แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1097

เฉินโม่หันมามองเจี่ยงหยาว “เราไปกันเถอะ!”

เหตุผลที่เฉินโม่อยู่ต่อ เพราะจะจัดการอานหลิงหัว ต่อไปเจี่ยงหยาวจะได้ไม่โดนรบกวนในมหาวิทยาลัยซีเป่ย

ตอนนี้ทำสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ

ส่วนงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่……แม้งานนี้เป็นงานใหญ่สุดยอดสำหรับคนมากมาย แต่สำหรับเฉินโม่ มันธรรมดาจนไม่มีค่าให้พูดถึง

เจี่ยงหยาวก็ไม่ได้สนใจงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่ ถ้าหลินเหม่ยหลิงไม่เอาแต่พูดกล่อมให้เธอมา เธอก็ไม่มาที่นี่หรอก

เมื่อได้ยินว่าเฉินโม่จะกลับ เธอแทบอยากกลับจนทนไม่ไหว

“โอเค” เจี่ยงหยาวพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ

เมื่อได้ยินว่าทั้งสองคนจะกลับ หลินเหม่ยหลิงร้อนใจทันที “อย่าสิ พวกนายกลับแล้วฉันจะทำยังไง”

เจี่ยงหยาวมองบนใส่เธอ “ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเอาแต่จะให้ฉันมา ก็คงไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ ถ้าเธออยากดูก็อยู่ต่อ ถ้าไม่อยากดูก็กลับไปกับพวกเรา”

หลินเหม่ยหลิงกระอักกระอ่วน ถ้าพูดขึ้นมาจริงๆ เธอก็เป็นตัวต้นเหตุจริงๆ ถ้าเธอไม่เอาแต่พูดกล่อมให้เจี่ยงหยาวมา ก็คงไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้

ความลังเลผุดขึ้นบนใบหน้าหลินเหม่ยหลิง เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว เธอจึงตัดสินใจอยู่ต่อ

“โอเค พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ! เดี๋ยวฉันกลับไปกับนักเรียนคนอื่น!” หลินเหม่ยหลิงพูดอย่างผิดหวัง

“อืม งั้นเธอดูแลตัวเองด้วย!” เจี่ยงหยาวพยักหน้า นักเรียนอยู่กันเยอะขนาดนี้ เธอจึงไม่ต้องกังวลความปลอดภัยของหลินเหม่ยหลิง

“พี่เฉินโม่ เราไปกันเถอะ!” เจี่ยงหยาวจูงมือเฉินโม่ พูดด้วยใบหน้าอ่อนโยน

“อืม”

เมื่อได้ยินว่าเฉินโม่จะไปแล้ว ผู้นำตระกูลจั่วคารวะเฉินโม่ แล้วพูดว่า “ผู้มีพระคุณเดินทางมาไกล พวกเรายังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับแขกผู้มาเยือน อยู่ร่วมงานประชุมสุดยอดของมณฑลซีไห่แล้วค่อยกลับดีไหมครับ พวกเราจะได้แสดงน้ำใจของตัวเอง เพื่อตอบแทนพระคุณที่ผู้มีพระคุณช่วยไว้ในวันนั้น”

เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบว่า “ไม่จำเป็นหรอก ฉันฆ่ากงซุนจั่วเสวียนในวันนั้น ไม่ใช่เพราะช่วยพวกนาย ดังนั้นพวกนายไม่จำเป็นต้องกังวลใจ”

ผู้นำตระกูลจั่วกระอักกระอ่วนเล็กน้อย จะพูดประจบแต่กลับประจบไม่ถูกทางซะอย่างนั้น

“ในเมื่อผู้มีพระคุณไม่มีความคิดที่จะอยู่ต่อ งั้นผมขอน้อมส่งผู้มีพระคุณ!” ผู้นำตระกูลจั่วก้มตัวคำนับแล้วเอ่ยขึ้น

อานซื่อเฉิงก็ก้มตัวคำนับเช่นกัน “น้อมส่งผู้มีพระคุณ!”

คนที่เหลือก็รีบก้มตัวคำนับ “น้อมส่งผู้มีพระคุณ!”

เมื่อเห็นผู้มีอิทธิพลพวกนี้ก้มตัวทำความเคารพเฉินโม่ พวกเด็กๆ ก็ไม่กล้ายืนเฉย พากันก้มหัวให้เฉินโม่

เมื่อมองออกไป ทุกคนพากันก้มหัวหมดทุกคน

หนึ่งคนอยู่เหนือทุกคน!

นี่คืออานุภาพระดับไหนกัน!

ถ้าอานหลิงหัวเห็น ไม่รู้เขาจะรู้สึกอย่างไร

หลินเหม่ยหลิงตกใจจนอ้าปากค้าง เธอแอบมองเฉินโม่ ความตกใจนัยน์ตาเพิ่มขึ้นไปอีก

ในเวลาเดียวกัน ในใจหลินเหม่ยหลิงรู้สึกโชคดี “ยังดีที่ตอนนั้นไม่ได้ล่วงเกินเฉินโม่เกินไป ไม่งั้นตัวเองคงเป็นเหมือนอานหลิงหัว!”

เฉินโม่ทำเพียงแค่กวาดตามองทุกคน บางทีภาพนี้อาจสร้างความตกตะลึงในสายตาคนอื่น อยู่เหนือกว่าทุกคน ทั้งโลกคงมีแค่ไม่กี่คนที่สามารถทำได้

แต่สำหรับผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพที่เคยข้ามจักรวาล นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยมาก ไม่สามารถทำให้จิตใจของเฉินโม่เกิดความหวั่นไหวได้เลย

“ไปกันเถอะ!” เฉินโม่มองเจี่ยงหยาว แล้วพูดด้วยเสียงราบเรียบ

“อืม”

ทั้งสองคนรีบออกไปทันที

แต่ตอนเดินมาถึงประตู กลับเจอชายหนุ่มคนหนึ่งโดยบังเอิญ

ชายหนุ่มคนนั้นดูห้าวหาญมาก ไว้ผมรองทรง ผิวสีแทนแบบที่ดูสุขภาพดีเป็นอย่างมาก ดูมีประสบการณ์มาก

แต่เมื่อเขาเห็นเฉินโม่ ใบหน้าเด็ดเดี่ยวเผยความตกใจออกมา ทันใดนั้นความตกใจกลายเป็นใบหน้าเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ

เฉินโม่ก็ชะงักฝีเท้าลงเช่นกัน เขามองชายหนุ่มคนนั้นด้วยใบหน้านิ่ง