ภาคที่ 4 บทที่ 214 ศึกราชัน (2)

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 214 ศึกราชัน (2)

ใจสีเลือดเปิดการโจมตีด้วยท่าสังหาร กงกู๋เอ่อร์ถูถอนหายใจแล้วโยนกะโหลกราอูแห่งรอยสักขึ้นไปบนฟ้า กะโหลกขยายออกยามลอยขึ้นไป อ้าปากกว้างพร้อมรับคลื่นแห่งความตาย อสรพิษปลิดชีวานับไม่ถ้วนพุ่งเข้าปากมันไป ทันทีที่เข้าปะทะ ก็เกิดพลังต้นกำเนิดสีเขียวและสีดำต่อสู้กันทันใด

ใจสีเลือดถอนใจ “ตอนมีชีวิตอยู่เจ้าต่อต้านข้า ตายแล้วก็ยังต้องสู้กัน ควรให้เจ้าได้พักได้แล้ว”

แสงสีแดงส่องออกจากไม้เท้าสามสี เปลวเพลิงแห่งการทำลายล้างโหมกระหน่ำ

ราอูแห่งรอยสักควบคุมพลังงานประเภทไม้และดิน ทำให้สามารถย้อนธาตุน้ำและความมืดของใจสีเลือดได้ ใจสีเลือดจึงฝึกฝนธาตุไฟจนชำนาญเพื่อเอาชนะอีกฝ่าย แต่ก่อนจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ ก็ได้ข่าวว่าราอูแห่งรอยสักถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของคนเถื่อนไปแล้ว

ดังนั้นเปลวเพลิงเหล่านี้จึงเป็นเหมือนศัตรูคู่แค้นของราอูแห่งรอยสัก

ใจสีเลือดได้ปลดปล่อยเปลวเพลิงทรงพลังที่สุดออกมา เพลิงมังกรฟ้า พวกมันไม่ได้มีหน้าตาน่าตื่นตาตื่นใจ แต่กลับแผดเผาด้วยเพลิงอันทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ เปลวเพลิงรุนแรงมากกระทั่งหลอมละลายภูเขาหินใกล้ ๆ พริบตาที่ถูกปล่อยออกมา ก็เกิดทะเลเพลิงโอบล้อมพื้นที่

ราอูแห่งรอยสักไม่สามารถทานทนกับเปลวเพลิงเผาไหม้นี้ได้

แต่กงกู๋เอ่อร์ถูทนได้

“ย่าห์ !” กงกู๋เอ่อร์ถูพลันร้องขึ้นพร้อมกับร่ายคาถาประหลาด

“ย่าห์ !” บรรพชนทั้งหมดด้านหลังกงกู๋เอ่อร์ถูร่ายคาถาพร้อมกัน

ในขณะนั้นเอง บทสวดโบราณก็ผุดขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อมันดังก้องไปในอากาศ เปลวเพลิงที่พลุ่งพล่านก็เริ่มสลายไป

“โฮ่ อัน……” เสียงคาถาโบราณดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้กลางอากาศ เป็นภาพที่น่าพิศวง ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เสียงกลายเป็นของจับต้องได้ในรูปแบบของกรงขัง กักขังเปลวเพลิงไว้ด้านใน

“คุกเสียงเพรียก” ใจสีเลือดพึมพำ “ใช้ของแบบนั้นกับข้าไปก็ไร้ประโยชน์”

มือเขาสั่นเล็กน้อย อากาศโดยรอบสั่นสะเทือนตอบคำ

นี่คืออีกหนึ่งอิทธิพลของวงเขตสีน้ำเงิน

บรรพชนทั้งหมดที่อยู่ภายในวงเขตรู้สึกถึงแรงกดดันทันที ทำให้ไม่อาจท่องคาถาต่อไปได้

แท้จริงแล้วความลับเบื้องหลังวิชาคาถานี้เกี่ยวข้องกับการใช้พลังต้นกำเนิด ที่สามารถต่อต้านเปลวเพลิงได้ก็เพราะใช้พลังต้นกำเนิดสู้กันเองดีที่สุดนั่นเอง

แต่ตรายเท่าที่บรรพชนยังอยู่ในวงเขตสีน้ำเงิน เรื่องเช่นนี้อย่างไรก็ต้องเกิด

ก่อนหน้าที่ใจสีเลือดจะใช้วงเขตสีน้ำเงินก็ยังไม่มีปัญหา แต่เมื่อใช้แล้ว คนเถื่อนทั้งหมดก็รู้สึกถูกจำกัดพลังทันที

“กรร !”

เสียงท่องคาถาเชื่องช้าลง จังหวะการท่องส่งผลถึงความแข็งแกร่งของคาถา เมื่อความแกร่งของคาถาถูกกดดัน จึงมีจังหวะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

ตู้ม !

