GGS:บทที่ 824 หาเรื่อง
งานเลี้ยงวันเกิดก็ยังดำเนินต่อไป และบรรยากาศยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
หลายๆคนยังคงเข้าไปอวยพรวันเกิดผู้ว่าการหู่อยู่เนืองๆไม่เว้นแม้ซุนหยูเฮงที่เดินเข้าไปอวยพรด้วยเช่นกัน
ถึงแม้เขาจะถือได้ว่าเป็นคนจากเมืองหลวงที่พอมีอำนาจอยู่บ้าง แต่ยังไงซะเขานั้นก็ยังสู้ผู้ว่าการจังหวัดไม่ได้อยู่ดี
เอาจริงๆไม่ใช่แค่ตระกูลซุน แม้แต่สี่ตระกูลใหญ่จากเมืองหลวงอย่างตระกูลหวังและตระกูลอื่นก็ไม่ต่างกัน
ฉะนั้นหากซุนหยูเฮงต้องการมาขยายฐานอำนาจของตัวเองที่นี่ยังไงซะเขาก็ต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหู่ซิงหมิง
แต่ด้วยการที่ซูจิ้งไม่ได้มีท่าทีจะเข้าหาผู้ว่าการหู่แม้แต่น้อยทำให้เตียนจงยี่เริ่มเป็นกังวล
ซูจิ้งนั้นถึงแม้เขาจะสร้างฉากอลังการงานสร้างให้กับคนในงานมากมายไปแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังคลายกังวลไม่ได้อยู่ดี แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
เพราะเขาก็ยังเชื่อว่าต่อให้ซูจิ้งไม่สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่าฯไว้ก็จริงแต่จากท่าทางของซูจิ้งที่ดูยังสุขุมและยังดูนิ่งเฉย แม้แต่หวังซือหยาที่ท่าทางไม่ต่างกัน สมควรที่เขาเตรียมแผนการอะไรไว้บางอย่างแล้ว
หลังจากผ่านไปซักพัก บรรยากาศในงานตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป
ซุนหยูเฮงแสดงรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าและได้พาผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเดรสสีน้ำเงินครามออมา
ทันที่เห็นผู้หญิงคนนั้นทุกคนต่างก็ประหลาดใจ บางคนยังแสดงท่าทียินดีออกมาเล็กน้อย แม้แต่ซูจิ้งเองก็ยังอึ้งจนนิ่งไปพลางคิดว่าทำไมหลินฉีหยูถึงมาที่นี่ได้
ซุนหยูเฮงได้เดินพาหลินฉีหยูมายังหู่ซิงหมิงและพูดว่า “ผู้ว่าการหู่นี่เพื่อนของผมที่เป็นนักแต่งเพลงครับ”
“สบายดีไหมคะท่านผู้ว่าการหู่ ขอให้มีความสุขและอายุยืนนานค่ะ” หลินฉีหยูกล่าวอวยพรพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณมาก” หู่ซิงหมิงพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“ขอโทษนะคะที่อาจจะช้าไปหน่อยแต่ว่าฉันได้แต่งเพลงมาร้องที่นี่เพื่อเป็นการฉลองวันเกิดให้ท่านผู้ว่าการ” หลินฉีหยูพูดออกมาพร้อมยิ้มอย่างอ่อนหวาน
“โอ้ งั้นฉันจะตั้งใจฟังเลย” หู่ซิงหมิงหัวเราะออกมา พลางคิดไปว่าการที่คนอย่างหลินฉีหยูนั้นมาร้องเพลงในงานเขาแบบนี้มันเหมือนกับเขาได้กลายเป็นเด็กๆไปเลย
