บทที่ 6 บทที่ 130 คำตอบของชีวิต

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

กุยเชียนอีพยักหน้าและค่อยๆ คลายน้ำแข็ง ถึงจะเห็นนกหวีดกลายเป็นกองของเหลวแต่เขาก็ไม่ชะล่าใจ 

 

หลังเขาสำรวจอย่างละเอียดและเห็นของเหลวเหล่านี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้วถึงถอนหายใจ พยักหน้าให้หลงซีรั่ว 

 

ทันใดนั้นหลงซีรั่วก็พูดว่า “กุยเชียนอี อีกเดี๋ยวเจ้าพาชีสไปหาพวกซูเสี่ยวซูเถอะแล้วก็ดูแลเจ้ามนุษย์คนนี้ให้ดี ข้าจะไปอีกที่หนึ่งก่อนกลับ” 

 

กุยเชียนอีมึนงง จากนั้นก็ถามเบาๆ ว่า “ใต้เท้าหลง ท่านยังจะไปไหนอีก” 

 

หลงซีรั่วพูดว่า “เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ก็ต้องหาทางแก้ไข มีภาระบางอย่างที่ข้าไม่สามารถมองข้ามได้” 

 

พูดแล้วหลงซีรั่วก็หาทางและปีนลงไป 

 

… 

 

 “ว้า…คุณชายรอง คุณชายรอง เตรียมรถเรียบร้อยแล้ว พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ ด้านนอก…สกปรกเกินไป” 

 

เฉิงอวิ๋นรีบพูดกับจงลั่วเฉิน แต่ไม่รู้เพราะอะไรคุณชายรองถึงเริ่มหยิบกล้องส่องทางไกลมาส่องขึ้นมองฟ้า 

 

การแสดงของเฉิงอี้หรานและหงก้วนเมื่อครู่นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ผู้ชมทั้งหมดล้วนแต่ยืนขึ้นมา ทั้งยังร่วมกันร้องประสานเสียงในช่วงสุดท้ายอีก  

 

การปฏิบัติแบบนี้มีให้เฉพาะสำหรับพวกที่มีชื่อเสียงมานานและมีแฟนคลับมากมายเท่านั้น…แต่พวกเฉิงอี้หรานและหงก้วนกลับทำได้ 

 

ทันใดนั้นเฉิงอวิ๋นก็รู้สึกว่าการจัดให้หงก้วนออกเวทีเป็นคนสุดท้ายนั้นถูกต้องแล้ว 

 

ครั้งนี้เจ้าพวกคนข้างนอกเหล่านั้นคงไม่มีคำพูดอะไรแล้วสินะ ครั้งก่อนมีข้ออ้างต่างๆ นานา บอกว่าให้นักร้องคนอื่นเล่นต่อ ไม่ได้ตั้งใจเล่นเลย มีกระทั่งพูดว่าเสียงเพี้ยน…รวมถึงมีการพูดว่ามีอำนาจลึกลับบีบบังคับนักร้องเหล่านี้ให้ลิปซิงก์ 

 

ครั้งนี้คงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว คนที่ออกไปหน้าเวทีมีใครบ้างที่ไม่ได้พยายามเต็มที่สุดความสามารถและรับเสียงตบมือเกรียวกราว แต่มีใครที่ทำถึงระดับที่เฉิงอี้หรานและหงก้วนได้ 

 

แต่รายการที่เดิมทีกำลังดีๆ สุดท้ายกลับถูกทำลาย…ไม่รู้ว่าเป็นไอ้บ้ามาจากที่ไหนทำ เฉิงอวิ๋นโมโห เพราะสถานการณ์กำลังไปได้สวยชัดๆ 

 

 “ไม่จำเป็น ฉันจะอยู่นี่แหละ” จงลั่วเฉินส่ายหน้า “ถึงยังไงตรงนี้ก็ปลอดภัย…นายไปถามทางผู้กำกับว่ารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นหรือยัง” 

 

