ตอนที่ 150-4 คิดจะแย่งชิงผู้ชายของข้า รนหาที่ตาย

จำนนรักชายาตัวร้าย

“อยากจะลองวิธีการอื่นอีกไหม?”

 

 

อวี้เฟยเยียนไม่เห็นศพที่เกลื่อนกลาดเลือดนองพื้นตรงหน้าอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย พวกนางต้องการเอาชนะด้วยการใช้คนหมู่มากสังหารนาง ถือว่าหาเรื่องใส่ตัว

 

 

มือซ้ายของซุนซินเจ็บปวดแสนสาหัส นางนึงไม่ถึงเลยว่าอวี้เฟยเยียนจะเป็นหมอ แต่ว่า ความร้ความสามารถของหมอน่าหวาดกลัวก็จริง แต่วรยุทธ์องพวกเขากลับอ่อนด้อยยิ่งนัก

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น ซุนซินจึงออกคำสั่งกับคนทั้งยี่สิบคนที่เหลืออีกครั้ง

 

 

“พี่น้องข้า แลกชีวิตกับนางเสีย! หมอมักจะวรยุทธ์อ่อนด้อย นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา!”

 

 

ข้อเสนอของซุนซินได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกคน

 

 

พวกนางกำลังเปลี่ยนความหวาดกลัวให้เป็นพลัง ไม่รอให้อวี้เฟยเยียนได้ลงมืออีกครั้ง ทุกคนก็พุงเข้าโจมตีนางด้วยแรงทั้งหมดที่มีทันที

 

 

“รนหาที่ตายจริงๆ!” อวี้เฟยเยียนกล่าวจบ เข็มเงินจากนิ้วทั้งสิบมือทั้งสิบของอวี้เฟยเยียนพุ่งตรงออกไป เข็มเงินขนาดเล็กราวกับเส้นผม แหลมคมและรวดเร็วพุ่งเข้าตัด ฉับ ตัดศีรษะของซุนซินล่วงลงบนพื้นทันที

 

 

‘พวกนางต้องการจะฆ่านาง?’

 

 

‘ไม่เจียมตัวเองเสียบ้าง!’

 

 

ร่างของอวี้เฟยเยียนมีลำแสงสีทองโอบล้อมเอาไว้ และหลังจากที่ทุกคนมองเห็นชัดเจนแล้ว ต่างก็ต้องร้องเสียงหลงด้วยอาการตกตะลึงพรึงเพริด

 

 

“สวรรค์! นางคือราชาอาวุโส!”

 

 

เป็นหมอ ทั้งยังเป็นราชาอาวุโสอีกด้วย! ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม!

 

 

“นายท่าน ขอท่านเมตตาด้วย!”

 

 

ทว่า ร้องขอชีวิตตอนนี้สายไปเสียแล้ว อวี้เฟยเยียนเคยให้โอกาสพวกนางไปแล้ว แต่พวกนางกลับยังดื้อดึงมัวเมาไม่เลิก แม้ตายก็ไม่ยอมล้มเลิก เช่นนั้นก็มีเพียงทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่เท่านั้น

 

 

ฆ่าคนยี่สิบกว่าคน เรื่องง่ายๆที่ใช้เวลาเดี๋ยวเดียวเท่านั้น

 

 

เมื่ออวี้เฟยเยียนเรีกเข็มเงินกลับคืน ร่างกายของนางก็ยังคงสะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่มีร่องรอยเลือดเปรอะเปื้อนเลยแม้แต่น้อย

 

 

“อ๋าว——บรู๊ว——” หานจื่อร้องคำรามขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

 

 

“แม่นางน้อย เจ้าช่างยอดเยี่ยมจริงๆเลย!”

 

 

ศพที่โชกชุ่มไปด้วยเลือดกว่าแปดสิบกว่าศพนอนอยู่บนพื้น ทำเอาผู้คนตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

 

 

ผู้คนที่แต่เดิมดูถูกอวี้เฟยเยียน คราวนี้แต่ละคนถึงกับอกสั่นขวัญแขวน

 

 

จริงสินะ! ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเก่งกาจเพียงนี้ เขาจะมีภรรยาที่อ่อนแอได้อย่างไรกัน!

