องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 809 ความเจ็บป่วยของทั้งสองพระตำหนัก
ตำหนักจิ่นซิ่ว
องค์หญิงกู้กั๋วร้องไห้หนักมาก ท้องฟ้าก็เริ่มร้องสนั่นหวั่นไหว
เด็กน้อยร้องไห้ปลอบประโลมอย่างไรก็ไม่หาย นางกำนัลต่างพากันร้อนใจ ร้อนรนจนวิ่งมากล่าวอยู่ตรงหน้าของจวินเซียวเซียวว่า“พระสนม องค์หญิงน้อยร้องไห้ไม่ฟัง ด้านนอกมีเสียงฟ้าร้องฟ้าแลบไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดกันเพคะ เป็นอย่างนี้ต่อไปจะทำอย่างไรดีเพคะ?”
จวินเซียวเซียวกำมือแน่น แต่ทว่าสีหน้ายังอบอุ่นอ่อนโยนดังเดิม กล่าวว่า “เด็กน้อย กลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าแลบ อย่างไรก็ต้องร้องไห้ อุ้มมาหาข้าเถิด”
นางกำนัลอุ้มองค์หญิงกู้กั๋วยื่นไปที่อ้อมกอดของจวินเซียวเซียว จวินเซียวเซียวเลยอุ้มลูกสาวเดินไปเดินมา
และมองไปทางด้านนอกอยู่บ่อยครั้ง
“พระสนม…..”ด้านนอกตำหนักจิ่นซิ่วมีคนวิ่งเข้ามา
“ลุกลี้ลุกลน มีอะไรหรือ?”จวินเซียวเซียวกล่าวถามอย่างราบเรียบ
นางกำนัลคุกเข่าลงกล่าวว่า“พระสนม นางกำนัลบ่าวของพระตำหนักพระพันปีถูกลากออกไปประหารชีวิตเพคะ ได้ยินมาว่าพระพันปีป่วยแล้วพากันดูแลไม่ดีเพคะ”
จวินเซียวเซียวออกแรงกอดองค์หญิงกู้กั๋วที่อยู่ในอ้อมแขนแน่นขึ้น กล่าวว่า“เจ้ากลัวอะไร ไม่ใช่เจ้าดูแลสักหน่อย ไปหาฝ่าบาทแล้วบอกว่าองค์หญิงร้องไห้ไม่หยุด ข้าปลอบแล้วไม่ได้ผล”
“เพคะ”นางกำนัลตอบรับแล้วรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จวินเซียวเซียวเดินไปเดินมา ใจสั่นอยู่เป็นช่วงๆ
อาอวี่นำเอาหีบยามาส่งที่พระราชวัง พอมาถึงพระตำหนักเฉาเฟิ่งมองเห็นกลุ่มคนถูกลากออกไป ร้องไห้กันเสียงระงม
ตูไห่กำลังกดบังคับคนไปที่ลานประหาร
อาอวี่เอาหีบยามาถึง ฉีเฟยอวิ๋นบอกอาอวี่ว่าให้อยู่รอที่หน้าประตู สีหน้าท่าทางของอาอวี่ไม่ไหวแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นเจาะเลือดให้พระพันปี สวมใส่ถุงมือแล้วเริ่มทำการตรวจ
หีบยาของเธอล้วนมีเลขหมายประจำหีบ ในนั้นมีการตรวจสอบและวัดอย่างง่ายๆ
พระพันปีกล่าวว่า“เจวี๋ยเอ๋อร์ เจ้าไปดูพระมเหสีหวาที ช่วงก่อนหน้านี้นางไม่ระวังตกลงไปในน้ำ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด มักไม่ได้สติ เป็นมาครึ่งเดือนแล้ว”
หนานกงเย่กล่าวด้วยความแปลกใจว่า“เหตุใดอ๋องตวนไม่ได้กล่าวอะไร?”
“เขาไม่รู้หรอก เขาเข้ามาสองครั้ง พระมเหสีหวามักจะมาทางด้านนี้ไม่พบเจอเขา เขาก็เลยไม่เจอ”
หนานกงเย่ชำเลืองมองฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นกล่าวว่า“อวิ๋นอวิ๋น ข้าจะไปดู”
“ท่านอ๋องไปเถิด ”ฉีเฟยอวิ๋นจัดการเรื่องราวของเธอ ตรวจสอบทดลองเสร็จ ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปนั่งข้างพระพันปีด้วยความแปลกใจ นั่งลงแล้วได้ถามปัญหาต่างๆ
“ทุกอย่างดีหมดเลย ไม่ได้พบเจออะไร”พระพันปีรู้สึกเพียงว่าป่วย ก็เป็นเพราะพระนางรู้สึกว่าป่วย หากไม่ใช่เพราะป่วยเป็นโรค จะเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
ฉีเฟยอวิ๋นมองด้านในเตียง ดมดูแล้วได้กลิ่นอะไรสักอย่างเลยถามขึ้นว่า“เสด็จแม่ กลิ่นอะไรกันเพคะ?”
