หลังจากนั้นไม่กี่วัน ชิงสุ่ยก็เดินทางมาถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย บรรยากาศอัดแน่นไปด้วยพลังปราณที่เข้มข้น หลายคนกล่าวกันว่าพลังปราณจิตที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ มันถือกำเนิดมาจากมหาสมุทรสวรรค์
นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาได้มาสถานที่แห่งนี้
ชิงสุ่ยรู้สึกแปลกมาก และมีความประทับใจในตัวเฉินเจิน เรียกได้ว่าในตอนนั้นเขาแทบจะลืมไม่ลง แน่นอนว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันแบบเพื่อน และไม่มีเจตนารมณ์ใดแอบแฝง
ชิงสุ่ยค่อยๆก้าวเดินตรงไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันแสนคุ้นเคย แต่หลังจากที่เขาเดินไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีคนรีบแจ้งข่าวให้เขาทราบว่าเฉินเจินไม่ได้อยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์
ชิงสุ่ยจึงไม่ได้มุ่งหน้าขึ้นไปต่อ แต่ทะยานขึ้นฟ้าบินตรงสู่ผาราชินีปีศาจดูดเลือดในทันที
ทันทีที่เขาเข้าสู่เขตผาราชินีปีศาจดูดเลือด สิ่งแรกที่เขาเห็นคือราชินีปีศาจดูดเลือด2 คนรูปร่างเปลือยเปล่า ร่างกายงดงามขาวซีด ปีกของพวกเธอแตกต่างจากเทพนิยาย ทันทีที่พวกเธอเห็นชิงสุ่ย พวกเธอก็พยายามใช้ปีกบินหนีสุดกำลัง
ชิงสุ่ยคงคิดว่ากลิ่นอายรอบตัวของเขาทำให้พวกเธอหวาดกลัว แต่ที่จริงแล้วมันเป็นกลิ่นของจักรพรรดินีผีดูดเลือดที่แฝงอยู่ในร่างกายของเขา เพื่อบ่งบอกสถานะว่าเขาได้เป็นสามีภรรยากับองค์จักรพรรดินีผีดูดเลือดของพวกเธอ
ชิงสุ่ยเดินเข้าไปในผาราชินีปีศาจดูดเลือดโดยไม่มีสิ่งกีดขวางแม้แต่อย่างเดียว
แม้แต่ทหารองครักษ์ก็ไม่ปรากฏตัว
ต้นไม้ใหญ่จำนวนมากเชื่อมต่อกัน สร้างเป็นเส้นทาง กระจัดกระจายตัวบ้านอยู่เหนือต้นไม้ใหญ่เหล่านั้น ระหว่างเส้นทางต้นไม้ ชิงสุ่ยมักจะเห็นเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งกระโดดโลดเต้นไปมา ผมของเธอยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยคราบฝุ่น เธอมีใบหน้าที่สวยงาม ดวงตาสีดำเข้ม สดใสเหมือนผลึกแก้ว
เด็กหญิงคนนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นชิงสุ่ย จนกระทั่งเธอวิ่งเข้ามาใกล้เขา และแล้วเธอก็จ้องมองชิงสุ่ยด้วยความสงสัย
ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เขาก้มตัวลงไปถามเด็กน้อยว่า “เจ้าหนูน้อย เจ้าชื่ออะไรหรือ!!”
“ไม่บอกกก!!”เด็กหญิงตัวน้อยกรอกตาไปมา ก่อนจะร้องตะโกนวิ่งหนีไป
เธอวิ่งพลางตะโกนถามว่า “ท่านแม่ มีคนไม่ดีอยู่ตรงนี้”
ชิงสุ่ยขมวดคิ้ว ในครั้งแรกที่เขาเห็นเธอ เขารู้สึกผูกพันแบบผิดปกติ เธองดงามราวกับตุ๊กตา
เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ก็คือปีศาจดินีเทวะ เนื่องจากการพิจารณาของเขา ดูเหมือนหญิงสาวคนนี้จะเป็นลูกสาวของเขาเอง ปีศาจดินีเทวะ ชิงหยวน
หลังจากเสียงเด็กน้อยตะโกน เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ราชินีปีศาจดูดเลือดหลายคนก็ปรากฏตัว ทั้งหมดล้วนเป็นปีศาจดูดเลือดระดับสูง ซึ่งด้านหลังของพวกเธอก็ปรากฏให้เห็นเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เมื่อเธอมองเห็นชิงสุ่ย ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงและสั่งให้คนอื่นถอยกลับไป
จักรพรรดินีผีดูดเลือดอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นและเดินตรงมาหาชิงสุ่ย
“้เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
ชิงสุ่ยก้าวเดินออกไปข้างหน้า จากนั้นก็ใช้มือโอบเอวเธอ “ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าดูห่างเหินจากข้าเหลือกัน”
ชิงหยวนที่อยู่ในอ้อมแขน เงยหน้ามองคนที่เธอตะโกนเรียกว่าคนไม่ดีด้วยความงุนงง จักรพรรดินีผีดูดเลือดเองก็อยู่ที่ด้วย เธอจึงไม่กลัวชิงสุ่ยอีกต่อไป แต่เธอก็พยายามทำหน้าโกรธเพื่อให้เขากลัว “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ข้าคิดถึงเจ้ามากจริงๆ”จักรพรรดินีผีดูดเลือดกระซิบข้างหู
“ข้าเองก็คิดถึงเจ้ามากเช่นกัน!!”
