Ch.2 – Prologue 2
Translator : O-Minus / Author
วันต่อมา ก่อนบ่ายเล็กน้อย
เบื้องหน้าฉันคือตึกอพาร์ทเมนต์สูงหลายชั้นจนทำให้เมื่อยคอถ้ามองขึ้นไป
ทักทายยามที่คุ้นหน้าฉัน ฉันบอกกับผู้จัดการถึงธุระของฉันและให้พวกเขาติดต่อรินจัง
ด้วยความที่มีพ่อแม่ห่วงลูก ตึกที่รินจังอยู่นั้นสูงหลายร้อยเมตรจากพื้นดิน
มีอยู่ประมาณ40ชั้นแต่มีชั้นนึงที่ถูกซื้อไว้ให้สำหรับรินจังโดยเฉพาะ
ฉันรู้อยู่หรอกว่าทำเพื่อความปลอดภัยของรินจัง แต่ฉันได้ยินมาว่าห้องส่วนใหญ่ถูกทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ ฉันเลยอยากบอกว่าไม่รู้เลยจริงๆว่าคนรวยเขาคิดอะไรกันอยู่
ด้วยความรู้สึกว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง ฉันขึ้นลิฟท์ไปสู่ชั้น40ของตึก
กดปุ่มอินเตอร์คอมที่ดูหรูหรา แทนที่จะมีเสียงตอบกลับมา กลับกลายเป็นเสียงเปิดประตูแทน
“เข้ามาเลย ฉันกำลังรอเธออยู่เลยล่ะ”
“อือ ขอบใจที่เชิญมานะ”
ตอบรับรินจัง ฉันเข้ามาในบ้านของเธอ
นานแล้วนะที่ไม่ได้มาที่นี่ ฉันคิดว่าครั้งล่าสุดที่มาคงจะเป็นช่วงก่อนที่รินจังจะจบมัธยมปลาย ก็ประมาณ3ปีแล้วนะ
“อ่า…ครั้งแรกในรอบหลายปี ได้เวลาที่ฉันจะเติมพลังนานะวิตามินแล้ว…”
“อุหวาปุ”
ฉันที่กำลังเดินไปที่ห้องนั่งเล่นถูกกอดจากด้านหลังแน่นโดยรินจังจนมีเสียงออกมา
รินจังมีร่างกายที่น่าเย้ายวนและทรวดทรงที่ดูซุกซน อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงที่ค่อนไปทางด้านสูงด้วยส่วนสูงถึง170เซน
สำหรับฉันที่สูง155เซนแล้ว ถ้าฉันถูกกอดหน้าของฉันก็จะถูกโอบไปด้วยอปไปนุ่มนิ่มล่ะ
ในขณะที่สัมผัสกับความนุ่มนิ่มที่ฉันไม่มีวันได้สัมผัสด้วยหน้าอกทรงเล็กของฉัน ฉันปล่อยให้เธอทำต่อไป
“รินจัง ขยับไม่ได้อ่ะ”
“อีกหน่อยเดียวนะ..อีกหน่อยเดียว…”
เธอกอดรัดฉันเอาไว้ถึง5นาที
“เป็นปีแล้วนะที่พวกเราได้เจอกัน ครั้งสุดท้ายที่ได้ใช้เวลาด้วยกันก็ตอนจบมัธยมปลายสินะ?”
“ก็นะ ฉันถูกโถมด้วยงานพาร์ทไทม์ในช่วง1ปีนั้นนี่นา”
“พอฉันชวนเธอก็ติดงาน พอชวนอีกเธอก็ติดงานอีก คิดถึงความรู้สึกของคนที่โดนปฏิเสธอยู่ตลอดบ้างสิ”
“อ่ะฮ่ะฮ่า….”
ขณะที่ทานอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้เข้ากับความชอบของฉัน ฉันยิ้มแหยๆพร้อมกับเลี่ยงคำพูดตรงๆของเธอ
พูดตามตรงมันมีช่วงนึงในชีวิตของฉันที่จำเป็นต้องทำงานเพื่อเอาชีวิตรอด
แน่นอนว่าต้องดิ้นรนทำงานหนักเพื่อใช้ชีวิต
แต่อย่างมากเลยแค่ทำงานกะกลางคืน5คืนต่อสัปดาห์ก็เพียงพอสำหรับใช้ชีวิตตัวคนเดียวแล้ว
ยิ่งฉันที่ไม่ได้มีความต้องการอะไร ฉันเลยมีเงินเก็บไว้เยอะพอตัว
แต่ที่ฉันยังคงทำงานอยู่ตลอดก็เพราะฉันเป็นคนขยันที่ไม่มีงานอดิเรกอะไร เหตุผลมีแค่นั้นเอง
ฉันไม่มีความต้องการอะไรก็เลยไม่มีงานอดิเรกอะไร ฉันไม่มีงานอดิเรกอะไรก็เลยไม่มีความต้องการอะไร
ถ้าฉันได้มีวันที่ไม่ต้องทำอะไร ฉันก็จะไม่ทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตไปอย่างไร้จุดหมาย
เพราะคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาเปล่า ฉันก็เลยหางานทำเพื่อฆ่าเวลา
“แต่ก็นะ ยังไงตอนนี้พวกเราก็ได้มาเจอกันแล้วนี่นา”
รินจังเปลี่ยนจากหน้าบูดบึ้งเป็นรอยยิ้มทำให้ฉันใจขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันก็ต้องหางานทำอีกอยู่ดีล่ะนะ”
ขณะที่ดื่มชาหลังอาหารฉันก็พึมพำออกมา
ใช่แล้ว ฉันที่ตอนนี้ได้กลายเป็นนีทจะต้องออกไปหางานอีกครั้ง
“เรื่องนั้นน่ะนะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
“เอ๋? ทำไมล่ะ?”
