Ch.25 – แม้ว่าข้างหน้าจะไม่เหลืออะไร

Translator : Reheikichi / Author

สำหรับเอลิเซีย กาเรียพ่อของเธอคือคนที่เธอนับถือที่สุดในโลก

อัศวินแห่งเซย์ริน

ในกลุ่มอัศวินซึ่งขับเคลื่อนด้วยเกียรติ พ่ออยู่ในตำแหน่งผู้นำของอัศวิน

เอลิเซียเองก็ไม่รู้ความหมายของมันนัก รู้เพียงแค่ว่าพ่อของเธอแข็งแกร่งเท่านั้น จนได้รับขนานนามว่าผู้นำที่เก่งที่่สุดในประวัติศาสตร์และบางครั้งก็ถูกเรียกด้วยชื่ออันโหดร้ายว่าปีศาจดาบคลั่ง

แม้ทั่วโลกจะต่างเรียกพ่อเธอว่าปีศาจ แต่สำหรับเธอแล้วพ่อของเธอเป็นคนที่อบอุ่นและรักครอบครัว

ยึดมั่นใจความยุติธรรมมากกว่าใครและแข็งแกร่งกว่าใครๆ

เอลิเซียชื่นชมพ่อมาก จึงกวัดแกว่งดาบตั้งแต่ยังเยาว์วัย

[ เอลิเซีย อยากเป็นอัศวินเหมือนพ่อไหม? ]

เมื่อเอลิเซียอายุได้ห้าขวบ

พ่อของเธอก็ถามขึ้น

[ ค่ะ! ]

[ งั้นรึ ถ้างั้นพ่อจะสอนสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นอัศวินให้เอง ]

ทันใดนั้น จู่ๆ พ่อก็มีท่าทางจริงจังอย่างน่าประหลาด

เอลิเซียหยุดดาบและตั้งใจฟังอย่างจริงจัง

[ จงมีชีวิตอย่างตรงไปตรงมา ]

[ …ตรงไปตรงมาเหรอคะ? ]

[ โอ้ จงใช้ชีวิตในแบบที่ลูกเชื่อ จากนั้นดาบก็จะตรงไปตรงมาเอง… ดาบของอัศวินจะต้องตรงไปตรงมา ดาบที่บิดเบี้ยวไม่สามารถปกป้องผู้คนได้และที่สำคัญที่สุดคือไม่สามารถทำให้เธอเชื่อใจได้ ]

จากนั้นพ่อของเธอก็ลูบหัวเธอ

[ จงใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมาจากนั้นจะกลายเป็นคนที่เชื่อถือได้ ]

วันต่อมา

ก็ได้รู้ว่าอัศวินแห่งเซย์รินจะเข้าร่วมสงคราม

เป็นธรรมดาที่พ่อจะเข้าร่วมด้วย

แต่ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็ไม่กลับมาอีกเลย

ในหนึ่งปี เธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อเพียง 10 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในวันนั้นคำพูดของพ่อเธอ ยังตรึงตราใจของเธอไม่มีวันลืม

เธอคิดว่ามันเป็นวิถีชีวิตที่มีเกียรติ

คิดว่าพ่อของเธอเป็นคนที่สมควรเคารพนับถือ

พ่อจะต้องกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ อยากจะไล่ตามหลังพ่อให้ทัน

สงครามอันยาวนานทำให้เธอแทบจะไม่ได้เจอพ่อ แต่เอลิเซียก็ไม่ได้เหงา

เมื่อรู้สึกหดหู่หรือเศร้าก็จะไปกวัดแกว่งดาบ

เอลิเซียฉลองวันเกิดครบรอบ 10 ปีคนเดียว ใช้เวลาและเงินทั้งวันหมดไปกับการซื้อดาบสำหรับผู้ใหญ่และฝึก

ในที่สุดสงครามก็ใกล้จะจบลงแล้ว

ปาร์ตี้ของท่านผู้กล้าได้ก้าวเข้าใกล้จอมมาร

สงครามกำลังจะจบ จะได้เจอพ่อแล้ว

เมื่อได้พบพ่ออีกครั้ง เธออยากแสดงให้ดูว่าตัวเองเติบโตไปแค่ไหน ―― แต่ทว่า

เธอก็ได้ทราบข่าวการตายของพ่อเธอในภายหลัง

พ่อของเธอได้รับภารกิจช่วยท่านผู้กล้าในการหลบหนีจึงถูกขนานนามว่าเป็นการตายอย่างสมเกียรติ