“เด็กน้อย เรียกพ่อสิ เขาคือพ่อของเจ้า!!”จักรพรรดินีผีดูดเลือดจ้องมองเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนสุข
รอยยิ้มที่เกิดมาจากภายในใจลึกๆ ในขณะเดียวกันเด็กหญิงตัวน้อยก็จ้องมองชิงสุ่ยด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่จะย้ายสายตาหันไปหาจักรพรรดินีผีดูดเลือดและถามว่า “ท่านแม่ พ่อคืออะไร?”
จักรพรรดินีผีดูดเลือดยิ้มขณะที่เธอลูบหัวชิงหยวน “้เขาก็คือคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้ามากที่สุดเหมือนกับแม่คนนี้ไง”
เด็กหญิงตัวน้อยเหมือนจะเข้าใจคำพูด แต่ขณะเดียวกันเธอก็เหมือนจะไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามเธอก็อ้าปากและเรียกเขาว่า “พ่อ!!” ชิงสุ่ยยื่นมือมาโอบอุ้มชิงหยวน ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ปฏิเสธ มันอาจเป็นเพราะกลิ่นอายที่อยู่รอบตัวของชิงสุ่ยก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของจักรพรรดินีผีดูดเลือด ซึ่งมันทำให้เธอค่อนข้างคุ้นเคย
“เจ้า เจ้าคือลูกสาวของข้า ข้าจะทำให้แน่ใจว่าทั้งเจ้าและแม่ของเจ้าจะเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก เจ้าว่าดีหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
ชิงสุ่ยใช้แขนข้างนึงอุ้มชิงหยวนและใช้มืออีกข้างนึงจับมือจักรพรรดินีผีดูดเลือดเดินตรงเข้าไปในหุบเขา
ขณะที่เขามองดูลูกสาวแสนสวยที่อยู่ข้างกาย ชิงสุ่ยยิ่งรู้สึกสงบ ขณะที่ดวงตาของเขากับดวงตาของจักรพรรดินีผีดูดเลือดจ้องมองกัน ทั้งสองรู้สึกอายเล็กน้อย
หัวใจของชิงสุ่ยเต้นถี่ เขาจับมือเธอแน่นขึ้น หากไม่มีลูกสาวตัวน้อยขั้นกลาง เขาก็คงจะ………
เมื่อเดินเข้ามาในสถานที่ที่ไร้ผู้คน ชิงสุ่ยก็หยิบยาเม็ดวาสนาออกมามอบให้กับลูกสาวและหญิงสาวของเขา เขาสามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับจักรพรรดินีผีดูดเลือดได้ทันที ส่วนการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับลูกสาวเขา เขาจะทำก็ตอนที่เธอหลับ
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีผีดูดเลือดเธอเป็นพลังที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ไม่เพียงเท่านั้นเธอเป็นถึงหญิงสาวโฉมงามจาก 12 รูปภาพ ทันทีที่เธอกินมันเข้าไปพลังของเธอก็บรรลุขึ้นสู่ช่วงแรกของระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 ทันที
หลังจากที่ยาวาสนาเริ่มออกฤทธิ์ อาจเป็นเพราะพลังทางสายเลือดของเธอ เมล็ดทองคำตันเถียนที่อยู่ในร่างกายจักรพรรดินีผีดูดเลือดก็เริ่มแปรเปลี่ยนไป
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคงเหมือนกับเมล็ดทองคำอยู่ในร่างกายของชิงสุ่ย ที่เคยแปรสภาพเป็นเส้นลมปราณวชิระ
แล้วตอนนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นกับร่างกายของจักรพรรดินีผีดูดเลือด ชิงสุ่ยรู้สึกได้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแตกต่างจากเมล็ดทองคำที่แปรสภาพในร่างกายของเขา ทั่วทั้งมหาทวีป หากพิจารณาจากยอดยุทธระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มากมาย สิ่งที่บรรจุอยู่ภายในจุดตันเถียนล้วนเป็นพลังปราณ ส่วนใหญ่จะไม่มีลักษณะเป็นหินแข็ง บางส่วนก็เป็นของเหลว สำหรับเหล่ายอดมนุษย์ที่แข็งแกร่ง จุดตันเถียนเหล่านั้นจะควบแน่นกลายเป็นเมล็ดสีทอง