เมื่อซุนหยูเฮงได้เห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของหู่ซิงหมิงทำให้สายตาของเขาเป็นประกาย
เขานั้นได้เชิญหลินฉีหยูมาเพื่อเรียกความโปรดปรานโดยเฉพาะ นี่เป็นแผนสองที่เขาได้เตรียมเอาไว้เพื่อการนำหัวใจพระสูตรและพระพุทธมามอบให้แล้วไม่ได้ผล
ตอนแรกเธอเองนั้นก็เหมือนจะไม่มาแล้วแต่เขาก็ได้ให้คนของเขาพยายามดูอีกครั้งก็ไม่คิดเหมือนกันว่าว่าเธอจะมาจริงๆ เพราะต่อให้เขานั้นมีสายสัมพันธ์กับเธอดีขนาดไหนก็ตาม แต่เวลาว่างของเธอช่างน้อยนิดทำให้เขาเองก็หวั่นใจไม่น้อยก่อนหน้านี้ว่าเธอจะไม่มา
หลินฉีหยูได้ก้าวขึ้นบนเวทีและหลังจากนั้นเสียงดนตรีก็ได้บรรเลงออกมา
เธอหยิบไมโครโฟนและก็ได้เปล่งเสียงอันหวานเยิ้ม และน่าหลงไหลออกมาว่า “ฉันขออวยพรสุขสันต์วันเกิดให้กับท่านผู้ว่าฯและมีความสุขในทักวันเกิดนะคะ ในทุกปีในวันนี้ขอให้ทุกปีมีแต่สิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นตลอดไป…”
ดารามากมายนั้นส่วนใหญ่นั้นจะไม่ได้มุ่งเน้นไปในงานวงการบันเทิงในลักษณะเดียว
เช่นเดียวกัน หลินฉีหยูถึงแม้เธอนั้นจะเป็นนักแสดงก็จริง แต่เธอเองก็มีผลงานเพลงทั้งการแต่งเพลงและร้องเพลงอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
การที่อยู่ๆเธอมาร้องเพลงอวยพรวันเกิดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเธอ ต้องบอกว่าดูคล่องแคล่วกว่าการแสดงซะด้วยซ้ำ
หลังจากเพลงหนึ่งจบลง เหล่าผู้รับฟังต่างก็ได้รับความรู้สึกอบอุ่นผ่านบทเพลงแม้แต่หู่ซิงหมิงก็ยังตบมือให้เธอด้วยสายตาที่เปี่ยมสุข
นี่เป็นการบอกได้อย่างดีว่าของขวัญของซุนหยูเฮงสามารถชนะใจหู่ซิงหมิงได้เป็นอย่างดี
เมื่อเทียบกับของขวัญที่ซูจิ้งนำมาก่อนหน้านี้แล้วตัวเขานั้นไม่มีทางเทียบได้เลย แต่ตอนนี้อย่างน้อยๆเขาก็ยิ้มออกได้ซักที
หลังจากที่เพลงจบลงไป หลินฉีหยูเองก็ยังไม่ได้เดินจากไปไหนแต่ยังคงยืนอยู่ข้างๆซุนหยูเฮงจนเหมือนกับเป็นเพื่อนสาวของเขาไปจนทำให้คนอื่นๆเริ่มที่จะซุบซิบนินท่ากันด้วยความอิจฉาจากเหล่าชายที่ร่ำรวยและมีอำนาจคนอื่น
คนพวกนี้ไม่เคยถือว่าดาราเป็นหญิงสาวสามัญชนคนธรรมดา มีเพียงบางคนเท่านั้นที่เคยมีโอกาสใกล้ชิดดาราอยู่บ้าง แต่สำหรับหลินฉีหยูแล้วถือได้ว่าเป็นดาราคนละระดับกับดาราทั่วไป
ด้วยการที่เธอมีความสวยงามมากซะจนไม่ว่าชายใดก็ตามก็อดที่จะหาโอกาสชิดใกล้ไม่ได้ ประดุจดั่งชายงามที่หลงไหลในเทพธิดาก็ไม่ปาน
หวู่ฉิงติงเองก็ยังต้องยอมรับซุนหยูเฮงในเรื่องนี้และพยายามจะเข้าหาซุนหยูเฮงไม่น้อย แต่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเขาต้องการเข้าหาเพราะต้องการสร้างสัมพันธ์กับซุนหยูเฮงจริงๆหรือต้องการเข้าหาหลินฉีหยูกันแน่
แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ภรรยาของเขาเองก็ค่อนข้างจะหวงเขาไม่น้อยและไม่ยอมอยู่ห่างเขาแน่นอนว่าเขานั้นไม่มีโอกาสสร้างความประทับใจกับเธอได้เลย
“คุณซู คุณอยู่นี่ด้วยหรอ” หลินฉีหยูตกใจทันทีที่เห็นซูจิ้ง
“ใช่แล้ว นี่เธอเห็นฉันด้วยหรอเนี่ย” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ฮิฮิ ฉันขอโทษจริงๆ ช่วงนี้สงสัยสายตาไม่ค่อยดีน่ะ” หลินฉีหยูเองก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย
ความจริงนั้นหลินฉีหยูเองก็ดูดีไม่น้อยและมีรอยยิ้มที่แสนอ่อนหวานอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีเท่าฉือชิง มู่หรงเซียนเอ๋อ หรือแม้แต่หวังซือหยาก็ตาม แต่อย่างน้อยเธอในชุดนี้ก็ดูมีเสน่ห์จนเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
เมื่อซุนหยูเฮงเห็นหลินฉีหยูคุยหัวเราะต่อกระซิกกับซูจิ้งทำให้เขานั้นจ้องมองจนคิ้วขมวดและทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไป
เขานั้นพยายามแทบตายกว่าจะยอมให้หลินฉีหยูมาที่นี่ แต่กับซูจิ้งเหมือนแค่เจอหน้าเธอก็ยอมไปหาแล้ว
แม้แต่หวู่ฉิงติงเมื่อเห็นแบบนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะแสดงอาการอิจฉาออกมาเสียไม่ได้
พอเขาคิดดูดีๆแล้ว ซูจิ้งนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับหลายตระกูลผ่านหวังซือหยา มู่หรงเซียนเอ๋อ และเว่ยเสี่ยวหยวน และยังมีสาวงามอย่างฉือชิงอยู่ข้างกาย แถมภรรยาเก่าของเขาอย่างเฉิงหนานยังไปผู้ช่วยของซูจิ้ง
ไอ้หมอนี่จะโชคดีเกินไปแล้ว ทำไมกัน
“โอ้ เฉิงหนาน เธอเองก็อยู่นี่ด้วยเหรอ” ภรรยาของหวู่ฉิงติงชื่อว่าหยิงติงได้ส่งเสียงเรียกเล็กสูงออกมา ทำเหมือนกับว่าเพิ่งจะสังเกตเห็นเฉิงหนาน
เธอในตอนนี้อยู่ในชุดที่โชว์อกเล็กน้อยอยู่แล้ว เธอพูดออกมาในขณะที่เชิดคางก่อนจะจ้องไปยังซูจิ้งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงถากถางออกมาว่า “หมอนี่คือแฟนของเธองั้นหรอ”
ใบหน้าของเฉิงหนานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอและซูจิ้งเองก็เป็นเพียงแค่คนที่ร่วมมือกันทางธุรกิจเท่านั้น
แต่นังผู้หญิงไม่รู้จักดูสี่ดูห้าอยู่ๆก็พูดออกมาแบบนี้พยายามทำเหมือนจะถากถางเธอแน่นอนแล้ว ถ้าหากมีคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาได้ยินแบบนี้พวกเขาจะคิดยังไงกัน ต่อให้ไม่มีอะไรกันจริงๆแต่ยังไงซะโลกนี้ก็ยังเรื่องซุบซิบนินทาที่ทำลายคนได้