เธอร้องไห้ แต่ขณะเดียวกันก็คิดว่าพ่อของเธอช่างตายได้อย่างสมเกียรติและตรงไปตรงมาจนช่วงเวลา ‘สุดท้าย’

แต่แล้ว―― วันหนึ่งคนรับใช้ของตระกูลเทอร์แกรนด์ก็มาพบฉัน

ในช่วงสงครามพ่อไม่ได้กลับบ้าน เนื่องจากหน้าที่อัศวินจึงไปที่คฤหาสน์ของดยุคเทอร์แกรนด์หลายครั้ง ดังนั้นเถ้ากระดูกของพ่อจึงอยู่ที่คฤหาสน์และคนรับใช้ของเขาจึงนำมันมามอบให้

[ อะ เอ่อ ท่านเอลิเซีย ที่จริงแล้วมีเรื่องที่อยากบอก… ]

ฉันได้ยินเรื่องที่ไม่อยากเชื่ออยากปากคนรับใช้

ในห้องที่ไม่ได้เปิดให้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์เทอร์แกรนด์ ในห้องนั้นคนรับใช้บอกว่าได้ยินเสียงโรเบิร์ต เทอร์แกรนด์กับพ่อเขากำลังโต้เถียงกันอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นในคำโต้เถียงของทั้งสองยังมีคำว่า ‘ยักยอก’ ‘ปิดปาก’ อยู่ด้วย

ในตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกครอบงำด้วยความโกรธ

แต่ยังไม่มีหลักฐาน

เอลิเซียจึงตัดสินใจไปคุยกับคนที่เกี่ยวข้องของอัศวินแห่งเซย์ริน

ไม่รู้ว่าโชคดีหรือไม่

แต่มีคนมากมายรู้จักเอลิเซียในฐานะลูกสาวของผู้นำอัศวิน

ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นเพียงว่าเอลิเซียนั้นเศร้าโศกต่อการตายของพ่อจึงมาถาม [ สาเหตุการตายของพ่อ ] เพียงเท่านั้น

ดังนั้นข้อมูลจึงไม่รั่วไหลไปถึงหูใครนัก

ระหว่างการล่าถอย

จู่ๆ ดูเหมือนโรเบิร์ตจะทำการจ้างทหารรับจ้างและปล่อยให้พ่อของเธออยู่กับพวกทหารรับจ้าง

เหตุผลการจ้างทหารรับจ้างแบบไม่บอกกล่าวแม้แต่พวกอัศวินก็ไม่รู้

ยิ่งไปกว่านั้น พวกทหารรับจ้างเองก็เสียชีวิตในเวลาเดียวกันกับพ่อของเธอ เห็นได้ชัดจากเส้นทางการล่าถอยว่าพวกทหารรับจ้างอยู่นอกเส้นทางจึงคิดว่าอาจจะหนีจากแนวหน้า โรเบิร์ตสรุปให้พวกเขาเป็นคนทรยศและให้เหล่าอัศวินทำการสังหารทหารรับจ้างเหล่านั้น

เรื่องราวมันดูไม่สมเหตุสมผลจนเกินไป

พวกอัศวินเองก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ต่างกับเอลิเซีย พวกอัศวินไม่รู้เรื่องการทุจริตของโรเบิร์ต จึงไม่ได้นึกสงสัยตัวโรเบิร์ตขึ้นมา

เอลิเซียยิ่งมั่นใจ

ว่าการตายของพ่อเธอเกี่ยวข้องกับโรเบิร์ต

พ่อของเธอที่ใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมาและมีเกียรติกลับต้องมาจบชีวิตโดยมนุษย์ที่บิดเบี้ยว

ความจริงได้ทำลายบางสิ่งในตัวอลิเซีย

บางทีอาจเป็นความมีเหตุผล

บางทีอาจจะเป็นวิญญาณ

[ จงมีอย่างตรงไปตรงมา ]

คำพูดของพ่อหวนกลับคืนมาเตือนใจเธอ

ฉันจะไม่มีวันลืมคำสอนที่น่าภูมิใจที่พ่อสอนมา

แม้ว่าพ่อจะจบชีวิตด้วยดาบอันบิดเบี้ยว ฉันก็จะไม่ยอมเสียสิ่งที่พ่อสอนมา

เอลิเซียจึงใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมา

จุดประสงค์เพื่อใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมา

ฉันจะไม่ผิดสัญญากับพ่อ

ทั้งหมดก็เพื่อฆ่าโรเบิร์ต

ดังนั้นเอลิเซียจึงใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมา

 

