Ch.23 – ถนนสู่ป่าแห่งเวทมนตร์
Translator : O-Minus / Author
แต่เดิมแล้วเนี่ย
เป็นไปได้ด้วยเหรอที่จะบังคับมอบไอเท็มให้กับคนอื่นที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ หรือไม่ได้ส่งมอบผ่านจดหมาย?
คำตอบคือ[เป็นไปไม่ได้] การจะแลกเปลี่ยนไอเท็มกันนั้น นอกจากในกรณีของข้อสัญญาแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะต้องให้ความยินยอมเสียก่อน
ไม่ได้เข้าใจยากอะไรเลย ก็แค่[คุณตกลงรับไอเท็ม□□□ จากผู้เล่น ○○○-ซังหรือไม่?] [ตกลง ยกเลิก] จะปรากฏขึ้นมาก่อนการแลกเปลี่ยนทุกครั้ง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าตามปกติแล้วจะไม่สามารถรับไอเท็มที่ถูกผลักมาให้แต่ว่า
ถ้าอาศัยช่องว่างของระบบแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีวิธีส่งมอบไอเท็มทางกายภาพอย่างลูกทุ่มนี้
นั่นก็คือ การสละสิทธิในการครอบครองไอเท็มของตัวเอง
ผู้เล่นฮารูรุคนนั้น เธอก็แค่หยิบไอเท็มที่ไม่มีเจ้าของแล้วส่งต่อมาให้ฉัน
นั่นหมายความว่าในตอนนี้ลูกทุ่มพวกนี้ก็มีค่าเท่ากับก้อนหินข้างทาง
แล้วก็อันที่จริงแล้ว ด้านหน้าของฉันยังมี[ต้องการเก็บ[ลูกทุ่ม(เล็ก)]ใส่ช่องเก็บของหรือไม่?]อยู่เลยด้วย
สุดท้ายแล้วถ้าฉันไม่ทำอะไรที่เป็นการรับไอเท็มมา มันจะกลายเป็นอาวุธไร้เจ้าของและถ้าปล่อยทิ้งไว้มันจะเสียค่าความทนทานจนสลายไปหรือไม่ก็มีใครสักคนที่เก็บมันไป
ในเมื่อฉันไม่อยากให้มันต้องเสียเปล่า แทนที่จะมัวกังวลฉันเลยกดตกลงและเก็บลุกทุ่มในกระเป๋าไว้ในช่องเก็บของ
การที่ทำแบบนั้นได้เป็นหลักฐานยืนยันว่าลูกทุ่มนี้เป็นไอเท็มไร้เจ้าของจริงๆ
“เมื่อกี้มันอะไรกันนะ…???”
[โดนโลลิยัดของให้ ฮา]
[ทองเหลือง?](ลูกทุ่ม=ฟุนโด ทองเหลือง=ซุนโด)
[↑นั่นมันหม้อแล้ว]
[เล่นเป็นตัวเด็กผู้หญิงได้ด้วยเหรอ?]
