บทที่ 1451 น้องสาวแสนดีของฉัน / บทที่ 1452 กู่สองใจเป็นหนึ่ง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1451 น้องสาวแสนดีของฉัน

“ฉันให้สี่เท่า” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะหยัน

“เถ้าแก่โหย่วหมิง ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา ด้วยความสัมพันธ์ของคุณกับหัวหน้า เดิมทีนี่นับว่าจิ๊บจ๊อย! พวกเราสนิทกันเหมือนพี่น้อง สนิทเหมือนกับมีแม่คนเดียวกันอย่างนั้น พวกเราต้องช่วยเถ้าแก่อยู่แล้ว!” อี้จือฮวาจ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าจริงจังคร่ำเคร่ง

หนุ่มภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าอย่างเห็นได้ยาก

“ฉันให้สิบเท่า!” ผู้นำตระกูลหยวนตะโกนเสียงโมโห

“สิบเท่า!?” อี้จื้อฮวากลืนน้ำลายแล้ว “เถ้าแก่โหย่วหมิง ต้องขอโทษด้วย…พวกเราเป็นทหารรับจ้างที่มีมาตรฐาน เอาเงินล่อลวงไม่ได้หรอก!”

“อ้อ…” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ฉันตั้งใจจะให้สักร้อยล้าน ในเมื่อเขาให้สิบเท่า งั้นก็เป็นพันล้าน สองคนสองพันล้าน คุณลองถามเขาก่อนว่าจะจ่ายไหมดีกว่า”

“พันล้าน!?” นักพรตใจบริสุทธิ์มองผู้นำตระกูลหยวนอย่างตกใจทันที “เถ้าแก่หยวน ผมนับถือนิสัยเถ้าแก่จริงๆ ผมกับเสี่ยวเถียนเถียนก็ตัดสินใจเลือกคุณ…พวกเรามาจ่ายบิลกันก่อนดีกว่า เงินสด…เถ้าแก่ต้องขนออกมาไม่ไหวแหง ใช้บัตรเครดิตเถอะ!”

สิ้นเสียงปุ๊บนักพรตใจบริสุทธิ์ก็หยิบเครื่องรูดบัตรจากที่ไหนไม่รู้ออกมา

“สี่พันล้าน!? พวกคุณเล่นมุกตลกบ้าอะไรกัน!” ผู้นำตระกูลหยวนหน้าเปลี่ยนสี ตั้งสี่พันล้าน อย่าว่าแต่จ่ายเลย ชาตินี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนั้นมาก่อนเลยนะ!

สี่พันล้านซื้อตระกูลหยวนได้ตั้งกี่ตระกูล!?

“ผู้หญิงคนนี้จงใจบอกจะจ่ายพันล้านชัดๆ ดี พวกคุณถามเธอก่อนว่าจะจ่ายไหม!” ผู้นำตระกูลหยวนก็ไม่ได้โง่ เปิดโปงจุดสำคัญในทันที

วินาทีถัดมา สายตาของพวกนักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวาก็พากันตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากกับนักพรตใจบริสุทธิ์ “คุณคิดว่าพันธมิตรอู๋เว่ยฉันแม้แต่เงินแค่นี้ก็เอาออกมาไม่ได้เหรอ ก็แค่สี่ร้อยล้านเองนี่…รอจบวันนี้แล้วพรุ่งนี้ไปรับเงินที่ฝ่ายการเงินพันธมิตรอู๋เว่ยได้เลย”

พูดจบเยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มอย่างไร้พิรุธ สี่ร้อยล้านเป็นของจริง แต่เธอไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเป็นสี่ร้อยล้านของประเทศไหน…

ถ้าเป็นสี่ร้อยล้านของประเทศเล็กรอบๆ ก็เท่ากับเงินสี่หมื่น…เฉลี่ยนกันคนละหมื่น…

อี้จือฮวากับหนุ่มภูเขาน้ำแข็งรู้ข่าวที่เยี่ยหวันหวั่นเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยนานแล้ว

ทันใดนั้น อี้จือฮวาเดินตรงมาถึงเยี่ยหวันหวั่นแล้วจับมือเธอไว้ “อ้าว…น้องสาว มือเธอนับวันยิ่งเนียนนุ่มนะเนี่ย อีกเดี๋ยวก็เหมือนมือของพี่สาวแล้ว ดูมือน้อยนุ่มลื่นนี้สิ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ…น้องสาว ความสัมพันธ์ของพวกเราพูดเรื่องเงินอะไรกัน อย่าว่าแต่ร้อยล้าน ให้พี่สาวแค่หนึ่งหมื่นพี่ก็ช่วยน้องแน่นอนอยู่แล้วน่า น้องสาวแสนดีของพี่!”

