ตอนที่ 557 ป่าวประกาศให้โลกรู้ + ตอนที่ 558 คุณลุงใหญ่ไปไหน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 557 ป่าวประกาศให้โลกรู้ + ตอนที่ 558 คุณลุงใหญ่ไปไหน โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 557 ป่าวประกาศให้โลกรู้

เหล่าลูกพี่ลูกน้องตระกูลจ้าวต่างกระตือรือร้นอย่างมาก ไม่นานก็ช่วยสลายความกังวลของเหมยเหมยทั้งหมด หลังได้พูดคุยกับพวกพี่ๆ ไม่กี่ประโยคก็พอเข้าใจนิสัยแต่ละคนคร่าวๆ แล้ว

พี่ชายคนโตกับพี่ชายคนรองนิสัยคล้ายกับคุณพ่อพวกเขาที่ต่างเป็นคนไม่ชอบพูดชอบจา อีกทั้งอายุห่างจากเหมยเหมยเกินไป แค่คุยกับเธอสั้นๆ ไม่กี่ประโยคไม่มากไปกว่านั้น

แต่ความอบอุ่นจากสายตาพวกเขาพอดูออกว่าพวกเขาทั้งคู่ชื่นชอบเหมยเหมยจากใจจริง แค่ไม่ถนัดพูดเท่านั้น

พี่สามจ้าวเสวียเอ๋อร์ผู้มีหน้าตาไม่เหมือนคนตระกูลจ้าวมากที่สุด รูปร่างสูงโปร่งหน้าตาดูดีสะอาด กลับเหมือนคุณชายเจ้าสำอางมากกว่า

จ้าวเสวียเอ๋อร์หน้าตาเสมือนคุณแม่ของเขาอันหย่าฟางที่บุคลิกเรียบร้อย อีกทั้งยังเลือกเส้นทางชีวิตที่ต่างไปจากพี่คนโตกับพี่คนรอง เขาไม่ได้ร่วมเกณฑ์ทหาร ตอนนี้กำลังศึกษาคณะบัญชีภาคการเงินที่มหาวิทยาลัยในเมืองหลวง

พี่สี่กับพี่ห้ากลับเป็นคู่หูตลกประจำบ้านที่เฮฮาตลอดเวลา เนื่องด้วยอายุที่ใกล้เคียงกับเหมยเหมย ไม่นานก็คุยกันอย่างออกรส

สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวเห็นลูกสาวที่เข้ากับเหล่าพี่ชายลูกพี่ลูกน้องได้เป็นอย่างดีก็อดโล่งใจไม่ได้ เดิมทีพวกเขายังกังวลว่าลูกสาวจะไม่ชินเสียอีก!

“หลานสาวกลับบ้านเป็นเรื่องดี ต้องจัดโต๊ะเลี้ยงฉลอง ฉันจะบอกคนทั่วทั้งเมืองหลวงว่าหลานสาวของฉันจ้าวหวายซานกลับบ้านแล้ว”

ท่านผู้เฒ่าจ้าวให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก เหยียนซินหย่ามองไปยังพ่อสามีอย่างนึกขอบคุณ เธอรู้ว่าเหตุใดท่านผู้เฒ่าถึงทำเช่นนี้!

เหมยเหมยไม่เคยปรากฏตัวมาเลยตลอดสิบสองปี การโผล่ตัวมากะทันหันย่อมมีคนไม่เชื่อ เมืองหลวงเป็นดินแดนแห่งผลประโยชน์และมีผู้หวังผลประโยชน์เสมอ จู่ๆ คนหน้าใหม่อย่างเหมยเหมยก็ปรากฏตัวขึ้นมาในแวดวงนี้จะต้องถูกเพิกเฉยอย่างแน่นอน

หากท่านผู้เฒ่าประกาศให้โลกรู้ถึงสถานะของเหมยเหมยด้วยตัวเอง เรื่องจะกลับตาลปัตร

สถานะของเหมยเหมยเท่ากับเลือกเดินทางสว่าง หลานสาวแท้ๆ ของจ้าวหวายซาน ใครเล่าจะกล้าไม่ให้ความเคารพ!