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้น

เปลวเพลิงแหกคุกเสียงออกมาได้แล้ว

เปลวเพลิงคือพลังงาน แต่เป็นพลังที่ราวกับเป็นแป้งซึ่งสามารถปั้นได้ อยากให้กลมก็กลม อยากให้แบนก็แบน อยากหันครึ่งก็ทำได้ หากเสียงกลายเป็นกรงขังได้ เปลวเพลิงก็แหกคุกออกมาได้เช่นกัน กลายเป็นมังกรเพลิงตัวยาว พลังไม่ได้ลดน้อยลงสักนิด

พลังต้นกำเนิดรอบข้างเริ่มหดหาย แต่ครั้งนี้ไม่เกิดความผันผวนของพลังต้นกำเนิด แต่พลังภายในถูกเติมเต็มด้วยพลังภายนอกจากการขยายรัศมี ถูกดูดเข้ามาใช้ในการโจมตีนี้จนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ

นี่คือการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตขั้นจักรพรรดิ

พลังของการโจมตีนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้เริ่ม หรืออาจสะสมผ่านการบีบอัดก็ได้

จังหวะนั้น บรรพชนทั้ง 18 คนก็พลันเพิ่มเสียงความดังของคาถา ยิ่งดุดันบ้าคลั่งกว่าเก่า ส่วนองครักษ์คนเถื่อนนับร้อยเบื้องหลังเองก็พุ่งเข้าโจมตี

ในฐานะองครักษ์ของราชา การมีอยู่ของพวกเขาก็คือเพื่อต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งเช่นนี้

โทเทมท้าทายปีศาจที่พวกเขาถือครองทำให้สามารถต่อต้านแรงปะทุของพลังต้นกำเนิดได้ ความลับเบื้องหลังวิชาทำให้สามารถปลดปล่อยการโจมตีที่ใช้แก่นพลังชีวิตออกไปได้ จนสิ่งมีชีวิตขั้นจักรพรรดิยังต้องยำเกรง

ฟ้าว ฟ้าว ฟ้าว !

ขวานมือ 3 เล่มกรีดผ่านอากาศ เล็งไปที่ใจสีเลือด ในเวลาเดียวกัน เงาร่างของนักรบทั้ง 3 ที่เขวี้ยงขวานมือออกไปก็เริ่มแตกสลาย การโจมตีใช้แก่นพลังของพวกเขาทั้งหมด อาจทำได้เพียงสร้างบาดแผลตื้น ๆ หรืออาจไม่ได้แผลเลยก็เป็นได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถทำอันตรายให้ศัตรู เท่านั้นก็พอแล้ว !

นี่คือชะตาขององครักษ์แห่งราชา !

มือซ้ายของใจสีเลือดที่นิ่งงันมาตลอดใช้ 3 นิ้วสะบัดออกมา ขวานมือทั้ง 3 แตกกระจายเสียงก่อนจะถึงร่างของใจสีเลือด

แต่องครักษ์คนเถื่อนอีกหลายคนก็ยังคงพุ่งเข้าใส่ จนเกิดเป็นคลื่นพลังปั่นป่วน ความเกรี้ยวกราดป่าเถื่อนเดือดพล่าน ขวานบินอีกมากมายพุ่งเข้าใส่ แต่ละเล่มกรีดผ่านอากาศดุดัน

ในเวลาเดียวกัน ระดับเสียงเปล่งคาถาของกงกู๋เอ่อร์ถูก็เพิ่มสูงขึ้น

ด้านหลังเกิดเงาดำขึ้นมา ในมือมีขวานมือตวัดไปทางใจสีเลือด แม้จะเป็นภาพมายา แต่กำลังในการโจมตีก็เป็นของจริง

“วิญญาณผู้พิทักษ์ ! มีสมบัติเยอะเหลือเกินนะ !” ใจสีเลือดเสียงเจือความประหลาดใจ

วิญญาณผู้พิทักษ์ถูกกลั่นมาจากวิญญาณของผู้ก่อตั้งชนเผ่าเพลิงนามย่าลี่ซานต้าแห่งเผ่าเพลิง เขาจะได้ทำการปกปักรักษาชนเผ่าเพลิงแม้ตัวจะตายไปแล้วได้

เมื่อครั้งมีชีวิต คนผู้นี้เป็นแม่ทัพไร้เทียมทาน เมื่อตายไปแล้ว จึงกลายเป็นวิญญาณที่ทรงพลังไม่แพ้กัน

เมื่อขวานง้างเข้ามา ใจสีเลือดเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้

เขาถอนหายใจ

“เอาเถอะ”

