ตอนที่ 804 เป็นโล่กันลูกศร

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ซือคงชเวกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ข้ามิใช่แบบที่ที่ศิษย์น้องชอบ เจ้าหลอกข้าแน่! หากนางต้องการอะไรข้าก็มีให้หมด แล้วจะไม่ใช่คนแบบที่นางชอบได้อย่างไร?”

จวินโม่ซีกล่าว “ให้ข้านึกถึงมาตรฐานของผู้ที่นางชอบสักหน่อยนะ!”

“รีบบอกมา!” ซือคงชเวกล่าว

“ข้อแรกคือ ต้องแข็งแกร่งกว่านาง” จวินโม่ซีกล่าว

“พลังความสามารถของข้าแข็งแกร่งกว่าศิษย์น้องถึงสามขั้น มันยังไม่พออีกหรืออย่างไร?” ซือคงชเวกล่าวถาม

“นายน้อย เจ้าได้ใช้ยาอะไรไป พวกเราที่เป็นนักปรุงยาล้วนแต่รู้กันดี ถึงแม้ว่าตอนนี้สาวน้อยนั่นจะยังระดับขั้นต่ำกว่าเจ้า แต่หลังจากนั้นไปเกรงว่าคงไม่ใช่แล้ว”

จะไปยึดถือเอาอะไรกับระดับที่สูงกว่าเพียงสามขั้น? ด้วยความวิปริตของสาวน้อยผู้นั้น เวลาเพียงครึ่งปีนางก็สามารถไล่ตามได้ทันอย่างไม่เป็นปัญหา

สีหน้าของซือคงชเวแข็งทื่อ “ประสิทธิภาพของยานั้นมันเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น มันจะไม่คงอยู่ยาวนานนักหรอก”

จวินโม่ซียิ้มแล้วกล่าว “แล้วก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง! เจ้าเด็กสาวนั่นค่อนข้างจะเอาตนเองเป็นใหญ่ ถ้าหากว่าคนที่นางชอบไปทำให้นางโกรธ พิษของนางจะไม่เกรงใจด้วยเป็นแน่ พิษของนางนั้นมิได้ด้อยไปกว่าการปรุงยาของนางเลย นายน้อยต้องคิดให้ดี ๆ นะ”

ซือคงชเวรู้สึกหดหู่ยิ่งนัก “หน้าตาก็ไม่ได้สวยกลับยังมีมาตรฐานสูงเช่นนั้นอีก บ้าจริง!”

“นายน้อยว่าอะไรนะ?” สายตาของจวินโม่ซีส่องประกายอันเย็นวาบออกมา

“ไม่มีอะไร ข้าจะพยายามไปให้ถึงมาตรฐานของศิษย์น้อง ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยู่ในมาตรฐานของนางแต่ก็ห้ามมิให้เจ้าทำให้ศิษย์น้องชอบเจ้า” ซือคงชเวกล่าวคุกคามแล้วเดินจากไป

“ในเมื่อยังมีใจไม่ยอมแพ้ เดินทัพอย่างยากลำบากแต่มิรู้จักถอย ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!” จวินโม่ซีมองตามเงาร่างของเขาไป

วันนี้เรื่องของซือคงชเวก็ได้เงียบสงบลงมาแล้ว จวินโม่ซีที่เป็นโล่กันลูกศรก็นับว่าทำงานได้ดีสมกับหน้าที่

แต่ทว่าถึงแม้กันท่าซือคงชเวเอาไว้ได้แล้ว ก็กลับมีคนอีกผู้หนึ่งมาหาถึงที่อีก “เฟิงเยี่ยซีอยู่ที่ไหน? นางปีศาจจิ้งจอกจงไสหัวออกมา”

“คิกคัก! ปีศาจจิ้งจอก!”

จวินโม่ซีได้ยินผู้อื่นเรียกมู่เฉียนซีเช่นนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังอดหัวเราะมิได้

ปัง ปัง ปัง! จวินโม่ซีไปเคาะประตูห้องมู่เฉียนซีแล้วกล่าว “ผู้ที่มาคราวนี้ไม่ใช่ซือคงชเว แต่เป็นหญิงสาวนางหนึ่ง นี่มิได้อยู่ในขอบเขตที่ข้าจะต้องจัดการ เจ้ามาจัดการเอาเอง!”