“มันคือเรื่องที่ฉันจะคุยด้วยเมื่อคืนตอนโทรกันน่ะ”
รินจังตัดบทสนทนาเรื่องหางานที่น่าหดหู่ด้วยรอยยิ้มแสนมั่นใจ ฉันเผลอเบิกตากว้างออกมา
พอลองมาคิดดูแล้ว เมื่อวานนี้รินจังโทรหาก็เพราะว่ามีธุระบางอย่างกับฉัน
ฉันจำได้ว่าเธอละเรื่องนั้นไปเมื่อได้ฟังสถานการณ์ของฝั่งฉัน
“นานะ จำได้ไหมว่าฉันทำอาชีพอะไรอยู่?”
“ถ้าจำไม่ผิดก็แข่งเกมหรืออะไรทำนองนั้นสินะ”
“อีสปอร์ต ก็นะไม่ใช่แค่นั้นหรอก ที่ถูกต้องคือฉันเป็นโปรเกมเมอร์น่ะ ฉันเป็นส่วนนึงในบริษัทใหญ่”
“ของทาคาโจวกรุ๊ปเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
รินจังพยักหน้ารับราวกับเป็นเรื่องธรรมดาฉันเลยหัวเราะตอบ
ทาคาโจวกรุ๊ปที่มีทีมโปรเบสบอลเป็นของตัวเองเลยนะ
ถ้าจะมีทีมโปรเกมเมอร์ของตัวเองก็คงไม่แปลก เครือบริษัทใหญ่นี่มีส่วนในหลายๆการตลาดเลยนะ
รินจังเป็นโปรเกมเมอร์ และถ้าจำไม่ผิดเธอก็ไลฟ์สตรีมด้วยอีกต่างหาก
ในส่วนนั้นเธอเป็นผู้เล่นชื่อดัง โดยที่ไม่ต้องพึ่งเส้นสายเธอก็มีความสามารถที่สูงพอ
พวกเรารู้จักกันมานานแต่ตั้งแต่ที่รินจังยังเด็กเธอลงไหลในการเล่นเกม เธอยังเป็นที่หนึ่งด้านการเล่นเกมของห้องอีกด้วย
ฉันชอบรินจังที่ชอบเล่นเกม พวกเราเลยมักจะเล่นด้วยกันเสมอ นึกย้อนกลับไปแล้วช่างเป็นความทรงจำที่ดีจังเลย
“นานะ รู้จักเกม[Worldlive – ONLINE]ไหม?”
“เวิร์ดไลฟ์…อ๊ะ เด็กที่ทำงานด้วยกันเคยพูดถึงอยู่นะ มันคือนั่นสินะ เกมเสมือนจริงน่ะ?”
“ใช่แล้ว มันคือเกมออนไลน์ที่พึ่งเปิดตัวเมื่อ10วันก่อน เป็นหัวข้อดังในวงการVRของญี่ปุ่นเลยล่ะ”
[Worldlive – ONLINE]
เป็นอะไรที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยทุนมหาศาล เป็นเกมออนไลน์ที่เด่นดังมากๆ
ฉันมีรุ่นน้องจากที่ทำงานที่ติดฉันอยู่คนนึง เขาอธิบายเรื่องของเกมนี้ให้ฉันฟังแต่ที่ฉันเข้าใจก็มีแค่นั้นล่ะ
“นานะอาจจะไม่รู้ถึงข้อดีของเกมนี้แต่ถ้าจะให้พูดก็คือ [Worldlive – ONLINE] น่ะถึงจะเป็นเกมแบบฟูลไดฟ์แต่ก็สามารถสตรีมได้ด้วยล่ะ”
“ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เกมอื่นๆไม่สามารถสตรีมได้เหรอ?”
