บทที่ 618 เพลงกระบี่สยบโลกา!

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 618 เพลงกระบี่สยบโลกา!

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เขาหันกลับมามองหน้าหลิงไท่ซวีและพูดว่า “อาจารย์ใหญ่ขอรับ เรื่องราวต่อจากนี้ ข้าน้อยขอสะสางต่อเอง”

“เจ้าเนี่ยนะ?”

หลิงไท่ซวีขมวดคิ้วด้วยความไม่มั่นใจ “เจ้าจะทำได้หรือ?”

หลินเป่ยเฉินพยักหน้า “ข้าน้อยจะพยายาม”

“ประเสริฐ แต่อย่าฝืนเกินไปก็แล้วกัน ถ้ารู้สึกว่าตกอยู่ในอันตรายเมื่อใด ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากข้าทันที เข้าใจหรือไม่?” หลิงไท่ซวีพูดด้วยความห่วงใย “หลินเป่ยเฉิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าในชีวิตนี้ ข้าไม่เคยต้องมาเป็นกำลังเสริมให้กับใครมาก่อน นอกจากเจ้าคนเดียวเท่านั้น”

ถึงแม้ชายชราจะไม่เต็มใจ แต่สุดท้าย หลิงไท่ซวีก็หมุนตัวเดินจากไปในที่สุด

บนหน้าผาหินขณะนี้ จึงหลงเหลือหลินเป่ยเฉินอยู่กับไป๋ชินหยุนเพียงลำพังเท่านั้น

“คิดว่าทำเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าหรือไง?”

ไป๋ชินหยุนยังคงมีดวงตาเป็นสีแดงก่ำ เสียงพูดเย็นชา ไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย

หลินเป่ยเฉินตอบรับกลับไปด้วยความจริงใจ “เจ้าอาจจะลืมเลือนไปอย่างหนึ่ง”

“คือสิ่งใด?”

ไป๋ชินหยุนถึงกับชะงักงัน

หลินเป่ยเฉินพูดว่า “ข้ายังเป็นหนี้เจ้าอยู่หนึ่งแสนเหรียญทองคำ หากเจ้าฆ่าข้าทิ้ง เจ้าก็ไม่มีวันได้เงินจำนวนนั้นกลับคืนอีกแล้ว”

“ไม่ใช่เลย”

ไป๋ชินหยุนส่งเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความตลกขบขัน “อย่าลืมสิว่าเจ้ามีศิลาบูชาจากเหมืองหินอยู่อีกตั้งเท่าไหร่ เมื่อเจ้าตายไปแล้ว ข้าก็จะได้ครอบครองศิลาเหล่านั้นแต่เพียงผู้เดียว”

“ให้ตายสิ”

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง “ปีศาจไร้การศึกษาอย่างเจ้า เหตุไฉนถึงได้มีนิสัยเดียวกับข้าเลยเนี่ย”

ไป๋ชินหยุนตอบว่า “คนโฉดย่อมเรียนรู้จากคนโฉดด้วยกัน บอกตามตรงเลยนะ นับตั้งแต่ที่ข้ามาอยู่ในโลกนี้และได้อยู่เคียงข้างเจ้า ข้าก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยล่ะ”

หลินเป่ยเฉินต้องยกมือขึ้นมานวดขมับตนเองด้วยความปวดหัวอีกครั้ง

นี่เขาควรจะภูมิใจดีไหมนะ?

สุดท้าย เด็กหนุ่มก็ถอนหายใจออกมา

และกลับมาพูดถึงประเด็นสำคัญของพวกเขาต่อจากเดิม

“ข้ามีเหตุผลให้ต้องไปที่นครเจาฮุย”

หลินเป่ยเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “มีหนทางใดบ้างไหมที่จะทำให้เจ้าไม่ต้องฆ่าข้า?”

