เดินกลับมาที่ห้อง ในใจลู่ฝานยังเศร้าอยู่เล็กน้อย

ความยินดีที่มาถึงเมืองหลวง ตอนนี้โดนชะล้างไปหมดแล้ว

เปิดประตูห้อง ลู่ฝานเตรียมพักผ่อนให้เต็มที่ เรื่องบ้าบอแบบนี้ ทำได้เพียงว่ากันไปทีละก้าว

เพิ่งเปิดประตูออก ทันใดนั้น ลู่ฝานเห็นสิบสามบาดเจ็บล้มอยู่ข้างประตู

ลู่ฝานดึงกระบี่หนักไร้คมด้านหลังออกมาทันที

“ลู่ฝาน ไม่ต้องกังวล ฉันเอง!”

ทันใดนั้น ทั้งห้องสว่างเหมือนตอนกลางวัน

สิ่งที่ปรากฏในสายตาคืออู่คงหลิง เธอยกลูกแก้วลูกหนึ่งขึ้นมาเบาๆ หลังจากนั้นลูกแก้วลูกนี้ลอยอยู่ในอากาศ แสงนวลส่องสว่างไปทั่ว

“เธอทำร้ายสิบสามเหรอ”

ลู่ฝานขมวดคิ้วถาม

อู่คงหลิงพูดอย่างราบเรียบ “นี่ชื่อเขาเหรอ นายหาผู้ฝึกชั่วร้ายมาเป็นผู้ติดตามตั้งแต่เมื่อไร หรือตอนนี้นายเข้าสู่มารแล้วจริงๆ วางใจเถอะ ฉันแค่ผนึกเขาเอาไว้เท่านั้น ฉันอยากรอนายในห้อง แต่ไอ้หมอนี่ขวางเหมือนหิน ไม่ยอมให้ฉันเข้ามา ช่วยไม่ได้ ฉันทำได้เพียงโยนเขาไปไว้ข้างๆ”

ลู่ฝานเอามือข้างหนึ่งวางบนไหล่สิบสาม สัมผัสพลังในตัวสิบสาม แค่โดนพลังปราณพิเศษผนึกเอาไว้เท่านั้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จึงถอนหายใจออกมาเบาๆ

ปราณชี่พุ่งเข้าไป ลู่ฝานปลดผนึกให้สิบสาม

ทันใดนั้น สิบสามมองอู่คงหลิงด้วยสายตาโมโหทันที แต่เขาก็ยังยืนด้านหลังลู่ฝานอย่างซื่อสัตย์ ไม่ได้ดึงกระบี่พุ่งเข้าไป

ลู่ฝานพูดกับสิบสามว่า “สิบสาม นายไปเฝ้าข้างนอก อย่าให้คนอื่นเข้ามา!”

สิบสามพยักหน้าเบาๆ แล้วก้าวออกไป จากนั้นก็ปิดประตูห้องลงเบาๆ

“นายนี่เลือกผู้ติดตามเก่งจริงๆ นะ หาผู้ฝึกชั่วร้ายที่กล้าตายแบบนี้มารับใช้ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ลู่ฝานปีนี้นายเป็นยังไงบ้าง มาทำอะไรที่เมืองหลวงเหรอ มาเที่ยวหรือมาทำธุระ”

จู่ๆ อู่คงหลิงถอดผ้าปิดหน้าบางของตัวเองออก เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริงของตัวเอง เธอมองลู่ฝานแล้วพูดออกมา

ใบหน้างดงามสุดยอด ระยะเวลาหนึ่งปี ไม่ได้มีสิ่งที่เรียกว่ารอยตีนกาเลย กลับตรงกันข้ามดูเป็นผู้ใหญ่ บริสุทธิ์ งดงามจนหาอะไรมาเทียบไม่ได้

ลู่ฝานดึงเก้าอี้มาตัวหนึ่ง นั่งลงตรงข้ามอู่คงหลิง

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันมาร่วมการคัดเลือก เธอล่ะ คุณอู่คงหลิง เธอมีภารกิจอีกแล้วเหรอ หรือเธอมาหาอะไรสนุกๆ ทำ”

อู่คงหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม “บอกยาก บอกไปอาจไม่ดี ไม่บอกดีกว่า”

ลู่ฝานพูดว่า “ในเมื่อเธอไม่ยอมบอกอะไรฉัน แล้วมาหาฉันที่นี่ทำไม คงไม่ได้อยากมาคุยเรื่องเก่าๆ กับฉันใช่ไหม”

อู่คงหลิงพูดว่า “แน่นอนว่าต้องมีจุดประสงค์ ลู่ฝาน นายคิดถึงฉันไหม”

ลู่ฝานอึ้งไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าอู่คงหลิงจะถามอะไรแบบนี้

เมื่อได้ยินคำนี้ ค่ำคืนอันเร้าใจที่จวนลู่เมืองตงหวา ผุดขึ้นมาในหัวเขาเอง

เห็นลู่ฝานอึ้งไป อู่คงหลิงหัวเราะคิกคักออกมา

“ดูเหมือนนายคิดถึงฉันนะ น่าเสียดาย ฉันอยู่ข้างกายนายไม่ได้ ใครใช้ให้เราไม่ใช่พวกเดียวกันล่ะ!”

อู่คงหลิงเดินท่าทางเย้ายวนสง่างามมาด้านหลังลู่ฝาน

จู่ๆ มือเล็กทั้งสองข้างกดลงบนไหล่ลู่ฝาน ช่วยนวดให้ลู่ฝานเบาๆ

แรงของเธอไม่เบาไปและไม่หนักไป ทำให้คนรู้สึกสบาย โดยเฉพาะกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มาจากตัวเธอ ยิ่งทำให้คนจิตใจปั่นป่วน

“ลู่ฝาน ในเมื่อนายมาเมืองหลวงแล้ว มีหลายเรื่องที่ฉันต้องกำชับนายไว้ก่อน นายรับปากฉันได้ไหม ว่าจะไม่พูดเรื่องของเราสองคน ไม่ว่าใครก็ห้ามพูด ให้เป็นความลับได้ไหม”

อู่คงหลิงพูดเชิงขอร้องเล็กน้อย