Ch.7 – โชคร้ายที่นายปฏิเสธ
Translator : Asiran / Author
ตอนที่ 7 – โชคร้ายที่นายปฏิเสธ
“เล่นดีมาก!”
ในวินาทีที่บ้านของหวงเฉาแตก เกาเกอก็หันไปชมเชยเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนอย่างร่าเริง
“ขอบคุณครับ” เหออวี้ก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน นี่เป็นประสบการณ์เล่นเกม The Kings of Glory ที่เขาสนใจมาเนิ่นนานครั้งแรกของเขา ก่อนหน้านี้เขาใฝ่ฝันถึงการเล่นเกมของตัวเอง และยังตื่นเต้นกับมันมากไปกว่าเกมอาชีพของ KPL อีก แต่มาตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่าไม่ว่าเขาจะจินตนาการไว้ยอดเยี่ยมเพียงใดก็ยังไม่เหมือนกับเวลาทุก ๆ นาทีในการแข่งขันจริง แม้ว่านี่จะเป็นเพียงเกมเกมหนึ่งของสนามรบฉางผิงที่น้อยคนที่เล่น แม้ว่าภาพเหตุการณ์จะไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่ฝันเอาไว้ แต่ความตื่นเต้นยินดีที่ได้รับจากชัยชนะครั้งนี้นั้นเข้มข้นยิ่งกว่าจินตนาการครั้งไหน ๆ
ในใจของเขามีความเสียใจเพียงอย่างเดียว : เกมเกมนี้มันสั้นชะมัดเลย ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะลองเล่นดู
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ได้ลองเล่นแล้ว
เหออวี้คืนโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนนักศึกษาที่ให้เขายืมแล้วกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ อีกฝ่ายหยิบโทรศัพท์มือถือมาด้วยสีหน้าอึกอักแล้วหันหน้ามองไปทางจางเฉิงห่าวที่อยู่อีกด้าน เป็นจางเฉิงห่าวที่บอกให้เขาหยิบยื่นโทรศัพท์มือถือให้คนเขาไปอย่างใจกว้าง สุดท้ายกลับกลายเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับ ผู้เล่นหลักของหวงเฉาทั้งสามคนยังกำโทรศัพท์มือถืออยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ
เกาเกอไม่สนใจพวกหวงเฉาตรงนั้น ความสนใจทั้งหมดตกอยู่บนตัวของเหออวี้ “ยินดีที่ได้ร่วมมือกันนะ ฉันรู้สึกว่าพวกเราเข้าขากันได้ดีมากเลย เป็นไง สนใจจะมาเข้าร่วมทีมคลื่น7 ของพวกเราไหม”
ร่วมทีมเหรอ
คำเชิญที่มาอย่างกะทันหันทำให้เหออวี้อึ้งไป เขาจะไปเคยคิดถึงเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไงกัน ตอนเรียนอยู่ระดับมัธยมเพื่อนนักเรียนที่เล่น The Kings of Glory ก็มีไม่เคยขาด แต่การตั้งใจอดทนและหลบเลี่ยงก็ทำให้เขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนจนกระทั่งถึงวันนี้ เหออวี้ในใจรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกตั้งตาคอย รู้สึกอยาก แต่ปากของเขาก็ยังกล่าวปฏิเสธออกมา
