ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มทรงตัว ซาแกรลาสก็แค่นเสียพลางสะบัดดาบดาร์กริปเปอร์ฟันเข้าใส่มังกรน้อย มังกรน้อยก็ไม่หวั่นเกรงสะบัดทอนฟาเข้าต้านทาน
เคร้ง เคร้ง เคร้ง….
ทุกครั้งที่ทั้งสองเข้าปะทะจะบังเกิดเป็นคลื่นกระแทกสาดซัดออก
หลังจากโรมรันกันไปหลายสิบดาบ มังกรน้อยก็ยังสามารถต้านทานได้อยู่ เห็นดังนั้นเซียวอวี๋ก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมา ในเมื่อมังกรน้อยยังสามารถต้านทานได้หลายสิบดาบ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าซาแกรลาสไม่ได้ไร้เทียมทาน
อย่างไรเสียนี่ก็ไม่ใช่ร่างจริงของซาแกรลาส หากทั้งหมดร่วมมือกัน เซียวอวี๋ก็ไม่เชื่อว่าจะจัดการซาแกรลาสไม่ได้
“ลุย” เซียวอวี๋ตะโกน และพุ่งเข้าหาซาแกรลาสอย่างรวดเร็วจนทิ้งเป็นภาพติดตาไว้เบื้องหลัง เมื่อมาถึงเบื้องหน้าของซาแกรลาส รอบกายของเขาก็พลันปรากฏร่างแยกออกมาอีกหลายร่าง จากนั้นทุกร่างก็กลายเป็นพายุคลั่งโถมเข้าหาซาแกรลาสพร้อมกัน คมดาบอันเฉียบคมพุ่งเข้าตัดเฉือนร่างของซาแกรลาสอย่างรุนแรง
นี่ก็คือทักษะท่าไม้ตายที่เซียวอวี๋เรียนรู้มาจากกรอม ทักษะพายุดาบ
เมื่อเป็นทักษะไม้ตายประจำตัวของกรอม แน่นอนว่าย่อมต้องทรงพลังสุดประมาณ และเมื่อใช้ออกด้วยพลังของเซียวอวี๋ด้วยแล้ว การโจมตีก็ยิ่งรุนแรง และด้วยพลังจากดาบคาริมดอร์ทวงแค้น พลังโจมตีที่ใช้ออกก็ยิ่งสูงสุดกู่
กระทั่งต่อให้ซาแกรลาสจะเป็นเผ่าพันธุ์ไททัน เมื่อเผชิญกับท่านี้ของเซียวอวี๋ก็ยังต้องสูญเสียเลือดเนื้อไม่น้อย
และเซียวอวี๋อวี๋เองก็เจ้าเล่ห์ยิ่ง หลังจากท่าพายุดาบสิ้นสุดลง เขาก็รีบหลบหนีไปอย่างว่องไวด้วยทักษะเทเลพอต เมื่อซาแกรลาสต้องการจะไล่ล่า คาร์นก็พุ่งเข้ามาและแปลงกายเป็นวัวกระทิงขนาดยักษ์ก่อนจะสะบัดเขาเสียบเข้าใส่ร่างกายช่วงล่างของซาแกรลาสเต็มแรง
อ๊าก……………
ซาแกรลาสเปล่งเสียงร้องอออกมาก่อนจะยกเท้าเตะคาร์นออกไป ครั้งนี้นับว่าคาร์นลงมืออย่างไร้ยางอายยิ่ง เขากลับเลือกโจมตีใส่จุดยุทธ์ศาสตร์ของอีกฝ่าย
ฟังจากเสียงร้องของซาแกรลาสแล้ว เซียวอวี๋ก็สรุปได้ว่ากระทั่งไททันก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ตรงนั้น
ดูเหมือนไททันจะไม่ได้ไร้เทียมทานอย่างที่ว่าไว้จริงๆ
เซียวอวี่มองดูคาร์นที่ลอยกระเด็นออกไปอย่างตกตะลึง หลังจากถูกซาแกรลาสเตะลอยไปกระแทกพื้น ร่างของคาร์นก็นิ่งสนิท
โชคยังดีที่หลังจากนั้นไม่นานคาร์นก็ลุกขึ้นได้ และเมื่อมาถึงข้างกายของเซียวอวี๋ เขาก็สังเกตุเห็นว่าคาร์นนั้นบาดเจ็บหนัก การถูกเตะเช่นนั้นโดยซาแกรลาสแล้วไม่ตายก็นับว่าเข้มแข็งมากแล้ว
เซียวอวี๋รีบนำน้ำยาฟื้นฟุออกมาให้คาร์นหลายขวด และบอกให้เขาไปพักรักษาตัวก่อน ด้วยระดับของฐานทัพที่เพิ่มขึ้น ระดับของน้ำยาฟื้นฟูที่สร้างออกมาก็มีระดับสูงขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น ตราบใดที่ไม่ได้ตายคาที่ น้ำยาฟื้นฟูก็สามารถช่วยเยียวยาได้
ด้วยร่างกายสุดแกร่งและทรหดของคาร์นแล้ว คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานที่จะกลับเข้าสู่สมรภูมิอย่างร่าเริง
หลังจากที่คาร์นถูกเตะลอยไป กรอมก็ใช้ทักษะพายุดาบพัวพันซาแกรลาสเอาไว้ แม้ว่าทักษะพายุดาบที่กรอมใช้ออกจะไม่ได้มีอานุภาพเท่ากับของเซียวอวี๋ กระนั้นมันก็ยังรุนแรงยิ่ง และนั่นทำให้ร่างของซาแกรลาสปรากฏบาดแผลเกลื่อนกลาดอีกครั้ง
