ชายวัยกลางคนมองเฉินโม่ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที นัยน์ตาฉายแววดูหมิ่น “ไอ้หนุ่ม ถ้าตอนนี้นายคุกเข่าอ้อนวอนคุณชายอาน ฉันจะไว้ชีวิตนาย!”

เฉินโม่หน้านิ่ง ตบไปหนึ่งทีแล้วพูดว่า “น่ารำคาญ!”

“หึ รนหาที่ตาย!” ชายวัยกลางคนเห็นเฉินโม่ลงมืออย่างรวดเร็ว จู่ๆ เขาโมโหมาก ใช้หมัดกระแทกไปทางเฉินโม่

อานหลิงหัวมองเฉินโม่ ยิ้มเยาะอย่างได้ใจ “ไอ้หนุ่ม นายอวดดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน! เดิมทีกะว่าจะแค่สั่งสอนนาย คิดไม่ถึงว่านายจะทำให้คุณหลินโมโห! นายตายแน่!”

พวกลูกคนรวยที่มุงดูอยู่รอบๆ ต่างมีสีหน้าสะใจผุดขึ้นมา “คิดไม่ถึงว่าเด็กนี่จะกล้าลงมือกับคนของอานหลิงหัว นี่รนหาที่ตายไม่ใช่หรือไง”

เหมือนทุกคนมองเห็นภาพที่เฉินโม่โดนซัดจนกระอักเลือดกระเด็นถอยหลังแล้ว พากันกอดอกรอดูเฉินโม่อับอาย

หลินเหม่ยหลิงก้มลงมาข้างหูเจี่ยงหยาวเงียบๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เฉินโม่จะชนะไหม”

เจี่ยงหยาวไม่กังวลสักนิด เธอพูดอย่างแน่วแน่ว่า “วางใจเถอะ พี่เฉินโม่ชนะแน่นอน!”

เพียะ!

คุณหลินโดนเฉินโม่ตบจนกระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับกำแพงที่ประตูถึงจะหยุดลง นอนสลบอยู่บนพื้น เลือดเต็มตัวไปหมด

อะไรกัน!

ทุกคนตกตะลึงทันที!

“คิดไม่ถึงว่าเด็กนี่จะเก่งขนาดนี้!”

“ดูไม่ออกจริงๆ! มิน่าล่ะเขาถึงกล้าท้าทายอานหลิงหัว ที่แท้เป็นยอดฝีมือนี่เอง!”

แววตาที่คนรอบๆ มองไปยังเฉินโม่ แฝงไปด้วยความตกตะลึง

“ครั้งนี้อานหลิงหัวซวยแล้ว!”

สายตาของทุกคนหันไปหาอานหลิงหัวทันที ถ้าได้เห็นคุณชายตระกูลอานอับอาย ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ แต่คนพวกนี้กลัวอำนาจของตระกูลอาน จึงไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น

อานหลิงหัวไม่ได้แสดงท่าทางทำอะไรไม่ถูกออกมา เหมือนอย่างที่ทุกคนคิดไว้ สีหน้ายังคงเรียบเฉย มองเฉินโม่แล้วพูดยิ้มเยาะว่า “ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่าฉันประมาทนายไป!”

เห็นอานหลิงหัวแน่วแน่แบบนี้ เฉินโม่รู้สึกแปลกใจ ดูเหมือนเขายังมีไพ่ไม้ตายที่ไม่ให้คนอื่นรู้

“นายยังมีไพ่ไม้ตายอะไรก็เอาออกมาให้หมด อย่าหาว่าฉันไม่ให้โอกาสนาย!” ถึงอานหลิงหัวมีไพ่ไม้ตาย มีหรือที่เฉินโม่จะกลัว

“ไพ่ไม้ตายเหรอ” อานหลิงหัวพูดด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “นายกล้าทำร้ายคนในงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ ฉันไม่ต้องลงมือ ก็มีคนจัดการนายอยู่แล้ว!”

จู่ๆ คนรอบๆ อึ้งไป มีคนพูดอย่างตกใจว่า “ใช่ งานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ เป็นงานใหญ่ที่กำหนดทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตของมณฑลซีไห่ มีคนกล้าก่อเรื่องในงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ ต้องถูกทางการเชิญไปคุยแน่ๆ!”

อานหลิงหัวแสยะยิ้มใส่เฉินโม่ แล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม ฉันได้เตรียมผู้ช่วยเอาไว้สองคนก่อนมา ถ้าคุณหลินเอาชนะนายได้ก็แล้วไป ถ้าไม่ได้ งั้นสิ่งที่รอต้อนรับนายอยู่คือตำรวจของทางการ!”

หัวหน้าหลิวรีบปัดฝุ่นบนตัว วิ่งมาข้างอานหลิงหัว ยิ้มด้วยใบหน้าประจบแล้วพูดว่า “คุณชายอาน งานดูแลความปลอดภัยของงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ ตระกูลจั่วเป็นผู้รับผิดชอบ ตำรวจพวกนั้นฟังจั่วเยว่เอ๋อร์ คุณเคยคุยกับเธอไหมครับ”

อานหลิงหัวแสยะยิ้ม “มีคนก่อเรื่องในงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ ตระกูลจั่วของเธอรับผิดชอบด้านความปลอดภัยของงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ ต้องคุยด้วยเหรอ”

หัวหน้าหลิวใบหน้าลำบากใจ “คุณชายอาน จั่วเยว่เอ๋อร์พูดด้วยยากมาก ทางที่ดีคุณบอกเธอก่อนเถอะครับ! ไม่งั้นผมกลัวว่าเธอจะไม่ไว้หน้าคุณ!”

อานหลิงหัวพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันคุยกับผู้รับผิดชอบของทีมตำรวจแล้ว พวกเขาน่าจะถึงในไม่ช้า!”

“งั้นเหรอครับ” หัวหน้าหลิวขมวดคิ้ว เหมือนยังไม่วางใจ

ไม่นาน ทีมตำรวจในชุดเครื่องแบบรีบวิ่งเข้ามา

มองคุณหลินที่นอนสลบอยู่บนพื้น หัวหน้าตำรวจคนนั้นเดินมาหน้าพวกเฉินโม่ ถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า “ใครสร้างความวุ่นวายในงาน”

อานหลิงหัวชี้เฉินโม่แล้วพูดว่า “เขา!”