จักรพรรดินีผีดูดเลือดทะลวงระดับพลังเข้าสู่ขั้นกลางของพลังขั้นสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ชั้นที่ 7 ทันที
ถ้าหากมันเป็นไปตามแผนที่ิชิงสุ่ยวางเอาไว้ เขาจะกระตุ้นสมรรถภาพร่างกายของเธอ ปลดปล่อยคราบสกปรกที่ติดอยู่ในจุดตันเถียน ทำให้เธอบรรลุสู่ดินแดนสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลายของชั้นที่ 7 ได้ทันทีอย่างแน่นอน
จักรพรรดินีผีดูดเลือดทั้งทรงพลังแข็งแกร่งและรวดเร็ว การโจมตีของเธอทะลุปรุโปร่ง สามารถสร้างบาดแผลหรือให้กับศัตรูได้ในชั่วพริบตา ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเธอคือทุกกระบวนท่าดูดกลืนพลังปราณมหาศาล
ชิงสุ่ยหยิบเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์ที่เขาเก็บเอาไว้ออกมา และยังจัดเตรียมกระบี่พิเศษไว้ให้จักรพรรดินีผีดูดเลือด มันคือศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อจักรพรรดินีผีดูดเลือด ชิงสุ่ยยังเริ่มช่วยปรับรากฐานพลังให้กับเธอกระตุ้นความสามารถของเมล็ดทองคำ
ทางด้านของชิงหยวน เธอถือเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่กำเนิด และความโดดเด่นของเธอ หากเทียบความสำเร็จในอนาคตแล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลวนหลวนเลย
ชิงสุ่ยนำจี้หยกที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษออกมาให้กับเจ้าเด็กน้อย แม้ว่ามันจะไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรมากมาย แต่ก็ถือเป็นตัวแทนความรักที่พ่อมีต่อลูก ไม่เพียงสิ่งของเหล่านี้ ชิงสุ่ยยังจัดเตรียมยาเม็ดและสิ่งของอื่นๆอีกมากมายให้กับจักรพรรดินีผีดูดเลือดและลูกสาวของเขา
หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ชิงสุ่ยคนนำสร้อยข้อมือออกมาและผูกมันไว้ที่แขนจักรพรรดินีผีดูดเลือด สิ่งของชิ้นนี้นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่งดงาม มันก็ถือเป็นสมบัติต่างมิติ เมื่อเปรียบเทียบกับถุงผ้าแพรต่างมิติที่ใช้บรรจุของแล้ว สร้อยข้อมือต่างมิติชิ้นนี้มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่าหลายเท่า แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย เพราะการที่ชายคนหนึ่งมอบสร้อยข้อมือให้กับหญิงสาว มันเหมือนตัวแทนของความรัก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเขินอาย แต่ก็รู้สึกสบายใจจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
ในตอนกลางคืน ชิงสุ่ยนอนโอบกอดจักรพรรดินีผีดูดเลือดเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา แน่นอนว่าความเร่าร้อนไม่อาจระงับจิตใจของเขาได้ มืออันแสนซุกซนค่อยๆสัมผัสลึกเข้าไปในร่างกายส่วนล่างของเธอ ผิวหนังที่นุ่มนวลปราณีตเขย่าจิตวิญญาณชิงสุ่ยจนไม่อาจระงับสติอารมณ์ ขณะที่ชิงสุ่ยสอดใส่ความรักเข้าไปในร่างกายของเธอ ร่างกายของจักรพรรดินีผีดูดเลือดก็สั่นเครือ ภาพที่เธอกำลังมองเป็นเหมือนภาพมัว ใบหน้าแดงก่ำ ความรักยังคงดำเนินไปจนทำให้เธอถึงจุดสุดยอดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง การแสดงออกทางใบหน้าที่สื่อถึงความพึงพอใจ เหมือนเป็นเครื่องกระตุ้นให้ชิงสุ่ยยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นชาย