เกาเกอยังไม่ทันได้เข้ามาพูดคุยเพิ่มเติมพวกหวงเฉาทั้งสามคนก็เดินมาถึงตรงหน้าพวกเขาด้วยสีหน้าผิดหวังแล้ว
“จริง ๆ เลยนะเกาเกอ ฝึกในสนามรบฉางผิงมามากรึไง” จางเฉิงห่าวพูดอย่างมีลับลมคมใน
“ก็ไม่ได้ฝึกมากหรอก แต่ก็พอที่จะจัดการพวกนายได้แล้วกัน” เกาเกอบอก
“โม้ให้น้อย ๆ หน่อย ครีปป่าแมปนี้มีระยะเวลาเกิดใหม่ไม่เหมือนหุบเขากษัตริย์ซักนิด ถ้าพวกเรารู้แต่แรกพวกเธอจะชนะเหรอ” จางเฉิงห่าวกล่าวเสียงดัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ไม่ได้พูดเพียงเพื่อให้เกาเกอได้ยิน แต่เป็นการอธิบายให้คนที่อยู่รายล้อมฟังถึงสาเหตุที่ตัวเองขายหน้าซ้ำซาก
ผู้เล่นหลักสามคนของทีมหวงเฉาผู้เก่งกาจถูกคนคลื่น7 สองคนบวกกับคนผ่านทางที่ดึงตัวมามั่ว ๆ ถล่มซะยับ นี่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาถูกแวดวงชาว The Kings ของมหาวิทยาลัยตงเจียงถากถางอย่างนานมาก ๆ แล้ว
“สองรอบแรกอาจจะไม่รู้ แต่หลังจากนั้นยังดูไม่ออกอีกเหรอครับ” เหออวี้ถามอย่างฉงน
จางเฉิงห่าวพูดไม่ออก ถ้าเล่นอย่างระมัดระวังพอก็จริงที่น่าจะดูออกตั้งแต่รอบสองแล้วว่าครีปป่ามีอัตราการเกิดใหม่ที่เร็วมาก แต่พวกหวงเฉาทั้งสามคนแม้แต่เวลาเกิดของ The Abyssal Dragon สองนาทียังไม่สนใจเลย ไหนเลยจะยังสนใจที่จะมานั่งคำนวณเรื่องพวกนี้อยู่อีก รอถึงตอนที่พวกเขารู้ตัวก็ไม่สามารถจะพลิกเกมได้อีกแล้ว จังหวะการเล่นของแมปนี้มันเร็วกว่าหุบเขากษัตริย์มาก
“ตัวเองไม่รู้เองก็อย่ามาโทษว่าแพ้เพราะไม่รู้เลยเหอะ” เกาเกอพูดอย่างเหยียดหยาม คำอธิบายของจางเฉิงห่าวฟังแล้วคนที่รายล้อมอยู่ก็คิดว่าฟังไม่ขึ้นเลย โจวมู่ถงกับสู่ไคหวยก้มศีรษะลงต่ำ ดูเหมือนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปแล้ว จางเฉิงห่าวก็หน้าแดงเหมือนกัน แต่พอมองเห็นเหออวี้ที่เบิกตากว้างมองดูพวกเขาอยู่ก็ตระหนักได้ในทันทีว่า คนที่สามารถพูดเรื่องแบบนี้ได้จะเป็นมือใหม่ของเกม The Kings of Glory ได้อย่างไรกัน
“นาย ไม่ใช่ว่าแค่เคยได้ยินชื่อเกม The Kings of Glory หรอกเหรอ” จางเฉิงห่าวหันไปมองเหออวี้แล้วพูด
“ไม่เคยเล่น แค่เข้าใจอยู่บ้างเองครับ” เหออวี้พูด
“ไม่เคยเล่น แต่เข้าใจอยู่บ้างเหรอ” จางเฉิงห่าวไม่เชื่ออย่างแรง เขาสังหรณ์ใจมากว่าตัวเองตกลงไปในหลุมพรางของผู้อื่นรึเปล่า แต่คนผ่านทางคนนี้ก็เป็นเขาที่เลือกขึ้นมาด้วยตนเอง เป็นไปไม่ได้ที่เกาเกอจะเดาได้ว่าเขาจะเลือกใครจากกลุ่มคนตั้งมากมายนี่ ดังนั้นก็ได้แต่คิดว่าตัวเองโชคร้ายแล้ว
