Ch.22 – หมู่บ้านฮาซามะ แผนการบุกเบิกที่ดินป่า (ฉบับรวดเร็ว)
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
มีเรื่องที่เข้าใจจากการปลุกชีพจรมังกรของ[ปราสาทร้าง]กับ[หมู่บ้านฮาซามะ]
(1) สถานที่อย่างปราสาทหรือหมู่บ้าน–หรืออื่นๆ ที่มีกำแพงปราสาทล้อมรอบมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีวงเวท
(2) วงเวทในยุคจักรพรรดิมังกร ใช้งานพลังเวทจากพื้นดิน และทำงานได้โดยไม่ต้องเพิ่มพลังเวทเข้าไป
(3) การจะใช้งานพลังเวทจากพื้นดินจำเป็นต้องแต่งตั้ง[เจ้าปราสาท] (ตัวผมไม่สามารถเป็นเจ้าปราสาทได้)
(4) ผู้ที่กลายเป็นเจ้าปราสาท จะสามารถใช้งานพลังเวทจากที่ดินนั้นได้
(5) แต่ละปราสาทสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยสายพลังเวท
ในตอนนี้ก็มีเท่านี้
แล้วผมก็ลองถามริเซ็ตกับฮารุกะว่ามีเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงปราสาทหรือปราสาทที่ไม่มีใครใช้บ้างไหม–
“ขอโทษค่ะท่านพี่โชมะ ริเว็ตไม่เคยได้ยินว่ามีเลยค่ะ”
“งั้นเหรอ?”
“ค่ะ แต่ถ้าป้อมปราการเล็กๆก็อาจจะมีอยู่คะ ข้อมูลขนาดนั้นริเซ็ตเองก็ไม่รู้หรอกค่ะ และแน่นอนว่าถ้าไปอาณาเขตของคนก็คงจะมีปราสาทหรือเมืองอยู่เยอะค่ะ…แต่ ส่วนใหญ่ก็มีคนใช้ประโยชน์อยู่แล้วล่ะนะคะ”
ริเซ็ตทำหน้าครุ่นคิด
“ถ้าเดินไปจาก[หมู่บ้านฮาซามะ]ประมาณ1วันครึ่งก็มีปราสาทอยู่หรอก แต่ที่นั่นเป็นของคุณเจ้าเมืองโลกมนุษย์น่ะ”
ฮารุกะอธิบายออกมา
“ที่ใกล้ที่สุดคือปราสาทของ[เจ้าเมืองคิโทล]ที่ต้องเดินลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ล่ะมั้ง? อาณาเขตของคุณเจ้าเมืองมีปราสาทกับเมืองอยู่เยอะเลยล่ะ แถมอีกฝั่งหนึ่งก็มีปราสาทของท่าน[เจ้าเมืองกุลทรา] แต่กองทัพที่นั่นได้ยินมาว่าค่อนข้างแข็งแกร่งเลยล่ะ แม้แต่ความสามารถของท่านพี่เองการจะบุกก็คงต้องใช้เวลาสักหน่อย…”
“เดี๋ยวใครจะบุกอะไรนะ?”
“ท่านพี่ไงคะ”
“ทำไมล่ะ!?”
“ก็ท่านพี่คือท่าน[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะ]นี่นา?”
“อึก!”
หยุดพูดเรื่องชวนเจ็บปวดด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างนั้นเถอะ
“[ราชาผู้พิชิต]เนี่ยคือองค์ราชาที่ขยายเขตแดนออกไปด้วยกองทัพใช่ไหมล่ะคะ? ดังนั้นเราก็เลยคิดว่าท่านพี่มีความต้องการแบบนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอไงกัน…ไม่ใช่เหรอ?”
ฮารุกะจ้องหน้าของผมด้วยดวงตาเปล่งประกาย
ผิดแล้วล่ะ ตอนสมัยจูนิเบียวเคยคิดว่าตัวอักษรเส้นมันเยอะแล้วเท่ดีก็เลยเรียกตัวเองว่า[ราชาผู้พิชิต] กว่าจะเขียนคำว่า[覇]ได้โดยไม่ต้องมองเนี่ยมันเหนื่อยสุดๆก็เลยไม่สามารถเลิกใช้ได้ ไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษหรอก…
“ฮารุกะ อย่าทำให้ท่านพี่โชมะลำบากสิคะ”
พอมองขึ้นไป ก็เห็นริเซ็ตที่กำลังเอามือแตะเอวจ้องมองไปที่ฮารุกะ
“ไอ้เรื่องการใช้กองทัพในการขยายอำนาจปกครองผู้คนเนี่ย ท่านพี่ไม่มีทางทำไม่ใช่เหรอคะ?”
