ตอนที่ 714
โกรธจัด
“เอ๊ะ พวกท่านว่าไงนะ”ชิวซุยกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีตกใจออกมาทันทีเมื่อเหล่ารองแม่ทัพต่างตอบออกมาไม่ต่างกันว่าพวกมันไม่ทราบว่าจะต้องง้อหลี่เซียนอย่างไร
“ก็พวกเราไม่เคยโดนมันโกรธมาก่อนนี่นา จะไปรู้ได้ไง”สือหลงตอบพลางยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ของที่ไม่รู้แล้วจะตอบออกมาได้อย่างไร
“พวกท่านก็น่าจะรู้บ้างสิว่าท่านหลี่เซียนชอบอะไร อย่างน้อยถ้ามีของที่ชอบไปให้ก็อาจจะช่วยได้”แม้จะไม่ทราบว่าควรง้ออย่างไร แต่ท่าไม้ตายเอาของขวัญไปให้ก็น่าจะได้ผลบ้าง
“เอ่อ…………”ผิดคาด พวกเพื่อนรักของหลี่เซียนพากันมองหน้ากันไปกันมาด้วยท่าทีอ้ำอึ้งๆ หลี่เซียนเป็นพวกดีใจกับทุกอย่างที่พวกมันให้ ต่อให้เก็บหินข้างทางไปเป็นของขวัญวันเกิดมันก็จะดีใจอย่างกับได้รับหยกชิ้นงามเลย บอกตามตรงว่าอยู่ด้วยกันมาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลี่เซียนชอบอะไรที่สุดกันแน่
“นี่พวกท่านเป็นเพื่อนรักของท่านหลี่เซียนแต่ไม่รู้เนี่ยนะว่าท่านหลี่เซียนชอบอะไร”ได้ยินคำถามของชิวซุยเหล่ารองแม่ทัพก็สะอึกไปทันทีแม้แต่อวิ๋นฉางที่ไม่ค่อยสนใจอะไรมากก็ยังหลบสายตาไปมองทางอื่นเลย
“เจ้านั่นอะไรก็ชอบทั้งนั้นล่ะ บางทีเราควรจะดูท่าทีไปก่อน”เจียนหู่เสนอพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา
“นั่นสิ ก่อนจะเริ่มรบก็ต้องศึกษาข้อมูลศัตรูก่อน ข้าว่าพวกเราจับตามองเจ้ายักษ์นั่นสักพักก่อนค่อยตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อดีกว่า”สือหลงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าไม่มีใครเคยรับมือตอนหลี่เซียนโกรธแม้แต่คนเดียว
“งั้นก็ได้ ข้าจะลองจับตาดูท่านหลี่เซียนสักพัก”ชิวซุยพยักหน้าช้าๆก่อนจะใช้วิชาล่องหนหายตัวต่อหน้าต่อตาพวกรองแม่ทัพ ภาพนางที่หายไปอย่างกับไม่เคยนั่งอยู่ตรงนี้มาก่อนทำเอาเหล่ารองแม่ทัพตกใจกันอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกมันได้เห็นวิชาล่องหนหายตัวของชิวซุยเป็นครั้งแรก
แปะ!
อยู่ๆสือหลงก็ยื่นมือเข้าไปหาจุดที่ชิวซุยเคยอยู่ และเมื่อยื่นมือออกไปก็สัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างตรงหน้าแม้จะมองไม่เห็นก็ตาม
“โอ้ยๆๆๆ ท่านชิวซุยข้าแค่อยากรู้เท่านั้นเองว่ายังสามารถแตะตัวได้หรือเปล่า”อยู่ๆมือของสือหลงก็บิดไปด้านหลังก่อนจะร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ก็อย่ายื่นมาไม่บอกแบบนั้นสิเจ้าคะ ข้าละเกลียดความขี้สงสัยของท่านจริง””ชิวซุยยอมปล่อยสือหลงแต่โดยดี ก่อนจะตรงไปยังห้องของหลี่เซียนตามลำพัง
“บ้าเอ้ย นั่งอยู่ตรงนั้นแท้ๆแต่ไม่รู้ตัวเลย”เจียนหู่ว่าพลางกลืนน้ำลายลงคอ มิน่าเล่าตระกูลไป๋ถึงได้แข็งแกร่งนัก ได้ข่าวว่าบุตรสาวคนเล็กนั้นอ่อนแอที่สุด แต่แค่นางคนเดียวก็คงจัดการพวกมันทั้ง 3 คนได้สบาย แถมถ้านางจะเอาจริงพวกมันก็คงตายไปโดยไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ
“โชคดีชะมัดที่ไม่ได้ทำสงครามกับอาณาจักรหลิวแล้ว”สือหลงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ได้ข่าวว่าอสูรหลายๆตนก็ทำแบบนางได้ ภาพกองทัพล่องหนที่ไม่สามารถสัมผัสได้นั้นจะเป็นอย่างไรสือหลงคิดไม่ออกเลย
.