 

 

สายตาของทุกคนพุ่งตรงไปที่ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเป็นตาเดียว พวกเขาหลงลืมไปได้อย่างไรกัน เหตุการณ์ล้างบางสกุลหนานกงก่อนหน้านี้เป็นฝีมือของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นและฮูหยินของเขานี่นา!

 

 

“ยังมีใครคิดจะมาแย่งผู้ชายกับข้าอยู่อีกหรือไม่? หากว่ามี ก็ดาหน้าออกมาได้เลย!” อวี้เฟยเยียนยิ้วยั่วยวน ตอนนี้นางยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ ในชุดสีชมพูสดใส ดุดดอกบัวงดงามที่กำลังชู่ช่องดงามท่ามกลางสายธารอย่างไรอย่างนั้น

 

 

แม้ว่านางกำลังยิ้ม แต่บรรดาหญิงสาวที่โง่งมเหล่านั้นกลับสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บเย็นยะเยือก

 

 

น่าหวาดกลัวเหลือเกิน!

 

 

มาแย่งชิงประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่นกับหญิงสาวที่ดุดันโหดเ**้ยมเช่นนี้? ทั้งอีกฝ่ายยังเป้นถึงราชาอาวุโส? มิเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆหรอกหรือ!

 

 

ใครบางคนกำลังหวนรำลึกถึงภาพตอนที่ซย่าโหวฉิงเทียนสังหารสุ่ยฮั่วอี หากเปรียบเทียบกับภาพตรงหน้าในตอนนี้ละก็ สามีภรรยาคู่นี้ก็เหมาะสมกันอย่างที่สุด! โหดเ**้ยมดุดันเหมือนกัน เมื่อลงมือไม่มีทางให้ศัตรูได้เหลือรอด ช่างเหมาะเป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ!

 

 

“ในเมื่อไม่มีใครแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะกลับไปพักผ่อนละ! ท่านพี่…”

 

 

อวี้เฟยเยียนเรียกขานซย่าโหวฉิงเทียนเสียงอ่อนเสียงหวาน ซย่าโหวฉิงเทียนก็รีบวิ่งเข้ามาตรงหน้ากับสุนัขผู้จงรักภักดี แล้วจัดแจงอุ้มนางขึ้นแนบอก ให้นางได้อยู่ในอ้อนแขนของตน

 

 

“แมวน้อยลำบากเจ้าแล้ว! คนพวกนี้ไม่คู่ควรจะให้เจ้าต้องมาลำบาก ต่อไปเรื่องพรรค์นี้ให้พี่เป็นคนจัดการเอง อย่าให้ต้องเปื้อนมือของเจ้า!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนกล่อมอวี้เฟยเยียนไปพลาง มีอีกข้างหนึ่งของเขาก็ปรากฏดวงไปสีม่วงขึ้น ยังไม่ทันที่ใครจะได้เข้าใจอะไร ดวงไฟสีม่วงลูกนั้นก็ลอยไปเผาไหม้ศพทั้งหมดที่อยู่บนพื้นจนมอดไหม้มลายหายไป ไม่เหลือแม้กระทั่งรอยเลือดบนพื้นใดๆ ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนอุ้มอวี้เฟยเยียนเข้าไปภายในโรงเตี๊ยมเซียนเค่อ เสียงพูดคุยของคนทั้งสองดังแว่วออกมาจากที่ไกลๆ

 

 

“มีผู้หญิงตั้งมากมายมารักชอบท่าน ข้ารู้สึกไม่สบายใจ! “

 

 

“รักชอบ? อย่างพวกนางก็คู่ควร! ในใจของพี่มีเพียงเจ้า ในสายตาของพี่พวกนางก็เป็นเพียงแค่กองขี้หมากองหนึ่ง!”

 

 

“อ๋าว——”ได้ยินว่าพวกนางแค่กองขี้หมา หานจื่อก็หอนประท้วงขึ้นมาทันที

 

 

“พี่พูดผิดไป พวกนางเป็นเพียงเศษขยะกองหนึ่งเท่านั้น”

 

 

รอจนกระทั่งเสียงของคนทั้งสองเงียบลงไป ผู้คนที่ยืนล้อมโรงเตี๊ยมเซียนเค่ออยู่จึงค่อยทอดถอนใจอย่างโล่งอก ส่วนบรรดาสาวน้อยทั้งหลายที่พากันมาร้องแรกแหกกระเชิงว่าจะแต่งงานกับซย่าโหวฉิงเทียนนั้นบัดนี้ก็ยิ่งตื่นตระหนกจนเหงื่อไหลท่วมร่าง

 

 

แปดสิบกว่าคนเชียวนะ!