“ใช่แล้ว ตัวเกมเป็นคนละรุ่นกันเลยแต่ก็ช่วยไม่ได้ที่นานะจะไมรู้เรื่องเกมVRล่ะนะ”
ฟูลไดฟ์ เป็นระบบที่จะส่งจิตสำนึกไปยงโลกเสมือน
ผ่านมาหลายปีแล้วหลังจากที่มีการเปิดตัว แต่ในช่วงแรกๆรินจังเคยให้ฉันได้สัมผัสมันอยู่
ในตอนนั้นฉันขยับร่างกายได้ไม่ถนัดแต่ได้ยินมาว่าถ้าเป็นตอนนี้สามารถทำให้ขยับร่างกายได้อย่างอิสระแล้ว
ดูเหมือนว่าเกมประเภทฟูลไดฟ์จะไม่สามารถสตรีมได้
และในโลกนี้ก็ไม่ได้มีแต่เกมVRเท่านั้น
เกมที่สามารถสตรีมได้เป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ ฉันพอจะนึกออกว่าเกมVRคงไม่เหมาะที่จะใช้หาเงิน
จนกระทั่ง[Worldlive – ONLINE] เกมที่จะเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ
“ฉันคิดว่าเธอคงจะเข้าใจแล้วสินะ ใช่แล้ว ผ่านมา10วันแล้วที่ฉันได้เริ่มเล่นเกมนี้ ในฐานะโปรเกมเมอร์แล้วฉันจะชักช้าจนพลาดจากกระแสหลักไม่ได้นี่นา”
“เข้าใจแล้ว แล้วทำไมถึงยกเรื่อนี้ขึ้นมาพูดงั้นเหรอ?”
“ดูเหมือนในจุดนี้ก็ยังไม่เข้าใจสินะ ถ้าพูดอ้อมไปมาคงไม่มีวันจะรู้เรื่องแน่งั้นฉันจะพูดตรงๆนะ….นานะ มาเล่นเกมนี้ด้วยกันเถอะ”
คำพูดที่ดูสบายๆแต่ก็จริงจังไปพร้อมๆกัน
รินจังเงยหน้ามองฉัน หันมาด้วยดวงตาออดอ้อน
พวกเรารู้จักกันมานาน เวลาที่รินจังทำแบบนี้ภายในหัวใจเธอกำลังกังวลกลัวจะถูกป่นปี้
เธอไม่ได้ร้องขอ มันไม่ใช่คำเชิญชวน ถ้าจะให้บอกฉันคิดว่ามันคือ[การอ้อนวอน]
และฉันก็แพ้ทางรินจังที่ทำแบบนี้
“อือ ก็ได้ ครั้งแรกหลังจากไม่ได้ทำมานาน มาเล่นเกมด้วยกันเถอะ“
“จริงๆนะ?”
“จะโกหกไปทำไมล่ะ”
“นั่นสิ เยี่ยมไปเลย ฉันกลัวเธอจะปฏิเสธซะแล้ว ฉันล่ะกังวลมากเลยรู้ไหม”
“ก็ถ้าฉันทำงานอยู่ก็คงต้องปฏิเสธแต่…ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรแล้วนี่”
เหมาะเจาะพอดีที่เธอพูดถึงเมื่อวานคงจะเป็นเรื่องนี้แน่
ถ้าที่ทำงานของฉันไม่ได้ล้มละลายก็คงมีโอกาสที่ฉันจะปฏิเสธอยู่
แต่ฉันคิดว่าเธอคงจะคาดการณ์เผื่อในกรณีนั้นเหมือนกัน
เพื่อที่ฉันจะได้ตกลง เธอเลยยังมีเรื่องหลายอย่างยังไม่ได้อธิบาย
มองไปที่รินจังที่มีสีหน้าผ่อนคลาย ตอนนี้กลับมาจริงจังอีกครั้ง
“ฉันเป็นโปรเกมเมอร์และก็เป็นไลฟ์สรีมเมอร์อีกด้วย ไม่ใช่วจะสตรีมตลอดเวลาแต่ถ้าเธอมาเล่นด้วยกันกับฉันแล้วะมีโอกาสหลายครั้งที่นานะจะโผล่มาในไลฟ์สตรีมของฉัน”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ถ้าฉันเล่นกับคนที่สตรีมอยู่ก็จะมีโอกาสที่ฉันจะไปอยู่ในสตรีมนั้น
ตัวฉันน่ะไม่ใส่ใจหรอกแต่ทางด้านคนดูฉันก็ไม่รู้ด้วยหรอกนะ
“ฉันก็เลยหาทางอยู่หลายๆวิธีแต่ว่า…นานะ ไม่ลองเป็นโปรเกมมอร์ดูบ้างเหรอ?”
“…ห๊ะ?”
รินจังเสนอความคิดนึงขึ้นมาซึ่งเป็นอะไรที่ฉันไม่ได้คาดคิดเลย