.
ตุบ…
เท้าของชิวซุยแตะลงบนพื้นหน้าห้องของหลี่เซียนอย่างแผ่วเบา ตอนนี้นางอยู่ในสถานะล่องหนหายตัวทำให้หลี่เซียนมองไม่เห็นแน่ๆ แต่นางก็ต้องระวังเอาไว้เพราะหากทำเสียงดังหลี่เซียนอาจจะรู้ตัวก็ได้
“………….”ชิวซุยหลบอยู่หลังหน้าต่างชะเง้อมองเข้าไปในตัวห้องด้วยท่าทีสงสัย หลี่เซียนกลับมาที่ห้องได้สักพักแล้ว มันจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
ปึง!
“……..!!” ขณะกำลังชะเง้อหน้าเข้าไปมองที่ซอกหน้าต่าง หลี่เซียนก็เปิดหน้าต่างสวนออกมาเสียอย่างนั้นทำเอาชิวซุยที่มัวแต่กังวลจนลืมใช้เนตรแมงมุมมองข้างในก่อนแทบจะโดนหน้าต่างฟาดหน้าเข้าให้ โชคดีที่นางก้มตัวลงมาหลบบานหน้าต่างได้อย่างฉิวเฉียด
“เฮ้อ”ไม่ใช่เสียงชิวซุยที่ถอนหายใจออกมา แต่เป็นฝ่ายหลี่เซียนเองต่างหากที่ถอนหายใจออกมาราวกับมีเรื่องคับข้องใจอย่างหนักหนาสาหัส มันเดินมายืนตรงหน้าต่างห้องมองภาพสวนภายในค่ายทหารด้วยใบหน้าเหม่อลอยปนหมองเศร้าอย่างประหลาด ใบหน้าเช่นนี้ดูแล้วคล้ายๆตอนรู้ว่าท่านแม่ทัพอั้งจินเป่าอาการไม่ดีเลย
“………….”ชิวซุยมองใบหน้าของหลี่เซียนด้วยท่าทีรู้สึกผิด นางไม่ชอบใบหน้าแบบนั้นของหลี่เซียนเลย และยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่เมื่อคิดถึงว่าตนเองเป็นคนทำให้หลี่เซียนทำหน้าแบบนั้นออกมา
“ท่านรองหลี่เซียน พวกท่านรองคนอื่นๆชวนท่านไปเที่ยวในเมืองหลวงกันขอรับ ไม่ทราบท่านจะไปหรือไม่”ระหว่างกำลังนั่งมองหลี่เซียนอยู่นั้น อยู่ๆที่หน้าประตูที่พักก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงของทหารรับใช้ที่หลี่เซียนเคยให้นำทางชิวซุยตอนไปถึงบ้านครั้งแรกนั่นเอง
“ไม่เป็นไร บอกพวกมันว่าข้าอยากพักผ่อนสักหน่อย”คำตอบของหลี่เซียนทำเอาทหารรับใช้ยังทำหน้าอึ้งๆไปทันที น้ำเสียงของหลี่เซียนไม่เหมือนเดิมอย่างเห็นได้ชัด แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่หลี่เซียนปฏิเสธคำชวนของพวกรองแม่ทัพคนอื่นๆ แต่ท่าทีห่อเหี่ยวของหลี่เซียนกลับแปลกประหลาดอย่างมาก
“……..ข้าขอโทษ”ระหว่างกำลังมองหลี่เซียนหันไปตอบทหารรับใช้ ชิวซุยก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที นางพยายามคิดว่าควรจะเข้าไปขอโทษหลี่เซียนอย่างไรดี แต่ปากของนางกลับพูดออกไปทั้งๆที่ไม่ควรพูดในสภาพล่องหนเช่นนี้แท้ๆ
“ชิวซุย…..”หลี่เซียนได้ยินเสียงก็จำได้ทันที มันมองหาไปรอบๆก็ทราบแล้วว่านางใช้วิชาล่องหนหายตัวอยู่
