ตอนที่ 151-1 พบหน้ารักใคร่สมัครสมานฉันท์ทั้งครอบครัว

จำนนรักชายาตัวร้าย

“น้องสี่!” เมื่อสุ่ยจูเอ๋อมองเห็นสายตาแห่งความรักเทิดทูลในดวงตาของสุ่ยมี่เอ๋อร์ ก็โกรธจนควันออกหู 

 

 

แต่เพราะว่ามีคนอยู่มาก นางจึงมิอาจสั่งสอนสุ่ยมี่เอ๋อร์ได้ถนัดนัด ดังนั้นจึงยื่นมือออกไปหยิกที่เอวของสุ่ยมี่เอ๋อร์อย่างแรง ซึ่งมันเจ็บจนสุ่ยมี่เอ๋อร์น้ำตาเล็ด ‘แหมะ’ ลงมาเลยทีเดียว 

 

 

“พี่สาม” 

 

 

“หากว่าเจ้ายังทำทำท่าทางเช่นนั้นเมื่อพบกับศัตรูของเราอีกละก็ ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!” 

 

 

สุ่ยจูเอ๋อร์จ้องมองสุ่ยจูเอ๋อร์ด้วยสายตาโกรธเคือง 

 

 

แม้ว่าปกติแล้วสุ่ยจูเอ๋อร์จะชอบรังแกนางอยู่เป็นประจำ แต่นางก็ไม่เคยมีท่าทางดุร้ายจริงจังเช่นนี้มาก่อน นั่นทำให้สุ่ยมี่เอ่อร์เชื่อว่านางพูดจริงทำจริง 

 

 

“ข้า…ข้ารู้แล้วค่ะ” สุ่ยมี่เอ๋อร์ก้มหน้าลง ท่าแลดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง 

 

 

แต่ทว่า จนแล้วจนเล่านางก็ยังมิอาจตัดใจจากซย่าโหวฉิงเทียนได้ ผู้ชายเช่นนี้ ผู้หญิงที่ไหนล้วนแต่ชื่นชอบทั้งสิ้น! 

 

 

‘นางควรจะทำอย่างไรดี ถึงจะสามารถอยู่เคียงข้างเขาได้?’ 

 

 

แม้ว่าต้องเป็นเพียงสาวใช้ก็ตามที ขอเพียงแต่ได้เห็นหน้าเขาในทุกวัน ข้าก็พอใจแล้ว 

 

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อยู่ในสาตาของชายหนุ่มผู้หนึ่งโดยตลอด เขาหัวเราะเบาะแล้วหันไปกำชับลูกน้องข้างกายสองสามประโยคหลังจากนั้นจึงค่อยรอชมความสนุก 

 

 

“ลั่ว เจ้าว่าฮูหยินของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเป็นอย่างไร? “เหวินเหรินเจี๋ยจ้องมองไปยังโรงเตี๊ยมเซียนเค่อเขม็ง 

 

 

“ริษยา เ**้ยมโหด” เหวินลั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยเปล่งออกมาสองประโยค 

 

 

“ฮ่าๆ!” เหวินเหรินเจี๋ยหัวเราะขึ้นมา  

 

 

“แต่นางกลับเป็นประเภทที่ข้าชื่นชอบเสียนี่” 

 

 

“นายน้อย ท่านอย่าไปหลงชอบผู้หญิงประเภทนี้เด็ดขาดเลยทีเดียวนะขอรับ เหวินลั่วได้ฟังคำของเหวินเหรินเจี๋ยก็รีบโบกไม้โบกมือห้ามปรามทันที 

 

 

“นางเป็นหญิงที่มีสามีแล้วนะขอรับ!” 

 

 

“เป็นหญิงที่มีสามีแล้ว แล้วเป็นอย่างไร! ขอเพียงแต่ข้าอยากได้ ก็ไม่มีสิ่งใดที่ข้าเอามาไม่ได้!” 

 

 

หวนนึกถึงภาพเมื่อครู่ ภาพรอยยิ้มของสาวน้อย ท่ามกลางดอกชีปะขาวล่องลอยปลิวไสวในอากาศ ทำให้มุมปากของเหวินเหรินเจี๋ยหยักยิ้มขึ้นมา 

 

 

ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้าถึงได้ในตัวนางมีบางอย่างที่ทำให้ข้ารู้สึกคุ้นเคย ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าใกล้นาง น่าแปลกจริงๆ… 

 

 

เหวินเหรินเจี๋ยพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ทำเอาเหวินลั่วจิตใจไม่สงบ! 