“กลิ่นอะไรหรือ?”พระพันปีมองบริเวณโดยรอบ ดมเลยกล่าวตรัสว่า“เป็นน้ำมันหอมระเหยไหม”
“ด้านในล่ะเพคะ?”พระพันปีชี้ ฉีเฟยอวิ๋นเลยปีนไป หาถุงหอมระเหยที่อยู่ใต้ผ้าปูเตียง มันคล้ายเหมือนกับที่เธอมีเลย
ฉีเฟยอวิ๋นเปิดออกด้วยความแปลกใจ ด้านในไม่มีอะไร แต่พอดมแล้วมันหอมละมุนมาก
ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวเอาถุงหอมมา กล่าวว่า“ไห่กงกง เอาน้ำมาหน่อย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ไห่กงกงยกน้ำมา ฉีเฟยอวิ๋นทิ้งถุงหอมลงในน้ำ ด้านในถุงหอมมีน้ำมันไหลออกมารวมกับน้ำและมันได้ลอยอยู่เหนือพื้นน้ำ
ฉีเฟยอวิ๋นยกขึ้นเล็กน้อย เริ่มต้นศึกษา ที่จริงไม่ต้องศึกษาฉีเฟยอวิ๋นก็สัมผัสรู้แล้วว่ามันคืออะไร
ทดสอบออกมาแล้ว หนานกงเย่ก็กำลังกางร่มกลับมา เข้ามาด้วยกันยังมีพระมเหสีหวากับนางสนมข้างกายนางและเหล่าแม่นม ล้วนเป็นคนสนิทใกล้ชิดของนาง
“พระมเหสี จะต้องพักอยู่ที่พระตำหนักเฉาเฟิ่งเป็นการชั่วคราว และขอเสด็จแม่ได้โปรดอนุญาตด้วย”หนานกงเย่กล่าวอยู่ทางด้านนั้น
พระพันปีกล่าวตรัสว่า“ขึ้นมาเถิด เตียงนี้ไม่ใช่ว่าใหญ่หรือ พักลำพังมันน่าเบื่อ มีพระมเหสีหวามาอยู่ด้วยก็จะได้มีคนคุยสนทนาด้วย”
มองแล้วพระมเหสีหวาเหมือนพยายามจะเดิน สติกำลังวังชาสักน้อยนิดนางยังไม่มีเลย
ครั้งนี้เลยไม่อยากต่อสู้กับพระพันปีแล้ว เดินขึ้นมายังยุ่งยาก
จึงนั่งลงแล้วอิงอยู่อีกด้าน ทั้งสองต่างมองสบตากัน แล้วมองไปทางฉีเฟยอวิ๋น
หนานกงเย่เดินมาหยุดอยู่ข้างกายฉีเฟยอวิ๋น กล่าวถามว่า“ทำอะไรหรือ?”
“ท่านอ๋องเคยได้ยินเรื่องน้ำมันจากศพหรือไม่?”ฉีเฟยอวิ๋นถอดถุงมือออก แล้วกล่าวถามหนานกงเย่
หนานกงเย่ถามด้วยสีหน้าสงสัยว่า“ข้าไม่รู้เลย แต่มีความเกี่ยวข้องกับปีกใต้สินะ ทางปีกใต้มีหนอนพิษกู่ และก็มีเหล่าวิชามารทางไม่ดี เคยได้ยินมาว่าน้ำมันจากศพ เป็นพวกเขาหล่อหลอมขึ้นนะ”
“กลับไปจะถามดูเพคะ เชื่อว่าสองวันนี้เฟิงอู๋ชิงก็จะมาแล้ว”ฉีเฟยอวิ๋นหันมองพระพันปี แล้วถามว่า”เสด็จแม่ ถุงหอมผู้ใดให้มาเพคะ?”
“ราชครูจวิน”พระพันปีตอบกลับ
หนานกงเย่กับฉีเฟยอวิ๋นอึมครึมอยู่ชั่วขณะ จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นกล่าวขึ้นว่า “น้ำมันจากศพชนิดนี้เป็นน้ำมันจากศพชนิดใด แต่หม่อมฉันเคยอ่านตำรา บนตำรากล่าวว่า มีเพียงน้ำมันจากศพของคนที่จะทำให้คนเบื่ออาหารได้ และกลิ่นหอมที่กระจายออกมา จะทำให้คนฝันมากในเวลากลางคืนและทำให้คนรู้สึกแย่และเสด็จแม่ก็เป็นเพราะสิ่งเหล่านี้เพคะ”
“สารเลวนัก บังอาจทำร้ายเสด็จแม่!”หนานกงเย่สีหน้าแย่มาก ฉีเฟยอวิ๋นนึกถึงเมื่อก่อนที่เขายังมีความแค้นเคืองเสด็จแม่ แล้วก็นึกถึงความรู้สึกของเสด็จแม่ด้วย
พระพันปีตรัสถามว่า“ด้านในคือน้ำมันจากศพหรือ?”
