะคิดไม่ตกเรื่องนี้

 

“แต่โลกนี้ก็ไม่มีอะไรแน่นอน…ข้าจะลองไปถามตี้ชานดูอีกครั้ง ว่ายังมีวิธีอื่นเข้าสู่สระชำระมังกรอีกหรือไม่”

 

ต้วนหรูเฟิงกล่าวปลอบ

 

“ไม่ต้องหรอกท่านพ่อ”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ประตูสู่สระชำระมังกรมันหายไปแล้วแบบนี้ ถึงต้วนหรูเฟิงจะไปถามตี้ชานแต่เกรงว่าคำตอบก็คงยังเหมือนเดิม เสียเวลาปล่าวๆ

 

เขาเชื่อว่าบิดาเองก็สมควรตระหนักถึงเรื่องนี้ดี ที่อีกฝ่ายเปรยขึ้นมาเพียงเพราะคิดปลอบใจเขาเท่านั้น

 

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะบอกว่าไม่ แต่ต้วนหรูเฟิงก็ไม่วายกล่าวถามตี้ชานอยู่ดีในขณะที่คืนกุญแจจันทรา ก่อนที่จะออกจากเผ่าพันธุ์มังกร

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

ตี้ชานส่ายหัวไปมา “ผู้ที่เข้าไปยังสระชำระมังกร ไม่ว่าจะอยู่ในนั้นนานเพียงใดก็มิมีทางที่จะย้อนกลับเข้าไปได้อีกครั้ง…สระชำระมังกรจะเปิดออกทุก 5,000 ปี และมีคนเข้าไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น!”

 

ตี้ชาน ย่อมไม่คิดว่าเรื่องนี้ต้วนหรูเฟิงกล่าวถามเพราะต้วนหลิงเทียนแต่อย่างใด

 

เหตุผลที่ตี้ชานไม่คิดแบบนั้น เพราะมันก็รู้ว่าต้วนหลิงเทียนเข้าไปในสระชำระมังกร 2 เดือนกว่า…ในสายตาของมันนี่คือเวลาเข้าใช้สระชำระมังกรตามปกติ และไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะถูกส่งตัวออกมาเพราะความไม่ตั้งใจ

 

พอได้ยินคำของตี้ชาน ต้วนหลิงเทียนก็ตัดใจได้อย่างสมบูรณ์

 

ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะคิดไว้แล้วว่าคงเข้าไปในสระชำระมังกรไม่ได้อีกครั้ง

 

แต่พอได้ยินบิดากล่าวถามเรื่องนี้จากตี้ชาน มุมหนึ่งในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบหวัง

 

ทว่าพอได้ยินคำตอบของตี้ชาน ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะเผยใบหน้าผิดหวังเล็กน้อย แววตายังเจือความคิด ‘ว่าแล้วเชียว’ เอาไว้ให้เห็น

 

หลังจากมองส่งต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นๆออกไปจากรังมังกรจนลับสายตา ตี้ชานก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งด้วยอารมณ์สะทกสะท้อน มันคล้ายจะแก่ตัวลงไปหลายสิบปีในชั่วพริบตา

 

สัญญา 5 ปีคราวนี้ เผ่าพันธุ์มังกรของพวกมันสามารถกล่าวได้ว่า ‘เสียฮูหยินไม่พอ ยังเสียขุนพลซ้ำอีก!’

 

เพราะไม่เพียงแต่มันจะสูญเสียว่าที่ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรในอนาคต พวกมันยังเสียโอกาสเข้าสระชำระมังกรที่จะเปิดออกทุก 5,000 ปีไปอีกด้วย

 

หากเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงหูของเผ่าพันธุ์มังกรที่ภูมิภาคเบื้องบน ตี้ชานไม่พ้นต้องกลับกลายเป็นคนบาปของเผ่าพันธุ์มังกรแน่…เพราะในประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์มังกรไม่เคยมีผู้นำคนไหนที่ใช้การไม่ได้ถึงเพียงนี้มาก่อน

 

ส่วนอีกด้านนั้น หลังออกจากเผ่าพันธุ์มังกรแล้ว ต้วนหลิงเทียนกับคนที่เหลือก็เดินทางกลับตำหนักเมฆาครามทันที

 

