รองจ้าวดินแดนสามลุกขึ้นยืนพูดกับชายชุดแดง
“พอข้าจากไปแล้วโปรดดูแลลูกข้าด้วย”
ชายชุดแดงถอนหายใจอย่างอิดโรย
“ข้ารู้ว่าเจ้าดินแดนจะทำกับเจ้าอย่างไรข้ารักษาคำพูดที่จัดการแต่งงานของเฉิงเอ๋อกับฉิวเอ๋อ มิใช่แค่เพราะว่าเจ้ากำลังจะจากไป ข้ามิได้สัญญาว่าจะดูแลเฉิงเอ๋อมาตั้งนานแล้วหรือ? เจ้าจากไปได้อย่างสงบ ข้าจะชุบเลี้ยงเขาให้เติบโตเป็นบุรุษที่คู่ควรแข็งแกร่งเอง”
รองจ้าวดินแดนที่สามมิอาจรอดพ้นชะตาเขาไม่ได้ตายด้วยมือคนตำหนักโลหิต แต่ตายด้วยมือของคนจากดินแดนเดียวกันแทน
สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อมีการหลบหนีของสายลับเกิดขึ้นข่าวเรื่องการร่วมมือกับเผ่าภูติผีสามารถแพร่งพรายได้ทุกเมื่อ รองจ้าวดินแดนที่สามมีหลักฐานและความทรงจำเอาไว้ในครอบครองเขาจำรายละเอียดได้ทุกอย่างแม้หลักฐานจะถูกทำลาย ดังนั้นทางแก้ก็คือสังหารเขา ทำลายหลักฐาน หรือฆ่าเหล่าสายลับ
เมื่อสายลับหนีไปทางเดียวก็คือการทำลายหลักฐานและสังหารรองจ้าวดินแดนที่สามเสีย
สำหรับดินแดนมีดสวรรค์การมีหลักฐานหรือมีรองจ้าวดินแดนที่สามอยู่นั้นเสี่ยงเกินไป จะดีที่สุดหากดับไฟแต่ต้นลม
รองจ้าวดินแดนสองจึงต้องมาเป็นผู้ลงมือเอง
ฟังดูเหมือนว่ารองจ้าวดินแดนสองนั้นสนิทกับรองจ้าวดินแดนสามอย่างมากเขาถึงกับเต็มใจช่วยชุบเลี้ยงลูกของกันและกัน แต่แท้จริง…มันอาจไม่ใช่ความจริงแท้
เหตุใดดินแดนมีดสวรรค์ต้องส่งรองจ้าวดินแดนสองมาประหารญาติสนิทที่มีโอกาสหนีสูงมากด้วยเล่า? เจ้าดินแดนมีดสวรรค์รู้อยู่แล้วว่ารองจ้าวดินแดนสองมีเหตุผลที่จะสังหารรองจ้าวดินแดนสาม
หากรองจ้าวดินแดนสามไม่คิดฆ่าตัวตายรองจ้าวดินแดนสองก็เต็มใจที่จะช่วยให้เขา ‘ฆ่าตัวตาย’
“ไปซะ”
รองจ้าวดินแดนสองสั่ง
รองจ้าวดินแดนสามมองบุตรชายทั้งน้ำตาเขาโศกเศร้า
“เฉิงเอ๋ออย่าได้ชิงชังพ่อตาเจ้า อย่าได้เป็นศัตรูกับเจ้าดินแดน ความปรารถนาของพ่อคือได้เห็นเจ้าครองชีวิตทั้งชีวิตอย่างเป็นสุข”
รองจ้าวดินแดนสามถือกระบี่จ่อคอตัวเองโดยไม่สนใจความโกรธแค้นของเจิ่งเฉิง
รองจ้าวดินแดนสองมองอย่างเย็นชาเขายิ้มอย่างอำมหิต
แคร้ง! นึกไม่ถึงที่เสียงศีรษะตกกระทบพื้นมิได้ดังขึ้นแต่เป็นเสียงกระบี่หล่นจากมือ
“ฮ่าฮ่านี่มันกระบี่เล่มดีที่ปฏิเสธที่จะทำตามความไร้เหตุผลของเจ้าของ ช่างเป็นของล้ำค่า! มันจะติดตามข้านับจากนี้ไป”
รองจ้าวดินแดนสองข้องมองซือหยูอย่างเยือกเย็น
ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรรองจ้าวดินแดนสามเข้ามาขวาง
“เจ้าหมายความว่ายังไง?”