พูดจบอี้จือฮวาก็หันไปหานักพรตใจบริสุทธิ์กับเสี่ยวเถียนเถียนแล้วเอ่ยอย่างโมโห “มัวเหม่ออะไรอยู่ ยังไม่จับตาแก่นั่นอีก หรือว่าต้องให้น้องสาวฉันลงมือด้วยตัวเองเหรอ เจ้าพวกขยะนี่!”

มองอี้จือฮวาที่เปลี่ยนหน้าไวเสียยิ่งกว่าสภาพอากาศ นักพรตใจบริสุทธิ์กับเสี่ยวเถียนเถียนมองหน้าสบตากัน หลังถุยในใจหนึ่งทีก็ลงมือจับผู้นำตระกูลหยวนที่อึ้งตะลึงอยู่มัดคอมัดมือไพล่หลังแล้วโยนใส่เตียงทันที

“พวกแก…พวกแกสองคนกล้าทำผิดหลักสมาคมทหารรับจ้าง ฉันจะไปฟ้องพวกแกที่สมาคมทหารรับจ้าง!” ผู้นำตระกูลหยวนตะคอกเสียงโมโห

“เพ้ย! ตาแก่หนังเหนียวน่าเกลียดหน้าไม่อายเอ๊ย แกดูตัวเองทั้งแก่ทั้งน่าเกลียด แต่ยังกล้าจ้างทหารรับจ้างเลียนแบบคนอื่นเขา…แถมยังจะฟ้องพวกฉัน แกต้องมีชีวิตรอดไปฟ้องพวกฉันได้ก่อนเฟ้ย!” อี้จือฮวาจ้องผู้นำตระกูลหยวนที่อยู่บนเตียงพลางหัวเราะเยาะต่อเนื่อง

ในเวลานั้น หนุ่มภูเขาน้ำแข็งไม่รู้หยิบเอาอะไรออกมาจากในโลงศพแล้วโปะใส่ตัวผู้นำตระกูลหยวน จากนั้นผู้นำตระกูลหยวนก็เสมือนกับเป็นใบ้ พูดไม่ได้อีกต่อไป

—————————————————————————————

บทที่ 1452 กู่สองใจเป็นหนึ่ง

เยี่ยหวันหวั่นเห็นแค่ว่าหนุ่มภูเขาน้ำแข็งโปะส่งๆ หนึ่งที ผู้นำตระกูลหยวนก็พูดไม่ออกทันทีทันใด เขามีสีหน้ากลั้นหายใจจนแดงเถือก

“นี่คือ…กู่?” เยี่ยหวันหวั่นมองหนุ่มภูเขาน้ำแข็งพลางเอ่ยถาม

ได้ยินดังนั้นหนุ่มภูเขาน้ำแข็งก็พยักหน้าน้อยๆ

เยี่ยหวันหวั่นอดหมดคำพูดไม่ได้ อยู่มานานทั้งชีวิตเป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เห็นคนใช้กู่ของน่าเหลือเชื่ออย่างนี้…

“เถ้าแก่ ผู้นำตระกูลหยวนนี่ถูกมัดแล้ว ต่อไปจะทำยังไงดี…”

เวลานี้อี้จือฮวายืนข้างกายเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าเปื้อนยิ้มประจบประแจง

เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดชั่วครู่ ยังไม่ทันเอ่ยปาก ที่ด้านนอกก็พลันมีเสียงฝีเท้าที่เป็นจังหวะมากดังขึ้น

เวลานี้คนตระกูลหยวนทุกคนล้อมรอบห้องหนังสือที่ด้านนอกชั้นสามไว้หมดแล้ว

“คนที่อยู่ด้านในจงฟัง พวกเราได้รับแจ้งจากผู้นำอาชูร่าว่าถ้าพวกคุณไม่อยากตาย ก็ให้ผู้นำตระกูลออกมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเราอย่างปลอดภัยเดี๋ยวนี้!” ที่นอกห้องหนังสือชายชราคนหนึ่งตะโกนเสียงเข้ม

ก่อนหน้านี้ความเคลื่อนไหวในห้องหนังสือดังขนาดนั้น คนตระกูลหยวนต่างก็รู้นานแล้วว่าผู้นำตระกูลถูกคนควบคุมตัว แต่พวกเขาไม่กล้าบุ่มบ่ามบุกเข้าไปในห้องหนังสือ

“อาชูร่า?”