ไป๋ชินหยุนนิ่งเงียบ

หลังจากนั้นเนิ่นนาน นางก็พูดออกมาอย่างแช่มช้า “อย่าบังคับข้า”

หลินเป่ยเฉินหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

เขาตัดสินใจโกหกเล็กน้อย

“ข้าสู้กับเจ้าไม่ได้หรอก”

หลินเป่ยเฉินมีน้ำเสียงจริงจังมากที่สุดในชีวิต “ข้าแค่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกระหว่างพวกเรา พูดตามตรง ข้ายังคงมีไพ่ตายที่เอาไว้ใช้ต่อสู้กับเจ้าได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิชาฝ่ามือลำแสงพิฆาต หรือการยืมพลังศักดิ์สิทธิ์จากเทพีกระบี่ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นใคร เจ้าคิดหรือว่าเทพีกระบี่จะนั่งมองผู้ที่ถูกเลือกของตนเองโดนปีศาจฆ่าตายง่ายๆ เช่นนั้น?”

“ถ้าไม่ลอง แล้วจะรู้ได้อย่างไร”

ดวงตาที่เป็นสีแดงก่ำของไป๋ชินหยุนพลันกลับกลายเป็นเหมือนมีเปลวไฟร้อนแรงพุ่งออกมา…

ปีกกระบี่บนแผ่นหลังหลินเป่ยเฉินกางออกกว้างเต็มความยาวกว่าสิบวา ขนบนปีกที่เป็นใบมีดแหลมคมสะท้อนประกายแวววาว ขณะนี้ หลินเป่ยเฉินมีภาพลักษณ์สูงส่งและสง่างามไม่ต่างไปจากเทพเจ้าแห่งแสงสว่างตัวจริง

พลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างช้าๆ

เด็กหนุ่มถือกระบี่สายฟ้าอยู่ในมือขวา

มือซ้ายถือปืนไรเฟิล 98k

ส่วนปืนยิงจรวด Type 69 นั้นมีอานุภาพการทำลายล้างรุนแรงมากเกินไป สภาพร่างกายในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉินยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะใช้งานมันได้

แอป NetEase Cloud Music ถูกเปิดใช้งาน

เพลงกระบี่ไร้เทียมทานถูกเล่นออกมาในโหมดหูฟัง ทำให้มีแต่หลินเป่ยเฉินคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน

เด็กหนุ่มไม่ลืมใช้วิชาโลหิตกระชากวิญญาณด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนี้คือไพ่ตายที่เขามีอยู่ในมือ

นั่นทำให้พลังการต่อสู้ในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉินพุ่งขึ้นสูงเทียบเท่ากับยอดปรมาจารย์ตอนกลาง

“ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมเยอะเลยนะ”

ไป๋ชินหยุนเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ

ก่อนที่ร่างของนางจะลอยขึ้นไปในอากาศ

บนแผ่นหลังของเด็กสาวก็มีปีกสีแดงสดงอกออกมาเช่นกัน

“ข้าเองก็ไม่อยากฆ่าเจ้า แต่การตัดสินใจของเจ้าทำให้ข้าผิดหวัง”

น้ำเสียงของไป๋ชินหยุนเย็นชาและเข้มขรึม

“ข้าก็เป็นความหวังของเผ่าพันธ์ข้าเช่นกัน มีผู้คนมากมายต้องเสียชีวิตเพื่อส่งข้ามาอยู่ในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้น ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับฟังคำแนะนำจากข้า หลินเป่ยเฉิน ข้าก็มีหน้าที่ต้องฆ่าเจ้าให้ได้”

แล้วบรรยากาศที่น่าสยองขวัญก็แผ่ปกคลุมโลกทั้งใบอีกครั้ง

ครืน!

พื้นดินบนยอดหน้าผาใต้เท้าหลินเป่ยเฉินถึงกับสั่นสะเทือน

ก้อนหินบางส่วนพังถล่มทลายลงไปจากหน้าผา ได้ยินเสียงสายน้ำไหลหลากอยู่ห่างไกลออกไป มวลอากาศบนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวน ราวกับว่าพื้นดินกำลังจะถล่มและผืนฟ้ากำลังจะทลายในอีกไม่ช้า

กระบี่สีแดงเพลิงเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของไป๋ชินหยุน

“เพลงกระบี่สยบโลกา!”