“ขะ ขอโทษค่ะ พี่ริส”
“เป็นน้องสาวแล้วก็ต้องเข้าใจในตัวของท่านพี่สิคะ?”
ริเซ็ตยกไหล่แล้วถอนหายใจออกมา
ดีจัง ท่าทางจะเข้าใจสินะ
“แน่นอนว่าถ้าท่านพี่จะเรียกตัวเองเป็นราชา น้องสาวก็จะสนับสนุนเต็มที่ค่ะ”
…เดี๋ยวสิ
“แต่ว่าท่านพี่เหมาะกับ[สายปกครอง]มากกว่าสายทรราชเยอะเลยค่ะ ไม่ใช่ใช้กำลัง แต่รวมใจผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน…ริเซ็ตคิดว่าเหมาะกับท่านพี่มากเลยค่ะ เหมือนกับหัวใจของริเซ็ตที่ถูกท่านพี่ชิงไป…”
“…ก่อนอื่นก็ทำให้หมู่บ้านอุดมสมบูรณ์กันเถอะ”
ผมพูดออกไป
ริเซ็ตเองก็เป็นจูนิเบียว–ไม่สิ โลกนี้ควรพูดว่า[คนช่างฝัน]สินะ–ก็มีอะไรแบบนั้นอยู่ ทางนี้เองก็คงต้องระวังคำพูดคำจาเอาไว้ ยังไงซะผมเองก็เป็นคนนอก สิ่งผิดพลาดที่เทพธิดาอัญเชิญมาผิด
“ก่อนที่จะคิดเรื่องโลกก็ต้องเอาเรื่องรอบตัวให้ได้ก่อน การที่อยู่ๆก็จะไปเปลี่ยนโลก(อย่างทำพิธีปลุกพลังหรือออกค้นหาความชั่วร้าย)มันอาจจะทำให้แม้แต่เรื่องทั่วๆไป(อย่างการสอบ)ก็ทำพลาดเอาได้นะ”
“ตามที่ท่านพี่กล่าวมาเลยค่ะ การที่อยู่ๆจะไปเปลี่ยนโลก(อย่างการก่อกบฏหรือถอนรากความชั่วร้ายของเจ้าเมืองอื่น)มันอาจจะทำให้แม้แต่เรื่องทั่วๆไป(อย่างการขาดแคลนเสบียงและกำลังพล)ก็ทำพลาดเอาได้ค่ะ”
ริเซ็ตกอดอกแล้วพยักหน้าไปมา
ท่าทางจะเข้าใจดีแล้วสินะ
“ดังนั้นเมื่ออสูรออกไปจากป่าหมดแล้วก็มาเริ่มจากการถางป่า…ก็ไม่เลวใช่ไหมล่ะ”
ท่าทางผู้คนในหมู่บ้านนี้จะก็มีความรู้เรื่องการทำเกษตรอยู่แล้ว ยุคจักรพรรดิมังกรมีการทำให้แผ่นดินรกร้างกลายเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์…ซึ่งมีการบุกเบิกที่ดินและบำรุงดินด้วย ในตอนนั้นเผ่ายักษ์เองก็ได้เข้าร่วมจึงได้ศึกษาอะไรมาหลายๆอย่าง
“นั่นสินะคะ ทุกคนก็บอกเอาไว้ว่าจะถางป่าเพื่อขยายสวนอยู่ค่ะ”
“งั้นเหรอ”
เผ่ายักษ์นั้นทรงพลัง การถางป่าก็เลยท่าทางน่าจะทำได้ไว
ในระหว่างนั้นผม ริเซ็ตแล้วก็ฮารุกะก็ถูกบอกให้ว่าทำอะไรตามใจได้เลย
แล้วก็ต้องตัดสินใจด้วยว่าจะทำยังไงกับ[วังนาคารชุนะ]ดี การจัดการปราสาทนั่นกับป่ารอบๆเป็นหน้าที่ของพวกผม
เดิมที[วังนาคารชุนะ]ก็อยู่ค่อนข้างไกล ในตอนนี้ก็มีคนไม่พอจะส่งไปดูแลด้วย แต่ว่า จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้ ถึงจะไม่มีอสูรแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะมีอมนุษย์และมนุษย์จากที่อื่นเข้าไป ถ้าถูกยึดแล้วจะไปเอาคืนมันก็ยุ่งยากด้วยสิ
“ก่อนหน้านั้นก็ลองไปช่วยบุกเบิกที่ดินกันก่อนดีกว่า…”
ความจริงแล้วสล็อตของ[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]นั้นเพิ่มมาอีก3ช่อง
เพราะว่าฮารุกะกลายเป็นเจ้าปราสาทของ[วังราชันยักษา] หรือก็คือเงื่อนไขการเพิ่มสล็อตของเพิ่มอัตลักษณ์ชื่อก็คือ[การแต่งตั้งเจ้าเมือง]นั่นเอง
สล็อตที่ว่างในตอนนี้มีอยู่6ช่อง
ดังนั้นถ้าเอาอันที่ไม่ได้ใช้มาใช้เพื่อบุกเบิกที่ดินก็น่าจะดี
ดังนั้นผมก็เลยไปยืมขวานกับจอบจากชาวบ้านมาทำการเอนชานต์อุปกรณ์
“[ขวาน(โอโนะ)]กับ[จอบ(คุวะ)]…เหรอ คำมันง่ายซะจนตั้งยากเลย“
พวกเราถือขวานกับจอบที่ยืมมาออกจากแล้วแล้วก็ครุ่นคิด
“ถ้าเป็นของเก่าก็ยังพอมี[ขวานทองแดง]อยู่นะคะ?”