“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ!” เหยียนซินหย่ากล่าวขอบคุณด้วยใจจริง

ท่านผู้เฒ่าโบกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจ “ขอบคุณอะไร เหมยเหมยเป็นหลานสาวแท้ๆ ของฉันเชียวนะ สถานะต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว”

ฮูหยินผู้เฒ่ากับลูกสะใภ้สองคนยกจานอาหารหลากหลายที่มีตั้งแต่สัตว์ปีก สัตว์เนื้อ ยันสัตว์น้ำมาอย่างเพียบพร้อม

“รีบทานเถอะ ทานข้าวเสร็จค่อยคุยกัน ยังมีเวลาอีกยาวนาน” หานซู่ฉินพูดยิ้มๆ

ทุกคนประจำที่นั่งโดยที่ฮูหยินผู้เฒ่าโอบเหมยเหมยมาข้างกาย จ้าวอิงหัวช้าไปหนึ่งก้าวได้แต่กลับไปนั่งที่ตัวเองอย่างผิดหวัง เดิมทีเขาอยากจะแกะกุ้งให้ลูกสาวสักหน่อยเชียว!

“แม่ครับ เหมยเหมยชอบทานกุ้ง กุ้งจานนี้วางไว้ที่ฝั่งแม่แล้วกัน”

จ้าวอิงหัวยกกุ้งจานโตมาแต่เหมยเหมยรีบดันกลับมา “พ่อคะ หนูคีบทานเองได้ ไม่ต้องวางไว้ตรงหน้าหนูหรอก”

การวางไว้ตรงหน้าแล้วทานแบบนี้ช่างเสียมารยาทจริงๆ พ่อของเธอกระตือรือร้นเกินไป เธอไม่อยากให้คนตระกูลจ้าวรู้สึกว่าเธอเป็นเด็กไร้มารยาท

ฮูหยินผู้เฒ่ายกจานกุ้งมาด้วยรอยยิ้ม “คนบ้านเดียวกันจะเกรงใจกันทำไม เหมยเหมยชอบทานก็ทานเยอะๆ ย่าจะแกะให้หนูนะ”

“ขอบคุณค่ะคุณย่า แต่หนูแกะเองได้ค่ะ คุณย่าเองก็ทานนะคะ”

เหมยเหมยทำตัวไม่ถูกและไม่คุ้นชินกับความกระตือรือร้นแบบนี้เสียเลย ถูกสายตานับสิบคู่จับจ้อง ต่อให้เธออยากอาหารขนาดไหนก็ทานไม่ลงน่ะสิ!

ฮูหยินผู้เฒ่าน่าจะดูออกถึงความกังวลใจของเหมยเหมยเลยไม่ยืนกรานจะแกะกุ้งให้เธอ ให้เธอแกะทานเอง

“เหมยเหมยทานกุ้งจานนี้หมดแล้วตอนค่ำยังมีอีกนะ ทานหมดแล้วค่อยซื้อ อยากทานอะไรก็บอกย่าได้เลย”

เหมยเหมยปากเคี้ยวเนื้อกุ้งคำโตจนแก้มป่อง พยักหน้ารับไม่หยุด มองแล้วก็เหมือนเจ้ากระรอกตัวน้อยในอ้อมอกเธอไม่ต่างกันเลย

หลานสาวหน้าตาสวยงาม สัตว์เลี้ยงเองก็น่ารัก ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นแล้วรู้สึกพึงพอใจนัก หยิบน่องไก่ข้างหนึ่งเป็นรางวัลให้ฉิวฉิวที่ทำตาละห้อยอยู่ครู่ใหญ่

คุณชายฉิวดีใจจนพูดไม่ออก โค้งตัวขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเหมือนคนซื่อคนหนึ่ง ทำเอาคนทั้งบ้านหลุดขำเสียงดังไปไกลโพ้น

………………………….