“ทะ ท่านหลี่เซียน”ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวแล้วชิวซุยก็ได้แต่โผล่ออกมาให้อีกฝ่ายเห็นเท่านั้นเอง ไม่นึกเลยว่านางจะโดนจับได้ง่ายๆแบบนี้
“ชิวซุย เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ทำไมไม่กลับไปที่บ้าน”หลี่เซียนถามด้วยท่าทีสงสัย มันบอกให้นางกลับไปหาครอบครัวแล้วไม่ใช่หรือ
“ข้าอยากจะมาขอโทษท่านนี่นา ข้าโกหกท่านเอาไว้ข้าขอโทษ”ชิวซุยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นางไม่อยากให้หลี่เซียนโกรธนางนี่นา หากนางกลับไปโดยที่หลี่เซียนยังโกรธนางอยู่แบบนี้นางคงอยู่ไม่สุขแน่ๆ
“ขอโทษ ขอโทษอะไรกัน”หลี่เซียนทำหน้าเอ๋อออกมาเสียอย่างนั้นทำเอาชิวซุยเป็นฝ่ายงงไปด้วยทันที
“กะ ก็ข้าโกหกท่านนี่นา”ชิวซุยตอบออกมาด้วยท่าทีตกใจ ก็หลี่เซียนโกรธนางเรื่องนี้อยู่ไม่ใช่หรือไง
“เรื่องนั้นข้าไม่ได้โกรธสักหน่อย เจ้าต้องมีเหตุผลของเจ้าแน่ๆ”หลี่เซียนตอบพลางออกมาตรงๆ แล้วท่าทีหม่นหมองก่อนหน้านี้มันอะไรกัน ไม่ใช่ว่ามันโกรธชิวซุยอยู่หรอกหรือ
“แล้วทำไมท่านถึงไล่ข้าล่ะ แถมยังไม่ยอมยิ้มเลยตั้งแต่ท่านกลับมา”ชิวซุยถามพลางมองหลี่เซียนด้วยท่าทีงุนงง
“เปล่า….ก็เจ้าได้เจอครอบครัวแล้ว เจ้าก็ควรอยู่กับครอบครัวมากกว่าอยู่กับข้าไม่ใช่หรือไง แล้วข้าก็…..แค่กำลังเสียใจที่เจ้าไม่อยู่แล้วเท่านั้นเอง”หลี่เซียนตอบพลางหลบสายตาไปทางอื่น ตอนนั้นมันไม่ได้โกรธจริงๆแค่ตกใจที่ได้รู้ว่าชิวซุยยังมีครอบครัวอยู่ ก็เลยอยากจะให้นางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวดีกว่าต้องมาตามช่วยงานบ้านตนเองแบบที่เป็นมา แต่พอชิวซุยไม่อยู่มันกลับรู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูกก็เลยมีท่าทีแบบที่เห็น
“ท่านเสียใจที่ข้าไม่อยู่งั้นเหรอ”ชิวซุยถามพลางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของหลี่เซียน
“ก็….ใช่”หลี่เซียนตอบด้วยใบหน้าเขินๆ ใบหน้านั้นล่ะที่ชิวซุยชอบล่ะ
“โถ่เอ้ย ข้านึกว่าท่านโกรธข้าจนไม่อยากอยู่กับข้าแล้วซะอีก”ชิวซุยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อครู่ แต่ไม่ทราบทำไมน้ำตาของนางถึงไหลออกมาเพิ่มเสียอย่างนั้น
“ไม่ใช่แบบนั้น ข้าแค่อยากให้เจ้าได้อยู่กับครอบครัวเท่านั้นเอง”หลี่เซียนเห็นชิวซุยร้องไห้ออกมาก็ลนลานไปพักหนึ่งก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนส่งไปให้ชิวซุย บางทีคนเราเวลาโล่งใจก็ร้องไห้ได้เหมือนกันงั้นหรือ