 

 

ตายหมดในพริบตา——

 

 

ต่อให้ผู้หญิงเหล่านั้นเห็นซย่าโหวฉิงเทียนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะคว้ามาเป็นสามีของตนก็ตาม แต่ตอนนี้พวกนางก้ต้องตัดใจหยุดความคิดนี้เอาไว้เสีย

 

 

ไม่ใช่ผู้ชายของตนเอง ก็อย่าไปเฝ้าคะนึงหาอยากได้มาเป็นของตนเองเด็ดขาด มิฉะนั้นหัวอาจจะหลุดออกจากบ่าได้

 

 

จะมาแย่งผู้ชายกับราชาอาวุโส เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!

 

 

อีกทั้งประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นรักหลงฮูหยินของเขาถึงเพียงนั้น เรื่องพรรค์นี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่

 

 

“พี่สาม ฮูหยินผู้นั้นเก่งกาจยิ่งนัก!”

 

 

สุ่ยมี่เอ๋อร์ที่ปะปนอยู่ในบรรดาชาวบ้านมองไปยังโรงเตียมเซียนเค่อด้วยสายตาอิจฉา

 

 

‘ราชาอาวุโส เมื่อไหร่กันนะที่ข้าจะสำเร็จถึงราชาอาวุโสบ้าง?’

 

 

“เจ้า?” สุ่ยจูเอ๋อร์ยิ้มเยาะ นางไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หญิงสาวที่เคยพบบริเวณทางเข้าเมืองเล็กๆก่อหน้านี้จะก้าวหน้ารวดเร็วถึงขนาดนี้ได้

 

 

สุ่ยจูเอ๋อร์พาสุ่ยมี่เอ๋อร์ดั้นด้นเดินทางมายังเมืองลู่ด้วยความยากลำบากก็เพื่อหวังจะได้พบกับสุ่ยเจ๋อซี แต่สุ่ยเจ๋อซีกลับตายด้วยน้ำมือของอวี้เฟยเยียน

 

 

สกุลสุ่ยที่เคยมีชื่อเสียงองอาจเกรียงไกร ย่อยยับโดยสมบูรณ์ เหลือเพียงนางและสุ่ยมี่เอ๋อร์ที่มีชีวิตรดมาได้

 

 

‘น่าโมโหที่สุด น่าโมโหยิ่งนัก!’

 

 

ไฟแค้นลุกโชนในดวงตาขอสุ่ยจูเอ๋อร์ เผ่าพันธุ์ของนาง ญาติมิตรของนาง ต้องตายด้วยน้ำมือของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นและฮูหยินของเขา นางจะต้องแก้แค้นพวกเขาให้จงได้

 

 

“พี่สาม พี่สาม…” เมื่อเห็นสีหน้าดุดันเคร่งขรึมของสุ่ยจูเอ๋อร์ สุ่ยมี่เอ่อร์ก็ตกใจจนตัวสั่น

 

 

ตลอดเวลาที่เดินทางมาด้วยกัน สุ่ยจูเอ๋อร์พยายามยัดเยียดเรื่องความแค้นและการแก้แค้นใส่หัวสุ่ยมี่เอ๋อร์มาตลอดทาง แต่สุ่ยมี่เอ๋อร์ขี้ขลาดขี้กลัว ทั้งยังกลัวกลัวตายจึงมิได้เป็นบ้าไปกับสุ่ยจูเอ๋อร์แต่อย่างใด อีกทั้ง เมื่อได้เห็นซย่าโหวฉิงเทียนในระยะใกล้เช่นนี้ ก็ทำให้หัวใจดวงน้อยของสุ่ยมี่เอ๋อร์เกี่ยวเอาไว้กับชายหนุ่มในชุดสีม่วงเสียแล้ว

 

 

หากว่าสามารถใกล้ชิดกับเขาได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงน้อยนิดก็ตามที จะดีสักเพียงใดกันนะ!