ตอนที่ 558 คุณลุงใหญ่ไปไหน

พวกเหมยเหมยกลับมาถึงเมืองหลวงก็เป็นคืนก่อนปีใหม่ วันรุ่งขึ้นก็คือวันปีใหม่แล้ว แต่ละบ้านมัวแต่ยุ่งกับการติดคำกลอนคู่ แขวนโคมไฟ ห่อเกี๊ยวเพื่อเตรียมมื้ออาหารสำหรับการกลับมารวมตัวของคนในครอบครัว ตระกูลจ้าวเองก็ไม่ยกเว้น บรรยากาศยิ่งคึกคักอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเพราะการมาเยือนของเหมยเหมย

“เหมยเหมยชอบทานเกี๊ยวไส้อะไรเหรอ?” คุณป้าสะใภ้สอง หานซู่ฉินสับเนื้อไปถามไปพลาง

หานซู่ฉินดูท่าฝีมือทำอาหารจะไม่เลวเลย มีดสองเล่มถูกเธอจับหมุนควงเหมือนท่าเต้นรำที่ไม่เปิดช่องให้อากาศหรือน้ำได้หลุดเข้ามา เนื้อหมูสามชั้นขนาดเท่ากันบนเขียงไม่นานถูกสับเละเป็นเนื้อหมูสับละเอียด

“นอกจากไส้ยี่หร่าแล้วอย่างอื่นหนูทานได้หมดเลยค่ะ” เหมยเหมยที่กำลังช่วยฮูหยินผู้เฒ่าเด็ดผักกุยช่ายอยู่ตอบกลับอย่างน่าเอ็นดู

กลิ่นของยี่หร่าฉุนเกินไปทำให้เธอยากจะรับไหว ปกติเธอเลือกทานแต่รสชาติที่ออกจะค่อนไปทางจืดชืด ผักที่มีกลิ่นฉุนประเภทหัวหอม ผักชี ยี่หร่าเธอไม่ชอบทาน อย่างอื่นเธอทานได้หมด

“งั้นปีนี้บ้านเราไม่ห่อไส้ยี่หร่าแล้วกัน ห่อไส้ผักกาดขาวเนื้อหมูเยอะๆ ไส้ผักกุยช่ายกับไข่เองก็ด้วย ผสมกับเปลือกกุ้งสักหน่อย ให้มีรสชาติสดใหม่!” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวเสียงเด็ดขาด

“ได้ค่ะ ทำตามที่แม่พูดทุกอย่างเลย แม่เป็นแม่ทัพสามทัพของบ้านเราเชียว”

หานซู่ฉินสมกับทำงานอยู่ฝ่ายวางแผนนโยบาย เพียงไม่กี่คำก็กระตุ้นบรรยากาศให้สดใส ห้องครัวบ้านตระกูลจ้าวไม่ขาดเสียงหัวเราะอีกเลย เหล่าผู้ชายที่กำลังคุยเรื่องงานอยู่ห้องโถงเองก็นั่งยิ้ม

บ้านที่มีเจ้าหญิงตัวน้อยเพิ่มมาอีกคนมันต่างไปจากเดิมจริงๆ รู้สึกได้ว่าอากาศก็ยังอบอวลด้วยกลิ่นหอมหวาน!

“เจ้าสาม คนตระกูลอู่นั่นแกคิดจะจัดการยังไง?” จ้าวอิงสยงเอ่ยปากถาม

จ้าวอิงหัวหน้าเรียบนิ่งดั่งน้ำแข็ง ตอบกลับเสียงเย็นชา “ผมได้แจ้งทางตำรวจเมืองจินไว้แล้ว หลังปีใหม่ก็จะจัดการอู่เจิ้งซือ ส่วนผู้หญิงคนนั้นเหมยเหมยได้แก้แค้นไปแล้ว ต่อให้ผมไม่จัดการ ชีวิตของเหอปี้อวิ๋นก็ไม่สงบสุขได้หรอก”

“เกิดอะไรขึ้น? เหมยเหมยทำอะไร?” เหล่าผู้ชายตระกูลจ้าวให้ความสนใจไม่หยอก

จ้าวอิงหัวเลือกช่วงสำคัญของวิธีที่เหมยเหมยใช้จัดการสองแม่ลูกเหอปี้อวิ๋นเล่าให้ฟัง แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เขาวิเคราะห์ได้ซึ่งเหมยเหมยไม่มีทางยอมรับสิ่งที่เขาคิด เพราะเธอจะเป็นเจ้าหญิงน้อยแสนหวานของเธอต่อไป!