มู่เฉียนซีเดินออกมาจากห้องแล้วกล่าว “จัดการเองก็จัดการเอง”

“ข้าว่าเจ้าซือคงชเวนั่นเป็นปัญหาวุ่นวายอย่างหนึ่ง อย่างไรเสียก็วางยาพิษให้นอนต่อไปยาว ๆ อย่างไม่ทันรู้ตัวเสียจะดีกว่า” จวินโม่ซีกล่าว

“อย่างไรเสียก่อนที่จะได้สัมผัสใกล้ชิดกับไอ้เฒ่านั่น จงอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเสียจะดีกว่า”

“แน่นอนสิ เพราะว่าเจ้ามิได้เป็นผู้เผชิญหน้ากับเขาก็เลยพูดได้สบาย ๆ ข้านั้นเกือบที่จะเอาไอ้คนน่าขยะแขยงที่หลงตัวเองจับยัดกระสอบแล้วซัดสักครู่จากนั้นก็เอาไปโยนที่หน้าผาไปหลายรอบแล้ว

“บางทีในอนาคตเจ้าอาจได้โอกาสนั้นแต่ไม่ใช่ในตอนนี้” มู่เฉียนซีกล่าว

“เฟิงเยี่ยซี เจ้าไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะออกมาเจอหน้าข้าหรือ? ปอดแหก” ผู้ที่อยู่ด้านนอกยังคงร้องตะโกนลั่น

มู่เฉียนซีออกมามองผู้ที่อยู่ตรงหน้าของนางอย่างพิจารณา “เจ้ามาหาข้าหรือ?”

หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านางสวมชุดกระโปรงยาวสีเหลือง นางมีเข็มขัดหยกมัดเอวอันบอบบางไว้อย่างเข้ารูป ใบหน้างดงามราวกับดอกชบา ช่างเป็นหญิงสาวที่สวยงามผู้หนึ่งเสียจริง

ช่างกวนเซียงมองหญิงสาวที่รูปลักษณ์หน้าตาธรรมดาๆตรงหน้า นางไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองแม้แต่น้อย

“เจ้า….เจ้าคือเฟิงเยี่ยซี จะเป็นไปได้อย่างไร?”

“สายตาของพี่ชเวไม่ได้แย่เช่นนั้นหรอก!”

“ต้องโกหกกันแน่ๆ ให้เฟิงเยี่ยซีตัวจริงไสหัวออกมา”

มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่พูดด้วยแล้ว”

“เจ้า…เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!” ช่างกวนเซียงกล่าว

“เจ้าคือเฟิ้งเยี่ยซีจริงหรือ?”

เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีไม่สนใจใยดีนาง ทันทีที่ร่างกายของช่างกวนเซียงเริ่มขยับ นางก็ได้พุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าของมู่เฉียนซี

“ข้าต้องการที่จะท้าประลองกับเจ้า!” ช่างกวนเซียงกล่าว

มู่เฉียนซีหยุดเท้าลงแล้วกล่าวตอบ “ท้าประลองกับข้า เจ้าอยากที่จะประลองยุทธ์กับข้าหรือประลองการปรุงยา?”

“แน่นอนว่าเป็นการประลองยุทธ์!”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ข้าตอบตกลง”

แม้ว่านางจะไปฝึกบำเพ็ญที่เขาโอสถทุกวัน แต่พลังความสามารถที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ยังไม่เร็วพอ นางกำลังกังวลในเรื่องที่ไม่มีใครเป็นคู่ให้นางได้ฝึกการต่อสู้จริงอยู่พอดี!”

เพราะในหุบเขาหมอเทวดาแห่งนี้ นางมีความสัมพันธ์กับนายน้อยแห่งหุบเขา เลยไม่มีผู้ใดกล้าที่จะท้าประลองกับนาง

มาตอนนี้มีเป้าเคลื่อนไหวตัวเป็น ๆ ปรากฏขึ้นมา นางยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประลองกับนาง

“เช่นนั้น เจอกันที่สนามประลอง!”

ในหุบเขาหมอเทวดาแบ่งสนามประลองเป็นสองประเภท

ประเภทแรกคือสนามประลองยุทธ์ ส่วนประเภทที่สองคือสนามประลองปรุงยา

การประลองกับศิษย์ในสำนักเดียวกันเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยปกติแล้วมักจะเป็นการประลองปรุงยา เพราะหุบเขาหมอเทวดาเป็นสำนักปรุงยาใหญ่อันดับหนึ่งของแดนใต้

มู่เฉียนซีถามขึ้น “สนามประลองยุทธ์?”

“ทำไมเล่า? กลัวแล้วเหรอ? ดูจากสภาพเจ้าแล้วพลังความสามารถคงจะไม่เท่าไร คงจะเป็นหนอนหนังสือที่เป็นแต่การปรุงยา แต่ถ้าหากว่าเจ้าอยากจะประลองการปรุงยา ข้าก็สามารถประลองกับเจ้าได้!” ช่างกวนเซียงกล่าว

มู่เฉียนซียิ้มบาง ๆ “เปล่า การประลองยุทธ์นั้นกำลังพอดีกับความต้องการของข้า”

“มีความกล้าที่ไม่เลว ไปกันเถอะ!”

ข่าวการประลองระหว่างมู่เฉียนซีกับช่างกวนเซียงได้แพร่กระจายออกไป ก็ได้เกิดความโกลาหลขึ้นจากเหล่าบรรดาศิษย์ไปทั่วทั้งหุบเขาหมอเทวดา

“ศิษย์พี่ช่างกวนออกมาจากการเก็บตัวแล้ว!”