ถอนหายใจแล้ว วงเขตสีน้ำเงินพลันปะทุขึ้นทันใด แสงสีน้ำเงินส่องกระจายไปทั่ว

ภายใต้แสงสีน้ำเงินเจิดจ้า ขวานทั้งหลายเคลื่อนไหวช้าลงอย่างน่าเหลือเชื่อ

จังหวะนั้น ใจสีเลือดก็กำมือ มังกรเพลิงบินกลับไปที่มือ ส่งเสียงคำรามร้องราวกับเป็นมังกรตัวจริง

อัญมณีสีดำบนไม้เท้าสามสีส่องแสงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เล็งไปยังศัตรู เป็นมังกรเพลิงต่างหาก

มังกรเพลิงเริ่มมีสีดำขึ้นเรื่อย ๆ เปลวเพลิงที่เคยมีสีแดงสดกลายเป็นสีดำลึกล้ำ

“ไปทำลายพวกมันเสีย !” ใจสีเลือดตะโกนลั่น

แสงสีแดงเพลิงลุกโชนพุ่งขึ้นอีกครั้ง

สายฟ้าสีดำผสมกับเลือดสีแดงเข้ม กลายเป็นฝันร้ายอันน่าสยดสยองที่เริ่มโจมตีอย่างดุเดือด ใครที่ได้เห็นจะรู้สึกคลื่นไส้และเวียนหัวอย่างอธิบายไม่ถูก

กระทั่งบรรพชนที่คอยสนับสนุนยังได้รับอิทธิพลไปด้วย เสียงร่ายคาถาเชื่องช้าลงบ้าง คลื่นพลังสีแดงดำจึงฉวยจังหวะทะลวงเข้าร่าง

ตู้ม ตู้ม ตู้ม ! ร่างทั้งหลายระเบิดคาที่ ก้อนเนื้อกระจายไปทั่วสนามต่อสู้

“ฝ่อออ !” เสียงขู่ดังก้องฟ้า

ราอูแห่งรอยสักหมายจะกลืนกินพลังสีแดงดำเข้าไป ดื้อรั้นต่อต้านอิทธิพลของวงเขตสีน้ำเงิน วิญญาณผู้พิทักษ์ร่างใหญ่โตก็ใช้ขวานโจมตี เผยกลิ่นอายรุนแรง

ใจสีเลือดจึงลงมือเองในท้ายที่สุด

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาขยับร่างเอง ร่างเขาหายไป ก่อนจะปรากฏยังอีกที่หนึ่งอย่างลึกลับ

จังหวะที่ขยับร่าง ก็มีขวานถูกเขวี้ยงเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก

ทหารหลวงพุ่งเข้ามาโดยไม่เสียดายชีวิต แลกพลังชีวิตกับโอกาสทำอันตรายต่อจักรพรรดิอสูรกายผู้นี้

การโจมตีเหล่านี้อ่อนแอที่สุดเมื่อเทียบระหว่างการโจมตีจากบรรพชนและวิญญาณผู้พิทักษ์

แต่จึงกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้สามารถโจมตีถูกตัวใจสีเลือดได้ เพราะพลังทำลายล้างต่ำมาก เขาจึงไม่สนใจแล้วปล่อยให้มันปะทะร่างได้

เพล้ง !

ขวานบินเล่มหนึ่งทำลายเกราะของใจสีเลือดได้ เกิดเป็นรอยเลือดบางที่ข้อศอก

เป็นบาดแผลเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น และฟื้นคืนแทบจะทันที

แต่พริบตาต่อมาก็ดีขวานบินพุ่งเข้ามาอีก

ใจสีเลือดถูกบีบให้หลบอีกครั้ง แต่หากยังอยู่ในวงเขตสีน้ำเงิน เขาจะหลบไปตรงไหนก็ได้ เพียงแต่อำนาจจำกัดขอบเขตของวงเขตจะลดลงเท่านั้น สุดท้ายย่อมเกิดเป็น……

ตู้ม !

เมื่อใจสีเลือดปรากฏการณ์ขึ้นอีกครั้ง เงาร่างใหญ่โตสีดำก็ห่อหุ้มเขาแทบจะในทันที

“กรรร !”

ใจสีเลือดร้องเสียงเจ็บปวด ขวานทรงพลังของวิญญาณผู้พิทักษ์พุ่งเข้าใส่ด้านบน แม้จะไม่ได้ผ่าร่างแยกเป็น 2 ฝั่ง แต่ในจิตก็ราวกับถูกแยกร่าง แม้จะอยากให้ถูกแยกร่างมากกว่าก็ตาม เพราะเขาเป็นจักรพรรดิอสูรกาย มีความสามารถในการฟื้นฟูได้ แต่ความรู้สึกเจ็บปวดสะเทือนจิตเช่นนี้ยากจะทานทน นับว่าโจมตีเขาได้เจ็บแสบ