“เธอโชคดีไป ครั้งนี้ฉันยอมก็ได้” จางเฉิงห่าวไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้
“ก็เป็นโชคดีที่นายมอบให้นั่นแหละ ทางเลือกเป็นพัน ดันมาเลือกคนที่เก่งที่สุดให้พวกเราซะได้ โชคร้ายใช่ไหมล่ะ” เกาเกอพูด
“อย่าผยองนักเลย ก็แค่สนามรบฉางผิง ฉันยังรอทีมคลื่น7 ของพวกเธออยู่ที่ลีกภายในของเทอมนี้อยู่นะ หวังว่าจะหาคนมาได้ครบแล้วกัน อย่าถูกคัดออกเร็วไปนักล่ะ” จางเฉิงห่าวพูด
“พูดได้ดี แล้วเจอกันในเกม” เกาเกอตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่ว่าตอนที่พูดก็ยกมือขึ้นไปตบบ่าของเหออวี้ ทำเหมือนกับว่าเหออวี้ก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของคลื่น7 แล้ว
จางเฉิงห่าวยังอยากจะเถียงอีกหลายคำแต่เมื่อมีเพื่อนร่วมชมรมวิ่งเข้ามาหากระซิบข้างหูเขาสองสามคำ จางเฉิงห่าวก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ละความสนใจจากพวกเกาเกอไม่กี่คนนี้ทันที รีบเรียกเพื่อน ๆ ให้เดินออกไปด้วยกัน
“พวกเธอรอดูไปก่อนเถอะ!” ก่อนไปจางเฉิงห่าวยังหันไปถลึงตาใส่ทีมคลื่น7 อีกครั้ง แล้วก็ยังรวมไปถึงเหออวี้อีกคนด้วย
เมื่อมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและท้าทาย เหออวี้ก็ใบ้กินแล้วหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ผมว่าเมื่อกี้ผมเพิ่งจะปฏิเสธไปเองไม่ใช่เหรอครับ”
“คิดดูอีกทีไหม” เกาเกอถาม
“ไม่จำเป็น” เหออวี้ตอบอย่างหนักแน่นมาก
“น่าเสียดาย ฉันไม่รู้ว่านายมีเหตุผลอะไร แต่ถ้าในอนาคตนายอยากจะหาเพื่อนมาเล่นด้วยกันก็มาหาฉันได้ตลอดเลยนะ ฉันชื่อเกาเกอ เรียนปีสามภาควิชาฟิสิกส์” เกาเกอพูด
“ขอบคุณครับ” เหออวี้ไม่สัญญาอะไร แต่ก็ยังรู้สึกขอบคุณจากใจจริง
“จะรอนายนะ” เกาเกอพูดยิ้ม ๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มนี้จู่ ๆ เหออวี้ก็นึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช่นักศึกษาหญิงที่ตัวเองเกือบจะชนเข้าตอนที่ออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายหรอกหรือ
ตอนนั้นเองเกาเกอก็หันกลับไปสะกิดเพื่อนของเธอให้ไปได้แล้ว โจงม่อที่ตอนแรกตื่นเต้นและคาดหวังมากหลังจากได้ยินคำปฏิเสธของเหออวี้ก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง พอถูกเกาเกอสะกิดเรียกก็หันไปมองเหออวี้อย่างเสียดายอีกครั้งแล้วตามเกาเกอจากไปเงียบ ๆ แต่ในขณะที่เพิ่งจะเดินออกมาจู่ ๆ ก็ได้ยินเกาเกอพูดขึ้นหนึ่งประโยคว่า “สนับสนุนเขาสิ”
“ฮะ” โจวม่ออึ้งไป หันศีรษะไปทางเกาเกอ จากนั้นก็พบว่าเกาเกอไม่ได้กำลังพูดกับเขา คนที่เกาเกอพูดด้วยก็เดินผ่านพวกเขาไปแล้วด้วยโดยไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ
“ใครน่ะ” โจวม่อถามอย่างสับสน
“เหอเหลียง” เกาเกอพูด
“ฮะ”
“เหอเหลียงที่อยู่งานกิจการนักศึกษา”
“อ้อ อดีตนักเล่นเกมอาชีพ ตัวฟาร์มป่าของทีมเทียนเจ๋อเหอเหลียง! เฮ้อ ฉันคิดมาตลอดเลยว่าการเล่นของทีมเทียนเจ๋อมันคอยถ่วงเหอเหลียงเอาไว้ ทำให้เขาไม่มีพื้นที่เล่นเลยสักนิด!” โจวม่อปกติแล้วก็ไม่ค่อยพูดมาก แต่พอพูดถึงผู้เล่นอาชีพกับการแข่งขันของ KPL ขึ้นมาก็จะแสดงความเห็นเป็นน้ำไหลไฟดับ ส่วนสาเหตุเริ่มต้นที่พูดถึงเหอเหลียงนั้นลืมไปหมดแล้ว
“ที่น่าขายหน้าก็คือพอเขาวางมือไปได้แค่ปีแรกทีมเทียนเจ๋อก็คว้าแชมป์ในฟอลซีซั่นไปได้ทันทีเลยน่ะสิ” เกาเกอพูด
“ผู้เล่นตำแหน่งฟาร์มป่าคนใหม่ของเทียนเจ๋อ โหยวย่าจงกับเหอเหลียงเป็นคนละประเภทกันเลย ฉันก็บอกไม่ได้ว่าเขากับเหอเหลียงใครเก่งกว่ากัน แต่กลยุทธ์ของเทียนเจ๋อดูไปแล้วเหมาะสมกับการเล่นแบบเขามากกว่า” ตอนที่โจวม่อพูดเรื่องพวกนี้ก็มีท่าทางเบิกบานแจ่มใสมาก เมื่อเทียบกับตอนที่นั่งหดหู่เซื่องซึมอยู่ที่โต๊ะหาคนเข้าทีม พอเห็นคนกวาดตาผ่านมาก็ลุกขึ้นส่งยิ้มให้แล้วก็เหมือนเป็นโจวม่อคนละคนกันเลย
“สถิติทีมเทียนเจ๋อก็ดูเหมือนจะคงเส้นคงวามากขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ ถ้าเกมรอบเพลย์ออฟของสปริงซีซั่นโจวจิ้นไม่ได้หายหน้าไปจากอาการป่วยก็อาจจะได้แชมป์เลยก็ได้” เกาเกอพูด
“ขาดโจวจิ้นไปคนหนึ่ง ทีมเทียนเจ๋อก็เหมือนกับดาเมจเฉลี่ยหดลงไป 10% เลย ซีซั่นนี้ไม่รู้ว่าโจวจิ้นจะเล่นเป็นยังไงนะ อายุของเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วด้วย” โจวม่อถอนหายใจ
“ขืนพูดต่อไป นักเล่นเกมอาชีพใน KPL คงจะถูกพวกเราพูดถึงหมดทุกคนแล้วล่ะ” เกาเกอกล่าว
“ฮะ” โจวม่ออึ้งไป จากนั้นก็พบทันทีว่าพวกเขาคุยนอกเรื่องมาไกลแล้ว อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาเป็นอย่างนี้เสมอเลย พอได้พูดเรื่องของวงการอาชีพก็พูดได้ไม่จบไม่สิ้น
โจวม่อหันกลับไปดู เห็นเหอเหลียงเดินไปหาเพื่อนร่วมเกมที่พวกเขาเพิ่งจะเล่นด้วย ดูไปแล้วทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก
“เด็กใหม่นั่นเป็น…”
“เขาเป็นน้องชายของเหอเหลียง” เกาเกอพูด
“เธอรู้ได้ไงเนี่ย” โจวม่อทึ่ง
“ก่อนหน้านี้ไปที่งานกิจการนักศึกษาเผอิญเจอเขาไปที่ออฟฟิศของเหอเหลียงตามหาพี่ชายน่ะ”