 

 

นายน้อยของตนนิสัยเป็นอย่างไร เขานั้นย่อมรู้ดี 

 

 

นายน้อยเย่อหยิ่งทะนงตนยิ่งนักจึงน้อยนักที่จะมีใครเข้าตาเขา โดยเฉพาะผู้หญิง 

 

 

และนี่เป็นครั้งแรกที่เหวินเหรินเจี๋ยให้ความสนใจผู้หญิงสักคนหนึ่ง  

 

 

‘แต่ทว่า ท่านชอบหญิงสักคนทั้งที ท่านไปชอบหญิงที่มีสามีแล้วได้อย่างไรกัน!’ 

 

 

อีกด้าน สุ่ยจูเอ๋อร์พาสุ่ยมี่เอ๋อร์กลับออกไป ไหนเลยจะคาดคิดว่า เพราะคนจำนวนมากทำให้สองพี่น้องพลัดหลงกัน สุ่ยมี่เอ๋อร์เที่ยวเดินตามหาพี่สาวไปทั่ว ทว่านางกลับถูกคนผู้หนึ่งลากเข้าไปในซอยที่ไกลออกไป 

 

 

“เงียบนะนะ!” เหวินเซินข่มขู่ 

 

 

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรูปร่างสุงใหญ่ ทั้งเป็นผู้ชาย สุ่ยมี่เอ๋อร์ก็เริ่มน้ำตาคลอ 

 

 

“เจ้าจะทำอะไร?” สุ่ยมี่เอ๋อร์ตกใจเสียขวัญจนแทบทนไม่ไหว ในใจของนางกำลังร่ำร้องหาสุ่ยจูเอ๋อร์ 

 

 

“ข้ามีวิธีที่จะสามารถทำให้เจ้าได้เข้าใกล้ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น——” 

 

 

แม้ว่าในใจจะหวาดกลัวแทบตาย แต่เมื่อได้ยินดังนั้นนางก็รีบเงยหน้ามองอีกฝ่ายทันที 

 

 

“จริงหรือ?” 

 

 

“ขอเพียงเจ้าเชื่อฟังทำตามแผนการของข้า ข้ารับรองเจ้าจะสามารถเข้าไปอยู่ในบ้านสกุลจื่ออวิ๋นได้อย่างราบรื่น! แต่ว่า ในช่วงเวลานี้เจ้าต้องไม่ไปพบสุ่ยจูเอ๋อร์ แล้วทำตามที่ข้าบอก!” 

 

 

กับดักจากอีกฝ่ายดึงดูดความสนใจของสุ่ยมี่เอ๋อร์ได้เป็นอย่างดี 

 

 

‘สามารถเข้าไปอยู่ในบ้านสกุลจื่ออวิ๋นได้?’ 

 

 

‘สามารถเข้าใกล้เขา?’ 

 

 

‘ได้เช่นนั้นจริงหรือ?’ 

 

 

“หากว่าท่านสามารถช่วยให้ข้าน้อยสมปรารถนาได้ ข้ายินดีที่ช่วยเหลือท่านทุกอย่าง! ยกเว้ยเรื่องที่จะให้ข้าทำร้ายสกุลจื่ออวิ๋น…” 

 

 

สุ่ยมี่เอ๋อร์กล่าวจบ ก็คุกเข่าลงตรงเบื้องหน้าเหวินเซิน 

 

 

อย่างน้อยที่สุดนางก็รู้ดีว่า ในใต้หล้านี้ไม่มีความช่วยเหลือใดได้มาเปล่าๆ ไม่มีใครยอมช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน อีกฝ่ายย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน 

 

 

แต่ทว่า ในใจของนางก็มีข้อจำกัดอยู่เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือจะไม่มีวันกระทำในสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเด็ดขาด 

 

 

สุ่ยมี่เอ๋อร์คิดว่า ความรักที่ตนเองมีต่อประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นนั้นคือรักจริง 

 

 

เมื่อได้ยินสุ่ยมี่เอ๋อร์กล่าวเช่นนี้ เหวินเซินก็ยิ้มเยาะขึ้นมาทันที! 

 

 

‘กล้ามายื่นเงื่อนไขกับนายน้อยของเรา?’ 

 

 

‘เจ้ามันไม่คู่ควร!’ 

 

 

‘แม่นาง เจ้านี่มันโง่งมโดยแท้จริงๆ!’ 

 

 

อาศัยเจ้าที่เพียงแค่นับรบขั้นปราชญ์เล็กๆ ที่ถูกส่งไปเส้นสายสอดแนมข้างกายซย่าโหวฉิงเทียนเจ้าจะทำอะไรได้? 

 

 

เหวินเซินพบหญิงสาวที่โง่งมเช่นนี้มานักต่อนักเสียจนเคยชิน สุ่ยมี่เอ๋อร์คนนี้น่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก! 

