“สิ่งที่ควรพูด ข้าก็พูดไปหมดแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ถ้าเจ้ายังยืนกรานต่อไป ข้าก็จะไม่ถามอีก เรื่องวันนี้ข้าจะไม่บอกใครทั้งนั้น……ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม สำหรับเก้าอารามนั้น อาณาจักรบนคือศัตรู ไม่ใช่มิตร พวกเราแค่ไร้พลังอำนาจ” ซูจิ่งเหยียนยิ้มอย่างขมขื่น เขาที่เป็นผู้อาวุโสของอารามหมาป่าสวรรค์พูดคำเช่นนี้ออกมา คงไม่มีใครจินตนาการได้ว่า เก้าอารามที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งอาณาจักรกลางจะอ่อนแอขี้ขลาดอย่างนี้
“ความสงบนิ่งของเก้าอารามก่อนหน้านี้ เป็นเพราะอาณาจักรบนงั้นหรือ? เพราะวงเวทย์บูชายัญเลือด?” จวินอู๋เสียถามทันที
ซูจิ่งเหยียนมองจวินอู๋เสียอย่างประหลาดใจ เขาคิดว่านางมาเพื่อช่วยคนเท่านั้น คิดไม่ถึงว่า……นางจะรู้เรื่องวงเวทย์บูชายัญเลือดด้วย
“ใช่” ซูจิ่งเหยียนกัดฟัน
“อาณาจักรบนสั่งให้พวกเราค้นหาของวิเศษอย่างหนึ่ง และสร้างโทเทมที่ใช้สำหรับวงเวทย์บูชายัญเลือดในอาณาจักรกลาง ตอนแรกพวกเราไม่รู้ว่าของวิเศษนั่นอยู่ที่ไหน จนกระทั่งมีข่าวจากอารามหลิงซวีว่ามันถูกซ่อนอยู่ในสำนักธาราเมฆ ตั้งแต่ตอนนั้นแหละที่……”
ก่อนหน้านี้เก้าอารามไม่มีการคิดร้ายใดๆต่อสำนักธาราเมฆ จนกระทั่งข่าวถูกปล่อยออกมา ทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นกับสำนักธาราเมฆ
“อารามหลิงซวี……” จวินอู๋เสียหรี่ตา ดวงตาทอประกายน่ากลัว
ท่านหญิงแห่งอารามหลิงซวีคือมารดาผู้ให้กำเนิดของกู่อิ่งไม่ใช่หรือ? ก็หมายความว่าประมุขของอารามหลิงซวีคือตาของกู่อิ่งใช่ไหม?
เพียงครู่เดียว เบาะแสทั้งหมดที่เคยกระจัดกระจายในหัวของจวินอู๋เสียก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น ตามข้อมูลที่เทียนเจ๋อให้มา ครั้งแรกที่สำนักธาราเมฆสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวแปลกๆก็เกิดขึ้นในคืนที่กู่อิ่งเพิ่งออกจากสำนักธาราเมฆ หลังจากนั้น ข่าวเรื่องของวิเศษอยู่ที่สำนักธาราเมฆก็ถูกเปิดเผยจากอารามหลิงซวี ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะพิสูจน์ได้แล้วว่าข่าวนี้ออกมาจากปากของกู่อิ่ง! ไอลีนโนเวล
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบ นางรู้เรื่องการโจมตีครั้งนั้น พวกนางเองก็จัดการกับนักฆ่าไปหลายคน ตอนนั้นพวกนางไม่คิดว่านั่นคือจุดเริ่มต้นหายนะของสำนักธาราเมฆ……
“เก้าอารามและอาณาจักรบนเป็นศัตรูไม่ใช่มิตร? คำพูดนี้ เกรงว่าจะไม่ใช่ความจริงนะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงรื่นเริงดังขึ้นจากประตู
ซูจิ่งเหยียนตกใจและหันไปมองทันที
แต่เพียงแค่เหลือบมองเท่านั้น เลือดของซูจิ่งเหยียนก็แทบจะไหลย้อนกลับ!
ชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่หน้าประตูมีดวงตาสีม่วง ริมฝีปากบางเย้ายวนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย ดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้นแฝงรอยยิ้มอย่างชัดเจน แต่ซูจิ่งเหยียนกลับรู้สึกหนาวเยือกและหวาดกลัว
“จักรพรรดิแห่งความมืด……” ซูจิ่งเหยียนพูดออกมาด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อสายตา คนที่ยืนอยู่ที่ประตูคือจักรพรรดิแห่งความมืดที่ปกครองราชอาณาจักรแห่งความมืด ผู้สิ้นชีวิตไปเมื่อพันปีที่แล้ว!
เขา……ตายแล้วไม่ใช่หรือ!
ซูจิ่งเหยียนตกใจมาก เขารู้สึกเหมือนหัวใจจะกระโดดออกมาได้ทุกเมื่อ
จวินอู๋เหยาเดินไปที่ด้านข้างจวินอู๋เสียด้วยท่าทางสบายๆ เขาวางมือข้างหนึ่งลงบนพนักเก้าอี้ของนาง ดวงตาสีม่วงคู่นั้นมองไปที่ซูจิ่งเหยียน
“ถ้าข้าจำไม่ผิด ประมุขทั้งเก้าของเก้าอารามมาจากอาณาจักรบนไม่ใช่หรือ?” เสียงที่แฝงความอารมณ์ดีนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดมาก แต่พอซูจิ่งเหยียนได้ยิน เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้
“ประมุขของเก้าอารามมาจากอาณาจักรบนหรือ?” ดวงตาของจวินอู๋เสียฉายแววประหลาดใจ ข่าวนี้น่าทึ่งจริงๆ
จวินอู๋เหยายิ้มบางและพูดว่า “ในอดีต อาณาจักรบนเป็นผู้เริ่มก่อตั้งอาณาจักรล่างและอาณาจักรกลาง เพื่อที่จะควบคุมอาณาจักรกลาง คนเก้าคนถูกส่งมาสร้างกองกำลังในอาณาจักรกลาง เก้าคนนั้นก็คือประมุขทั้งเก้าของเก้าอารามในตอนนี้นั่นเอง”