ตอนที่ 152-3 พี่เป็นหมาน้อย เจ้าก็เป็นกระดูก

จำนนรักชายาตัวร้าย

เด็กๆแต่ละคนแย่งกันบอกความต้องการของตนเองดังเซ็งแซ่ ราวกับฝูงนกน้อยที่กำลังมีความสุข

 

 

“ได้ๆ ได้ทุกคน!”

 

 

อวี้เฟยเยียนมีฝีมือยิ่งนัก ดอกหญ้าเส้นเล็กเมื่อมาอยู่ในมือของนางกลับกลายเป็นนกน้อย ผีเสื้อน้อย แมงปอน้อย ปลาน้อย…สุดท้าย เด็กๆทุกคนก็ได้รับของขวัญส่งถึงมือ และแต่คนละไม่ซ้ำกันอีกด้วย

 

 

“สวยจังเลย! ข้าชอบมันมาก!”

 

 

“ข้ารักพี่สาวคนสวยที่สุดเลย!” มองดูภาพของอวี้เฟยเยียนราวกับเทพเจ้าของเด็กๆก็ไม่ปาน ก็ทำให้จิ่งเหนียงพาลนึกถึงตี้อู่เยียนเอ๋อร์ขึ้นมา เพราะตี้อู่เยียนเอ๋อร์ก็เป็นเช่นนี้ เป็นที่รักของเด็กๆเช่นกัน นางจึงรีบเสหน้ามองไปทางอื่น แล้วปาดน้ำตาที่ไหลออกมา

 

 

“พี่สาว มาเต้นรำกับข้าเถอะค่ะ!” เด็กคนหนึ่งดึงมืออวี้เฟยเยียนไปที่หน้ากองไฟ มือจับกันล้อมรอบกองไฟเป็นวงกลม ทันใดนั้นก็มีใครบางคนเป่าขลุ่ยตีกลองขึ้นมา ทำให้หุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะไม่ขาดสาย

 

 

“ท่านแม่ วางใจเถอะนะคะ!” บรรดาท่านป้าของอวี้เฟยเยียนเดินเข้ามาหาเหล่าไท่ไท่

 

 

“เยียนเอ๋อร์กลับมาแล้ว พวกเราก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้งมิใช่หรือคะ! น้องเยียนเอ๋อร์จะต้องไม่เป็นอะไร! คนดีย่อมได้รับสิ่งที่ดีๆตอบแทน!”

 

 

“ข้ารู้! ข้าก็กำลังดีใจเช่นกัน!”

 

 

งานเลี้ยงตอนรับแขกคสำคัญที่แสนครื้นเครงสนุกสนานนี้ดำเนินไปจนกระทั่งดึกสงัด ผลสุดท้ายก้คือ ซย่าโหวฉิงเทียนยังคงยืนอยู่ในท่าเดิม ส่วนรอบกายเต็มไปด้วยกองผู้คนที่สลบไสล

 

 

ท่านลุงสามคน สลบเหมือด

 

 

พี่ชายห้าคน สลบเหมือด

 

 

ที่เหลือคนในชนเผ่าคนอื่นๆ ก็สลบเหมือดเช่นกัน

 

 

แม้กระทั่งตี้อู่เจ๋อเองก็สลบเหมือด นอนกรนส่งเสียงดัง ครอกฟี้ๆ เช่นกัน

 

 

ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสที่สุด เดิมทีแล้วเขาต้องการร่วมกันกับบรรดาหนุ่มๆทั้งหลายมอมเหล้าซย่าโหวฉิงเทียนให้สำเร็จ นึกไม่ถึว่าเมื่อเห็นบรรดาลูกชาย หลานชายทั้งหลายดื่มจนสลบเหมือดแล้ว ตนเองจะรีบเข้าไปเสริมทัพ แต่ที่ไหนได้ แต่ละคนสลบเหมือดอยู่ข้างๆซย่าโหวฉิงเทียนกันเป็นแถวๆ

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนกระโดดข้ามพวกเขา ออกมาหาอวี้เฟยเยียน

 

 

“แมวน้อย พี่ไม่ได้เมา!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนในตอนนี้ใบหน้าขาวใส ดวงตาเป็นประกาย ไม่มีท่าทีว่าเมาสุราเลยแม้แต่น้อย

 

 

“ฮ่าๆ ยังดีที่ข้าเฉลียวฉลาด!”

