บทที่ 1453 ต้องเป็นคนที่ตัวเองชอบ / บทที่ 1454 ใกล้ตายแล้วยังจะเลือกอีก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1453 ต้องเป็นคนที่ตัวเองชอบ

เป่ยโต่วกับชีซิงบุกเข้าไปในห้องหนังสือ เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นมีสภาพเช่นนี้ทั้งสองก็ตกใจ

“พี่เฟิง…พี่เป็นยังไงบ้าง พี่อย่าทำผมกลัวเชียวนะ…” เป่ยโต่วจ้องเยี่ยหวันหวั่นพร้อมเอ่ยด้วยสีหน้าลนลาน

“เชี่ย…แม่งเอ๊ย เถ้าแก่โหย่วหมิงโดนกู่สองใจเป็นหนึ่งแล้ว…!” นักพรตใจบริสุทธิ์จ้องเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ไม่ไกล ตาโตอ้าปากค้างเอ่ย

ได้ยินดังนั้นหนุ่มภูเขาน้ำแข็งพยักหน้าให้คำตอบยืนยันด้วย

“เป็นกู่สองใจเป็นหนึ่งจริงๆ…” อี้จือฮวาจิ๊ปาก

“อะไรคือกู่สองใจเป็นหนึ่ง” ใบหน้าชีซิงวาบแววเคร่งเครียด รีบร้อนเอ่ยถาม

เยี่ยหวันหวั่นลูบตำแหน่งที่คันชาบนร่างหันไปหาอี้จือฮวา “สองใจเป็นหนึ่ง…?”

แม่งเอ๊ยเธอนอนอยู่ก็ถูกยิงเฉย…

ใครจะรู้ว่าเรื่องจบแล้ว แต่กลายเป็นว่ายังจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

แต่ชื่อกู่ฟังดูโรแมนติกมากซะงั้น คงไม่ใช่กู่ถึงชีวิตหรอกมั้ง…

“แค่กๆ นี่น่ะเหรอ กู่สองใจเป็นหนึ่ง…ก็คือกู่ที่ตัวเองต้องทำเรื่องน่าอาย…กับคนที่ตัวเองชอบ…ไม่งั้นละก็…จะตาย!!แถมจะยังตายอนาถมาก! เลือดออกเจ็ดทหวาร ปากพุพอง ไม่ตายดี!” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ยอธิบาย

“ทำเรื่องน่าอายกับคนที่ชอบ?” เป่ยโต่วมีสีหน้ายากบรรยาย “เรื่องน่าอายคือเรื่องอย่างไหน”

เมื่อสิ้นเสียงของเป่ยโต่ว ครั้งนี้ห้าคนรวมถึงชีซิงก็มองเป่ยโต่วราวกับมองคนโง่

“ก็คือ…ขั้นตอนจำเป็นที่พ่อแม่คุณคลอดคุณ…เข้าใจไหม…” หนุ่มกรรมกรต่างชาติมองเป่ยโต่วพลางเอ่ยอธิบายอย่างเป็นมิตรเต็มที่

ได้ยินแบบนั้นเป่ยโต่วก็พยักหน้า ในที่สุดก็เข้าใจความหมายของเรื่องน่าอาย แต่ว่า…อธิบายแบบนี้ ทำไมฟังดูไม่น่าสบายใจชอบกล…

“ขอแค่…ทะ…ทำเรื่องนั้น ก็ถอนพิษได้แล้วเหรอ” สีหน้าชีซิงไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง เขากระแอมไอหนึ่งทีก่อนเอ่ยถาม

“ตามทฤษฎีแล้วทำแบบนี้ไม่ผิดแน่ กู่นี่ก็ต้องถอนอย่างนี้” อี้จือฮวายักไหล่เอ่ย “เพราะงั้นกู่นี่ก็ไม่นับว่าถึงแก่ชีวิตอะไร แก้ง่ายมาก คุณวางใจได้!”

เวลานี้สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นมีทุกข์ยากเอื้อนเอ่ยหน่อยๆ อย่างแท้จริง “เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้คุณบอกว่าจะถอนกู่ จะต้องทำกับคนที่ตัวเองชอบเท่านั้นเหรอ”

อี้จื้อฮวาพยักหน้า “ถูกต้อง หาคนที่ชอบแล้วทำกันสักป้าบก็ถอนได้แล้ว พิษกู่นี่ไร้ประโยชน์จะตาย!”