รองจ้าวดินแดนสามไม่สนใจชีวิตตัวเองเขาสนใจเพียงแค่ความปลอดภัยของบุตรชายเท่านั้น
ซือหยูยิ้ม
“ว่ากันตามจริงปล่อยให้ลูกชายนับพ่อว่าเป็นโจร เจ้ามันโง่เง่าเกินเยียวยาเสียจริง!”
“โปรดพูดให้ชัดเถอะ”
รองจ้าวดินแดนสามไม่คิดว่าซือหยูพูดอย่างไร้มูลแต่เขาไม่เข้าใจซือหยูเลย “ยังไม่ชัดเจนพอหรือ?แม้แต่ลูกชายเจ้าก็ไม่รู้เรื่องหลักฐาน ตำหนักโลหิตจะไปรู้เรื่องความลับระดับนั้นได้อย่างไร? ถ้าไม่มีคนระดับสูงบงการ มันจะชัดเจนขนาดนี้รึ?”
ซือหยูพูดอย่างเย็นชา
รองจ้าวดินแดนสามครุ่นคิด
“เจ้าจะบอกว่าข่าวเรื่องหลักฐานแพร่งพรายออกไปเพราะสายลับของดินแดนมีดสวรรค์รึ?แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้! ข่าวนี้ไม่ให้ประโยชน์กับผู้ใด ดินแดนมีดสวรรค์จะตกเป็นเป้ากับทุกฝ่าย ข้าไม่เห็นแรงจูงใจให้ใครทำเรื่องนี้ มันมีแค่ผลเสียเท่านั้น”
“ผลเสียเท่านั้นรึ?แค่เจ้าน่ะสิที่จะต้องเสีย! ไม่ใช่ว่าฐานะของเจ้าคือแรงจูงใจของสายลับระดับสูงหรอกหรือ?”
ซือหยูรู้สึกตลกในใจ
รองจ้าวดินแดนสามไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้าจะบอกว่ามีคนจงใจให้ร้ายข้า และอยากให้ข้าตายรึ?” “ใช่แล้วพอเจ้าตาย ข่าวก็ไม่แพร่งพรายอีก และจะมีคนเสียเปรียบไป ขว้างหินก้อนเดียวได้นกถึงสามตัว ไม่สิ มันควรเป็นขว้างหินก้อนเดียวได้นกสามตัวซะมากกว่า พอลูกชายเจ้าถูกควบคุมเมื่อใด มันจะหาทางกำจัดลูกชายเจ้าให้หายไปจากโลกใบนี้ นี้เป็นแผนการที่ดีเลยนะ”
เขามองไปยังรองจ้าวดินแดนสอง
“ใช่ไหมล่ะ?รองจ้าวดินแดนสอง”
รองจ้าวดินแดนสามอาจไม่หลักแหลมเท่าแต่หลังจากซือหยูอธิบาย เขาก็ควรจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว
ใช่แล้วข่าวเรื่องหลักฐานหลุดออกไปเร็วเกินไป จะต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง ถ้าเจ้าดินแดนทิ้งเขา เขาจะทำแม้แต่การมาสังหารด้วยตัวเอง ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจะเป็นรองจ้าวดินแดนสี่ ผู้ที่…เป็นพันธมิตรกับรองจ้าวดินแดนสอง
คิดถึงเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อนเจ้าดินแดนประกาศว่าจะเลือกหนึ่งในพวกเขาในการร่ำเรียนกับราชาเชตกลางต่อไป
เช่นเดียวกันดินแดนอื่นแต่ละดินแดนได้รับคำเชิญจากราชาเขตกลางให้ส่งผู้ที่มีสายเลือดและดวงวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดไปยังเขตกลาง แต่ละดินแดนตื่นตกใจในเรื่องนี้
ประการแรกนี่คือโอกาสใหญ่ที่จะได้เอาชนะใจราชาเขตกลาง!
ประการที่สองมันคือโอกาสหายากที่จะได้ฝึกฝนยอดฝีมือในเขตตัวเอง!