คลื่นสีแดงเข้มอีกระลอกปรากฏขึ้น ปะทะวิญญาณผู้พิทักษ์จนกระเด็น จังหวะนั้นคลื่นอีกรูปแบบก็ปรากฏการณ์ บรรพชนทั้งหลายที่ติดอยู่ในวงเขตสีน้ำเงินถูกคลื่นระลอกใหม่ซัดเข้าใส่

ใจสีเลือดเปิดด้วยท่าสังหาร แต่หลังจากถูกโต้กลับรุนแรงจึงเริ่มใช้วิชาจำกัดขอบเขต ใช้วงเขตสีน้ำเงินและแสงสีดำแห่งความตายที่สามารถเมินเฉยต่อเสียงสวดคาถาแล้วใช้คลื่นพลังกลืนคนในวงเขตได้

บรรพชนร่างกายเริ่มเน่าเปื่อย กงกู๋เอ่อร์ถูก็เช่นกัน

เขากินยา 7-8 ขวดทันทีเพื่อรับมือกับผลวิชา แต่ก็ให้ผลเพียงเขาคนเดียว บรรพชนคนอื่นร่างสลายจนเหลือเพียงกองกระดูก กลับกัน ทหารหลวงไม่ถูกการโจมตีนี้ เพราะเมื่อออกท่าโจมตีก็ตายคาที่ ดังนั้นแม้จะเป็นการโจมตีที่รุนแรงแค่ไหนก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้

ฟ้าว !

การโจมตีอีกระลอกพุ่งลงจากฟ้า คล้ายกับจะแยกนภาไล่ห่าฝนได้

ทหารหลวงพุ่งเข้าใส่ แต่ละคนเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ปล่อยพลังจากแก่นพลังชีวิตซัดเข้าใส่ใจสีเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า

ขวานบินพุ่งลงจากฟ้า !

ตู้ม ๆ! ทหารหลวงร่างกายระเบิดสังหารตนเอง

การโจมตีของวิญญาณผู้พิทักษ์ก็ถูกซัดเข้ามาเช่นกัน กงกู๋เอ่อร์ถูหยิบกะโหลกออกมาอีก 12 ชิ้นแล้ว ในฐานะผู้นำบรรพชนแห่งอารามศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ยังมีไพ่ตายเหลืออยู่บ้าง

ใจสีเลือดถึงคราวต้องตัดสินใจอีกครั้ง จะรับการโจมตีเดียวหรืออีกหลายการโจมตีที่รุมเร้าเข้าใส่

จึงมีแต่ต้องปะทะกับขวานบินเท่านั้น

ขวานที่สายฟ้าฟาดลงมาเหมือนดาวตกพุ่งใส่ใจสีเลือดจนเลือดกระเซ็นทั่วทิศ

“ไม่ !” เขาคำราม

มังกรเพลิงขยายร่างยาวขึ้น เหนื่อยไปทั่วทิศทาง พริบตาเดียว เปลวเพลิงก็ปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ทหารหลวงนับพันถูกเผาเป็นจุณในทันที

แต่วิญญาณผู้พิทักษ์ก็ยังโจมตีเขาได้อีก ทำให้รู้สึกราวกับจิตแตกซ่านอีกครา เจ็บปวดจนแทบบ้า ได้แต่กระโดดหลบไปอีกครั้ง จังหวะที่เขาปรากฏตัวขึ้นอีก กะโหลกของราอูแห่งรอยสักก็ไม่ทำหน้าที่กลืนพลังต้นกำเนิดอีกต่อไป แต่กลับพุ่งเข้าใส่ใจสีเลือด เขี้ยวคมทั้งสองฝังเข้าร่าง มันพลันแตกกระจายออก ระเบิดพลังดุดันเข้าร่างใจสีเลือดไป

“อ๊าก !” ใจสีเลือดแหงนหน้ากรีดเสียงร้องเจ็บปวด

“น่าเสียดาย เสียกะโหลกของจักรพรรดิอสูรกายไปแล้ว” กู่ฉาพึมพำ “แต่ได้คืนมาก็นับว่าคุ้มค่ากระมัง”

“ข้า…… จะจดจำเจ้าไว้ !”

ใจสีเลือดกัดฟันพูดคำอย่างขมขื่น ไม้เท้าในมือฉายแสงเป็นประกายครู่หนึ่งก่อนจะแตกออก

พริบตานั้น แสงสีแดง สีน้ำเงิน และสีดำก็ส่องสว่างจ้าในคราวเดียว เกิดเป็นคลื่นพลังพุ่งออกไปรอบทิศ

“กรรร !” วิญญาณผู้พิทักษ์ใช้ท่าโจมตีทรงพลังที่สุด กงกู๋เอ่อร์ถูออกท่าดัชนีย้อนฟ้า

ตู้ม !

สวรรค์และโลกถูกคลื่นพลังงานขนาดมหึมากลืนกินไปทั่วรอบทิศทาง !!!