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ

ได้ยินคำพูดผ่อนคลายสบายใจนั้นของอี้จือฮวา เยี่ยหวันหวั่นอยากหยิกเขาให้ตายจริงๆ

แม่แกสิ! คนที่เธอชอบ…คนที่เธอชอบตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนน่ะสิ! เธอจะหาใครมาถอนพิษได้กัน

นี่ไม่ใช่ให้เธอไปตายหรือไง

เยี่ยหวันหวั่นทนความคันชาที่รุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เธอสูดหายใจลึกแล้วเอ่ยถามต่อ “มีเวลาจำกัดไหม”

อี้จือฮวาลูบคางเอ่ย “ยี่สิบชั่วโมง พอให้เถ้าแก่หาร้อยแปดสิบคนได้สบาย”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

ยี่สิบชั่วโมง…

เยี่ยหวันหวั่นมองหนุ่มภูเขาน้ำแข็งอย่างขีดดำเต็มหน้า “แม่งเอ๊ย…ถามหน่อยได้หรือเปล่า ท่านจอมยุทธ ทำไมคุณถึงวิจัยพิษกู่พิสดารแบบนี้ออกมา มีความหมายอะไรไหม”

หนุ่มภูเขาน้ำแข็งนิ่งเงียบ

อี้จือฮวาหัวเราะคิกคักเอ่ย “สามีผมบอกว่า เจ้ากู่สองใจเป็นหนึ่งนี้เป็นกู่พิศวาสกลายพันธุ์ นับเป็นของด้อยคุณภาพหลังวิจัยกู่พิศวาสล้มเหลว…”

แล้วไอ้กู่พิศวาสนั่นมันอะไรอีก

เยี่ยหวันหวั่นไม่มีกะจิตกะใจไปถามแล้วแต่เอ่ยอย่างรีบร้อน “นอกจากวิธีที่คุณพูดเมื่อกี้ยังมีวิธีอื่นไหม ในเมื่อเขาเป็นคนสร้างกู่ ก็ต้องมีวิธีถอนแน่ใช่หรือเปล่า”

—————————————————————————————

บทที่ 1454 ใกล้ตายแล้วยังจะเลือกอีก

อี้จือฮวาได้ยินดังนั้นก็ทำสีหน้าจริงจังพร้อมเอ่ยพูด “สามีผมบอกว่ากู่นี้เป็นของด้อยคุณภาพที่ล้มเหลว เขาก็เลยไม่มีวิธีถอนเหมือนกัน มีแค่วิธีเดียวแล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

งั้นก็ไม่เท่ากับว่าเธอตายแน่แล้วหรอกเหรอ

นอกจากว่าเธอจะหาซือเยี่ยหานเจอภายในยี่สิบชั่วโมง…

เพิ่งคิดแบบนี้เยี่ยหวันหวั่นก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย

ถึงทุกอย่างพิสูจน์แล้วว่าซือเยี่ยหานคลุมทับความทรงจำของเธอ กักขังอิสระของเธอแต่ในจิตใต้สำนึก คนที่เธอยอมรับก็กลับยังมีแค่เขา…

ถ้าจะให้เธอหาใครก็ได้มาถอนพิษจริงๆ ตามหลักการถอนพิษที่ต้องเป็นคนที่ชอบเท่านั้นนี้ งั้นเธอก็ต้องตายสถานเดียวแล้ว

“ไม่เห็นจะยากเลย!” เป่ยโต่วตบอกเอ่ยปากอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม “พี่เฟิง พี่ชอบแบบไหนผมจะไปหามาให้พี่…เป็นหนุ่มงามยั่วยวนหรือเป็นคุณอาวัยสุกงอม หมาป่าน้อยหรือว่าหญ้าอ่อน”

เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นที่สติค่อยๆ รางเลือนทีละน้อย หน้าดำพลางเหล่มองเป่ยโต่วที่พูดไม่เข้าท่า