ไป๋ชินหยุนคำรามชื่อกระบวนท่าที่ตนเองกำลังจะใช้ออกมาด้วยเสียงก้องกังวานปานมังกรคำรณ ต่อจากนั้น เด็กสาวก็ตวัดกระบี่ในมือจากข้างบนลงข้างล่าง

หลินเป่ยเฉินไม่มีเวลาคิดสิ่งอื่นใดอีกแล้ว เขากระพือปีกบนแผ่นหลัง และฉากหลบการโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด

ขณะนี้ ปีกกระบี่ของเขากำลังแผดแสงสว่างเจิดจ้าชวนให้ผู้คนรู้สึกแสบตา

หลินเป่ยเฉินเคลื่อนไหวเป็นเพียงเงาเลือนรางในอากาศ เพียงพริบตาเดียว เขาก็ปรากฏตัวอยู่ห่างออกไปไกลถึงครึ่งลี้

ในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงกระบี่สีแดงเข้มก็ตามติดมาไม่ห่างกาย ลำแสงกระบี่เหล่านั้นผ่ายอดเขาข้างทางแตกแยกออกจากกันเป็นสองส่วน

แม้ลำแสงกระบี่จะหายไปแล้ว แต่แรงสั่นสะเทือนที่ภูเขาด้านล่างยังคงอยู่

บนหน้าผาหินที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวยืนคุยกันอยู่เมื่อสักครู่ ถูกแบ่งแยกออกเป็นสองฝั่งเช่นกัน คือฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก

ส่วนพื้นผิวของหน้าผาตรงบริเวณที่ถูกตัดผ่ากลางนั้นมีความเรียบลื่นราวกับกระจกแก้ว

นี่คือการตัดยอดเขาด้วยกระบี่เดียวที่แท้จริง

หลินเป่ยเฉินเห็นดังนั้นหัวใจก็แทบกระดอนออกมาอยู่นอกหน้าอก

แข็งแกร่งเหลือเกิน!

นี่หรือคือพลังปีศาจที่แท้จริง?

พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ สามารถทำลายล้างโลกได้ทั้งใบไม่ยากเลย

เด็กหนุ่มกระชับปืนไรเฟิล 98k ในมือซ้าย และเหนี่ยวไกยิงโดยไม่ต้องเล็ง

ฟิ้ว!

กระสุนลำแสงพุ่งออกไปจากที่เก็บเสียงปลายกระบอกปืน

วูบ!

ไป๋ชินหยุนคุกเข่าลงบนพื้นดิน และตวัดกระบี่ในมือขึ้นมาปัดป้องกระสุนลำแสงได้อย่างแม่นยำ เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น พลังลมปราณของนางก็สามารถสลายการโจมตีจากกระสุนลำแสงได้หมดสิ้น

มวลพลังแผ่ออกไปรอบบริเวณ

รอบกายเด็กสาวก่อเกิดเป็นคลื่นพลังสีแดงเข้ม

ยิ่งทำให้ไป๋ชินหยุนดูมีสง่าราศีน่าเกรงขามมากกว่าเดิม

แต่เมื่อเผชิญหน้าแรงกระแทกจากกระสุนปืน 98k ตัวของไป๋ชินหยุนก็ถึงกับไถลไปด้านหลังไกลสามถึงสี่วา

ไม่ต่างจากที่หลินเป่ยเฉินคาดการณ์ไว้สักเท่าไหร่

นั่นหมายความว่าปืนไรเฟิล 98k ไม่มีอานุภาพรุนแรงมากพอที่จะทำอันตรายปีศาจร้ายในระดับไป๋ชินหยุนได้สำเร็จ แต่แน่นอนว่าหากนางไม่ได้ยกกระบี่ขึ้นมาปัดป้องกระสุนได้ทันเวลา การโจมตีในครั้งนี้ ก็คงสร้างความเสียหายให้กับเด็กสาวได้มากกว่าที่เป็นอยู่