พูดแล้วจงลั่วเฉินก็ยกกล้องส่องทางไกลในมือขึ้นอีก 

 

เฉิงอวิ๋นยังไม่เข้าใจ…ด้านนอกมีอะไรน่าดูกัน การแสดงเมื่อครู่ของเฉิงอี้หรานกับหงก้วนยอดเยี่ยมถึงขนาดนั้น แม้แต่ตนเองก็ยังถูกดึงดูดจนลืมตัว…แต่ดูเหมือนคุณชายรองผู้นี้เริ่มยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องตั้งแต่ตอนนั้น 

 

 “ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” 

 

แต่คนสนิทผู้ยอดเยี่ยมก็ยังทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด 

 

หลังเฉิงอวิ๋นจากไป จงลั่วเฉินก็พึมพำว่า “บนโลกนี้…มีกี่เรื่องที่ฉันยังไม่รู้อีกกันแน่” 

 

… 

 

… 

 

 “…ขอให้ลูก ค่อยๆ เติบโต” 

 

ในตอนที่พูดคำนี้จบ ลั่วชิวก็ถอนหายใจอย่างฉับพลัน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอีก…ผ่านไปครู่ใหญ่ ลั่วชิวถึงกลับเป็นปกติ 

 

ส่วนโยวเย่ก็เพิ่งพูดในตอนนี้ว่า “ที่แท้คุณหนูหลงก็ชอบซ่อนแอบและทำตัวลับๆ ล่อๆ งั้นเหรอ” 

 

 “พวกนายสิทำตัวลับๆ ล่อๆ” เห็นเพียงเงาร่างเล็กๆ สายหนึ่งพยายามปีนขึ้นมาจากขอบ หอบหายใจและพูดด้วยความโมโหว่า “คิดว่าฉันคิดจะขึ้นมาก็ขึ้นมาได้ง่ายๆ เลยหรือไง” 

 

 “ถ้าคุณหนูหลงต้องการอะไรก็สามารถเรียกผมได้” ลั่วชิวยิ้ม “แต่คุณหนูหลงกลับรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ มังกรแท้จริงช่างน่ากลัวจริงๆ” 

 

หลงเอ๋อร์พูดว่า “แต่ก่อนฉันก็เป็นแบบนี้ ชอบยืนอยู่ที่สูงมองดูทุกอย่าง…ตอนนี้ดูแล้วเหมือนกับคนโง่ แต่ฉันคิดว่านอกจากฉันแล้วก็จะต้องมีคนโง่คนอื่นอีก และก็ดีที่คิดถูก” 

 

คุณหนูสาวใช้หรี่ตาลง เจ้าของสมาคมลั่วกลับไม่ได้ใส่ใจมาก “ที่นี่บรรยากาศดี” 

 

หลงเอ๋อร์สบถ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “ฉันไม่สนใจจะพูดเรื่องนี้ในตอนนี้…เมื่อครู่ จุยเฟิงเขา…เขาเป็นทายาทของหมาป่าตะกละเหรอ” 

 

ลั่วชิวพูดว่า “เมื่อครู่นี้คุณหนูหลงก็ได้แอบฟังแล้ว…อ้อ ไม่ถูกสิ ได้ยินตอนกำลังปีนขึ้นมาพอดี” 

 

ทันใดนั้นหลงซีรั่วก็โมโหขึ้นมา “เพราะงั้นนายก็เป็นเหมือนผู้คุมหุ่นเชิดผู้ชั่วร้ายที่ถือเอาวิญญาณทั้งหมดเป็นหุ่นเชิดและควบคุมตามใจ…ทำให้พวกเขาเจ็บปวดทรมานและทำให้พวกเขาบ้าคลั่งงั้นเหรอ” 

 

ลั่วชิวครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนส่ายหน้าและเอ่ยว่า “ผมไม่ใช่ผู้คุมหุ่นเชิดและพวกเขาก็ไม่ใช่หุ่นเชิด ไม่มีใครเป็นหุ่นเชิด สำหรับผมแล้ว พวกเขาล้วนแต่มีตัวตนเป็นของตนเอง พวกเขาจะเลือกทางเลือกของตัวเอง ไม่มีใครสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้” 

