บทที่ 1975 – แผนการของชิงสุ่ย

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

หลังจากกลับคำพูดนั้นออกไป ชิงสุ่ยก็รู้ว่ามันฟังดูแปลก แต่ตัวเขาเป็นหมอจึงไม่สามารถเลือกปฏิบัติกับคนไข้ได้
  เป่ยหมิงเสวี่ยพยายามรักษาปัญหาเรื้อรังนี้มานาน ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นเพียงแค่โรคระดับพื้นฐานทั่วไป ด้านหลังจากเข้าพบหมอหญิงมากมายหลายคน พวกเธอกลับรักษาโรคนี้ไม่ได้ เป่ยหมิงเสวี่ยจึงได้แต่สงสัยว่าเธอควรขอให้ชิงสุ่ยรักษาให้เธอหรือไม่
  “สาเหตุที่ทำให้อาการของเจ้ากำเริบก็คือรากฐานร่างกาย มันจะค่อยๆหายเป็นปกติด้วยตัวเองจะด้วยการรักษาหรือไม่รักษาก็ได้”ชิงสุ่ยกล่าวตอบ
  “รักษาโดยไม่ต้องทำการรักษา?”เป่ยหมิงเสวี่ยถามด้วยความสงสัย
  “ตอนนี้เจ้าอาจจะยังไม่แต่งงาน แต่วันหน้าหากเจ้ามีคู่ครอง การประสานระหว่างหยินและหยางจะทำให้อาการบาดเจ็บของเจ้าหายไปเอง”
  แม้คำพูดของชิงสุ่ยจะฟังดูหยาบคาย แต่มันก็เป็นวิธีหนึ่งในการรักษา หลังจากที่เขากล่าวออกไปเขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาจึงได้แต่ลูบหัวตัวเองด้วยความเขินอาย
  “ข้ากล่าวตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเจ้า”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างบริสุทธิ์ใจ
  เป่ยหมิงเสวี่ยรู้ดีว่าคำพูดพวกนี้คือความจริง หมอหญิงที่เธอเคยเข้าพบก็พูดในทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ไม่ได้ให้ทางเลือกอื่น เว้นเสียแต่ชิงสุ่ยคนเดียวที่บอกว่ายังมีอีกทางเลือก
  “ไม่ต้องพูดแล้ว….ก็อย่างที่เจ้าพูดมา ว่าแต่วิธีการรักษาอื่นมันคือวิธีใด?”เป่ยหมิงเสวี่ยลดศีรษะหัวใจเต้นถี่
  “การรักษาทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้วิธีการฝังเข็ม”ชิงสุ่ยยิ้ม
  “ถ้าเช่นนั้น เจ้าสามารถรักษาให้ข้าได้หรือไม่? ข้าพร้อมจะ…..”เป่ยหมิงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นพร้อมกับกระซิบ
  ชิงสุ่ยหัวเราะ “มันใช้เวลาไม่นานเลย เจ้าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น “
  ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงชีพจรจากข้อมืออันแสนอ่อนนุ่ม ในความเป็นจริงแล้วหญิงสาวมากมายที่รายล้อมรอบตัวชิงสุ่ย ล้วนครองความงามไม่แพ้เป่ยหมิงเสวี่ย เพียงแต่เสน่ห์ของเป่ยหมิงเสวี่ยนั้นโดดเด่นส่งผลไปถึงตัวชิงสุ่ย
  ร่างกายหญิงสาวคนนี้บริสุทธิ์ไร้มลทิน นอกจากเธอจะดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้นำพระราชวังอมตะแล้ว พลังของเธอยังอยู่ขั้นปลายของระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 ถ้าพูดกันตามตรงแล้วเธอมีพลังมากกว่าชิงสุ่ย ร่างกายของเธอเป็นที่สถิตพลังปราณจิตเซียนเทียน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้
  ชิงสุ่ยใช้เข็มเพียงไม่กี่เล่ม ถ่ายโอนพลังหยางของเขาเข้าสู่จุดชีพจร หลังจากที่มันประสานกับพลังปราณแห่งความหนาวเหน็บความเย็นก็ค่อยๆคลายตัว นอกจากนั้น พลังปราณของเขายังช่วยเสริมสร้างอวัยวะภายใน และช่วยบำรุงธาตุทั้ง 5 ที่อยู่ในร่างกายของเธอ
  เป่ยหมิงเสวี่ยรู้สึกว่าร่างกายของเธอเริ่มอบอุ่นและเริ่มสบาย แม้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะดูเร็วเกินไป แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันไปในทางบวก
  หลังจากนั้นไม่นานชิงสุ่ยก็หยุดให้การรักษา
  “คุณชายชิง ข้ามีข้อสงสัยว่าเจ้ามาที่เขตแดนเหมันต์อุดรด้วยเหตุอันใด เจ้ามาที่นี่เพื่อ เจอหน้าลูกสาวของท่านอย่างนั้นหรือ?”ขณะที่เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าวถามชิงสุ่ยก็ถอนเข็มออกจากร่างกายของเธอทีละเล่ม
  “ช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่ได้มาด้วยเหตุผลนั้น ข้ามาที่นี่เพื่อตามหานิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ ว่าแต่เจ้าเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่?