“คนโง่ ข้ามีพลังวิญญาณติดตัวขนาดนี้ข้าจะกลับไปหาครอบครัวเมื่อไหร่ก็ได้ต่างหาก แต่ตอนนี้ข้าอยากอยู่กับท่านเท่านั้นเอง”ชิวซุยว่าพลางรับผ้าเช็ดหน้าของหลี่เซียนมาเช็ดน้ำตาออกช้าๆ แต่ไม่ทราบทำไมน้ำตาถึงไหลออกมาเพิ่มเรื่อยๆเลย
“ใครทำให้เจ้าร้องไห้งั้นเหรอ”อยู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังมาจากบนท้องฟ้าพร้อมกับจากจินและเหมาเหมาที่ติดตามชิวซุยมาตั้งแต่อาณาจักรจินเป่ย
“ท่านพี่….”ชิวซุยมองขึ้นไปด้วยท่าทีตกใจ นี่ท่านพี่มาได้ไง แล้วทำไมถึงได้รู้ว่านางอยู่ตรงนี้กัน…ไม่สิอย่างท่านหานางเจออยู่แล้ว แต่จังหวะมันไม่ดีเท่านั้นเอง
“เจ้าทำน้องสาวข้าร้องไห้งั้นเหรอ”หลินเฟยเรียกกระบี่ของตนออกมาชี้ไปทางหลี่เซียนด้วยท่าทีเดือดดาลอย่างมาก พลังระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 2 ของมันทำเอาหลี่เซียนที่ยืนอยู่รู้สึกกดดันในพริบตา
“ไม่ใช่นะท่านพี่ น้องไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียใจนะ”ชิวซุยว่าพลางกางแขนปกป้องหลี่เซียนเอาไว้
“แล้วมันเป็นใคร”หลินเฟยถามพลางสั่งให้จางจินร่อนลงไปที่พื้น
“เอ่อ…..คนที่น้องชอบเจ้าค่ะ”ชิวซุยตอบพลางหลบสายตาหลินเฟยไปทางอื่น แต่คำตอบนั้นก็ทำให้หลี่เซียนตกใจไปเช่นกัน
“อ๋อ คนที่ชอบนี่เอง”หลินเฟยพยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีเข้าใจ ก่อนจะเร่งพลังวิญญาณขึ้นอีกเสียอย่างนั้น
“งั้นก็ต้องฆ่าทิ้งซะ”หลินเฟยยิ้มออกมาด้วยท่าทีเลือดเย็นก่อนจะวาดกระบี่ใส่หลี่เซียนทันที
โป๊ก!
กระบี่ยังไม่ทันถึงตัวหลี่เซียน หัวของหลินเฟยก็ถูกกระแทกอย่างแรงจากหมัดที่มองไม่เห็น เพียงแต่หมัดนั่นไม่ใช่ชิวซุยแต่อย่างไร
“ไอ้เจ้านี่ลูกไม่รักดี มานี่เลย”ชิงชิวที่แอบดูอยู่ห่างๆลากตัวหลินเฟยออกไปก่อนจะทำการสั่งสอนเป็นการใหญ่ สมัยก่อนหลินเฟยทำตัวเหลวแหลกคบหาผู้หญิงไปทั่วชิวซุยก็ไม่เคยว่า จะคบหากับเซี่ยจินเย่กับอาทู้ชิวซุยก็สนับสนุนเต็มที่ แต่พอนางมีคนรักบ้างหลินเฟยกลับทำหวงเสียอย่างนั้น
“ชิวซุย พ่อไม่ยุ่งแล้ว แต่หลังจากนี้กลับบ้านสักหน่อยนะพวกเราจะมีประชุมครอบครัวกัน”ชิงชิวยิ้มเจื่อนๆออกมาก่อนจะลากหลินเฟยกลับบ้านไปกับตนเอง ปล่อยเหล่ารองแม่ทัพที่รีบเข้ามาด้วยท่าทีแตกตื่นหลังจากพี่ชายของชิวซุยปล่อยทั้งพลังวิญญาณและจิตสังหารออกมาพร้อมกัน