 

หลงซีรั่วยังคงพูดอย่างโมโหว่า “จริงเหรอ แต่ในที่สุดเมื่อผ่านความเศร้าโศกและความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วทุกคนก็ยังคงเจ็บปวด…มีเพียงพวกนายเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ หรือนี่ยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์อีกเหรอ” 

 

ลั่วชิวไม่ตอบเพียงพูดว่า “พูดเข้าเรื่องหลักเถอะ ถึงยังไงผมก็เป็นพ่อค้า คุณหนูหลงมาหาผมในครั้งนี้คือคิดจะทำการแลกเปลี่ยนกับผมใช่ไหม” 

 

หลงซีรั่วจ้องมองลั่วชิวด้วยความโมโห…ยังคงไม่รู้ว่าเจ้าบ้าคนนี้เป็นคนดีหรือคนเลวกันแน่ แต่ก็ไม่มีเวลาจะอยู่ทำความเข้าใจกับอีกฝ่ายที่นี่ต่อ จึงพูดด้วยความโมโหว่า “ฉันมาขายเลือด นายพอใจหรือยัง” 

 

 “แน่นอน มีการค้ามาหาถึงร้าน ถือเป็นเกียรติของทางร้านอย่างยิ่ง” ลั่วชิวโค้งกายและพูดเบาๆ ว่า “คุณลูกค้าที่เคารพ ต้องการซื้ออะไรบ้างครับ” 

 

 “อย่างแรก คนหนุ่มคนนั้น…” หลงซีรั่วยื่นแขนออกไปดึงแขนเสื้อของตนเองขึ้นมา “อย่าพูดว่านายไม่รู้ว่าคนที่ฉันพูดถึงเป็นใคร เจ้านั่นไม่เลว ฉันดูแล้วถูกชะตา ไม่อยากให้เขาตายไปแบบนี้ นายต้องทำให้เขาดีขึ้น อีกทั้งยังต้องทำให้เขาไม่ต้องบาดเจ็บเพราะใช้พลังพิเศษอีก…มนุษย์แบบนั้นเพิ่มมาอีกหนึ่งถึงจะไม่มาก แต่หากขาดไปหนึ่ง โลกนี้ก็จะขาดสีสันไปส่วนหนึ่ง” 

 

 “เลือดมังกรแท้จริงสองร้อยมิลลิลิตร” เจ้าของสมาคมลั่วบอกราคาเบาๆ 

 

หลงซีรั่วกัดฟันและเอ่ยว่า “อย่างที่สอง ปิดรูในโรงยิมและลบวิดีโอหรือภาพถ่ายที่อาจจะถ่ายติดพวกเราในคืนนี้ทั้งหมด…ถึงจะบอกว่าคนเหล่านั้นดูเหมือนเป็นบ้าแต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะไม่ถูกถ่ายไว้” 

 

 “อืม…เลือดมังกรแท้จริงห้าสิบมิลลิลิตร” ลั่วชิวเสนอราคาอีกครั้ง 

 

หลงซีรั่วถลึงตามองอย่างแค้นเคือง ทันใดนั้นก็พูดว่า “ฉันต้องการรู้ว่าวิญญาณของซูโย่วได้หายไปแล้วจริงๆ” 

 

 “อืม…คุณหนูหลงซื้ออย่างต่อเนื่องแบบนี้ ทางร้านจะให้ส่วนลด ข่าวนี้ใช้เลือดมังกรแท้จริงเพียงหนึ่งมิลลิลิตรก็ได้แล้ว แต่ผมต้องบอกคุณก่อนว่าอีกเดี๋ยวค่อยสรุปรวมยอดจ่ายรวมกัน” ลั่วชิวพูด “ในโลกนี้จะไม่มีวิญญาณของซูโย่วอีกต่อไป”  

 

หลงซีรั่วหัวเราะอย่างขมขื่น 

 