[ลูกทุ่ม…]
“เอาเถอะ ไหนๆก็ได้มาแล้วเอาไปลองใช้หน่อยดีกว่า คันเนื้อคันตัวอยากออกแรงแล้วล่ะ ไปที่ทุ่งราบกันเลยเถอะ”
ถึงแต่เดิมแล้วเป็นเพียงแค่การสนองความอยากรู้อยากเห็นของฉันแต่ถนนร้านค้าทำให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่าที่คิด
ขณะตอบกลับที่ช่องคอมเมนต์ที่ทำตัวหวาดกลัวกัน ฉันก็เร่งเท้าไปยังประตูทางออก
☆
ที่เมืองแห่งการเริ่มต้น ฝั่งประตูทิศใต้ถือว่าเป็นจุดที่ยากที่สุด สำหรับเมืองนี้ที่ไม่มีทางไหนที่เป็นทางตันเลย กลับมีทิศเหนือที่ยากที่สุด
ดันเจี้ยนที่เชื่อมต่อไปยังเมืองที่สาม ป่าแห่งเวทมนตร์ ทางเข้าของมันกำลังรอฉันอยู่เบื้องหน้าของทุ่งราบที่มีถนนแย่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้
อย่างแรกเลย มีหญ้าสูงขึ้นอยู่ตรงนั้นตรงนี้แล้วยังมีหลุมพรางอยู่ที่พื้นอีก…หรือต้องเรียกว่าหลุมหลบภัยสำหรับซ่อนตัวที่ถูกขุดเอาไว้กันนะ
ถ้ามัวแต่กังวลว่าจะมีมอนสเตอร์ซ่อนอยู่ในพงหญ้าก็จะดินตกลงไปในหลุม หรืถ้ามัวแต่กังวลเรื่องหลุมก็จะถูกมอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ดักจู่โจมเข้า
แล้วยังจะมีก้อนหินขนาดใหญ่ร่วงลงมาใส่อีกด้วย
สรุปแล้วมอนสเตอร์จะได้รบโบนัสการซ่อนตัว เป็นพื้นที่ที่ไม่ดีเลย
“กย๊าาาา”
“เอาฮึบ หืมมมม หรือเพราะว่าที่นี่ถนนไม่ดีด้วย เลเวลของมอนสเตอร์เลยไม่ได้สูงขนาดนั้นกันนะ”
ขณะที่ฉันทุบกะโหลกของก็อบลินที่ทำท่าเหมือนจะลอบโจมตีฉันจากข้างหลัง HPของมันก็หมดลงอย่างน่าผิดหวังและสลายไป
ขณะที่เดินตามถนนแย่ๆอย่างสบายใจ ฉันก็เริ่มที่จะชินกับอาชีพใหม่ของฉัน
เอาจริงๆนะก็อบลินที่ไม่ใช่ชนิดสูงก็เป็นได้แค่ตัวน่ารำคาญเท่านั้นล่ะ
ไหนจะเป็นแค่มอนสเตอร์จากดันเจี้ยนที่แล้วแท้ๆ ไม่ว่าพื้นที่จะแย่หรือจะอยู่ในท่าทางที่ลำบากแค่ไหน มอนสเตอร์กระจอกเหล่านั้นก็ยังถูกจัดการได้ง่ายๆ
เมื่อเทียบกับหมาป่าที่เปราะบางแต่รวดเร็วแล้ว ก็อบลินมีความเร็วและความถึกที่ปานกลาง
นอกจากมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีอาวุธแล้ว พวกมันก็จัดการได้ง่ายกว่าหมาป่าเยอะ
สำหรับฉันแล้วมันง่ายที่จะโจมตีโดนจุดตายเพราะว่าพวกมันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ว่าดูเหมือนจะมีผู้เล่นบางคนที่ไม่อาจโจมตีมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์ได้อยู่ ฉันคิดว่าแบบนั้นน่าลำบากมากเลย
ในโลกนี้ไม่ว่าจะแมลง สัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์น่ารักๆต่างก็เป็นมอนสเตอร์ในโลกนี้ ถ้าพวกนั้นยังโจมตีได้แต่กลับโจมตีพวกคล้ายมนุษย์ไม่ได้ทั้งๆที่พวกมันก็เป็นมอนสเตอร์เหมือนกันแล้ว ฉันคิดว่าคงจะช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
จะว่าไปแล้ว ไอเท็มหายากที่ก็อบลินดรอปคืออาวุธในเซ็ต[○○เก่าๆ] ซึ่งถ้านำไปให้NPCที่ร้านแล้วจะสามารถซ่อมแซมไอเท็มให้กลายเป็นอาวุธเริ่มต้นได้ล่ะ
ได้อาวุธเริ่มต้นหลังจากมาถึงเมืองที่สองแล้ว ถ้าเป็นสายนักสะสมของก็คงจะพอใจละมั้ง?
แล้วก็ถ้าเอาไปขายก็จะได้500ไอริส ราคาไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น
อ๊ะ ก็อบลินอาเชอร์กำลังเล็งมาทางนี้จะมุมก้อนหินไกลออกไป
“อุรย๊า!”
