ซินเหลยบอกชื่อละคร บอกว่าเมื่อไรไปเทสหน้ากล้อง เมื่อไรเซ็นสัญญา เริ่มถ่ายทำเมื่อไรกับเฉินเยี่ยน
เขาซาบซึ้งและเคารพเฉินเยี่ยน ปีกว่านี้เขาอยู่ข้างนอกลำบากไม่น้อย เพราะเขาอยู่คนเดียวในเมืองต่างถิ่น ค่อยเข้าใจถึงความทุกข์ทรมานที่จากบ้านมาไกล ไม่มีใครโอ๋เขา ปกป้องเขา คนอื่นไม่ได้เป็นหนี้เขา ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ทำไมจะต้องยอมเขาด้วย?
เวลานี้เขาค่อยรู้ซึ้งถึงคำพูดของเฉินเยี่ยน ค่อยรู้ว่าเมื่อก่อนตัวเองไร้เดียงสาเพียงใด เป็นเด็กน้อยมากแค่ไหน
ถึงแม้เขาจะเซ็นสัญญากับบริษัท แต่บริษัทไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว ในนั้นยังมีคนที่อยากจะประสบความสำเร็จ แต่โอกาสมีแค่นี้ คุณได้ไป คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ ดังนั้นการแข่งขันจึงรุนแรง
เพื่อที่จะแก่งแย่งมา เพื่อที่จะได้โอกาส บางคนก็จะใช้วิธีสกปรก บางคนถึงขั้นทำร้าย เขาเพิ่งเข้าใจว่าที่บ้านนั้นดีเพียงใด โลกข้างนอกนั้นโหดร้ายขนาดไหน
เขาค่อยๆ เปลี่ยนไป พยายามปรับตัว ถึงแม้เขาจะไม่ทำร้ายคนอื่น แต่เขาก็ไม่ยอมให้ใครมาแกล้ง ที่ได้บทมาในวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังเขาออกแรงไปมากขนาดไหน
เพราะปีกว่ามานี้ซินเหลยมีประสบการณ์มามาก ดังนั้นเขายิ่งเข้าใจว่าที่บ้านดีกับเขามาก
และเขาก็ขอบคุณความยากลำบากที่เขาได้รับมา ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่เติบโต
เข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วเขายิ่งเคารพ ยิ่งขอบคุณ ยิ่งสนิทกับเฉินเยี่ยนขึ้นไปอีก
เฉินเยี่ยนรับรู้ได้ถึงความคิดของเขา เธอยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ต้องการคำขอบคุณของซินเหลย ซินเหลยเข้าใจแล้วก็ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว
แต่ชื่อละครที่ซินเหลยพูดมาในชาติที่แล้วเธอไม่เคยได้ยิน
แต่เฉินเยี่ยนไม่แปลกใจ ชาติที่แล้วเธอเกิดช้า ไม่เคยได้ยินชื่อหนังเก่าก็เป็นเรื่องปกติ
ซินเหลยบอกว่าเซ็นสัญญาแล้ว อีกสิบวันเปิดกล้อง ถึงตอนนั้นเขาจะเดินทางจากที่นี่ไปรายงานตัว
ถึงแม้เงินจะไม่มาก แต่นี่คือโอกาส ถ้าเขาแสดงได้ดี แสดงออกมาโดดเด่น ได้รับการยอมรับ ในอนาคตเขาก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้น
เฉินเยี่ยนพยักหน้า เป็นแบบนี้จริงๆ เธอบอกเรื่องที่ควรระวังกับซินเหลยอีกครั้ง บอกเขาว่าอย่ากลัวลำบาก และอย่ากลัวที่จะถามคนให้ชี้แนะ เพราะเขาไม่ได้เรียนจบการแสดงมาโดยตรง ถึงแม้รูปร่างหน้าตาดี แต่เทียบกับคนที่จบดานนี้โดยตรงแล้ว พื้นฐานเขายังแย่อยู่ ในด้านการแสดงย่อมมีหลายจุดที่ยังไม่ดีพอ ตอนนี้ยังไม่ใช่ยุคที่ดูแต่หน้าตา ไม่ใช่ว่าคุณหน้าตาดีก็จะได้สิทธิพิเศษ ไม่ขยันก็จะโดนคัดออก ให้ดูว่าคนอื่นแสดงยังไงไว้ให้มาก เรียนรู้มากมีประโยชน์ ขอแค่คุณขยัน ขยันแล้ว ออกแรง ถึงจะสำเร็จ