เธอรู้สึกว่าถึงเขาจะพูดว่าจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว…แต่ร้านแห่งนี้ก็ยังสร้างออกมาได้ เพียงแต่ราคาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เธอก็ยังอดถามออกไปไม่ได้ว่า “พวกนายขายได้ไหม ราคาเท่าไหร่” 

 

 “เลือดมังกรแท้จริงหนึ่งพันห้าร้อยมิลลิลิตรหรือเลือดมังกรแท้จริงบริสุทธิ์หยดหนึ่งก็ได้” เจ้าของสมาคมลั่วเสนอราคาเบาๆ 

 

 “ราคาถูกขนาดนั้นเชียว” หลงซีรั่วเบิกตากว้าง…หรือว่าในสายตาของร้านนี้ราคาของเลือดมังกรแท้จริงบริสุทธิ์นั้นสูงส่งมากจริงๆ 

 

 “ฉันต้องการกลับมา…ก็ใช้เลือดมังกรแท้จริงใช่ไหม” หลงซีรั่วถอนหายใจ 

 

ถึงจะพูดว่าหยดเลือดบริสุทธิ์เพียงหนึ่งหยด…แต่ความสำคัญก็มากกว่าเลือดมังกรแท้จริงมาก 

 

ถึงจะพูดว่าหยดหนึ่งกับหนึ่งพันห้าร้อยมิลลิลิตรอาจจะมีมูลค่าเท่ากัน…แต่หยดเลือดบริสุทธิ์หนึ่งหยดกับความสามารถในฟื้นฟูเลือดหนึ่งพันมิลลิลิตรนั้นใช้เวลาแตกต่างกัน 

 

 “สุดท้าย…” หลงซีรั่วครุ่นคิดครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดอย่างระมัดระวังว่า “ฉันเคยทำสัญญากับพวกมนุษย์ว่าจะไม่ให้ปีศาจเผยตัวต่อหน้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของฉัน เรื่องของนกหวีดในครั้งนี้ ถ้าจะสืบหาก็ยังเป็นเซียงหลิ่วที่สร้างมันออกมา…นกหวีดฆ่าปีศาจฉันเองสามารถจัดการได้ แต่พวกมนุษย์ที่ถูกมันกิน…ตรงจุดนี้ต้องการให้พวกนายจัดการ โดยเฉพาะเรื่องนี้ได้เกี่ยวข้องไปถึงตำรวจของมนุษย์แล้ว ฉันต้องการจบเรื่องนี้และให้พวกเขาหยุดการสืบหา” 

 

 “คุณหนูหลงต้องการให้จัดการแบบไหนเป็นพิเศษไหมครับ” เจ้าของสมาคมลั่วถามกลับ 

 

 “ทำให้ดูดีก็พอ” หลงซีรั่วส่ายหน้าและพูดว่า “วิธีนั้นพวกนายเป็นคนคิด” 

 

 “อย่างนั้น…ก็สิบมิลลิลิตร” เจ้าของสมาคมลั่วพยักหน้า “ยังมีคำสั่งอื่นๆ อีกไหม” 

 

หลงซีรั่วนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งและเอ่ยว่า “เท่านี้เถอะ…แต่กฏของพวกนายคือส่งของก่อนค่อยเก็บเงิน ดังนั้นหากต้องการให้จ่ายก็ตั้งใจทำงาน” 

 

 “แน่นอน นี่เป็นกฏของทางร้าน” เจ้าของสมาคมลั่วหัวเราะเบาๆ 

 

สุดท้ายหลงซีรั่วก็มองอีกแวบหนึ่งอย่างแค้นเคืองและพูดว่า “แต่ฉันก็ยังไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกนาย…ไม่เห็นด้วยที่พวกนายทำร้ายสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น” 

 

พูดแล้วหลงซีรั่ว…หลงเอ๋อร์ก็รีบวิ่งไปยังที่ที่ปีนขึ้นมาและก็ปีนลงไปอย่างทุลักทุเลอีกครั้ง 

