ตอนที่ 188

The Devil’s Cage

มีดอันสิ้นหวัง

เช้าตรู่ อุณหภูมิที่เกาะอัลคาทราซลดลงจนถึงจุดต่ำสุด

สายน้ำที่เปลี่ยนทิศทางกระจายหมอกหนาไปตามถ้ำคดเคี้ยวและทำให้อุณหภูมิภายในนั้นลดต่ำกว่าที่ด้านนอก

กระทั่งสมาชิกของสมาคมเร้นดารายังไม่สามารถทนรับความหนาวเย็นและเริ่มก่อกองไฟสองกองเพื่อให้ความอบอุ่น

ผู้ที่เพิ่งกลับมาจากการต่อสู้สองครั้งติด ๆ กับผู้บุกรุกจากภายนอกดูหมดแรงกว่าปกติ

ผู้บุกรุกนั้นก็เหมือนมดสำหรับพวกมัน สมาชิกของสมาคมเร้นดาราแต่ละคนสามารถบดขยี้พวกนั้นถึงตายได้

แต่มดทั้งฝูงก็สามารถล้มช้างได้ และเหล่าผู้บุกรุกยังมีกำลังมากกว่าแค่มดหนึ่งตัวด้วย

ผู้บุกรุกทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีความสามารถพิเศษที่มีความสามารถไม่ธรรมดา หากจำนวนเพิ่มมากขึ้น กระทั่งสมาคมเร้นดาราก็คงไม่สามารถมองข้ามการร่วมมือของพวกนั้นได้

สมาชิกของสมาคมเร้นดาราเข้าใจสถานการณ์ดี เมื่อเลือกติดตามฟรอสทริล พวกเขาก็เอาฐานะสมาชิกสมาคมเร้นดาราไปเสี่ยงอยู่

เกาะกำลังถูกบุกรุก และพวกเขาก็ไม่มีกำลังเสริมให้เรียก เมื่อคิดถึงชาแมนที่แข็งแกร่งที่สุดบนชายฝั่งทะเลตะวันตกและหัวหน้าคนก่อนของพวกเขา เซอร์เดนก์ ผู้ที่ลงมือโจมตีใส่พวกมันแล้ว มันก็ทำให้สภาพจิตใจของพวกเขาตกต่ำลงกว่าที่เคย

เปลวไฟของกองไฟที่ก่อเอาไว้เต้นระยิบ แสงสว่างส่องลงบนใบหน้าของพวกเขา สมาชิกแต่ละคนของสมาคมเร้นดาราล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียดที่สะท้อนความรู้สึกของพวกตน

มีหนึ่งคนที่ต่างออกไป ก็คือฟรอสทริล

ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม เขานั่งอยู่ข้างกองไฟอย่างสงบ เขาดูเหมือนไม่กังวลอะไรกับสถานการณ์ที่ดูสิ้นหวังตรงหน้า

เมื่อเขามองไปที่ลูกน้องแต่ละคน เขาก็เห็นความเคร่งเครียดบนใบหน้าของทุกคน มันชัดเจนจนเหมือนเขารู้สึกเอง

ฟรอสทริลเริ่มรู้สึกกระวนกระวายเมื่อกิลเฟรน แฮทช์ไม่กลับมาและผู้บุกรุกจอมละโมบก็ยังคงลงมือโจมตีใส่พวกตน

เขารู้ว่าเขาต้องรักษาความเยือกเย็นเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น เขาไม่ต้องการให้คนที่เขาคัดเลือกมาจากสมาคมอย่างยากลำบากต่อต้านเขา

เขารู้ว่าเพียงแค่ความกดดันสาหัสจากเซอร์เดนก์และนิโคเรอิก็หนักเกินไปแล้วสำหรับพวกตน ความผิดพลาดใด ๆ เพียงครั้งเดียวอาจจะทำให้พวกเขาพ่ายแพ้

“ทุกคน วันเฮงซวยกำลังจะจบลงแล้ว เพื่อนของเรากำลังจะกลับมาพร้อมไอ้หนูสกปรกนั่น และศักราชใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น ฉันจะขึ้นครองบัลลังก์ของฉันอย่างถูกต้อง และทุกคนที่นี่ก็จะได้เห็นชัยชนะและอนาคตอันรุ่งเรืองที่พลังใหม่ของเราจะนำมา!” ฟรอสทริลพูดขณะลุกขึ้นยืน มองลูกน้องของตนทีละคน