ซินเหลยจำไว้ ที่เฉินเยี่ยนพูดก็เป็นสิ่งที่เขาคิด แล้วที่เฉินเยี่ยนมาบอกเขาเรื่องพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินเยี่ยนเป็นห่วงเขาจริงๆ หวังว่าเขาจะได้เติบโต
“พอได้แล้ว พูดไปก็ไม่จบ ลูกชายฉันกลับมาเยี่ยมฉัน ไม่ได้มาฟังเธอพูดมาก”
ซุนหม่านเซียงไม่พอใจ กว่าลูกชายจะกลับมาได้ ยังไม่ได้ทันพูดอะไรกันเลย เฉินเยี่ยนก็พูดไม่หยุด เฉินเยี่ยนจะรู้อะไร? ยังมาสอนลูกชายอีก ใครจะรู้ว่าลูกชายจะมีอคติหรือเปล่า
เฉินเยี่ยนยิ้ม เธอเข้าใจความคิดของซุนหม่านเซียง และก็เห็นว่าปีกว่ามานี้ซุนหม่านเซียงคิดถึงซินเหลยเพียงใด ดังนั้นเธอเลยไม่โกรธ
ซินเหลยรู้ความคิดแม่ตัวเอง ก็เลยพูดคุยกับซุนหม่านเซียงและทุกคนอย่างกระตือรือร้น แล้วยังอุ้มซินเช่อและเยว่เยว่ด้วย เอาของขวัญให้พวกเขา
เด็กสองคนแปลกหน้าลุงคนนี้ แต่คุณลุงดีมาก ให้ของเล่นพวกเขา พวกเขาชอบ ดังนั้นโดนซินเหลยอุ้มพวกเขาก็ไม่ขัดขืน ยิ้มหวานมาก
ซินเหลยรู้สึกว่าใจตัวเองจะละลายแล้ว ในใจนั้นเต็มไปด้วยความรักเด็กสองคนนี้มาก
“อาเหลย ลูกอยู่ข้างนอกมีแฟนหรือยัง?”
ซุนหม่านเซียงถามเสียงเบา เมื่อก่อนตอนที่ซินเหลยโทรมาเธอก็เคยถาม ซินเหลยบอกว่าไม่มี แต่เธอไม่เชื่อ ลูกชายเธอเสน่ห์แรงขนาดนี้ จะไม่มีผู้หญิงมาชอบได้ยังไง
ได้ยินซุนหม่านเซียงถามแบบนี้ คนที่เหลือก็มองไปทางซินเหลย สายตามีแววคาดหวัง ซินเหลยก็ไม่เด็กแล้ว ขอแค่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่ดี ขอแค่เหมาะสม พวกเขารับได้หมด ไม่สนใจฐานะหรือที่บ้านของอีกฝ่ายจะมาจากไหน
“ไม่มีครับ ยังไม่เจอคนที่เหมาะสม ต่อไปถ่ายละครก็คงจะยุ่งมาก ผมยังไมได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ รอในอนาคตมีคนที่เหมาะสมแล้วค่อยว่ากัน”
ซินเหลยพูดอย่างสบายอารมณ์
ที่จริงแล้วเขาและเสี่ยวเหมยคนนั้นเคยคบกันอยู่พักหนึ่ง
เสี่ยวเหมยคือผู้หญิงที่ช่วยเขาคนนั้น และเป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัทโมเดลของพวกเขาด้วย หน้าตาถึงแม้จะไม่ได้สวยมาก แต่นิสัยใช้ได้ ตั้งแต่เขาเข้ามาในบริษัทก็แสดงออกว่ามีความรู้สึกดีให้ตัวเอง ทำดีกับเขามาก
ต่อมาเธอมีความคิดอยากจะคบกับตัวเอง ถึงแม้เขาจะไม่ได้รักกับเสี่ยวเหมยแบบนั้น แต่เสี่ยวเหมยทำดีกับเขา แล้วเขาก็อยู่ต่างถิ่นคนเดียว ก็เลยคิดว่าคบก็คบ ทั้งสองคนเลยคบกัน
หลังคบกันซินเหลยพบว่าเสี่ยวเหมยนิสัยไม่แย่ แต่เธออารมณ์รุนแรง ชอบให้คนอื่นเยินยอเธอ ยอมเธอ