‘หลังจากกลับไปถึงตำหนักเมฆาคราม ข้าจะเล่นกับเนี่ยนเอ๋อพร้อมเสี่ยวเฟยเอ๋อและดูแลท่านแม่อีกสักพัก…จากนั้นก็ได้เวลาที่ข้าจะเดินทางไปภูมิภาคเบื้องบนเพื่อตามหาเค่อเอ๋อแล้ว’

 

ในระหว่างเดินทางกลับตำหนักเมฆาคราม ต้วนหลิงเทียนก็วาดแผนการในใจไว้เสร็จสรรพ เตรียมดำเนินการตามนั้น

 

รั้งอยู่ในภูมิภาคเบื้องล่างแห่งนี้ต่อไป ก็หาได้มีประโยชน์อันใดกับเขาอีกต่อไปไม่! กระทั่งยังไม่มีประโยชน์อันใดต่อครอบครัวและตำหนักเมฆาครามอีกด้วย!!

 

‘จริงสิ ก่อนที่จะไปภูมิภาคเบื้องบน ข้าจำเป็นต้องย้อนกลับไปประเทศฝูเฟิงก่อน เพื่อดูว่าเทียนหวู่กลับมาแล้วหรือยัง หลังจากนั้นยังต้องพาพวกลุงเฟิ่งกับคนอื่นๆมาที่ตำหนักเมฆาครามด้วย…อย่างไรเสียที่ตำหนักเมฆาครามก็ปลอดภัยกว่าประเทศฝูเฟิง’

 

ถึงแม้จะวางแผนเดินทางไปภูมิภาคเบื้องบนเสร็จสรรพแล้ว แต่ต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่ลืมมิตรสหายเก่า

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้เลย ว่าในขณะที่เขาใช้เวลาเกือบ 3 เดือนในสระชำระมังกร เรื่องราวของเขาก็ได้แพร่กระจายออกไปทั่วแล้ว

 

ต้วนหลิงเทียน ผู้ที่โชคดีได้รับตราผนึกมารไปครอบครองเมื่อหลายปีก่อน ที่แท้คือนายน้อยตำหนักเมฆาคราม บุตรชายคนเดียวของจ้าวตำหนักเมฆาคราม ต้วนหรูเฟิง!

 

เหล่าผู้คนที่ได้ยินข่าวนี้ ก็ถึงกับแตกตื่นขึ้นมาทันใด ยังปั่นป่วนโกลาหลกันยกใหญ่

 

“ไม่จริงน่า!? ผู้ที่ได้ตราผนึกมารไปครองผู้นั้น…ที่แท้เป็นนายน้อยตำหนักเมฆาครามงั้นเรอะ?!”

 

“สวรรค์ ข้านึกว่าคนผู้นั้นจักหายตัวไปอย่างสมบูรณ์แล้วเสียอีก ไม่คิดเลยว่าไม่เพียงแต่จะยังมิได้หายไปไหน ยังอยู่ตำหนักเมฆาครามในฐานะนายน้อย!”

 

“เหลือเชื่อ! ช่างเหลือเชื่อนัก!!”

 

 

ในขณะที่ข่าวลือดังกล่าวกำลังแพร่ไปดั่งไฟลามทุ่ง

 

ด้านนอกหุบเขามังกร

 

หนึ่งในผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์มังกร ชิงเหยียน มังกรเทพยาดาสีเขียว 5 กรงเล็บ กำลังลอยร่างค้างกลางอากาศ เหม่อมองไปยังสุดขอบฟ้าทิศทางที่ตั้งตำหนักเมฆาคราม พร้อมกล่าวพึมพำว่า “ต้วนหลิงเทียน จ้าวตำหนักเมฆาคราม…พวกเจ้าเตรียมพร้อมรับการมาเยือนของยอดฝีมือภูมิภาคเบื้องบนให้ดีเถอะ! ข้าจักขึ้นไปกระจายข่าวยังภูมิภาคเบื้องบนว่า น้อยน้อยตำหนักเมฆาคราม ต้วนหลิงเทียน มีตราผนึกมารไว้ในครอบครอง!!”

 

ทันทีที่กล่าวจบคำ สองตาชิงเหยียนพลันทอประกายสว่างจ้า

 

หลังจากนั้นร่างมันก็พุ่งร่างทะยานข้ามฟ้า มุ่งหน้าไปยังทิศทางขึ้นภูมิภาคเบื้องบนด้วยความเร็วสูง!