แม้จะมีคนเคยถูกส่งไปแล้วทุกคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเขาเข้าอยู่กับราชาเขตกลาง และพวกเขาเชื่อว่ากำลังเรียนรู้วิชาที่ลึกล้ำอยู่
ในบรรดารองจ้าวดินแดนทั้งเก้ารองจ้าวดินแดนสามไม่ใช่คนที่มีดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่สุด แต่พลังในโลหิตของเขาเหนือกว่าทุกคน
ด้วยเหตุนี้เจ้าดินแดนมีดสวรรค์จึงมอบหมายภารกิจครั้งนี้กับเขา ไม่นานหลังจากนั้นข่าวเรื่องหลักฐานจึงแพร่งพราย เมื่อรองจ้าวดินแดนตาย คนต่อไปที่จะได้ไปเขตกลางก็ย่อมต้องเป็นรองจ้าวดินแดนสี่
“ฉีหมิงเจ้ากับข้าสนิทกันดั่งพี่น้อง พอผ่านวันแต่งงานนี้ไป เราจะเป็นครอบครัว จำเป็นหรือที่ต้องใส่ความข้า? การฝึกฝนต่อไปของข้ามีเพียงผลประโยชน์กับเจ้า ไม่ใช่ผลเสีย!”
รองจ้าวดินแดนสามพูดอย่างขุ่นเคืองใจต่อชายชุดแดง
ซือหยูพูดไม่ออก
“สมองเจ้าควรถูกเคาะให้แรง!หลังจากเจ้าได้ฝึกฝน จะเกิดอะไรขึ้นเล่าถ้าพลังเจ้าก้าวกระโดด? ใครกันที่จะเป็นรองจ้าวดินแดนสอง แล้วใครจะได้เป็นที่สาม?”
รองจ้าวดินแดนสองไม่พูดอะไร
เจ้าดินแดนของดินแดนมีดสวรรค์ถูกตัดสินด้วยลำดับของพลังเท่านั้นถ้าพลังเติบโตขึ้นหลังจากนี้ ลำดับก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
รองจ้าวดินแดนสี่นั้นมีช่องว่างต่อรองจ้าวดินแดนสองมากนักต่อให้เขาฝึกฝนมากเท่าใด ภัยก็นับว่าน้อย
“เจิ่งฉิงหลงเจ้าไม่ได้ฉลาดเท่าคนรุ่นหลังเลย!”
ฉีหมิงหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหัวเราะของเขาอธิบายทุกอย่าง
“เป็นฝีมือเจ้า…หรือ?”
เจิ่งฉิงหลงผิดหวังเขาไม่คิดเลยว่าผู้ที่สังหารเขาจะไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เป็นผู้ที่สนิทกับเขามาหลายปี!
“มันไม่ได้บอกเจ้าไปแล้วรึ?ข้าคือผู้บงการ”
ฉีหมิงมองซือหยูเงียบๆ
ซือหยูยักไหล่
“ข้าไม่เคยพูดว่าเป็นเจ้าข้าเพียงแค่คาดเดาเท่านั้น และเจ้าก็ยอมรับด้วยตัวเอง อย่ามาโทษข้า” แน่นอนซือหยูไม่เคยพูดว่าเป็นฝีมือฉีหมิง เขาเพียงแค่ชี้นำเจิ่งฉิงหลงให้คิดเช่นนั้น
สุดท้ายซือหยูก็พูดถูก
ฉีหมิงคิดถึงคำพูดของซือหยูอย่างถี่ถ้วนและตระหนักได้ว่าตนเองถูกหลอก!
“เจ้าน่ะไร้เดียงสา!สายลับตำหนักโลหิตถูกเจ้าหลอกใช้ ใครจะไปคิดเล่าว่าสุดท้ายเจ้าจะหลงกลเพียงคำไม่กี่คำ ฮ่าๆๆๆ”
ซือหยูหัวเราะชอบใจ
ซือหยูหันไปมองเจิ่งฉิงหลง
“ตอนนี้เจ้ายังเชื่ออยู่หรือไม่ว่ามันจะดูแลลูกเจ้าอย่างจริงใจ?”
ซือหยูจะปล่อยไปทั้งแบบนี้หรือ?เขาจะต้องถอนรากถอนโคนมันขึ้นมา!
เจิ่งฉิงหลงสีหน้าเปลี่ยนไปเขาจับกระบี่ขึ้นมาอีกครั้ง
“เจิ่งฉิงหลงมันจบแล้ว! ไม่มีเหตุผลให้ต้องขัดขืน ชะตาเจ้าคือความตาย!” ฉีหมิงหยิบฎีกาหลวงออกมาอีกครั้ง
แต่กระบี่ได้ฟาดฟันผ่านมันฎีกาถูกฟันขาดสองท่อน
“ข้าตายได้แต่เฉิงเอ๋อจะไม่มีวันตกไปอยู่ในมือโสโครกของเจ้า!”