  “นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ? กลุ่มนิกายอมตะและกลุ่มพระราชวังอมตะในแผ่นดินหลักมีมากมาย ตัวข้าเองจึงไม่เคยได้ยินชื่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ”
  ชิงสุ่ยก็ไม่ได้หวังอะไรมาก
  “เจ้ามาที่นี่มีจุดประสงค์หลักเพื่อตามหานิกาย 5 พยัคฆ์อมตะอย่างนั้นหรือ?” เป่ยหมิงเสวี่ยถามคำถามต่อ
  “เปล่าเลย ข้าไม่ได้รีบเร่งตามหานิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ ข้าเพียงแค่อยากออกเดินทางมาดูมหาทวีปที่แท้จริงก็เท่านั้น”ชิงสุ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา
  “ที่นี่ยังไม่ใช่โลกที่แท้จริงของโลก 9 มหาทวีป แต่เขตแดนอุดรเหมันต์ก็มีขนาดกว้างใหญ่ ขุมกำลังทั่วทั้ง 9 มหาทวีปพบเจอได้ที่นี่ แต่การหายตัวไปบางครั้งก็ไม่ชัดเจน บางกลุ่มก็แข็งแกร่งจึงย้ายดินแดน มันจึงกลายเป็นแผ่นดินที่ไร้พรมแดน”เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าวอธิบาย
  “แม่นางเป่ยหมิง เจ้าพอจะรู้เกี่ยวกับโลกที่แท้จริงของโลก 9 มหาทวีปหรือไม่?”ชิงสุ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น  “ที่แห่งนั้นคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเฟื่องฟูมั่งคั่ง เต็มไปด้วยนิกายตันตระกูลขนาดใหญ่ โอกาสและภยันตรายพบเจอได้อยู่ทั่วทุกที่ สงครามเกิดขึ้นทั่วทุกหนแห่ง การสังหารเกิดขึ้นง่ายๆเพียงเพราะการกระทำที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่เป็นเรื่องดี คือพวกเขาจะไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์”
  “แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ไปอยู่ที่นั่นด้วยล่ะ? ด้วยความแข็งแกร่งปัจจุบันของเจ้า คนที่ทำอันตรายเจ้าได้คงมีไม่มาก!!”ชิงสุ่ยกล่าว
  “ถ้าหากยังอยู่ในเขตแดนอุดรเหมันต์ พลังของข้าถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าไปที่นั่นจะมีคนมากมายที่ทรงพลังเหนือกว่าข้า ซึ่งมันจะทำให้ข้าไม่ปลอดภัย”เป่ยหมิงเสวี่ยตอบกลับ
  ชิงสุ่ยเข้าใจความหมายของเธอ และด้วยตัวตนที่งดงาม ย่อมต้องเป็นที่หมายตาของคนหมู่มาก
  “เจ้ารักษาข้า ไม่ทราบว่าข้าควรตอบแทนข้าวเจ้าอย่างไร?”เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าวถาม
  “ช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่ข้ามีภรรยาแล้ว”ชิงสุ่ยตอบคำถามเชิงหยอกล้อ
  เป่ยหมิงเสวี่ยจ้องเขม็ง เขาพูดเหมือนว่าถ้าเธอยอมเสนอตัว เขาจะไม่ยอมรับคำขอของเธอ
  “ข้าล้อเล่น ลูกสาวของข้ายังต้องการความดูแลจากเจ้า ข้าคงจะอยู่ที่ดินแดนอุดรเหมันต์อีกสักพัก บางทีก็อาจจะเปิดหอรักษาอยู่ที่นี่ด้วย”ชิงสุ่ยกล่าว
  “โอ้ ถ้าเช่นนั้นเจ้าสามารถเปิดรักษาที่เมืองหิมะอุดรได้เลย” เป่ยหมิงเสวี่ยกล่าว
  “เอาเป็นว่า ข้าจะรีบไปที่เมืองหิมะอุดร หากข้าหาทีดีๆไม่ได้”
  “เจ้าหมายความว่าอะไร? เมืองหิมะอุดรไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?”เป่ยหมิงเสวี่ยถึงกับพูดไม่ออก
  “ข้าเข้าใจแล้ว และข้าคงต้องไป ข้าอาจจะทำให้เจ้าต้องเดือดร้อนในภายภาคหน้า”   ………………
  ………..
  เป่ยหมิงเสวี่ยมองดูชิงสุ่ยหายจากไป เธอจัดระเบียบความคิด ชายที่เธอเพิ่งเจอทั้งแปลกและแข็งแกร่ง เธอรับรู้ได้ถึงพลังที่อยู่ในตัวชิงสุ่ย ซึ่งดูเหมือนว่าเขาเองก็จะอยู่ขั้นปลายของระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าเธอ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกประหลาดในตัวของเขา
  ชิงสุ่ยย่างก้าวเดินเล่นรอบเมืองหิมะอุดรหลังจากแยกตัวออกมา เขาวางแผนจะสร้างหอคอยจักรพรรดิขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่นี่ เพียงแต่ชิงสุ่ยมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่อยากจัดตั้งหอคอยจักรพรรดิที่เมืองหิมะอุดร เพราะเมื่อหอคอยจักรพรรดิกลายเป็นที่นิยม มันก็จะกลายเป็นจุดดึงดูดเหล่ายอดยุทธผู้ทรงพลัง มันก็จะนำพาปัญหามาหาเป่ยหมิงเสวี่ย