คำพูดของเขาไม่ได้ให้ความรู้สึกจับใจ แต่ว่าตัดตรงเข้าสู่แก่นความคิดของทุกคนตรงนั้น

เมื่อคำพูดของเขาจางไป ทุกคนก็ลุกขึ้นและให้กำลังใจผู้นำคนใหม่ของพวกมันอย่างล้นหลาม

ผลประโยชน์และเงินทองคือสิ่งที่พวกมันทุกคนไล่ตาม พวกมันให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อฟรอสทริลอีกครั้ง มองเขาเป็นผู้ที่จะนำพวกมันไปสู่อนาคตอันดีงาม

บรรยากาศหนักหน่วงเปลี่ยนเป็นรื่นเริงและมีชีวิตชีวาด้วยเสียงเชียร์ในพริบตา

เปลงไฟลุกสว่างไสวมากขึ้นตามเสียง และแสงสว่างยังส่องให้เงาของทุกคนขยายใหญ่ขึ้นเป็นหลายเท่า เงาของพวกมันดูสูงและยาว เอนเอียงไปมาราวกับงูระบำเถาวัลย์สะบัดไหว

คำปลุกใจของฟรอสทริลได้ผลกับคนของเขา เสียงเชียร์และเสียงอวยพรดังชัดเจนอยู่ด้านในห้องโถงที่โลงศพทองแดงตั้งอยู่ จีหรานที่ซ่อนอยู่ในเงายิ้มเย็น เขาอยากจะเห็นนักว่าฟรอสทริลจะยังคงเยือกเย็นและมีกำลังใจได้อีกไหมหากเซอร์เดนก์หรือว่านิโคเรอิปรากฏตัวขึ้น

จีหรานเพ่งไปที่วงเวทย์ขณะที่ระเบิดลูกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือเขา

เขาดึงสลักออกแล้วขว้างระเบิดเข้าไปในวงเวทย์

พลังเวทย์ของวงเวทย์นั้นมหาศาล แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันทำลายไม่ได้ ต่อให้มันถูกวาดขึ้นเพื่อปกป้องก็ตาม

คาถาเวทย์ที่มอบการปกป้องให้นั้นมีพลังแรงกล้า เหมือนที่ทรัมโปเคยใช้ แต่ตัววงเวทย์เองนั้นยังคงถูกทำลายได้โดยง่าย

ตูม!

ระเบิดทำลายวงเวทย์และยังทำลายพื้นไปอีกเล็กน้อย

สะเก็ดระเบิดกระจายไปรอบ ๆ และทำให้ห้องโถงสลัววุ่นวายไปในพริบตา

จีหรานเปลี่ยน [Tessirot Blessing] กับ [Paul’s Conceal] และใช้ [อำพราง] ระดับยอดนักสู้ของเขา เขาหายตัวไปในฝุ่นผงระยิบระยับ

เสียงฝีเท้าวุ่นวายนับสิบพุ่งเข้ามาในห้องโถง ใบหน้าของฟรอสทริลเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ

เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ฝุ่นระยิบระยับที่ล่องลอยอยู่ทั่วนั้นก็ชัดเจนพอแล้ว วงเวทย์ที่เขาวาดเอาไว้ถูกทำลายแล้ว

ใครบนเกาะนี้ที่จะสามารถทำลายวงเวทย์ที่เขาวาดขึ้นได้กัน?

จีหราน!