“มิน่าล่ะ” โจวม่อสังเกตได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพอเกาเกอเห็นคนผ่านทางที่จางเฉิงห่าวเลือกก็มีท่าทางแปลก ๆ ไป ที่แท้ก็เพราะรู้เรื่องของคนผ่านทางคนนี้มาก่อนแล้ว กล่าวได้ว่าจางเฉิงห่าวก็ช่างโชคร้ายเสียเหลือเกิน ต้องโทษที่คนผ่านทางที่เขาเลือกมาคนนี้ตอนอยู่ในเกมมีการแสดงออกที่ยอดเยี่ยมหลายจุดแต่ดันไม่เล่นพลาดเลยสักครั้ง แถมพอเขามาถึงก็บอกข้อมูลการเกิดของครีปป่าทันที เรื่องนี้แม้แต่โจวม่อหรือจางเฉิงห่าวก็ยังไม่รู้สักนิด ชัยชนะครั้งนี้กล่าวได้ว่าพวกเขาได้รับมันมาตั้งแต่เริ่มเกมแล้ว
“ดูเหมือนว่าจางเฉิงห่าวจะไม่ได้พูดผิดไป พวกเราโชคดีโคตร ๆ” โจวม่อทอดถอนใจ
“พูดงั้นก็ไม่ถูกนะ ฉันคนที่นายรู้จักจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรือไง” เกาเกอกล่าว
“เธอก็รู้เวลาเกิดของครีปป่าในสนามรบฉางผิงเหรอ” โจวม่อไม่เชื่อสุด ๆ ในฐานะที่เป็นเพื่อนเล่นเกม The Kings of Glory แต่เล็กแต่น้อย เรียกได้ว่าเขารู้จักเกาเกอทุกซอกทุกมุม เขามั่นใจว่าเกาเกอก็เป็นเหมือนเขานี่ล่ะ ถึงจะเล่นมานานก็ไม่เคยศึกษาสนามรบฉางผิงแม้แต่นิดเดียว
“ฉันไม่รู้ แต่ไป่ตู้รู้” เกาเกอบอกกับโจวม่อแล้วก็ยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอให้ดู บนหน้าเว็บที่ค้างอยู่ที่หน้าจอก็คือไกด์เกมของสนามรบฉางผิงอันหนึ่ง
“งั้นเธอก็รู้อยู่แล้วว่าจุดที่ส่งผลต่อชัยชนะของแมปนี้อยู่ตรงไหนงั้นเหรอ” โจวม่อกล่าว
“ต้องเสิร์จหาถึงจะรู้ แต่เหออวี้คนนั้นเขารู้จริง ๆ” เกาเกอกล่าว
“ถ้าเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของพวกเราต่อไปก็ดีน่ะสิ” โจวม่อทั้งเซ็งทั้งเสียดาย
“ใครว่าไม่เป็นล่ะ” เกาเกอหันกลับไปเห็นพี่น้องสองคนเดินไปพลางคุยไปพลางแล้วก็พูดอย่างครุ่นคิด
……………………………………………………………
พ่อแม่จะว่าไงเนี่ย ลูกคนหนึ่งหลุดออกมา ลูกอีกคนเดินเข้าไป 555
แต่ตอนนี้น้องยังเป็นผู้เล่นธรรมดาอยู่ ไม่ได้กระโจนลงไปเต็มตัวขนาดนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นยังไงอะนะ
แล้วสรุปว่าเหอเหลียงนี่เป็นนักศึกษาป.โทที่ทำงานพิเศษหรือเป็นเจ้าหน้าที่เต็มตัวเนี่ย ตอนแรกที่แปลเหมือนเป็นนักศึกษา แต่ทำไมอ่าน ๆ ไปเหมือนเป็นคนทำงานเลย
The Kings(王者) เป็นชื่อเล่นของเกม The Kings of Glory (王者荣耀) ค่ะ นอกจากนี้มันยังเป็นชื่อเรียกระดับสูงสุดของแรงค์ในเกม คือ conqueror อีกด้วย ดังนั้นตอนแปลบางทีเราก็เดา ๆ เหมือนกันว่าพูดถึงผู้เล่นระดับ conqueror เท่านั้นหรือพูดชื่อย่อของเกม (ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นชื่อย่อเกม แต่แปลไป ๆ รู้สึกแปลก ๆ พอสังเกตก็เห็นว่าเป็นคำเดียวกันเลยเดาว่าเป็นอย่างนี้ค่ะ)