 

ตอนเช้าของวันฝึกร่วมกันของอัศวนทั้งสองกลุ่ม

เอลิเซียตื่นจากความฝันในอดีต

[ พ่อคะ … วันนี้หนูจะทำทุกอย่างให้จบค่ะ ]

หลังจากล้างหน้าและแต่งเครื่องแบบ เอลิเซียหยิบดาบและผิงที่ข้างผนังห้อง

ฉันดูแลรักษาดาบอย่างดีมาเสมอ วันนี้จะต้องดูแลเป็นพิเศษ

เพราะถ้าดาบไม่คมจะเป็นปัญหาได้

บอกตามตรงว่าฉันอยากจะทรมานมันก่อนจะฆ่ามากกว่า แต่ถ้าใช้เวลามากเกินไป พวกอัศวินอาจจะมาขวางได้

ดังนั้นจะต้องฆ่าให้ตายในดาบเดียว

ต้องตัดคอของชายคนนั้นจะต้องให้ขาดในดาบเดียว

หลังจากเหน็บดาบไว้ที่เอว ฉันก็มุ่งหน้าไปโรงเรียน

ที่นั่นฉันได้พูดคุยกับอาจารย์ซิลเฟีย

[ สวัสดีค่ะ คุณเอลิเซีย วันนี้งานคณะกรรมการต้องขอฝากด้วยนะคะ ]

[ ค่ะ ]

จากนั้นเอลิเซียก็เริ่มทำงานคณะกรรมการด้วยรอยยิ้ม

งานส่วนใหญ่จะเป็นงานบ้าน หลังจากพาอัศวินไปที่โรงเรียนพร้อมกับผู้บริหารคนอื่นๆ แล้วก็คอยเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด อย่าให้นักเรียนมาเกะกะการฝึกของอัศวิน

[ คุณอลิเซีย เอาของพวกนี้ไปให้พวกท่านอัศวินทีสิค่ะ ]

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงหลังจากการฝึกซ้อมเริ่มขึ้น

คณะกรรมการอีกคน ยื่นกล่องพร้อมเครื่องดื่มให้ฉันและบอกออกมา

[ เข้าใจแล้วค่ะ ]

เอลิเซียพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและส่งเครื่องดื่มให้อัศวิน

เอลิเซียมองไปที่เป้าหมายของเธอพลางยิ้มและหัวเราะพร้อมกับชื่นชมอัศวิน

โรเบิร์ต เทอร์แกรนด์

เจ้าอ้วนไขมันอุดตันนั้นสินะ ที่ฆ่าพ่อของฉัน

ฉันอภัยให้ชายคนนั้นไม่ได้

ความจริงอยากจะวิ่งไปตัดคอมันซะตรงนี้เลย

อย่างไรก็ตาม――

( …มีคนคุ้มกันขวางทางอยู่ )

โรเบิร์ตมีคนคุ้มกันอยู่ข้างกายเสมอ

มันแปลกที่ดยุคเทอร์แกรนด์ให้ความสำคัญกับน้องชายของเขาโรเบิร์ตขนาดนี้ ชายที่ใช้เป็นไพ่ทางการทูตได้ยากไม่ว่าจะถูกฆ่าตายหรือไม่ก็ไม่สำคัญแบบนี้ เอลิเซียจึงคิดว่าเขาน่าจะสร้างศัตรูไว้มากมายจนออกไปไหนแทบไม่ได้จนอ้วนขึ้นขนาดนี้

( ทรูเอทล่ะ… )

เอลิเซียนึกถึงเรื่องวันก่อนและมองหาทรูเอท

แต่เพราะมีนักเรียนจำนวนมากอยู่รอบๆ จึงยากที่จะมองหาตัวเขาเจอจากจำนวนคนมากมาย

จะทำยังไงดีถ้าทรูเอทกลายเป็นศัตรูขึ้นมา

ความวิตกกังวลครั้งใหญ่นั้นหมุนเวียนในจิตใจเธอ

ตั้งแต่เข้าเรียนจนถึงตอนนี้

เอลิเซียก็จับตาดูทรูเอทอย่างระวังมาตลอด

กุญแจสำคัญที่ทำให้เธอคอยระวังเขานั้นคือตอนสอบเข้าที่ร่วมมือกันกับทรูเอท

เมื่อเห็นฝีมือสไนเปอร์สุดลึกลับของเขา เอลิเซียก็จินตนาการถึงอนาคตที่ทรูเอทมายืนขวางทางเธอ