เพื่อลูกชายเจิ่งฉิงหลงเลือกที่จะต่อต้าน
การก่อกบฏย่อมหมายถึงการทรยศ!
“เจิ่งฉิงหลงดูให้ดี ลูกชายเจ้ายังคงเป็นของข้า…”
เสียงของฉีหมิงจางไปสายโลหิตปรากฏที่พื้น เพื่อที่จะป้องกันตัว เจิ่งเฉิงกับฉิวเอ๋อเข้าไปยังห้องใต้ดิน
ซือหยูเข้าใกล้ทั้งสองคนสายโลหิตปกคลุมคนทั้งสองในเวลาเดียวกับที่หุ่นเชิดสีเงินปรากฏตัว
“ทีนี้ลูกสาวเจ้าก็อยู่ในมือข้า”
ซือหยูยิ้มมองดูคู่รักหน้าใหม่และชี้ปลายกระบี่ไปที่คอฉิวเอ๋อ เจิ่งฉิงหลงหัวเราะชอบใจ
“เจ้าหนูเจ้าทำดีมาก! ฉีหมิง ปล่อยพวกข้าไป เพื่อฉิวเอ๋อของเจ้า”
แต่ไม่คิดเลยว่าฉีหมิงจะแสยะยิ้ม
“เจ้าคิดว่าข้าเชื่อในสายสัมพันธ์ตระกูลเหมือนเจ้าเรอะ?ข้าทิ้งมันไปหมดตั้งแต่ที่เข้ามาในวิถีแห่งพลังแล้ว! กล้าใช้ลูกสาวบ้านขช้าขู่ข้าเรอะ! ตายซะ!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบฉีหมิงก็ลงมือแล้ว!
ขุนพลมากฝีมือการเคลื่อนไหวของเขาทำให้ฟ้าดินตอบรับ มิติแตกสลาย
เจิ่งฉิงหลงใช้กระบี่ป้องกันเกิดรอยแยกมิติอีกรอย
“หนีเร็ว!เราไม่ใช่คู่มือของมัน!”
รองจ้าวดินแดนสองเป็นรองเพียงแค่เจ้าดินแดน!
เจิ่งฉิงหลงเข้าใจดีว่าฉีหมิงนั้นน่ากลัวและการต่อสู้นี้จะจบลงในไม่ถึงสิบกระบวนท่า ต่อมาพวกขเาได้ไปยังพื้นที่ที่ไม่รู้จัก
อั่ก!
เจิ่งฉิงหลงกระอักเลือดระหว่างที่ร่วงลงมาจากฟ้าเขาถูกโจมตี! ฉีหมิงแข็งแกร่งกว่าเขามาก
“รีบหนีไปมันจะตามเจ้าไปในอีกไม่นาน! ข้าถ่วงเวลาได้ไม่มาก!”
เจิ่งฉิงหลงถือกระบี่ด้วยสองมือเขาป้องกันพลังของฉีหมิงอย่างเคร่งเครียด
เจิ่งเฉิงไม่อยากทิ้งผู้เป็นพ่อซือหยูเองก็รู้สึกแปลกที่ต้องหนี
“ซือหยูข้ามีเรื่องอยากขอร้อง”
เจิ่งฉิงหลงกล่าว
ซือหยูพูดขึ้นมาก่อน
“เจ้าอยากให้ข้าพาลูกชายเจ้ากับลูกสะใภ้หนีไปรึ?ข้าขอปฏิเสธ”
เจิ่งฉิงหลงยืนกราน
“เจ้าจะไม่ยอมแม้ให้สองคนนั้นร่วมทางกับเจ้าสักครู่หรือ?”
ซือหยูส่ายหน้า
“ข้าไม่ได้คิดจะหนี!”
“แล้วเจ้าจะรอความตายอยู่ที่นี่รึ?”
เจิ่งฉิงหลงถามด้วยสายตาว่างเปล่า
ซือหยูถือกระบี่ด้วยมือขวา
“อย่างที่เจ้าว่านั่นแหละ…รอให้มันตายกันเถอะ”
เขาพูดเบาๆ