ตอนที่ 2166 ไม่ได้เจอกันนาน (5

Genius Doctor Black Belly Miss

)
  “ไม่ใช่ว่าข้าให้เจ้าทำ แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่เจ้าทำได้” ซูจิ่งเหยียนขมวดคิ้ว ถ้าทำได้ เขาก็ไม่อยากให้จวินอู๋เสียเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ สถานการณ์ตอนนี้มันซับซ้อนเกินกว่าที่จวินอู๋เสียจะเข้ามายุ่งเกี่ยวได้
  “ข้าบอกเจ้าได้เลยว่า ต่อให้เจ้าใช้ทุกวิถีทางเพื่อช่วยซูหย่า เจ้าก็ไม่สามารถรอดชีวิตออกไปจากภูเขาฝูเหยาได้ ซูหย่าถูกกำหนดให้ตายที่นี่ ที่จับซูหย่าก็เพื่อบังคับให้อาจารย์ของนางปรากฏตัว ที่นี่ได้เตรียมแหฟ้าตาข่ายดินไว้พร้อมแล้ว ซูหย่าคือเหยื่อล่อ ที่เจ้าแอบเข้ามาในนี้ได้โดยไม่ถูกพบก็เพราะเจ้ายังหาซูหย่าไม่เจอ เมื่อไรก็ตามที่เจ้าหาซูหย่าเจอ ที่นั่นถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนา จวินเสีย ข้ารู้ว่าเจ้าเก่ง แต่เจ้าสู้กับผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีทองได้กี่คน?” ซูจิ่งเหยียนเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่จวินอู๋เสีย
  “พลังวิญญาณสีทอง จริงๆด้วย……คนที่จับซูหย่าก็คือคนของอาณาจักรบน” สีหน้าของจวินอู๋เสียเปลี่ยนไปทันที
  ซูจิ่งเหยียนตะลึงงัน เจตนาสังหารที่จวินอู๋เสียปล่อยออกมานั้นเข้มข้นและรุนแรง สีหน้าที่แสดงออกมาก็กระหายที่จะฆ่า แต่ในเสี้ยววินาที……ทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบนิ่งได้อย่างไร?
  หรือว่า…… novel-lucky
  ที่นางทำเมื่อกี้นี้ล้วนเป็นการเสแสร้งทั้งหมด?
  ซูจิ่งเหยียนรู้สึกว่าเขาถูกจวินอู๋เสียหลอกล่อและได้พูดบางอย่างที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว
  “เจ้าพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ” ซูจิ่งเหยียนหลบตาและแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
  จวินอู๋เสียไม่คิดจะปล่อยให้เขาทำเบลอผ่านไปง่ายๆ
  “ในอาณาจักรกลางมีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีทองแค่หยิบมือ เก้าคนที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือประมุขทั้งเก้าของเก้าอาราม นอกจากเก้าคนนี้ ทั่วทั้งอาณาจักรกลาง คนอื่นที่บรรลุขั้นพลังวิญญาณสีทองล้วนเป็นยอดฝีมือที่ถือสันโดษ ตอนนี้ประมุขของเก้าอารามได้รวมตัวกันอยู่ที่อารามหมาป่าสวรรค์ ในเมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วใครคือผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีทองที่อยู่บนภูเขาฝูเหยา? ท่านเพิ่งพูดอยู่เมื่อกี้ว่า ข้าจะสู้กับผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีทองได้กี่คน? เห็นได้ชัดว่าจำนวนของผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีทองที่อยู่ในสำนักธาราเมฆมีมากกว่า 1 หรือ 2 คนอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่พลังที่อาณาจักรกลางจะมีได้ เก้าอารามเคารพสำนักธาราเมฆมาโดยตลอด ไม่เคยทำอะไรที่ไม่เป็นการเคารพเลย แต่จู่ๆพวกเขาก็จับซูหย่าเพื่อบังคับให้อาจารย์ใหญ่ของสำนักธาราเมฆปรากฏตัว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เก้าอารามจะทำ……ซูจิ่งเหยียน ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ ข้าก็ลงความเห็นไปแล้วว่าคนที่จับซูหย่าคือคนจากอาณาจักรบน” จวินอู๋เสียเลื่อนสายตาขึ้น นางแสร้งทำเป็นไม่พอใจและสิ้นหวังเพื่อให้ซูจิ่งเหยียนคลายความระมัดระวัง
  ซูจิ่งเหยียนไม่ใช่คนเลว เห็นได้ไม่ยากว่าเขาไม่อยากให้นางเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้จนต้องเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้เอง นางจึงไม่ได้ฆ่าเขาเพื่อปิดปากทันทีที่นางได้คำตอบที่ต้องการ
  ซูจิ่งเหยียนคาดไม่ถึงว่าตนจะถูกจวินอู๋เสียปั่นหัวเอาได้ ตอนนี้สีหน้าของเขาจึงไม่น่าดูอย่างยิ่ง คำพูดของจวินอู๋เสียได้แจกแจงเรื่องนี้อย่างชัดเจน ต่อให้เขาเถียงยังไง นางก็จะไม่เชื่อ
  ครู่เดียวเท่านั้น ซูจิ่งเหยียนก็เหงื่อออกจนชุ่ม เขายกมือขึ้นปิดหน้าและเงียบอยู่นาน
  ผ่านไปพักใหญ่ ซูจิ่งเหยียนก็พึมพำขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าศัตรูเป็นใคร เจ้ายังอยากจะมาตายอีกหรือ? ข้าไม่ได้โกหกเจ้า เจ้าช่วยซูหย่าไม่ได้จริงๆ คนพวกนั้นไม่ใช่ศัตรูที่เจ้าจะต่อกรได้”
  “ไม่ว่ายังไง ข้าก็ต้องช่วยนาง” จวินอู๋เสียพูดอย่างหนักแน่นเด็ดขาด
  ซูจิ่งเหยียนสูดหายใจเข้าลึก และเงยหน้าขึ้นมองนาง เขาไม่เข้าใจ รู้ทั้งรู้ว่าศัตรูเป็นใคร ทำไมจวินอู๋เสียยังยืนกรานหนักแน่นเช่นนี้ได้
  นางไม่กลัวตายเลยหรือไง?