Ch.22 – สู่เช้าวันที่สาม

Translator : O-Minus / Author

 

“นานะ ช่วยส่งเนยมาให้ทีสิ”

 

“นี่จ้ะ”

 

ถึงจะสายนิดหน่อยจากการมาเยี่ยมของโทวกะจัง ตอนนี้ฉันกับรินจังกำลังกินมื้อเช้ากันอยู่

 

“โทวกะจัง-ฉันสงสัยจังว่าเธอจะเป็นอะไรไหมที่ไม่กินมื้อเช้าด้วยกันน่ะ”

 

เพราะว่าโทวกะจังมาไวไปไวดุจสายลม ฉันเลยเป็นห่วงเธอนิดหน่อย

รินจังบอกก่อนหน้านี้ว่าวางแผนไว้ตอนกินข้าวกันแล้วแต่เธอจะโอเคจริงๆเหรอ?

 

“เด็กคนนั้นน่ะกินก่อนมาที่นี่แล้วล่ะ เธอกินจุจะตายไป”

 

“เตรียมพร้อมมาดีจังเลยนะ”

 

“ถ้าคำนวณการใช้เวลาของเธอแล้วล่ะก็ ถ้าเธอกินด้วยคงจะไปถึงดูอัลลิสไม่ทันตอนเที่ยงหรอกนะ เอาเถอะ เธอได้รับเชื้อเพลิงที่เรียกว่านานะไปแล้วเดี๋ยวเธอก็ทำได้เองล่ะ”

 

ด้วยสีหน้าราวกับกินยาขมเข้าไป รินจังเอ่ยออกมาอย่างนั้น

 

“ดูอัลลิสอยู่ไกลจากเมืองที่สามมากเลยเหรอ?”

 

“ถ้าเดินตามปกติก็2ชั่วโมง ถ้าสู้ตามทางไปด้วยก็3ชั่วโมง มีบอสอยู่ด้วยเลยอาจจะใช้เวลาแต่ว่าเธอน่าจะถึงตรงนั้นแล้วในตอนที่เรากำลังกินกันอยู่นี่ล่ะ”

 

“อึน~…ถ้าอย่างนั้นเธอก็น่าจะมีเวลาเหลือเฟือเลยนะ”

 

พอมองดูนาฬิกาแล้ว ตอนนี้ยังไม่ถึง9โมงด้วยซ้ำ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่รินจังว่าไว้ล่ะก็ โทวกะจังน่าจะถึงเมืองดูอัลลิสได้อย่างไม่ลำบากอะไร

รินจังที่ได้ยินคำพูดของฉันได้หันหลบสายตาของฉันออกไป

 

“นานะ ลืมไปแล้วเหรอ?…โทวกะจังน่ะ ไม่มีเซ้นส์ด้านทิศทางเลยนะรู้ไหม”

 

“อ๊ะ…”

 

เป็นอย่างนั้นนี่เอง

 

ถ้าจะให้พูดแบบรักษาเกียรติของโทวกะจังแล้วล่ะก็ เธอคงจะไปถึงจุดหมายได้ก็ต่อเมื่อเธอมีแผนที่เท่านั้น

เธอไม่ไปผิดทางถ้าไปโรงเรียนด้วยเส้นทางเดิมๆทุกครั้ง และอย่างในวันนี้เธอก็ยังสามารถมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัย

แต่ดันเจี้ยนนั้นมีทางแยกย่อยออกไปมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีตำแหน่งสำคัญๆเหมือนอย่างถนนในยุคปัจจุบันด้วย โทวกะจังคงจะได้แต่เดินช้าๆเหมือนหอยทากขณะที่ตาจ้องไปยังแผนที่อย่างเดียว

จึงทำให้ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าเธอจะถึงก่อนบ่ายหรือเปล่า

 

“อ-เอาเถอะ เด็กคนนั้นก็อ่านแผนที่เก่งขึ้นมาเทียบกับสมัยก่อนแล้วเพราะงั้นเธอคงจะถึงภายในเวลานั้นล่ะนะ”

 

กระแอ้มคอเล็กน้อย รินจังปิดประเด็นเกี่ยวกับโทวกะจังแล้วกัดลงไปยังแผ่นขนมปังปิ้งที่ทาเนยเอาไว้

 

“อืม…อร่อยจัง แล้วก็นานะ ฉันอยากจะให้เธอเล่นกับโทวกะจังด้วยกันช่วงบ่ายนี้ จะเป็นอะไรไหม?”