“ศิษย์พี่ช่างกวนถือว่าตนเองเป็นคู่หมั้นของนายน้อยแห่งหุบเขามาโดยตลอด นางคงได้ข่าวว่านายน้อยไปตามตอแยเฟิงเยี่ยซีมาแน่ ๆ นางจึงถึงกับนั่งไม่ติดและออกจากการเก็บตัวฝึกฝนก่อนกำหนด”

“ศิษย์พี่ช่างกวนเป็นถึงหนึ่งในร้อยอัจฉริยะนักปรุงยาแห่งหุบเขาหมอเทวดา อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในการฝึกบำเพ็ญมากที่สุดในคนเหล่านั้น เฟิงเยี่ยซีไปประลองยุทธ์กับนางเช่นนั้นได้ตายแน่”

“ช่างกวนเซียงออกมาขัดขวางเช่นนี้! บ้าจริง!” เมื่อซือคงชเวที่มานะฝึกบำเพ็ญมาโดยตลอดได้ข่าวเรื่องนี้เข้าก็แทบที่จะกระอักเลือดออกมา

เดิมทีเขาเตรียมที่จะบรรลุระดับมหาจักรพรรดิเพื่อที่จะไปให้ถึงมาตรฐานของมู่เฉียนซี แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้แก่สถานการณ์

“ข้าต้องรีบไปที่ลานประลองเพื่อหยุดสตรีทั้งสองนางนั้น” ซือคงชเวกล่าว

ในตอนนี้หญิงสาวทั้งสองได้ยืนอยู่บนเวทีประลองยุทธ์ของหุบเขาหมอเทวดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มุมหนึ่งเป็นหญิงสาวที่งดงาม อีกมุมหนึ่งกลับเป็นหญิงสาวที่ดูธรรมดา

พวกศิษย์ที่มาร่วมชมล้วนแต่คิดว่าถ้าหากพวกเขาเป็นนายน้อยละก็ สิ่งที่เขาเลือกจะต้องเป็นช่างกวนเซียงอย่างแน่นอน มิใช่เลือกเฟิงเยี่ยซี

ช่างกวนเซียงกล่าว “เริ่มลงมือสู้ได้หรือยัง? ข้าคันไม้คันมือมานานแล้ว เจ้าว่าข้าจะสามารถชนะเจ้าได้ในกระบวนท่าเดียวหรือสามกระบวนท่ากันนะ?”

มู่เฉียนซีส่ายหน้าแล้วกล่าว “ขอโทษด้วย ล้วนแต่ไม่ใช่ทั้งสิ้น ดูเหมือนว่าคงจะทำให้เจ้าผิดหวังเสียแล้ว”

“เช่นนั้น รอถูกข้าเอาชนะในกระบวนท่าเดียวก็แล้วกัน!”

ขณะที่ช่างกวนเซียงคิดที่จะลงมือนั้น ซือคงชเวก็มาได้ทันเวลาพอดี

“ช้าก่อนสาวน้อยทั้งสอง มีอะไรให้สู้กันหนักหนา ล้วนแต่หยุดเสียทั้งคู่!”

ช่างกวนเซียงมองไปที่ซือคงชเวแล้วกล่าว “พี่ชเว ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะออกมาจากการเก็บตัวฝึกได้ แต่เจ้ากลับไม่มาเจอข้า ล้วนเป็นเพราะเจ้าเด็กสาวนี่ใช่หรือไม่?”

ซือคงชเวกล่าว “เซียงเอ๋อร์ เจ้าจะต้องเข้าใจอะไรผิดไปอย่างแน่นอน ข้านั้นชอบศิษย์น้องด้วยใจจริงถึงได้มุมานะเพื่อนาง ข้าไม่อยากที่จะไร้ประโยชน์เสียจนไม่คู่ควรพอกับนาง”

ในตอนนี้ซือคงชเวได้มองไปทางมู่เฉียนซีอย่างลึกซึ้ง

มู่เฉียนซีแสยะยิ้มเล็กน้อย และทุกคนที่อยู่รอบบริเวณลานประลองนั้นก็เกิดพูดคุยโหวกเหวกกันขึ้นมา

“เดิมทีคิดว่านายน้อยคงแค่อยากลองเปลี่ยนรูปแบบดูก็เท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่ารอบนี้จะเอาจริง”

“ศิษย์น้องผู้นี้มีรูปลักษณ์ที่ธรรมดาแต่กลับทำให้นายน้อยลุ่มหลงได้จนถึงขั้นนี้ ช่างไม่ธรรมดาเลยเสียจริง ๆ!”

“ศิษย์พี่ช่างกวนผู้น่าสงสาร นางจะถูกนายน้อยทอดทิ้งไปหรือไม่?”