ทุกครั้งเธอจะให้ซินเหลยอยู่เป็นเพื่อนเธอ ไม่ว่าซินเหลยจะทำอะไรอยู่ ถ้าเธอต้องการ ซินเหลยก็จำเป็นต้องมาอยู่กับเธอ
บางครั้งเธอนัดซินเหลยออกไปเที่ยว แต่ซินเหลยกำลังซ้อมคิวหรือเรียนอยู่ จนถึงเย็น เธอก็โมโห ซินเหลยรู้สึกเหนื่อย แต่คิดถึงตอนแรกที่เสี่ยวเหมยทำดีกับเขา เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
ตอนที่พวกเขาคบกันมีนายแบบคนหนึ่งชื่อต้าบิน เขาจีบเสี่ยวเหมย ส่วนเสี่ยวเหมยก็พูดจาไม่ดีต่อหน้าเขาหลายครั้งแล้ว เสี่ยวเหมยไหว้วานให้ต้าบินไปบอกซินเหลย ต้าบินก็ไม่บอก เสี่ยวเหมยเลยเข้าใจผิดคิดว่าซินเหลยจงใจไม่ไปพบเธอ ไม่ฟังคำอธิบายของซินเหลยและทะเลาะกับซินเหลย
จากนั้นเสี่ยวเหมยไปดื่มเหล้ากับต้าบิน ตอนกลางดึกต้าบินอาศัยโอกาสตอนที่เสี่ยวเหมยเมามีอะไรกับเสี่ยวเหมย
ถึงแม้เสี่ยวเหมยจะโกรธซินเหลย แต่เธอก็ชอบซินเหลยจริง เธอคิดไม่ถึงว่าต้าบินจะใจกล้าขนาดนี้
แต่เสียใจก็สายไปแล้ว และเธอก็อยากทำให้ซินเหลยโกรธ เลยออกมาปรากฏตัวพร้อมกับต้าบิน เป็นแฟนต้าบิน
ตอนนั้นซินเหลยสีหน้าย่ำแย่มาก ต้าบินพออกพอใจ แต่ซินเหลยไม่ได้พูดอะไร เขารู้สึกผิดกับเสี่ยวเหมย แต่เสี่ยวเหมยทำแบบนี้ ก็ถือว่าเสมอกันแล้ว เขาเลิกกับเสี่ยวเหมย
เพราะต้าบินคิดว่าตัวเองเป็นแฟนของเสี่ยวเหมย แล้วเสี่ยวเหมยก็เป็นลูกสาวของเจ้าของ ตอนแรกคบกันเพื่อให้ซินเหลยลำบากใจ กันซินเหลยออก แต่ซินเหลยโดดเด่นมาก และขยันมาก เขาไม่สามารถมาแทนที่ซินเหลยได้เลย
ภายหลังมีครั้งหนึ่งเพราะเขาอิจฉาซินเหลย ตั้งใจจะเล่นงานซินเหลย เลยทำให้บริษัทเสียเวลา หลังเจ้าของตรวจสอบก็หยุดงานเขา ให้เขาพักงาน
เขาขอร้องเสี่ยวเหมย เสี่ยวเหมยบอกเธอช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาพูดจาหยาบคายมากมาย
เสี่ยวเหมยถึงค่อยตาสว่าง ที่แท้ต้าบินมีจุดประสงค์อื่นมาตลอด ทำลายเธอกับซินเหลย เพราะเธอเป็นลูกสาวเจ้าของ ถึงได้ตามจีบเธอ ใช้ประโยชน์จากเธอ
เธอเสียใจ ไปหาซินเหลย อยากจะคืนดีกับซินเหลย แต่ซินเหลยไม่ยอม
เขาบอกว่าเขาคิดดีแล้ว เขากับเสี่ยวเหมยไม่ได้มีความรักต่อกัน เป็นเพราะเสี่ยวเหมยทำดีกับเขา เขาปฏิเสธไม่ได้ พวกเขาไม่เหมาะสมกัน เขาหวังจะให้เสี่ยวเหมยเจอคนที่เหมาะสม คนที่ชอบเธอ
ถึงแม้เสี่ยวเหมยจะเสียใจ แต่เธอก็เข้าใจแล้ว ซินเหลยไม่เหมาะสมกับเธอจริงๆ สิ่งที่เธอต้องการซินเหลยไม่สามารถให้เธอได้
ก่อนหน้านี้ซินเหลยคบผู้ชายอีกคนหนึ่ง ส่วนซินห้าวกลับไม่อยากคบกับผู้หญิง อย่างน้อยตอนนี้ยังไม่คิด ส่วนในอนาคตนั้น เขาไม่รู้ ถ้าได้เจอก็ค่อยว่ากัน เขาไม่อยากมีเล่นๆ
แต่เรื่องพวกนี้เขาไม่อยากเล่า ไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วงเขา