 

ทันใดนั้นลั่วชิวก็พูดขึ้นว่า “ดูแล้วคืนนี้คงกลับสายแน่ โยวเย่ พวกเราทำงานกันเถอะ” 

 

 “ค่ะ” 

 

… 

 

… 

 

เมื่อลมยามค่ำคืนพัดผ่านมา ไม่มีใครอยู่บนจุดสูงแห่งหนึ่งของสนามกีฬาแล้ว แต่ลมที่พัดมานี้กลับพัดหนองน้ำกองหนึ่งที่อยู่ที่นี่ให้เกิดเป็นคลื่นขึ้นมาเล็กน้อย 

 

หลังลมพัดไปหนองนี้กลับไม่ได้หยุดนิ่ง มันยังคงเกิดเป็นวงคลื่นต่อไป…สุดท้ายหนองน้ำก็เริ่มบวมขึ้นมา ทีละชั้นๆ ในที่สุดก็กลายเป็นรูปร่างคลุมเครือสายหนึ่ง 

 

มันยังไม่ทันได้เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์กลับได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังเข้ามา เป็นเสียงที่มักโผล่มากะทันหันและพูดคุยกับมันประจำ 

 

เสียงนี้บอกเล่าเรื่องราวมากมายให้มันฟัง…แต่ก็มีเรื่องมากมายที่ยังไม่บอกมันเช่นกัน 

 

 “ปลอดภัยแล้วเหรอ” เสียงนั้นดังขึ้นมา 

 

 “ใช่แล้ว เสี่ยงจริงๆ” มันค่อยๆ พูดขึ้น “สถานการณ์แบบนี้ ถ้าฉันไม่ทำให้พวกเขาคิดว่าฉันคิดจะตายละก็ พวกเขาคงไม่ยอมปล่อยฉันแน่ ดังนั้นฉันจึงต้องทำแบบนี้ จงใจเปิดเผยแก่นเซลล์ปลอม ยังดีที่หลอกพวกนั้นได้” 

 

 “มนุษย์เรียกการกระทำนี้ว่าเจ้าเล่ห์” 

 

 “จริงเหรอ” มันนิ่งครู่หนึ่ง “เจ้าคนเมื่อครู่ก็พูดแล้วว่า อยู่มาตั้งนานหลายปีก็ต้องต่ำช้าบ้างถึงจะได้ เขาทำได้ ฉันก็ทำได้” 

 

 “อืม…ได้ลิ้มลองความเจ็บปวดทรมานหรือยัง” เสียงนั่นพูดขึ้นมาอีก  

 

 “ได้ลิ้มลองแล้ว” รูปร่างของมันเริ่มชัดเจนขึ้นมาจนมองเห็นส่วนที่คล้ายหัว มันส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันคิดว่าฉันไม่อยากลิ้มลองประสบการณ์แบบนั้นอีกแล้ว” 

 

 “ผมคิดจะเอาของบางอย่างจากร่างกายคุณไป คุณจะถือสาไหม” 

 

 “เอาอะไรของฉันไป” มันพูดอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ 

 

 “จะเอาต้นเหตุที่ทำให้คุณเจ็บปวดทรมานไป แต่หลังจากเอาไปแล้ว เกรงว่าคุณจะสูญเสียของบางอย่าง อย่างเช่น ความรู้สึกต่อชีสอาจจะไม่สำคัญมากขนาดนั้นอีกแล้ว” 

 

มันนิ่งไปครู่หนึ่ง “นายเอาไปเถอะถือว่าเป็นของตอบแทนที่นายพูดคุยกับฉันและสอนสิ่งต่างๆ มากมายให้ฉันก็แล้วกัน” 

 

ทันใดนั้นก็มีบอลแสงสีขาวค่อยๆ ลอยออกมาจากตัวมัน…หลังบอลแสงออกจากร่างกายของมันแล้ว มันก็รู้สึกว่าร่างกายเบาสบายขึ้นอย่างกะทันหัน ชั่วขณะนั้นความเจ็บปวดก็ลดน้อยลง 