ธนูของทิรันด้าและนากาเองก็เบนเป้าหมายมาโจมตีใส่ซาแกรลาส ลูกธนูทุกดอกของพวกนางล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีพิเศษของฮิกกิ้น ทำให้มีอานุภาพเหนือกว่าลูกธนูธรรมดาอย่างเทียบกันไม่ติด ทุกคราที่ยิงออกไปก็จะบังเกิดการระเบิดขึ้นและระเบิดเหล่านั้นยังสร้างบาดแผลให้ซาแกรลาสไม่เบา
คาเอลธาสและแอนโทนีดาสเองก็ใช้เวทออกอย่างไม่เก็บออม เวทมนตร์สายแล้วสายเล่าพุ่งเข้าใส่ร่างของซาแกรลาสและสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าประหลาดก็คือ จ้าวมนตราทั้งสามไม่ได้โจมตีในทันที หากแต่พึมพำคาถาอยู่ทางด้านหลังเงียบๆ เห็นเช่นนั้นเซียวอวี๋ก็ทราบว่าทั้งสามคงเตรียมจะใช้เวทต้องห้ามแล้ว
ถึงตอนนี้ นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นช่วงสุดท้ายของสงคราม ต่างฝ่ายต่างหงายไพ่ในมือออกอย่างไม่มีเก็บรั้ง สามจ้าวมนตราได้จัดเตรียมม้วนคัมภีร์เวทต้องห้ามเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อวันนี้ และตอนนี้ก็ถึงเวลานำมาใช้ออกแล้ว
สิ่งที่เซียวอวี๋และคนอื่นๆต้องกระทำเวลานี้ก็คือซื้อเวลาให้กับทั้งสามได้ตระเตรียมไม้ตาย
สามจ้าวมนตราล้วนมีระดับอยู่ขั้นที่เจ็ด และเมื่อใช้ออกด้วยเวทต้องห้าม อานุภาพย่อมเข้าขั้นสุดสะพรึง ต่อให้เป็นซาแกรลาสก็ยังต้องเจ็บหนักหากโดนเข้าไป
ทางด้านนิโคลัสเองก็ได้ส่งกลุ่มยอดฝีมือไปช่วยจัดการกับซาแกรลาส แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่าเหล่าฮีโร่ของเซียวอวี๋ กระนั้นพวกเขาก็ยังมีส่วนช่วยแบ่งเบาความกดดัน
อ้าวปา ปรมาจารย์แห่งจักรวรรดิเมฆาเองก็เข้าร่วมการโจมตี ความแข็งแกร่งของอ้าวปานั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกับกรอม
ไม่ใช่ว่าความแข็งแกร่งของอ้าวปานั้นลดลง หากแต่กรอมพัฒนารวดเร็วเกินไป
ต้องทราบว่ากรอมและฮีโร่คนอื่นๆนั้นอยู่ห่างจากขอบเขตขั้นที่เจ็ดเพียงก้าวเดียว อีกทั้งแต่ละคนยังมีทักษะทรงพลังต่างๆมาช่วยเสริม หากว่าอ้าวปาต้องปะทะตัวต่อตัวกับกรอม เขาย่อมไม่อาจเอาชนะ
ในโลกใบนี้มีคนอยู่ไม่มากนักที่จะมาถึงระดับเดียวกับที่อ้าวปาอยู่ ด้วยเหตุนั้น อาจกล่าวได้ว่าเหล่าฮีโร่ใต้บัญชาของเซียวอวี๋นับเป็นสิ่งผิดแปลกในโลกใบนี้
การศึกดำเนินต่อไป และเวทต้องห้ามของสามจ้าวมนตราก็เตรียมการใกล้แล้วเสร็จ ถึงตอนนี้ ซาแกรลาสก็ตระหนักได้ถึงมวลพลังเวทอันแข็งแกร่งจากร่างของสามจ้าวมนตรา
ซาแกรลาสคำรามและสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ขึ้นมาก่อนจะขว้างไปยังจ้าวมนตราทั้งสาม
จ้าวมนตราทั้งสามในเวลานี้นับว่าอยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ หากถูกโจมตีขัดขวางในเวลานี้ สิ่งที่แล้วมาล้วนเป็นอันจบสิ้น
การย้อนกลับของเวทต้องห้ามนั้นหนักหนาสาหัสยิ่ง ต่อให้เป็นตัวจ้าวมนตราทั้งสามเอง หากโดนเข้าไปก็ยากจะมีชีวิตรอด
หรือต่อให้พวกเขาไม่ตาย ในเวลาอันสั้นก็คงไม่อาจใช้เวทต้องห้ามได้อีก
ขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเซียวอวี๋คืออะไรน่ะหรือ ก็คือจ้าวมนตราทั้งสาม การดำรงอยู่ของพวกเขาทำให้เซียวอวี๋มีพลังที่จะท้าทายซาแกรลาส หากไม่มีทั้งสาม เช่นนั้นก็ไม่ต้องสู้กันแล้ว ฝ่ายมนุษย์ที่ปราศจากสามจ้าวมนตราย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซาแกรลาส
เห็นลูกไฟยักษ์พุ่งมา เซียวอวี๋ก็ไม่เสียเวลาขบคิด เขากระโดขึ้นตวัดดาบฟันเข้าใส่ลูกไฟนั้นทันที…….