อี้จือฮวาชะงักเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มเอ่ย “ผู้นำอาชูร่านั่นจัดการยาก มากคนมากกำลัง พวกเราหนีก่อนดีกว่า ไม่งั้นรอคนของอาชูร่ามาจะยิ่งยุ่งยาก”

“ก็จริง ที่สำคัญหัวหน้ากับอาชูร่าไม่มีความแค้นต่อกัน ถ้าพวกเราก่อความขัดแย้งขึ้นมาเหมือนว่าจะไม่ค่อยดี…ไม่สู้ถอนตัวก่อน…” นักพรตใจบริสุทธิ์พยักหน้ารัว

เวลานั้นเอง สายตาของทุกคนมองมามีที่เยี่ยหวันหวั่น

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นเป็นนายทุนใหญ่ของพวกนักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวา พวกเขาจึงยังต้องเชื่อฟังเธอ

แต่เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งคิดจะพูดอะไรบางอย่าง ก็กลับได้ยินเสียงเชือกขาดบนเตียง

ในเวลาเดียวกัน ผู้นำตระกูลหยวนที่ดิ้นรนจนเชือกขาดก็กระโดดผลุงขึ้นจากเตียง กระทั่งยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผู้นำตระกูลหยวนก็ถีบเปิดโลงที่อยู่ใกล้หนุ่มภูเขาน้ำแข็งออก

ก่อนหน้านี้ผู้นำตระกูลหยวนเห็นหนุ่มภูเขาน้ำแข็งหยิบกู่ออกมาจากในโลง จึงย่อมรู้ว่านี่คือทหารรับจ้างที่ชำนาญวิชากู่ กู่ของอีกฝ่ายก็อยู่ในโลงศพนี้!

เวลานี้อี้จือฮวากับนักพรตใจบริสุทธิ์เพิ่งได้สติกลับมา ตาเห็นผู้นำตระกูลหยวนวางสองมือเข้าไปในโลงก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ในโลงนั่นเต็มไปด้วยกู่ปีศาจนะ!

ทันใดนั้นผู้นำตระกูลหยวนก็ส่งเสียงหัวเราะแหลมสูงออกมาจากในปาก จากนั้นสองมือนั้นก็กวักกู่อะไรไม่รู้และทำท่าจะโยนใส่พวกเยี่ยหวันหวั่น

เห็นแบบนั้นพวกอี้จือฮวาหน้าเปลี่ยนสีใหญ่หลวง ถอยหลังกรูดแทบจะโดยจิตใต้สำนึก

ถ้าโดนเข้าจะไม่ซวยเอาเหรอ!

ทว่าผู้นำตระกูลหยวนกลับฉลาดเฉลียว การเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้เป็นแค่การโจมตีหลอก รอจนพวกเยี่ยหวันหวั่นหยุดนิ่งแล้ว เขาจึงค่อยโยนกู่ไปหาเยี่ยหวันหวั่น

อารามไม่ทันตั้งตัว เยี่ยหวันหวั่นพลันตัวชาเหมือนมีมดนับล้านไต่อยู่บนร่างกายของตัวเอง

และรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้นำตระกูลหยวนที่อยู่ไม่ไกลก็พลันแข็งค้าง เขานึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่า ตอนที่ตัวเองใช้สองมือจับแมลงกู่ แมลงกู่ไม่น้อยก็ชอนไชเข้ามาในร่างเขาเสมือนกับกำลังแทะกินทั้งหมดในร่างเขา

อย่างมากก็เป็นช่วงเวลาไม่กี่ลมหายใจ ผู้นำตระกูลหยวนทรุดล้มลงราวกับโคลนเหลว ลมหายใจหยุดนิ่งฉับพลันกลายเป็นศพไปเสียแล้ว

เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น ร่างกายเสมือนไฟร้อนแผดเผา ผิวหนังทุกตารางนิ้วคันยิบยากทานทน ปรากฏสีแดงฉาน

เวลานี้ พวกเป่ยโต่วกับชีซิงเห็นเยี่ยหวันหวั่นถูกคนตระกูลหยวนล้อมไว้ ด้วยความร้อนใจจึงพาหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยบุกตะลุยสร้างทางเข้าจากข้างนอก