แต่เฉิงหนานเองก็ได้เตรียมพร้อมกับเรื่องแบบนี้ไว้อยู่บ้างแล้วจึงตอกกลับไปว่า “แฟนของคุณซูออกจะสวยขนาดนั้น แล้วเขาจะมาแลฉันทำไมกัน”
“จริงสินะ” หยิงติงนั้นหัวเราะออกมาดังๆเหมือนพอใจที่ถากถางสำเร็จ
“โอ้โอ้ พี่สาวเฉิงหนานเองสวยจะตายไป สวยจนมีคนมาคอยรอจีบเป็นหางว่าวขนาดนั้นแล้วเธอจะมาแลฉันได้ยังไงกัน” ซูจิ้งจ้องมองไปยังหยิงติงก่อนที่จะพูดออกมา
“หืม อธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิมีเรื่องอะไรกัน” ซุนหยูเฮงได้มองไปเฉิงหนานก่อนที่จะถามออกมา
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก คนนี้คือภรรยาเก่าของฉิงติง ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เธอหย่ากับเขา” หยิงติงได้พูดไปพลางหยิบดอกกล้วยไม้มาเล่นที่นิ้ว เมื่อเห็นเฉิงหนานมีสีหน้าแย่ลง เธอเองก็ดูมีความสุขมากขึ้น
เฉิงหนานมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก การที่ได้เจอคนเยี่ยงนี้ไม่ว่าใครเจอก็ยากที่จะทำสีหน้าอารมณ์ดีอยู่ได้ ยิ่งโดยเฉพาะกับการที่เธอต้องเผชิญหน้าทั้งสามีเก่าและภรรยาใหม่ของสามีพร้อมกันแบบนี้
ซูจิ้งและหวังซือหยาเองก็จ้องไปด้วยใบหน้าที่เอาเรื่อง พวกเขาเตรียมตัวสวนกลับแล้ว
ทันใดนั้นหลินฉีหยูเองก็ได้ยืนขึ้นเพื่อพยายคลีคลายสถานการณ์เธอจึงพูดออกมาว่า “สวัสดีค่ะคุณเฉิง คุณหวัง”
“สวัสดีค่ะคุณหลิน” เฉิงหนานและหวังซือหยาพยกัหน้าทักทาย
“คุณซู ยาของคุณที่ช่วยป้าของฉันจากโลกไข้เย็นในตอนนั้น และยังช่วยทำให้เธอตั้งครรภ์ได้อีกต้องขอบคุณคุณจริงๆ ฉันเองก็อยากจะขอดื่มให้คุณซักหน่อยค่ะ”
หลินฉีหยูได้พยายามเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาพร้อมกับรินไวน์ลงไปแก้วสองแก้ว แก้วหนึ่งยื่นให้ซูจิ้ง
เธอเองนั้นก็ยกย่องซูจิ้งไม่ใช่น้อยเพราะเขาทำให้ป้าของเธอไม่ต้องกลัวความเย็นและยังตั้งท้องมีลูกได้อีกโดยไม่ต้องกังวลอะไรในชีวิตแล้ว
สิ้นคำของหลินฉีหยู เตียนจงยี่ ซุนหยูเฮง และคนอื่นๆรู้สึกได้เลยว่าท่าทีของหยิงติงเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
เธอเองก็ไม่ได้สนใจฟังคำพูดของหลินฉีหยูซักเท่าไหร่ แต่เพียงเธอได้ยินคำว่าป้าของเธอตั้งครรภ์เท่านั้น นั่นทำให้เธอหูผึ่งในทันที เธอรีบถามออกมาว่า “คุณหลินเมื่อกี๊คุณว่ายังไงนะ คุณบอกว่าไอ้บ้านี่ทำอะไรนะ”
“อ่อ ก็แค่ยาของคุณซูช่วยรักษาอาการมีบุตรยากเท่านั้นเอง” หลินฉีหยูไม่ชอบหน้าหยิงติงอยู่แล้ว
นอกจากเธอคนนี้จะไม่ไว้หน้าเธอแล้วยังกล้ามารังแกเฉิงหนานต่อหน้าเธออีก
แต่เธอเองก็รู้สึกเหมือนคำพูดเธอไปเตะจุดอ่อนอะไรบางอย่างของผู้หญิงคนนี้ เธอเลยเลือกที่จะตอบแบบตรงๆ