“เสี่ยวโม่!”

หลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงพูดอย่างตกใจขึ้นมาพร้อมกัน

เฉินโม่ยิ้มบางๆ ให้ทั้งสองคน “แม่ พี่เวินเฉิง!”

จากนั้นสายตาเฉินโม่ย้ายไปทางหลี่ลี่เหวิน

มองลุงแท้ๆ ของตัวเอง สีหน้าเฉินโม่เฉยเมย “มีฉันอยู่ ฉันจะดูสิว่าใครจะแตะต้องเหม่ยหวา กรุ๊ปได้!”

หลี่ลี่เหวินมองเฉินโม่ สีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว สำหรับหลี่ซู่เฟิน เขายังเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง แต่สำหรับเฉินโม่ เขาไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น

เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เฉินโม่ก็ไม่เคยเจอหน้าลุงอย่างเขามากนัก แต่สำหรับหลี่ซู่เฟิน พวกเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี

“ไอ้หนุ่ม ถึงนายกลับมาก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่พอดีเลย นายจะได้เห็นว่าเหม่ยหวา กรุ๊ปล้มเหลวอย่างไร” หลี่ลี่เหวินเผยรอยยิ้มเย็นชาโหดร้ายออกมา หลี่เยว่ลูกชายของเขาโดนเฉินโม่ทำลายตันเถียน ตอนนี้เลอะเลือนทั้งวัน เหมือนคนพิการ เขามีแค่ความเคียดแค้นอย่างรุนแรงต่อเฉินโม่

สีหน้าเฉินโม่ราบเรียบ มองหลี่ลี่เหวินแล้วพูดว่า “ก็ไม่แน่!”

เป็นเพียงคำสั้นๆ แต่กลับแฝงด้วยความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่

หลี่ลี่เหวินยิ้มเยาะ “หึ สิ่งที่นายพึ่งพาอยู่ คือพละกำลังของปรมาจารย์บู๊ไม่ใช่หรือไง ครั้งนี้เราสู้กันทางธุรกิจอย่างถูกต้อง ถ้านายกล้าใช้กำลัง นายลองดูได้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร”

รอยยิ้มร้ายกาจฉายออกมาจากแววตาหลี่ลี่เหวิน ถ้าเฉินโม่กล้าใช้กำลัง พวกเขาก็มีข้ออ้างใช้กองทหาร

“รับมือกับมดอย่างพวกนาย ฉันจำเป็นต้องใช้กำลังด้วยเหรอ นายประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว” เฉินโม่พูดด้วยสีหน้าดูหมิ่น

“อวดดี!” หลี่ลี่เหวินแผดเสียงอย่างโมโห “ตอนนี้เหม่ยหวา กรุ๊ป เผชิญกับวิกฤตเป็นหนี้ห้าหมื่นล้าน ฉันจะดูสิว่านายจะแก้ไขอย่างไร”

เฉินโม่ปรายตามองเขาแวบหนึ่ง “นายสนใจพวกตัวเองเถอะ! ใช่สิ ช่วยแจ้งผู้นำตระกูลหลี่แทนฉันหน่อย อย่าลืมสัญญาสามปีล่ะ!”

“ได้ ฉันจะรอดูว่านายจะแก้ไขอย่างไร!” หลี่ลี่เหวินโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ถลึงตาใส่เฉินโม่อย่างดุดัน แล้วเดินจ้ำอ้าวออกไป

หลี่ซู่เฟินเดินเข้ามากอดเฉินโม่ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ความกดดันสองสามวันนี้ ทำให้หญิงแกร่งคนนี้ฝืนไม่ไหวเหมือนกัน

“เสี่ยวโม่ ทำไมจู่ๆ ถึงมาล่ะ”

เฉินโม่มองแม่ตัวเองอย่างตำหนิ “ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเจอเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ ให้โทรหาผม เหม่ยหวา กรุ๊ปถึงขั้นนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกคุณยังจะปิดบังผมอีก!”

ใบหน้าชราของหลี่ซู่เฟินแดงขึ้นมา รู้สึกละอายเล็กน้อย

เวินฉิงที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “เสี่ยวโม่ ประธานหวังดีกับนาย ครั้งนี้ตระกูลหลี่ใช้แผนเปิดเผย ประธานกังวลว่าถ้านายกลับมาจะอดลงมือกับตระกูลหลี่ไม่ได้ นี่จะทำให้ตระกูลหลี่มีข้ออ้างเล่นงานนายได้พอดี ดังนั้นจึงไม่ให้ฉันแจ้งนาย”

“อีกอย่าง ครั้งนี้เป็นปัญหาเรื่องเงิน ถึงแจ้งนายก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย หวังว่านายจะเข้าใจความหวังดีของประธาน!”

เฉินโม่มองเวินฉิง แล้วมองหลี่ซู่เฟิน จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกคุณยังไม่เคยถามผมเลย รู้ได้ยังไงว่าผมแก้ไขไม่ได้”

นี่……

หลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงตกใจเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันก็มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าตกตะลึง

เวินฉิงพูดอย่างเหม่อลอยนิดหน่อย “เสี่ยวโม่ นั่นมันหนี้ห้าหมื่นล้านเชียวนะ นาย นายจัดการได้เหรอ”

หลี่ซู่เฟินก็มองเฉินโม่อย่างสงสัย พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “แม่รู้ว่าลูกสู้เก่ง แต่ครั้งนี้แม่จะไม่ยอมให้ลูกฉันกำลัง เบื้องหลังของตระกูลหลี่ ตระกูลอื่นสู้ไม่ได้ ถ้าตระกูลหลี่หาข้ออ้างได้ พวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง!”

เฉินโม่รู้ว่าแม่เข้าใจผิดแล้ว จึงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “แม่วางใจเถอะ วิธีแก้ปัญหาที่ผมพูด ไม่ใช่การใช้กำลังแน่นอน”

หลี่ซู่เฟินขมวดคิ้ว มองเฉินโม่อย่างสงสัย “อย่าบอกนะว่าลูกมีเงิน”