บางทีฉันอาจจะชนะเขาไม่ได้

ถ้าทรูเอทเข้ามาขวาง การแก้แค้นของฉันต้องล้มเหลวแน่

( …อย่ารีบร้อน ยังไม่ใช่ตอนนี้ )

เอลิเซียคิดวางแผนการแก้แค้นมาตลอดตั้งแต่ทำงานเป็นคณะกรรมการนักเรียนจนถึงตอนนี้ ดังนั้นอย่ารีบร้อน ตามแผนที่เอลิเซียคิดไว้นั้น

โอกาสในการฆ่าโรเบิร์ตมีอยู่สองจุด

หนึ่งคือระหว่างการฝึก

สองคือตอนที่โรเบิร์ตลุกไปที่ไหนสักแห่งและไม่มีคนคุ้มกันตามไปด้วย

อย่างไรก็ตามก็มองไม่เห็นโอกาสเหล่านั้นเลย

ถ้างั้น――

( …ก็ต้องตอนกลางคืน )

แม้การฝึกร่วมจะจบลง แต่งานคณะกรรมการก็ยังไม่จบ

กลางคืน หลังจากการฝึกเสร็จ คณะกรรมการจะต้องขนอุปกรณ์เครื่องใช้ในการฝึกออกมาเพื่อลดภาระของอัศวิน ในเวลานั้นอุปกรณ์ของอัศวินแห่งเซย์รินจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ข้างปราสาท ฐานบัญชาการของอัศวิน

ซึ่งโรเบิร์ต เทอร์แกรนด์จะเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ปราสาทในคืนนี้

ถ้าเป็นตามที่คาด โรเบิร์ตจะไม่สามารถนำคนคุ้มกันเข้าไปภายในปราสาทได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเล็งไปที่ตอนกลางคืน ในตอนที่โรเบิร์ตจะเข้ามาในปราสาท

แน่นอน หากฆ่าเขาข้างในปราสาท โอกาสหนีก็แทบไม่มี

แต่มันไม่สำคัญ เป้าหมายของเอลิเซียคือการแก้แค้นเท่านั้น

เพราะแบบนี้ทรูเอทถึงเรียกมันว่า “การแก้แค้นแห่งหายนะ”

แม้ฉันจะรู้เรื่องนั้นดี แต่ก็ข่มใจตัวเองไว้ไม่ได้อีกแล้ว

แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะไม่เหลืออะไร แต่ความเกลียดชังนี้มันหยุดไม่ได้

 

 

กลางดึก

หลังจากฝึกซ้อมจบลง เอลิเซียได้ขนอุปกรณ์ของอัศวินแห่งเซย์รินไปยังฐานของอัศวินแห่งเซย์รินและทำตามแผนทันที

ในขณะเดียวกันกับที่ขนอุปกรณ์ เธอวางอุปกรณ์ในโกดังและหยิบดาบที่แอบซ่อนไว้ในกองอุปกรณ์ หากจะยืมดาบของอัศวินที่วางอยู่มากมายก็ทำได้ แต่เธอไม่อาจใช้ดาบของพวกเขาที่ชื่นชมพ่อของเธอ มาใช้แก้แค้นแบบนี้ได้

ตอนนี้ระยะห่างของโรเบิร์ตก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว

ฉันจะบุกปราสาทและฆ่าโรเบิร์ตที่นั่น แต่บางทีอาจจะฆ่าเจ้าหมอนั่นก่อนหน้านี้ก็ได้

――การแก้แค้น ทุกอย่างจะเป็นจริงแล้ว

ช่วงเวลาที่โรเบิร์ตมุ่งหน้าไปยังปราสาท

ตอนนั้นมีโอกาสอยู่มากมาย

เอลิเซียมองหาโรเบิร์ตขณะที่วางมือลงบนดาบ

――ตรงนั้น

โรเบิร์ตทิ้งอัศวินแห่งเซย์รินและมุ่งหน้าไปยังปราสาทเพียงลำพัง

การรักษาความปลอดภัยรอบตัวปราสาทเข้มงวด เขาจึงไม่ค่อยระวังตัว

อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะระวังตัวขนาดไหนก็รับมือกับการโจมตีแบบทีเผลอไม่ได้