ไม่ต้องมีหลักฐานพิสูจน์ แต่สัญชาตญาณของฟรอสทริลก็ทำให้เขามั่นใจเต็มที่

“แกสองคนไปตามหาไอ้หนูสกปรกนั่น! พวกแกที่เหลือตามฉันมา!” ฟรอสทริลตะโกนใส่คนของเขาขณะก้าวยาว ๆ ไปทางโลงศพทองแดง

เขารอไม่ได้แล้ว เขาต้องเปิดโลงศพเดี๋ยวนี้

ฟรอสทริลไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกิลเฟรน แฮทช์ แต่เมื่อคิดว่าที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้วกลับเป็นจีหรานไม่ใช่พรรคพวกของตน เขาก็รีบตัดสินใจการลงมือก้าวต่อไปในทันที

เขาดีใจที่ได้เตรียมสถานที่ปลอดภัยเอาไว้เผื่อเรื่องราวเลวร้ายแล้ว

แม้เขาจะไม่สามารถหลบหลีกจากสายตาของนิโคเรอิได้นานนัก แต่มันก็นานพอที่จะถ่วงเวลาเธอ

หากมีเวลาพอ ฟรอสทริลมั่นใจว่าเขาจะสามารถเปิดโลงศพทองแดงได้ด้วยตัวเอง

โดยเฉพาะในเวลาเช่นนี้ ฟรอสทริลนั้นไม่คิดจะใช้จีหรานเปิดโลงศพอีกต่อไป เขาแค่อยากให้จีหรานตายไปซะ

จีหรานเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาอยากให้ฟรอสทริลตายตกไปเหมือนกัน

หนึ่งวันก่อน จีหรานนั้นเห็นอย่างชัดเจนว่าโลงศพทองแดงถูกเก็บไว้ที่ไหน ความคิดในการสังหารฟรอสทริลนั้นผุดขึ้นมาถัดจากความคิดที่จะทำลายวงเวทย์

แต่การทำลายวงเวทย์ยังคงเป็นความสำคัญอันดับแรกของเขาอยู่ดี ก็เป็นปกตินิสัยของเขา

ตามแผนการเดิม เขาสำรวจสถานที่ที่เขาถูกกักเอาไว้ซึ่งเป็นดันเจี้ยนใต้เกาะ ซ่อนตัวอยู่ใต้ก้นทะเล

หลังจากจีหรานมาถึงปลายบันได เขาก็แน่ใจว่าเขาสามารถเข้าถึงโลงศพทองแดงและที่อื่น ๆ ได้

เมื่อสำรวจประตูลับที่นั่นอย่างละเอียด จีหรานก็แน่ใจ นอกเสียจากจะมีใครฉีกกระชากเกาะนี้ออกจากกันได้ ก็ไม่มีใครสามารถลงมาที่นี่ได้จากด้านบนเกาะ

จีหรานใช้ลูกแก้วคริสตัลแอบดูฟรอสทริลและคนของเขาและวางแผนการเคลื่อนไหวของตน

เขายังดูไปถึงรูปแบบการลงมือของคนของฟรอสทริลและหาโอกาสโต้ตอบกลับ

เมื่อเขาเห็นว่าฟรอสทริลและคนของเขาหมดแรงจากการป้องกันตัวเองจากผู้บุกรุก แผนเดิมของจีหรานที่จะทำลายวงเวทย์ก็ปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะยังสามารถปรับแผนให้ดีขึ้นได้อีก

ความคิดและการกระทำของจีหรานนั้นสอดคล้องกันเป็นอย่างดี

เขาเก็บทุกอย่างที่ต้องการเอาไปด้วย รวมทั้งหนังสือบางเล่มในห้องลับ และพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง

ระหว่างหลายชั่วโมงมานี้ ฟรอสทริลนั้นต่อสู้กับผู้บุกรุกถึงสองรอบ เป็นโอกาสอันดีให้จีหรานลงมือ

เขาอาจจะไม่มีโอกาสสู้ฟรอสทริลได้หากฟรอสทริลอยู่ในสภาพปกติ แต่เมื่อเขาหมดแรง อย่างนั้นก็พอมีหวัง

ต้องขอบคุณการทำลายวงเวทย์ รวมทั้งสภาพกายและใจที่อ่อนล้าของเขา สภาพจิตใจของฟรอสทริลย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้จีหรานมีความหวังมากขึ้น

เขายังมี [Hatch’s Curse] และมีดสั้นที่เพิ่มความมั่นใจให้เขามากขึ้นด้วย

ในเงา จีหรานกลั้นหายใจและเพ่งสมาธิถึงขีดสุด เขาปกปิดตัวตนและจิตสังหารเอาไว้ รอคอยอยู่นิ่ง ๆ ราวกับก้อนหินให้ฟรอสทริลเดินมาถึงตรงหน้า