 

“ได้สิ ยังไงก็ไม่ได้เล่นด้วยกันมานานแล้วด้วย ฉันคาดหวังที่จะได้เล่นเลยล่ะ”

 

“ตอนเที่ยงจะได้พักสักพักแต่ว่าตอนเช้าเธอจะทำอะไรไปก่อนก็ได้ มีอะไรที่อยากลองอยู่ใช่ไหมล่ะ?”

 

“อืม เพราะฉันเลือกอาชีพมาแล้ว ฉันเลยอยากทำความเคยชินกับมันสักหน่อยน่ะ”

 

อาชีพที่ฉันเลือก[โดวจิ] เป็นอาชีพพิเศษที่โยนค่าสถานะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ทิ้งไปแลกมากับความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านกายภาพ

เพราะว่าฉันล็อกเอาท์ออกมาก่อนที่จะได้ลอง วันนี้ฉันเลยอยากที่จะทดสอบค่าสถานะที่เปลี่ยนไปดู

 

“พอพูดขึ้นมาก็นึกขึ้นได้ เธอเลือกอาชีพอะไรไปเหรอ? เมื่อวานฉันยังไม่ได้ฟังจากเธอเลย”

 

“ฉันเลือก[โดวจิ]น่ะ”

 

“……หืมมมม เข้าใจล่ะ นานะคงจะรับมือไหวอยู่ล่ะนะ”

 

“จากท่าทีของเธอ ว่าแล้วเชียวมันคืออะไรที่คนอื่นไม่ค่อยเลือกกันสินะ?”

 

“เพราะว่าแพ้ทางเวทมนตร์วงกว้างน่ะสิ แล้วเวทมนตร์ธรรมดาก็ยังทำให้เจ็บได้มากอยู่แล้วแท้ๆ…ข้อดีกับข้อเสียมันห่างกันเกินไปจนเห็นได้ชัดล่ะนะ พูดตรงๆเลยคือมันเฉพาะทางเกินไป”

 

จากที่รินจังบอก พอได้เห็นคำอธิบายอาชีพแล้วทุกๆคนคิดไปในทางเดียวกัน

อย่างที่เธอว่า เวทมนตร์ที่มีระยะกว้างนั้นเป็นอันตรายอย่างมาก แต่ว่า จากเวทมนตร์ธรรมดาก็ยังสร้างความลำบากใหญ่หลวงให้ด้วยนี่ เป็นข้อเสียที่ใหญ่มากเลย

ฉันเห็นเวทมนตร์สายฟ้าที่รินจังใช้แล้วแต่ว่านะ อย่างที่คิดไว้ มันไม่ได้เร็วเท่ากับสายฟ้าของจริงแต่ว่าก็ค่อนข้างไวมากเลย

ถ้าเป็นตัวต่อตัวฉันคงหลบได้แต่ว่ามันคงจะลำบากถ้าถูกรุมเข้า

 

“บอกเผื่อเอาไว้นะ มันมีอุปกรณ์สวมใส่ที่เพิ่มค่าพลังป้องกันเวทมนตร์ด้วย เธออาจจะอยากใช้อุปกรณ์พวกนั้นดูนะ”

 

“เธอพูดถูก ก็นะ ไว้ถ้าฉันมีปัญหากับมันเมื่อไหร่ฉันจะลองคิดดูอีกทีละกัน”

 

“แบบนั้นก็ดี นานะทำอะไรตามใจได้เลยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาพึ่งพาฉันได้เลย”

 

รินจังยิ้มออกมาเมื่อเธอบอกฉัน และฉันก็ยิ้มตอบเธอไป

ดูเหมือนว่าวันนี้ก็จะสนุกอีกวันแล้วสิ

 

 