“[ขวานทองแดง]เหรอ การที่มีของแบบนั้นด้วย…”
คิดออกแล้ว
“ขวานกับจอบที่อยู่ที่นี่พวกริเซ็ตรับรู้ว่าเป็น[ขวานเหล็ก][จอบเหล็ก]สินะ?”
“นั่นสินะคะ”
งั้นผมจะคิดแบบนั้นด้วยก็ได้สินะ
เพราะเจ้าพวกนี้คือ[ขวานเหล็ก]กับ[จอบเหล็ก]–
“เปิดใช้งาน! [Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]–[สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ วัจนะแห่งราชา]–”
““““โอ้””””
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกคนในหมู่บ้านมารวมตัวกัน
พวกเด็กๆ พวกผู้ใหญ่ก่อนที่จะไปทำงาน พวกคนที่สู้ด้วยกันคราวก่อนก็อยู่ด้วย
ริเซ็ตกับฮารุกะที่อยู่ด้านหน้าสุดก็ทำตาเป็นประกาย–จะว่าไปแล้ว2คนนี้ไม่เคยเห็นตอนที่ใช้ เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อสินะ งั้นก็เอาเถอะ
“[ชื่อของเจ้าคืออาวุธ ขวานเหล็ก鉄の斧(てつのおの เท็ตสึโนะโอโน)]–[จงรับถ้อยคำอันใกล้เคียงไปเถิด]–[อัตลักษณ์ที่จะมอบให้เจ้าก็คือ]–”
ในการที่จะตัดไม้ได้ง่ายๆ ก็ควรจะมีพลังในการทะลุทะลวงดีกว่า
[พลังที่จะทำให้ทะลวงผ่านไปได้] เหมือนกับกระสุนที่เจาะชุดเกราะของศัตรู–[กระสุนเจาะเกราะ 徹甲弾]
“[ขวานเหล็ก]–จงแสดง[ขวานเจาะทะลวง徹の斧(てつのおの เท็ตสึโนะโอโน)]ออกมา [徹]มีความหมายถึงการทะลุทะลวง ที่มอบให้กับเจ้าคือ[พลังในการทะลวงผ่าน] จงทะลวงทุกสิ่งที่สัมผัส เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านซะ…”
ผมสูดลมหายใจแล้วพูดออกไป
“จะรับชื่อจากราชาไปซะ!! [Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]!!”
พื้นผิวของ[ขวานเหล็ก]มีเส้นลำแสงวิ่งออกมา
เท่านี้ก็น่าจะเป็นไปได้สวย ลองดูสักหน่อยดีกว่า
ก่อนอื่ก็ออกไปข้างนอก–
“ค่ะท่านพี่!” “ท่านพี่ ขอให้เราเถอะ!” “ผมขอ!” “ไม่ หนู” “พี่โชมะขอผม!” “หนูด้วย หนูก็อยากลอง”
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวจะทำให้ทุกคนใช้อยู่แล้วล่ะ จะเอนชานต์ให้หมดเลย ไม่ต้องแย่งกันก็ได้!”
ทุกคนในหมู่บ้านมีความตั้งใจมากจริงๆ
“งั้นก็ ฮารุกะ”
“ท่านพี่รักที่สุดเลยค่ะ!”