 

 

สกุลสุ่ยพังพินาศเช่นนี้แล้ว ยังมัวแต่มาอาลัยอาวรณ์หลงรักศัตรูที่สังหารครอบครัวตัวเองทั้งบ้านอยู่ได้ หากว่าสุ่ยฮั่วอีรู้ว่าลูกสาวของลูกบุญธรรมของตนที่เลี้ยงดูมาไร้สามารถเช่นนนี้ คงจะโกรธเกรี้ยวจนแทบจะลุกขึ้นมาจากหลุมศพเลยกระมัง 

 

 

ตรงกันข้ามกับสุ่ยจูเอ๋อร์ แม้ว่านางจะนิสัยเสียอารมณ์ไม่ดี ทั้งยังมักจะเสแสร้ง แต่เมื่อถึงเวลาที่สำคัญนางกลับมีสติกว่าคนอื่นมาก 

 

 

“สุ่ยมี่เอ๋อร์ เจ้าไม่มีสิทธิ์มายื่นเงื่อนไขกับข้า! เจ้าคิดดู หากว่าข้านำเรื่องที่พวกเจ้ามีชีวิตรอดมาได้ไปบอกกับประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น เขาจะทำอย่างไร?” 

 

 

เหวินเซินไม่ชอบใจกกับการที่สุ่ยมี่เอ่อร์เอ่ยยื่นเงื่อนไขกับเขา เพราะในสายตาของเขา สุ่ยมี่เอ๋อร์ไหนเลยจะมีสิทธิ์มายื่นเงื่อนไขกับเขาได้ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ชื่อเสียงเรียงนามของตนก็ทำให้สุ่ยมี่เอ๋อร์ตกใจไม่น้อย 

 

 

“เจ้า เป็นใครกันแน่?” สุ่ยมี่เอ๋อร์ใจเต้นระส่ำ อีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่านางคือสุ่ยมี่เอ๋อร์? หรือว่าตลอดทางที่พวกนางสองพี่น้องเดินทางมาถูกคนคนสะกดรอยตามมาโดยตลอด?  

 

 

“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญก็คือเจ้าจงพึงระลึกฐานะของตัวเอาไว้ให้มั่น หากว่าเจ้ารับปาก ข้าจะหาวิธีส่งเจ้าเข้าไปอยู่ข้างกายประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น แต่หากเจ้าไม่รับปาก ก็ต้องตาย——” 

 

 

เหวินเซินยื่นดาบแหลมที่เย็นเยียบจ่อบริเวณลำคอของสุ่ยมี่เอ๋อร์พร้อมกับวาดมันไปมา สุ่ยมี่เอ๋อร์ไหนเลยจะเคยพบกับการช่มขู่คุกคามเช่นนี้ 

 

 

“ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้า!” สุ่ยมี่เอ๋อร์กล่าวจบ เหวินเซินก็ยัดยาเม็ดหนึ่งใส่ปากนางทันที 

 

 

เจ้าให้ข้ากินอะไร… ยิ่งพูดจนจวนจะจบประโยค เสียงของสุ่ยมี่เอ๋อร์ก็ยิ่งแหบพร่า จนสุดท้ายเสียงหวานใสเจื้อยแจ้วก็แหบแห้ง จนพูดไม่ออกในที่สุด 

 

 

ขณะเดียวกันรูปโฉมของสุ่ยมี่เอ๋อร์ก็เปล่ยนแปลงไปเช่นกัน 

 

 

จากสาวน้อยที่งดงามจิ้มลิ้มน่ารัก กลับหลายเป็นหญิงสาวชาวบ้านหน้าตาธรรมดา ทั้งยังมีกระสีดำขึ้นบนใบหน้า หากนำไปทิ้งไว้ที่ข้างถนนละก็ไม่มีใครจดจำนางได้อย่างแน่นอน 

 

 

“กรี๊ด กรี๊ด——”สุ่ยมี่เอ๋อร์พยายามร้องตะโกน ทว่าเสียงที่เปล่งออกมากลับแหมบเล็กน่าเกลียดจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ 

 

 

เจ้าทำอะไรกับข้า? สุ่ยมี่เอ๋อร์จ้องมองเหวินเซินอย่างความหวาดกลัว 

 

 

‘นางเป็นใบ้!’ 

 

 

เมื่อสุ่ยมี่เอ๋อร์รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า ก็รีบยกมือขึ้นจับสัมผัสใบหน้าของตนทันที 

 

 

ใบหน้างดงามนี้คือสิ่งเดียวที่นางจะใช้ดึงดูดความสนใจจากประมุขแห่งถ้ำจื่ออิว๋นได้! เมื่อไร้ซึ่งความงาม แล้วนางจะทำให้ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นมาสนใจนางได้อย่างไร?