“ใช้พลังของเสียงวิพากษ์ วิธีนี้เหมยเหมยใช้ได้เจ๋งมาก สมกับเป็นหลานสาวของฉัน ไม่เลว ไม่เลว!”

ท่านผู้เฒ่าจ้าวออกปากชมไม่ขาดสาย เริ่มแรกเขายังกังวลว่าหลานสาวที่หน้าตาคล้ายตุ๊กตาล้มลุกจะอ่อนแอเกินไปจนต้านทานลมฟ้าอากาศไม่ได้ ตอนนี้ดูท่าว่าสมแล้วที่บนตัวเหมยเหมยมีเลือดตระกูลจ้าวหมุนเวียนอยู่ ต่อให้ถูกเหยียบย่ำลงโคลนตมก็จะอาศัยเรี่ยวแรงตัวเองปล่อยแสงสว่างให้เฉิดฉาย

คนอื่นเองก็ชื่นชมเหมยเหมยเช่นกัน แม้จะตกใจที่เหมยเหมยมีมุมที่ไม่เปิดเผยแบบนี้ แต่พวกเขายิ่งชอบน้องสาวลูกพี่ลูกน้องคนนี้มากกว่าเดิม เทียบกับตุ๊กตาล้มลุกที่แตกสลายได้ง่ายๆ อย่างนั้นพวกเขาชอบดอกกุหลาบแสนงามที่มีหนามแหลมมากกว่า

ในเมื่อตระกูลจ้าวตั้งอยู่ใจกลางวังวนแห่งผลประโยชน์อยู่แล้ว หากไม่ยิ่งใหญ่ด้วยตัวเองไม่นานจะถูกกลืนเข้าไปในวังวนนี้ ก่อนจะถูกทำร้ายอย่างไม่อาจคาดการณ์ได้

ต่อให้เธอเป็นเจ้าหญิงของตระกูลจ้าวเองก็ไม่มียกเว้น!

มีแสงออร่ารอบตัวมากเท่าไรยิ่งมีคนต้องการทำลายเธอมากเท่านั้น พวกเขาทุกคนล้วนเคยผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้ว!

“เจ้าสามแกมีแผนในใจก็พอ สรุปแค่ข้อเดียว ใครไม่ดีกับหลานสาวฉัน ใครคนนั้นก็อย่าหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตสงบสุขเลย ไม่ถึงกับต้องโทษประหารชีวิตก็ได้ แต่โทษอย่างอื่นคงหนีไม่พ้น!”

ประโยคเดียวของท่านผู้เฒ่าจ้าวก็ตัดสินชะตาชีวิตของคนตระกูลอู่ทั้งหมด สายตาท่านผู้เฒ่าฉายแววเยือกเย็นปนดุดัน จ้าวอิงหัวรับคำไว้อย่างนอบน้อม ไม่ต้องรอท่านผู้เฒ่าสั่งการเขาเองก็ไม่มีทางปล่อยคนพวกนั้นไปอยู่แล้ว

เหมยเหมยที่อยู่ในครัวกลับฉงนใจอย่างมาก เธออยากถามตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่เหยียนซินหย่างานยุ่งนับแต่หลังกลับมา เธอถึงไม่มีโอกาสถามสักที วันนี้ได้ยินฮูหยินผู้เฒ่าพูดตลอดว่าลูกสะใภ้เจ้าสองกับลูกสะใภ้เจ้าสาม เธอยิ่งทวีความสงสัย ทั้งที่สะใภ้เจ้าสามไม่ใช่แม่ของเธอหรอกหรือ?

ทำไมอันหย่าฟางก็เป็นสะใภ้สามเหมือนกันล่ะ?

แล้วคุณลุงใหญ่ที่บ้านไปไหนแล้ว?

……………………