“ช่างเถอะ ลองใช้มันตัดไม้สิ”
ผมส่ง[ขวานเจาะทะลวง]ที่เอนชานต์แล้วให้ฮารุกะ
“หนึ่งส่อง!”
ฟุ๊บ
ฉับ
ปลายขวานที่ฮารุกะสะบัดลงไปเต็มแรงมีคลื่นกระแทกพุ่งออกไป
ต้นไม้ล้มลง
“…ทีเดียว?”
จะว่าไปแล้วฮารุกะเป็นเจ้าปราสาทของ[หมู่บ้านฮาซามะ]–[วังราชันยักษา]สินะ
พลังเวทของฮารุกะเมื่ออยู่รอบๆหมู่บ้านก็จะถูกเสริมแกร่งเหมือนกับพลังเวทของริเซ็ตที่ถูกเสริมแกร่งเมื่ออยู่รอบๆ[วังนาคารชุนะ] พลังเวทของเผ่ายักษ์นั้นส่งผลถึงการเสริมแกร่งกำลังกายด้วย–ดังนั้น
“เอามาใช้อ้างอิงไม่ได้ขอคนใหม่”
“โหดร้ายอะท่านพี่!”
ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ฮารุกะ แข็งแกร่งเกินไป
แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องต้องมาร้องไห้สักหน่อย
ดังนั้นจึงได้คุณกัลลุงก้าคุณลุงของฮารุกะมาทดสอบแทน
“ฮึ๊บ!!”
คุณกัลลุงก้าเหวี่ยงขวาน
มีคลื่นกระแทนออกมาจริงๆด้วย–ทีเดียวก็ทะลวงไปถึงแกนกลางของต้นไม้
“ครั้งที่2! ครั้งที่3!”
ฟุ๊บ
ในการฟันครั้งที่3 คมของขวานก็สามารถทะลวงต้นไม้ได้อย่างสมบูรณ์
ระหว่างที่พวกชาวบ้านส่งเสียงเชียร์ ต้นไม้ก็ค่อยๆล้มลง
ใช้เวลาเพียงแปปเดียว
ถึงจะรู้อยู่่แล้วแต่รอบๆ[วังราชันยักษา]คือขอบเขตของเขตแดน ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะได้รับเอนชานต์[เพิ่มพละกำลัง15%] แถมยังเป็นการฟันของขวานที่ได้รับการเสริมแรงทะลวง ด้วยผลลัพธ์ทั้งหมดนั่นต้นไม้ก็ไม่สามารถทนรับไว้
“สุดยอดจริงๆด้วยสินะ [สกิลของจักรพรรดิมังกร]”
ไม่รู้เพราะเลเวลขึ้นหรืออย่างไร ถึงสามารถรู้ข้อมูลของขวานที่เสริมแกร่งได้แล้ว
ลองเปิดมาดูหน่อยดีกว่า–
ขวานที่ได้รับการ[เพิ่มอัตลักษณ์]ตามตัวอักษร徹
ผลลัพธ์:พลังทะลวง+40%
พลังทำลายของขวานเพิ่มขึ้นมา40%
แถมเมื่อรวมกับเอลชานต์ของเขตแดน ก็จะสามารถตัดไม้ได้ภายใน3ที สุดยอดไปเลยนะ เผ่ายักษ์เนี่ย
…จะว่าไปแล้วถ้าผม[ปลุกเผ่ายักษ์]แล้วใช้[Orge Force(พลังยักษ์) drei(3เท่า)]โจมตีไปทีหนึ่งล่ะ–
……ไว้หลังจากนี้ลองพิสูจน์ดูละกัน ในที่ที่ไม่มีใครเห็น
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอยืม[ขวานเหล็ก]กับ[จอบเหล็ก]ของหมู่บ้านหน่อยนะ ผมจะทำการเอนชานต์ให้ มันจะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ในส่วนนั้นก็จะได้พักได้มากขึ้นด้วยไง”
พอผมพูดออกไป พวกชาวบ้านก็ชูมือขึ้นมาพร้อมกัน
แล้วพวกเด็กๆก็วิ่งนำออกไปรวบรวมขวานกับจอบมาจากทั่วหมู่บ้าน
แล้วผมก็ทำการเพิ่มอัตลักษณ์ชื่อใส่ของที่ขนมาทั้งหมด จากนั้นก็เริ่มทำงานกัน
หลังจากนั้นไม่กี่วัน หลังจากการบุกเบิกที่ดินอย่างต่อเนื่อง–
ป่าใกล้ๆ[หมู่บ้านฉาซามะ]นั้น ก็กลายเป็นที่ราบไปแล้วเรียบร้อย