หลังจาก10โมง ฉันแจ้งเตือนเวลาสตรีมและนำเสื้อผ้าที่ซักแล้วไปตากฆ่าเวลา หลังจากนั้นฉันจึงเริ่มต้นสตรีมตามที่ได้สัญญาไว้เมื่อวานนี้

 

“ถึงวันนี้ก็พึ่งจะเป็นวันที่สามของฉันเองล่ะนะ”

 

บนถนนในโลกแฟนตาซีที่ฉันได้เริ่มชินตานั้น ด้วยความที่วันนี้เป็นวันหยุดด้วย ลานกว้างของเมืองก็เต็มไปด้วยผู้คน ฉันยืนบิดตัวไปรอบๆ

 

[หวัดดี]

[สวัสดีนะ]

[เย้]

[โย่ โย่]

 

“สวัสดีทุกคน ยินดีต้อนรับนะ มาผ่อนคลายแล้วสนุกไปด้วยกันนะโอเคไหม”

 

ฉันตอบรับกลับไปให้คอมเมนต์ที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด

เทียบกับเมื่อวานที่ฉันยังเกร็งๆอยู่บ้าง วันนี้ฉันรู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้นขณะที่จัดการเรื่องการสตรีม

 

“วันนี้ฉันจะมาลองทดสอบอาชีพใหม่ของฉันดู เป้าหมายของพวกเราก็คือที่ป่าแห่งเวทมนตร์…ทุ่งราบข้างหน้าป่าล่ะนะ”

 

[เข้าใจละ]

[จะไม่เข้าไปในป่าเหรอ?]

[นึกว่าจะไปที่บึงน้ำซะอีก]

 

“อืม คือว่านะ ตอนบ่ายๆฉันจะเล่นกับเด็กผู้หญิงอีกคน อ๊ะ ไม่ใช่รินจังหรอกนะ เพราะว่าพวกเราอาจจะได้เข้าไปลองดันเจี้ยนด้วยกันตอนนั้น ช่วงเช้าเลยจะใช้เวลาเดินเล่นกันก่อนนะ”

 

จากหลายๆคอมเมนต์ที่ส่งเข้ามากัน มีหลายคนคาดหวังให้มีการบุกดันเจี้ยนกันในตอนนี้

ฉันก็ตื่นเต้นที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนแต่ว่า ในเมื่อโทวกะจังพยายามอย่างเต็มที่ในการมาที่เมืองนี้ การจะไม่ไปต้อนรับก็คงน่าสงสารน่าดู

ในเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ฉันตั้งเป้าไปที่ประตูทิศเหนือตรงข้ามกับประตูที่ฉันเข้ามาในเมืองเมื่อวานนี้และก็เริ่มเดินผ่านเมืองดูอัลลิส

 

“โฮ่~~ นี่สินะถนนร้านค้าที่ร่ำลือกันน่ะ”

 

ผ่านถนนที่กว้างขึ้นมาและมองไปยังร้านค้าที่เกาะกลุ่มกันไปรอบๆ ฉันพึมพำออกมาอย่างไม่คาดคิด

เส้นทางระหว่างลานกลางเมืองไปยังประตูทิศเหนือนั้นคือถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าที่มีชื่อเรียกกันว่า[ถนนร้านค้า]

เป็นร้านที่ไม่ใช่ของNPC แต่เป็นของผู้เล่นด้วยกัน

เดินไปรอบๆขณะที่มองดูรายการสินค้า มีไอเท็มหลายชนิดที่มีผลไม่ต่างกับสินค้าของNPCมากนัก

ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่วางขายบนถนนร้านค้าของเมืองดูอัลลิสนั้นส่วนใหญ่มาจากผู้เล่นสายผลิตมือใหม่ทั้งนั้น

 

“ในเมืองแห่งการเริ่มต้นดูเหมือนว่าจะไม่มีการสอนเกี่ยวกับอาชีพสายผลิตเลยล่ะนะ และจะต้องมาถึงดูอัลลิสก่อนถึงจะได้สกิลการสร้างขึ้นมาจริงๆน่ะ”

 

[เข้าใจล่ะ]

[ฟังดูลึกลับจังนะ]

[อยากให้ผู้เล่นใหม่ชินกับระบบVRก่อนมั้ง?]