“ไม่ชอบเหรอ” เป่ยโต่วเกาหัวบ่นอุบอิบ “พี่เฟิงใกล้ตายอยู่แล้วยังจะเลือกอยู่อีก…ช่างเถอะ งั้นพี่ชอบแบบไหน ผมจะต้องหามาให้พี่ได้แน่…”

เห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่พูดจา เป่ยโต่วก็ลงมือทำเองเสียเลย เขาสั่งการให้คนไปตามหาคนมาทันที

“ฮิๆ ในเมื่อไม่เป็นไรแล้วงั้นพวกผมไปก่อนนะ เถ้าแก่ไป๋ คุณรีบไปหาคนมาถอนพิษแล้วกัน จริงสิ อย่าลืมเอาเงินจ่ายบิลหัวหน้าพวกเราด้วยนะ!” อี้จือฮวาเอ่ยปากอย่างหัวเราะคิกคัก

เยี่ยหวันหวั่นเจ็บปวดจนหน้าผากมีเหงื่อไหลพราก ฉันจะทุบน้องสาวแก!

ไม่เป็นไร นี่เรียกว่าไม่เป็นไร? มีเรื่องหลอกลวงอย่างนี้ด้วยเหรอ

ถึงกับจากไปทั้งแบบนี้…

กลุ่มห้าคนเพิ่งจากไปไม่นาน ชีซิงก็ส่งคนมาควบคุมตระกูลหยวนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ย้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป

ผ่านไปชั่วระยะ ลูกน้องคนหนึ่งก็พาผู้ชายหลายสิบคนเข้ามาภายใต้การสั่งการของเป่ยโต่ว

ในสิบกว่าคนนี้มีทั้งแนวสง่างาม แนวเย็นชาสงวนตัว แนวน่ารักร่าเริง ทุกบุคลิกทุกสไตล์ล้วนไม่ซ้ำกัน อย่างเดียวที่เหมือนกันคือทั้งหมดล้วนหน้าตาโดดเด่น

ผู้ชายคนนำหน้าท่าทางเหมือนผู้จัดการเอ่ยปากด้วยสีหน้าประจบประแจง “คุณเป่ยครับ ผมพาคนที่คุณต้องการมาหมดแล้ว ทั้งหมดเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในร้านของเรา รับประกันความพึงพอใจครับ!”

เป่ยโต่วพิจารณาคนพวกนั้นหนึ่งทีก่อนจะลูบคางพยักหน้าแล้วพาคนมาตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง พี่ลองดู ชอบคนไหนก็เอาไว้!”

ชีซิงมองชายสิบกว่าคนนั้นพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ชายสิบกว่าคนพวกนั้นเมื่อรู้ว่าครั้งนี้คนที่ต้องมาพบคือผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ทุกคนต่างก็กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อแทบทำใจตายไว้แล้ว แต่เวลานี้เห็นผู้หญิงตรงหน้า…ใบหน้าราวกับลูกท้อ แววตาชุ่มฉ่ำน้ำ สวนจนไม่เหมือนมนุษย์ก็ต่างตาลุกวาวทันที

นึกไม่ถึงว่าแบดเจอร์รัฐอิสระที่ฉาวโฉ่คนนั้นจะกลับเป็นสาวงามแบบนี้

ปฏิกิริยาร่างกายของเยี่ยหวันหวั่นรุนแรงขึ้นทุกที แม้กระทั่งไขกระดูกก็ราวกับถูกมดนับนับล้านกัดแทะ เธอหายใจถี่กระชั้นพลางกวาดสายตามองผู้ชายพวกนั้นอย่างเย็นชาเล็กน้อยแล้วเอ่ยปาก “ขัดตา…”

ผู้จัดการได้ยินดังนั้นก็พลันตกใจกลัวจนน่องสั่น “ผู้นำไว้ชีวิตด้วย! คนพวกนี้เป็นสินค้าชั้นเลิศที่สุดในร้านของพวกเราแล้วจริงๆ นะครับ มิกล้าหลอกลวงผู้นำเด็ดขาด…”

แบดเจอร์ผู้นี้เรียกร้องสูงไปหน่อยมั้ง

หน้าตาอย่างนี้ยังขัดตา?

งั้นเธออยากได้เทพเซียนแบบไหนกันแน่