เขามีความอดทนอย่างที่สุด เขารออยู่หนึ่งวันเต็ม ๆ เพื่อโอกาสนี้ รอคอยนานอีกนิดก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากอะไร

ฟรอสทริลใกล้เขาเข้ามาทุกที เขาเดินไปที่ด้านข้างที่โลงศพทองแดงตั้งอยู่ และยังเป็นที่ที่จีหรานรอลงมือกับเขาเช่นกัน

เมื่อฟรอสทริลหยุด และคนของเขาพยายามเดินเข้าไปเพื่อเคลื่อนย้ายโลงศพ จีหรานก็ลงมือ

เขาไถลไปด้านหน้าราวกับเงาพร่ามัวเงาหนึ่ง และปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันที่ด้านหลังฟรอสทริล มีดสั้นขนาดเท่าฝ่ามือขยับไปทางลำคอของฟรอสทริล

ความเหนื่อยอ่อนของฟรอสทริลทำให้เขาเสียสมาธิและยังช้าลง เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่ามีดสั้นกำลังเข้าใกล้จุดอ่อนของเขา

เมื่อความเย็นก่อตัวบนผิวของเขา ฟรอสทริลกลับไม่รู้สึกชาแต่อย่างได

แต่เขาก็ยังคงไม่คิดจะหลบ เขาไม่ขยับตัวเลยสักนิดด้วยซ้ำ

รอยยิ้มประหลาดก่อตัวขึ้นบนหน้าเขาขณะพร้อมตอบโต้กลับและสังหารจีหรานด้วยหนึ่งในการโจมตีเร็วของเขา เป็นวิธีการเดียวที่จะรักษาหน้าเอาไว้ได้

ความทรงจำที่เห็นความสงสัยและความตกตะลึงบนใบหน้าของคนของตัวเองเมื่อวงเวทย์ถูกทำลายยังสดใหม่

หากไม่เพราะความเคารพที่มีมา ฟรอสทริลแน่ใจว่าคนของเขาคงพร้อมที่จะหันมาสู้กับเขาแล้ว

เขาต้องกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับมาและแก้หน้าให้ได้หากต้องการให้คนของตนยังภักดีต่อ

เขาก็กำลังรอโอกาสเช่นนี้อยู่เหมือนกัน

ส่วนความเป็นไปได้น้อยนิดที่จีหรานจะสามารถทะลวงผ่านการป้องกันของเขามาทำร้ายเขาได้น่ะเหรอ?

ตลกเกินไปแล้ว มันอาจจะมีอาวุธวิเศษบางชิ้นที่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่อาวุธพวกนั้นก็มีค่าเกินกว่าจะมาตกอยู่ในมือของคนอ่อนแออย่างจีหราน

แม้ว่านิโคเรอิจะครอบครองอาวุธแบบนั้นอยู่และเธอยังดูชื่นชมในตัวผู้ช่วยของเธอ ฟรอสทริลก็แน่ใจว่าเธอคงไม่มอบของพวกนั้นให้จีหราน

เช่นนั้นแล้วมีดสั้นในมือจีหรานนี่เล่า?

มันน่าจะเป็นของเล่นที่เกิดจากการแปรธาตุสักชิ้น ของเล่นแบบนี้จะทำลายการป้องกันระดับสูงของฟรอสทริลได้อย่างไร?

ฟรอสทริลแค่นเสียงไม่สบอารมณ์ใส่จีหราน

“นี่เป็นโอกาสดีที่จะจับตัว 2567 และบังคับให้เขาเปิดโลงศพ!”

ความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นในใจเขา

ในตอนที่เขากำลังจะลงมือนั่นเอง มีดสั้นทึบทึมที่จ่ออยู่กับคอหอยของเขาก็เปล่งประกายระยิบ

สนามพลังป้องกันอันดูเหมือนไม่อาจทะลวงผ่านของฟรอสทริลก็ถูกมีดสั้นเล่มนั้นแทงทะลุราวกับกระดาษ คอของเขาถูกมีดสั้นแทงเข้าไปเกือบมิดด้าม

ฟรอสทริลเบิกตากว้าง เขาตายตาไม่หลับ