สิ่งที่ฉันขว้างออกไปด้วยท่าทางจริงจังคือลูกทุ่มที่ฉันได้รับมาก่อนหน้านี้
มันดูเหมือนลูกทุ่มที่เอาไว้ใช้วัดน้ำหนักนะ แต่ฉันสงสัยจังว่ามันทำงานยังไงกัน ขนาดพอๆกับลูกเทนนิสแต่กลับหนักกว่ามาก น้ำหนักราวๆ2กิโลกรัม
ลูกทุ่มที่ถูกขว้างออกไปในท่าขว้างบอลธรรมดาๆเหมือนขว้างเบสบอลพุ่งตรงไปตามที่ฉันตั้งใจไว้และบดหัวของก็อบลินตัวนั้น
“ไนซ์”(Nice)
หลังจากที่ได้เห็นเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปกว่า30เมตรถูกทำลาย ฉันก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอันสดชื่นภายในมือ
ก็อบลินอาเชอร์โจมตีจากระยะไกลได้แต่แลกมากับพลังโจมตีและป้องกันที่ต่ำ
แต่ถ้าเป็นฮ็อบก็อบลินล่ะก็ฉันไม่คิดว่าจะตายภายในครั้งเดียวหรอกนะ
[ฮี๊]
[เมื่อกี้ทำอะไรลงไปกันน่ะ เอาจริงดิ]
[อย่าปาหัวง่ายๆเหมือนขว้างกระป๋องเปล่าลงถังขยะสิ]
“นี่ ถ้าฉันจะขว้างกระป๋องเปล่าฉันก็ไม่ขว้างแบบจริงจังอย่างนี้หรอกนะ”
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว แต่ว่าเมื่อก่อนที่สวนสาธารณะมักจะมีถังปริศนาที่เอาไว้ใส่ขยะอยู่ด้วยสินะถ้าจำไม่ผิดแล้ว
ในตอนที่ฉันกำลังรำลึกอดีตอยู่นั้น ช่องคอมเมนต์ต่างเต็มไปด้วย[ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ] ทำไมกันล่ะ?
“แต่ว่านะ ลูกทุ่มพวกนี้ขว้างได้ง่ายกว่ามีดขว้างอีกนะ”
ไม่ต้องให้ฉันบอกก็ได้มั้งแต่ว่าวัตถุทรงกลมน่ะขว้างได้ง่ายกว่าวัตถุรูปทรงยาวอีกนะ
ประเด็นสำคัญคือลูกทุ่มน่ะมีแค่ความหนักกับความแข็ง ถ้าขว้างโดนล่ะก็ ด้วยความแรงที่พอเหมาะก็สามารถทำความเสียหายได้ดีเลยล่ะ
ท่าขว้างลูกบอลแบบธรรมดาก็เพียงพอแล้ว ด้วยความที่มันมีน้ำหนักทำให้รักษาความเสถียรได้ดีกว่าก้อนหินอีก ขว้างง่ายกว่ามีดขว้างอีกด้วย
ข้อเสียก็คือฉันไม่สามารถนำมันมาใส่ในช่องเก็บมีดที่เข็มขัดที่ฉันใส่อยู่ได้
ถ้าฉันไปหาเด็กผู้หญิงที่ชื่อฮารูรุคนนั้น ฉันจะหาอุปกรณ์สำหรับเจ้านี้ได้ไหมนะ…?
ขณะที่ลองใช้ลูกทุ่มไปเรื่อย ฉันก็ได้สังหารก็อบลินและกระต่ายจำนวนมากไปสักพัก
“โอ้ว นี่น่ะเหรอป่าแห่งเวทมนตร์น่ะ?”
ฉันก็มาถึงดันเจี้ยนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นป่าทึบที่มีแสงแดดผ่านม่านใบไม้ตามกิ่งใบ
ดูเหมือนว่าจะเริ่มเข้าจากตรงไหนก็ได้นะ แต่ว่าจะมีทางเข้าเล็กๆทางหนึ่งที่ถูกดูแลเอาไว้ ตรงนั้นมีอะไรคล้ายๆกระท่อมอยู่ด้วย
[จะเข้าดันเจี้ยนเหรอ?]
[กระท่อม!]