 

 “รู้สึกเป็นยังไงบ้าง” เสียงนั้นพูดต่อ 

 

มันคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ยังดี ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น…แต่มีความอึดอัด อึดอัดเล็กน้อย แต่ฉันทนได้” 

 

 “ต่อไปคิดจะทำอะไร” 

 

มันครุ่นคิดครู่หนึ่งและพูดว่า “ฉันคิดว่าฉันต้องไปจากที่นี่ ที่นี่มีคนที่ไม่อยากให้ฉันอยู่มากมายเกินไป ฉันไม่มีพลังพอที่จะต้านทานคนเหล่านั้น…ดังนั้นฉันจึงคิดจะจากไป” 

 

 “ไปที่ไหน” 

 

มันครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่นานถึงพูดอย่างแน่ใจว่า “ฉันถูกสร้างออกมาได้ ก็ต้องมีสิ่งที่ถูกสร้างออกมาเหมือนฉัน ในเมื่อมาอยู่ในโลกใบนี้แล้วก็ต้องมีเหตุผลให้ฉันคงอยู่ ฉันจะไปหาพวกเดียวกันกับฉัน ไปตามหาเหตุผลที่ฉันคงอยู่…ฉันอยากรู้ว่าในเมื่อโลกใบนี้ไม่ต้องการให้ฉันอยู่แล้วทำไมต้องให้ฉันเกิดขึ้นมาด้วย” 

 

ในที่สุดมันก็มีรูปร่างสมบูรณ์ 

 

ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่มีสี่ขาและมีอวัยวะหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน และไม่ใช่รูปลักษณ์ของซูโย่ว…แต่เป็นคล้ายกับตัวละครบางตัวในการ์ตูนที่ตายยากอีกทั้งยังสามารถระเบิดโลกได้หลายพันครั้งแต่ก็ไม่ระเบิดสักที 

 

เหมือนเซลล์[1] 

 

สายตาของมันมีชีวิตชีวาเช่นมนุษย์ มันมองท้องฟ้ายามค่ำคืน “…หาพบแล้ว คำตอบที่ฉันเกิดขึ้นมา” 

 

พูดแล้วมันก็ไม่อาลัยเสียงที่เคยพูดกับมันเพื่อฆ่าเวลาอีก มันหันร่างไปจากสถานที่แห่งนี้…อย่างเงียบเชียบ 

 

… 

 

ลั่วชิวมองร่างที่มีสีเขียวเข้มดำจากไปไกล…จนกระทั่งลับตาแล้วถึงมองบอลแสงสีขาวในมือและพูดเบาๆ ว่า “นับตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก็คิดถึงความหมายของชีวิตแล้ว นี่เร็วยิ่งกว่ามนุษย์และปีศาจมากมายหลายเท่านัก วิวัฒนาการงั้นเหรอ…” 

 

ลั่วชิวเอ่ยว่า “โพรมีธีอุส…เป็นสิ่งมีชีวิตที่มองข้ามไม่ได้เลยจริงๆ หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้งนะ นกหวีด” 

 

 “นายท่าน โยวเย่เตรียมการเรียบร้อยแล้ว” 

 

ทันใดนั้นเสียงของคุณหนูสาวใช้ก็ดังมาจากด้านหลัง 

 

เจ้าของสมาคมลั่วหันกลับไป…ที่มองเห็นนั้นเป็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขาม ดูดุร้ายมาก ใบหน้ามีรอยบากตัดกัน อีกทั้งบนมือยังถือ…กรรไกรขนาดใหญ่ประมาณครึ่งตัวคนอยู่อันหนึ่ง 

 

 “แบบนี้ได้หรือยัง นายท่าน” 

 

เจ้าของสมาคมลั่วหัวเราะและพูดว่า “ต่อไปก็ลำบากหน่อยนะ” 

 

 

 

[1] เซลล์ ตัวละครในการ์ตูนดราก้อนบอล