จากนั้นโรเบิร์ตก็มุ่งหน้าไปยังปราสาท―――― โดยไม่มีคนคุ้มกันแม้แต่คนเดียว

( …? )

เพราะอะไรไม่รู้ โรเบิร์ตถึงหยุดอยู่ที่หน้าปราสาทและเดินต่อไปยังเส้นทางที่ไม่ค่อยมีคน

ฉันเคยได้ยินมาก่อน

มีสวนที่สวยมากอยู่ใกล้กับปราสาท

โดยเฉพาะในตอนกลางคืน ที่แสงจันทร์ตกกระทบนั้นสวยงามมากจนไม่นึกว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นบนโลกนี้

เขาจะไปที่สวน?

โดยไม่มีคนคุ้มกันเลย?

ในตอนกลางคืนที่มืดสนิทแบบนี้?

ตัวคนเดียว?

 

ไม่มีทาง

 

ไม่มีทางง――――――

 

――แบบนี้ก็ฆ่าได้นะสิ?

 

ฆ่า ฆ่า。

 

ฆ่า、ฆ่า、ฆ่า、ฆ่า、ฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่า――――――!!!!!!

 

ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้ตอนนี้!

 

ฆ่า! ฆ่า! จะปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้!!

 

เข้าไปใกล้ๆ ! เข้าไปใกล้ๆ ! ใกล้อีก! ปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้!!

 

ใจเย็นไว้! ไม่สิ! ไม่ต้องใจเย็นอีกแล้ว!!

 

ตัดหัวมัน! ในทีเดียว!! เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยวต้องดึงดาบออกก่อน!

 

ใช่แล้วใช่แล้วใช่แล้ว!!!

 

ฆ่าฆ่าฆ่า! ฆ่ามัน!!!

 

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า――ฮาา!!!!!!

 

ตาย――――――――――――――――――ยยย!!!

 

[ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาากกก!!!]

 

ฆ่าแล้ว

ฆ่ามันแล้วอย่างแน่นอน

คอของโรเบิร์ตขาดแล้วอย่างแน่นอน

ฉันจ้องมองรอยตัดที่เรียบเนียนนั้นและคอที่ตก

รู้สึกดีจัง

หัวเราะไม่หยุด

ฉันทิ้งดาบที่เปื้อนเลือดและวิ่งต่อไปโดยไม่ลังเลใดๆ

ร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มจนไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นสายลมยามค่ำคืนแม้แต่นิดเดียว

ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างมองเอลิเซียด้วยยิ้มด้วยสายตาสงสัย เอลิเซียวิ่งผ่านทางเดินหินโดยไม่สนใจสายตาเหล่านั้น

[ ――อะไร!! ]

เอลิเซียตะโกนและหยุดเท้าในทันที

[ ทรูเอท! เจ้านั่นมันตายไปแล้ว! ไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว!! ]

เอลิเซียพลางมองย้อนกลับไป

ไม่มีอัศวินแม้แต่คนเดียววิ่งตามมา

รอยยิ้มค่อยๆ ผุดขึ้นและหัวเธอก็ค่อยๆ เย็นลง

การเต้นของหัวใจรุนแรงและตัวเธอยังตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมซะอีก

แต่―― มันแปลก

ทำไมไม่มีใครตามฉันมาล่ะ?

ทำไมถึงไม่มีใครสังเกตว่าโรเบิร์ตตายแล้ว?

――ฉันควรทำยังไงดี

ต่อจากนี้จะทำอะไรต่อไป?

หนี? ที่ไหนล่ะ? ซ่อนตัว? จนถึงเมื่อไหร่ล่ะ?

ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อวันนี้

ไม่เคยคิดถึงอนาคตต่อจากนี้เลย

ต่อจากนี้จะทำอะไร?

ควรไปที่ไหนต่อจากนี้?

[ …กลับกันเถอะ ]

กลับไปที่โรงเรียน

บางทีนั่นอาจเป็นสถานที่ที่ฉันควรอยู่

รู้สึกภาคภูมิใจได้แล้ว

ไม่ว่าเรื่องอะไร ฉันก็จะทำในสิ่งที่อยากทำ

ป่านนี้คงไม่รู้สึกเจ็บหรือขัดใจใดๆ อีก

 

เอลิเซียจึงกลับไปที่หอพักนักเรียนและนอนลงบนเตียง

 

แต่ฉันกลับนอนไม่หลับเพราะความตื่นเต้นมันยังไม่หายไป