 

เมื่อได้ฟังคำอธิบายแบบคร่าวๆ ผู้ชมก็เริ่มที่จะสนทนากันเองในหมู่คอมเมนต์

ฉันไม่เข้าใจเหตุผลจริงๆเท่าไหร่ แต่รินจังบอกมาว่า เป็นเพียงวิธีที่ใช้กระจายเหล่าผู้เล่นเท่านั้น

 

แน่นอนว่าถ้าเมืองแห่งการเริ่มต้นมีด้วยล่ะก็ เมืองคงจะแออัดไปด้วยหมู่ผู้เล่นไปทั่วแน่นอน

เพราะว่าการสร้างไม่ใช่เพียงแค่กดปุ่มเดียวเสร็จและยังใช้พื้นที่อีกด้วย ห้องทำงานแบบสาธารณะในดูอัลลิสเองก็ดูเหมือนจะมีขนาดที่ใหญ่น่าดู

อาจจะมีโอกาสที่ฉันจะไปที่นั่นก็ได้….บางทีล่ะนะ

ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะซื้ออะไรแต่ว่าความสนใจของฉันก็ถูกสินค้าหลายอย่างดึงไปอยู่ดีระหว่างที่เดินไปยังทางประตูทิศเหนือ ในตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งเรียกออกมาจากข้างล่างฉัน

 

“คือว่า…ซุคุนะซัง สินะคะ…”

 

ได้ยินเสียงแต่ฉันกลับไม่เห็นใคร…ซะที่ไหนกันล่ะ พอฉันก้มลงมองก็ได้พบกับเด็กสาวผมสีขาวที่ดูน่ารักกำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาที่ดูง่วงนอน

 

“ใช่แล้วล่ะ เธอเป็นใครกันเหรอ?”

 

“ฉันชื่อว่า[ฮารูรุ]ค่ะ…ไลฟ์สตรีม ฉันได้ดูมันแล้วก็…ฉันอยากที่จะเจอกับคุณ…”

 

“ขอบใจมากนะ อ๊ะ ฉันซุคุนะ”

 

พอฉันเอื้อมมือออกไปเพื่อจับมือกับเธอ ฉันกลับถูกมือของเธอจับเข้าให้แทน

ตกใจจากการกระทำที่กะทันหันนั้น พอเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่าฮารูรุปล่อยมือออก ฉันก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักในมือขวาของฉัน

ตอนที่เธอเอื้อมมือมาจับมือฉันเธอได้แอบเอาไอเท็มมาใส่ในมือของฉันด้วย ซึ่งเป็นลูกบอลเหล็กขนาดเล็กเหมือนกับลูกทุ่มน้ำหนัก

 

“นั่นเป็นไอเท็มสำหรับขว้างทำเองของฉันค่ะ…ฉันจะให้มันกับคุณ…เพราะฉะนั้นช่วยใช้มันด้วยนะคะ…”

 

“เข้าใจแล้วล่ะ แต่ว่าฉันรับมาฟรีๆไม่ได้หรอกนะ”

 

“ให้ฟรีแค่ตอนนี้นะคะ…วันนี้ทั้งวันฉันจะอยู่ที่ถนนร้านค้า…ถ้าคุณชอบมันล่ะก็ ฉันจะดีใจมากเลยถ้าคุณมาหาฉันนะ…”

 

พร้อมกับแววตาที่ดูง่วงนอนนั้น เด็กสาวที่เรียกตัวเองว่าฮารูรุพูดออกมาก่อนจะหายไปกับฝูงชน

ว่าแล้วเชียวฉันคงจะหาเด็กตัวเล็กอย่างเธอลำบากแน่ๆท่ามกลางผู้คนแบบนี้

 

“ไม่สิ เดี๋ยวนะ…เอ๋?”

 

ยืนนิ่งด้วยความงงว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี ฉันเลยเก็บลูกทุ่มลงไปในกระเป๋ากางเกงของฉัน