“ขอบคุณครับ!” อู๋หวาเอาหยกแขวนเดินเข้าไปในห้อง

เวินฉิงนั่งอยู่ตรงพื้นที่นั่งพักผ่อน ตอนนี้เธอเชื่อคำพูดของเฉินโม่แล้ว “ไอ้เด็กดื้อคนนี้ยังมีเรื่องที่ปิดบังเราอีกเยอะแค่ไหน!”

ไม่นาน อู๋หวาเดินออกมาอีกครั้ง ถือหนังสือเล่มหนึ่งในมือ ในหนังสือบันทึกของมงคลของลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารต้ารุ่ยเอาไว้

“ลูกค้าผู้มีเกียรติ ผมยืนยันมาแล้วครับ หยกแขวนอันนี้เป็นของมงคลยืนยันว่าเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของเรา แค่คุณมีหยกแขวนอันนี้ สามารถถอนเงินในวงเงินหนึ่งแสนล้านได้ทุกเมื่อครับ”

“แน่นอนว่าเราต้องตรวจสอบตัวตนของคุณ เพื่อป้องกันว่าคุณไม่ได้เอาของมงคลนี้มาด้วยวิธีผิดกฎหมาย” อู๋หวาเอ่ยขึ้น

เวินฉิงมึนงงไปหมดแล้ว ถอนเงินในวงเงินหนึ่งแสนล้านได้ทุกเมื่อ!

นี่มันแนวคิดอะไรกัน

ต้องรู้ว่าในประเทศ พวกธนาคารใหญ่ที่สามารถถอนเงินได้มากหน่อย จำเป็นต้องนัดล่วงหน้า ตอนนี้ใช้แค่หยกแขวนอันนี้ คิดไม่ถึงว่าจะถอนเงินหนึ่งแสนล้านได้ทุกเมื่อ!

“ลูกค้าผู้มีเกียรติ เราต้องตรวจสอบตัวตนของคุณ คุณยินยอมไหมครับ” อู๋หวาพูดอีกครั้ง

เวินฉิงพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “ได้”

กระบวนการต่อไป เวินฉิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เธอได้เงินห้าหมื่นล้านมาในมือแล้วจริงๆ

เดินเหม่อลอยออกมาจากธนาคารต้ารุ่ย แสงอาทิตย์บนฟ้าทำให้เวินฉิงมีสติขึ้นไม่น้อย

“เสี่ยวโม่ทำอะไรกันแน่!” เวินฉิงคิดว่าหลังจากกลับไป ต้องสอบสวนไอ้เด็กดื้อนั่นอย่างเต็มที่ เขาเอาเงินเยอะขนาดนี้มาจากไหนกันแน่

แน่นอนว่าเวินฉิงไม่มีความคิดอื่น แค่กลัวว่าเฉินโม่จะเดินในทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่งั้นถึงต้องทิ้งเหม่ยหวา กรุ๊ป เธอก็ไม่มีทางใช้เงินก้อนนี้

ที่เหม่ยหวา กรุ๊ป เวินฉิงแอบเรียกเฉินโม่มาที่ห้องห้องหนึ่ง แล้วจ้องเฉินโม่ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

เฉินโม่นั่งอยู่บนโซฟา มองเวินฉิงแล้วพูดด้วยใบหน้าทะเล้น “พี่เวินฉิง ทำไมทำท่าแบบนี้ล่ะ หยกแขวนอันนั้นใช้ไม่ได้เหรอ”

“ไอ้เด็กดื้อ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ ตอบฉันมาดีๆ ว่านายเอาเงินเยอะขนาดนี้มาจากไหน” เวินฉิงถามอย่างเคร่งขรึม

เฉินโม่เอาสองมือรองหัว มองเวินฉิงด้วยรอยยิ้มบางๆ “พี่เวินฉิงไม่ต้องสนใจหรอกว่าผมเอาเงินมาจากไหน พี่เอาไปใช้ก็พอ เพราะเงินของผมได้มาอย่างถูกต้อง”

“พูดไร้สาระ นายเพิ่งอายุเท่าไรเอง ถึงนายเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจ แต่นายเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ มีเวลาหาเงินที่ไหนกัน”

“ถ้าวันนี้นายไม่พูดให้ชัดเจน ฉันจะบอกประธาน เพื่อป้องกันไม่ให้นายหลงผิด!” เวินฉิงจ้องเฉินโม่อย่างเคร่งขรึม ท่าทางเข้มงวดมาก

เฉินโม่รู้ว่าเวินฉิงกำลังเป็นห่วงเขา แต่บางเรื่องเฉินโม่ไม่อยากบอกเวินฉิงจริงๆ เกรงว่าเธอจะรับไม่ได้

แต่เฉินโม่ก็เข้าใจ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เขาก็ต้องบอกเรื่องพวกนั้นของตัวเองให้คนในครอบครัวรู้

แต่ความคิดของเฉินโม่คือค่อยๆ บอกคนในครอบครัวทีละเรื่อง แบบนี้พวกเขายังพอรับได้หน่อย

สำหรับเงินก้อนนี้ จะใช้ข้ออ้างอะไรดี เฉินโม่รู้สึกปวดหัว

ทรัพย์สินตอนนี้ของเขา แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่ามีเท่าไร

โดยรวมแล้วคนทั้งฮ่านหยางล้วนศิโรราบต่อเขา ธุรกิจที่มีในมือ เขาอยากได้อะไรก็เอาได้ทุกเมื่อ ตระกูลหลินที่หลินโจวก็อยู่ในนามของเฉินโม่ งานพันธมิตรสี่ฝ่ายอย่างจิงตงแห่งไห่จื่อ ไป๋หม่าที่เจียงเป่ย ตระกูลไช่ที่กวนตู้ เหล่านี้ล้วนเป็นทรัพย์สินของเฉินโม่

ปัดเรื่องพวกนี้ทิ้งไป แค่น้ำชีวิตเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ฐานะของเฉินโม่เกินแสนล้านแล้ว

“ใช่สิ น้ำชีวิต!”

ในบรรดาทรัพย์สินของเฉินโม่ น้ำชีวิตเป็นธุรกิจส่วนตัวของเขา ส่วนที่เหลือล้วนมีที่มาไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ขืนพูดออกมา กลัวว่าเวินฉิงจะรู้สึกไม่พอใจ

เฉินโม่ตัดสินใจได้แล้ว

“พี่เวินฉิง ในเมื่อพี่จะถามให้ได้ งั้นผมก็ไม่ปิดบังพี่ เงินพวกนี้ผมหามาเอง พี่เคยได้ยินน้ำชีวิตไหม” เฉินโม่ถาม

“เคยได้ยินสิ นั่นเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มากที่สุดเลยนะ แต่น่าเสียดายที่เหม่ยหวา กรุ๊ปของเราไม่ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำชีวิต!” เวินฉิงพูดอย่างเสียดาย