[ดันเจี้ยนนี้ที่จะฆ่าซุคุนะง่ายๆเลยน่ะเหรอ?]
[↑หืมมมม…..]
[ก็นะ พอมองเรื่องความเข้ากันได้แล้ว…]
[คิดว่าคงไม่โดนหรอกถ้ามันไม่ใช้เวทมนตร์ติดตามตัว]
“เวทมนตร์เดียวที่ฉันเคยเห็นใกล้ๆคือของรินจังเพราะงั้นฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ตอนนี้ลองไปดูที่กระท่อมแล้วกลับกันเถอะ เดี๋ยวฉันต้องล็อกเอาท์สักแปปนึงตอนเที่ยงด้วย”
เชื่อตามคำพูดของผู้ชมผ่านคอมเมนต์ ฉันเดินเข้าไปใกล้กระท่อมที่ผู้เล่นหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
พอมาเห็นใกล้ๆแล้ว มันใหญ่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีกนะ
แทนที่จะเรียกว่ากระท่อม มันดูเหมือนร้านน้ำชาหรืออะไรที่เป็นที่พักผ่อนเลยล่ะ
“ขอโทษนะคะ ที่นี่คือที่แบบไหนกันเหรอคะ?”
“หือ? อ่า ก็เป็นจุดพักเซฟล่ะนะ…เดี๋ยวนะ เธอคนเมื่อวานนี่”
แทนที่จะมัวแต่สงสัย ฉันตัดสินใจถามชายผู้ใช้ดาบมือเดียว จากการตอบรับของเขาดูเหมือนว่าเราจะเคยเจอกันมาก่อน
หลังจากย้อนนึกความทรงจำในหัวได้5วินาที ฉันก็จำหน้าของเขาได้
เขาคือนักดาบมือเดียวที่บอกฉันว่าศูนย์ลงทะเบียนอาชีพอยู่ที่ไหนยังไงล่ะ
“…อ๊ะ! พี่ชายที่บอกทางนั่นเอง ขอบคุณสำหรับเมื่อวานด้วยนะ มาที่นี่คนเดียวเหรอ?”
“เปล่าหรอก มากับเพื่อนน่ะ ตอนนี้คนนั้นกำลังซื้อของอยู่…ขอโทษทีนะ ฉันชื่อชูยะ”
“ฉันซุคุนะ อ๊ะ ฉันกำลังสตรีมอยู่นะ เป็นอะไรไหม?”
“อ่า ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนฉันหลายคนก็สตรีมเหมือนกัน…เดี๋ยวนะ ซุคุนะ? ชื่อซุคุนะเหรอ?”
“ใช่แล้ว…”
ชูยะซังนักดาบมือเดียว ดูเหมือนว่าเขาจะเคยได้ยินชื่อของฉันมาก่อนนะ
แต่ว่าจากที่เห็นแล้ว เขาคงไม่ได้ไปได้ยินชื่อฉันจากสตรีมของฉัน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เหมือนว่าเขาจะได้ยินจากที่คนอื่นคุยกัน
ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“รอตรงนี้ก่อนได้ไหม ขอตามเพื่อนมาก่อนนะ”
“อ่า โอเค”
ชูยะซังเข้าไปและเรียกเพื่อนที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่ชั้นสองของบ้านน้ำชา
“เกิดอะไรขึ้นกันนะ?”
[คงจะเป็นผู้ชม]
[ผู้ชมงั้นเหรอ?](risuna kana?)
[ค้อน](kanazuchi เล่นมุขต่อคำกันเองในช่องคอมเมนต์)
“ค้อนทำไมเหรอ”
ถึงฉันจะเป็นที่รู้จักจากสตรีมที่ฉันสู้กับอาเรีย แต่ฉันก็ยังรู้สึกแปลกๆอยี่ที่ถูกรู้จักโดยคนแปลกหน้าแบบนี้
คิดถึงเรื่องอะไรแบบนั้นระหว่างที่ฉันไม่ได้ทำอะไร ขณะที่เขายังไม่กลับมาฉันก็เล่นกับช่องคอมเมนต์ระหว่างที่รอ