“น่าจะใช่เพคะ น้ำมันจากสัตว์ก็เป็นน้ำมันจากศพด้วย แต่น้ำมันจากสัตว์ไม่ใช่แบบนี้ และนี่เป็นของมนุษย์อย่างแน่นอนเพคะ”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวขึ้น นางกำนัลที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึงหวาดกลัว
ฉีเฟยอวิ๋นรู้คนสมัยก่อนเป็นเช่นนี้ มีบางครั้งที่พวกเขาเชื่อเรื่องงมงายมาก เชื่อเรื่องการมีอยู่ของเทพยดา แน่นอนว่าก็เชื่อเรื่องผีด้วย!
พระมเหสีหวาตรัสถามว่า“พูดเช่นนี้ คิดว่าเป็นราชครูจวิน?”
“เจ้านับว่ามีกำลังวังชา อวิ๋นอวิ๋น ดูให้พระมเหสีด้วย”
พระพันปีรับสั่ง ฉีเฟยอวิ๋นเลยทำความเคารพก่อน จากนั้นเดินไปตรงหน้าของพระมเหสีเพื่อตรวจดูอาการ แต่พระพันปีกับพระมเหสีแตกต่างกัน
“ได้รับพิษเพคะ”
“ได้รับพิษ?”พระมเหสีมองไปทางพระพันปี
ฉีเฟยอวิ๋นถามว่า“ตกลงไปในน้ำนั้นคือเกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ?”
“กราบทูลพระชายา หม่อมฉันพูดเองเพคะ”
แม่นมเว่ยเดินมาตรงหน้าฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้ากล่าวว่า“แม่นมเว่ยพูดมาเถิด”
“วันนั้นพระมเหสีอยากไปเดินเล่นเพคะ พวกเราเลยไปที่สวนดอกไม้กัน ตอนที่กลับมา พระมเหสีกล่าวตรัสว่าบริเวณด้านบนทะเลสาบมีเงาของคน และยังบอกว่ามองเห็นปฐมกษัตริย์ด้วยเพคะ
หลังจากนั้นเลยไปทางทะเลสาบ พอถึงแล้วหลังจากนั้นพระมเหสีก็มีอารมณ์ตื่นตระหนก แล้วบอกว่าปฐมกษัตริย์รอพระนางอยู่ด้านบนทะเลสาบ พวกเราไม่สามารถรั้งไว้ได้ พระนางวิ่งลงไป เหล่านางกำนัลตกใจตะลึงพรึงเพริด พระมเหสีร่ำไห้บอกว่าปฐมกษัตริย์รอพระนางอยู่ หากว่าไม่ไปหาปฐมกษัตริย์ก็จะไปแล้วเพคะ”
แม่นมเว่ยพูดพร้อมกับหลั่งน้ำตา พระมเหสีหวากล่าวด้วยความไม่พอใจว่า“ข้าเห็นปฐมกษัตริย์จริงๆ พวกเจ้าไม่เชื่อกันเอง วันนี้มีร้องไห้คร่ำครวญ ทำให้คนตลกขบขันเสียจริง!”
มีบางเวลาที่พระมเหสีหวาเหมือนเด็ก ฉีเฟยอวิ๋นมองพระมเหสีหวา พระมเหสีหวานั้นหน้าแดงก่ำไปแล้ว
ผู้หญิงสองคนที่รักผู้ชายคนเดียวกัน นั่งอยู่ด้วยกัน สามารถมีจิตใจเดียวกัน มันยากมาก!
“สรุปว่าเจ้ามองเห็นหรือไม่?”พระพันปีตรัสถามด้วยความหงุดหงิด
พระมเหสีหวากล่าวด้วยความเศร้าใจว่า“หม่อมฉันไม่เห็นจะวิ่งไปหรือเพคะ ปฐมกษัตริย์อยู่บนทะเลสาบนั่น เหมือนกับตอนก่อนที่จะไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง พระองค์กำลังรอหม่อมฉัน รอหม่อมฉันเพคะ!”
พระมเหสีหวาเชื่อว่ามองเห็นปฐมกษัตริย์ เลยร้องตะโกนด้วยความตระหนกขึ้น
พระพันปีรีบตรัสว่า“เกิดอะไรขึ้น?”
พระพันปีตรัสถามฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า“จิตวิปลาสเพคะ”
“จิตวิปลาสหรือ?”พระพันปีกับพระมเหสีหวากล่าวตรัสออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้ากล่าวว่า“ไม่ผิดเพคะ มันคือจิตวิปลาสที่เห็นภาพหลอน พิษของพระมเหสีเป็นพิษชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดภาพลวงตา พิษชนิดนี้สามารถสกัดได้จากงูพิษและดอกป๊อปปี้ คนจะฝันบ่อยครั้งเมื่อใช้มัน จะฝันเห็นสิ่งที่ใจเฝ้าถวิลหาเพคะ ยาขนาดน้อยกรัมจะไม่ทำให้เสียชีวิต แต่ขนาดปริมาณน้อยนี้จะส่งผลต่อจิตสำนึกของผู้คนเพคะ
ยามค่ำคืนฝันถึงเรื่องราว ช่วงกลางวันจะสามารถมองเห็นสิ่งที่อยากจะพบเจอเพคะ”
“ดอกป๊อปปี้ก็คือดอกฝิ่น ข้าเคยคุยกับเสด็จแม่”หนานกงเย่กล่าวอธิบาย