 

 

ตี้อู่เฮ่ออี้หัวเราะออกมาในขณะที่นั่งยองๆอยู่ด้านข้างกองมนุษย์ที่นอนสลบเหมือดอยู่ เขายื่นมือออกไปผลักคนนี้ที เขย่าคนนั้นที แล้วค่อยส่ายหน้าให้กับผู้เป็นย่า

 

 

“ท่านย่า พวกเขาเมาหลับหมดแล้วครับ!”

 

 

“เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่หรือไม่ว่าน้องเขยของเจ้าคอแข็งเพียงนี้นะ?” จิ่งเหนียงชี้ไปยังตี้อู่เฮ่ออี้

 

 

“แน่นอนสิครับ! ดังนั้นข้าจึงไม่ขอไปร่วมวงการชั่วร้ายนี้! ท่านย่า ข้าเฉลียวฉลาดยิ่งนัก ท่านย่าว่าไหมเล่า!”

 

 

“เจ้ามันฉลาดนักนะ!” จิ่งเหนียงหัวเราะเบาๆ แล้วส่งยาสร่างเมาให้ตี้อู่เฮ่ออี้ป้อนให้กับทุกคนกินคนละเม็ด แล้วจึงเรียกบรรดาเมียๆของพวกเขามาหิ้วผู้ชายของตนเองกลับไป

 

 

สำหรับชายหนุ่มที่ยังไม่ได้แต่งงานนั้นก็ให้มารดาของพวกเขามานำตัวกลับไป

 

 

“ข้าพึงพอใจยิ่งนักกับหลานเขยคนนี้”! จิ่งเหนียงมองไปยังซย่าโหวฉิงเทียน ยิ่งมองก็ยิ่งต้องเอ่ยชื่นชมไม่หยุดปาก

 

 

นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมาเชียวนะ! ที่ตี้อู่เจ๋อถูกมอมเหล้าจนเมาสลบเหมือดเช่นนี้ หลังจากครั้งสุดท้ายของเขาที่ดื่มฉลองเมื่อครั้งที่ตี้อู่เยียนเอ๋อร์ครบเดือนเท่านั้น ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยถูกใครมอมเหล้าจนเมาขนาดนี้อีกเลย

 

 

เมื่อเห็นซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนยืนเคียงข้างกัน ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก หญิงชราก็ปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก

 

 

“ป้ารองของเจ้าจัดเตรียมห้องหับเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กดี พวกเจ้าเดินทางมาเป็นเวลานานคงจะเหน็ดเหนื่อยเต็มแก่แล้ว รีบไปพักผ่อนเสียเถอะ!”

 

 

“ขอบคุณท่านยาย! ท่านยายก็รีบพักผ่อนเถอะครับ!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนพยักหน้า

 

 

“ได้ๆ!” ห้องของซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนอยู่ทางตะวันออก เป็นห้องไม้ไผ่ที่สะอาดสวยงามห้องหนึ่ง

 

 

ภายในห้องปัดกวาดเช็ดถูใหม่ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของภายในห้องหรือว่าข้าวของเครื่องใช้ที่นอนหมอนมุ้ง ล้วนแต่เป็นของใหม่ทั้งสิ้น

 

 

หลังจากที่อาบน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาดแล้ว เมื่ออวี้เฟยเยียนก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำก็ถูกซย่าโหวฉิงเทียนลากขึ้นไปบนเตียงทันที

 

 

“แมวน้อย พี่ดีใจยิ่งนัก!” ซย่าโหวฉิงเทียนโอบกอดอวี้เฟยเยียนเอาไว้ในอ้อมอกด้วยความสุขใจ

 

 

“ท่านตาและท่ายายดีมาก! ท่านลุงกับท่านป้าก็ดีมาก! คนอื่นๆก็เช่นกัน!”

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ซย่าโหวฉิงเทียนได้สัมผัสกับครอบครัวที่อบอุ่นและสงบสุขเช่นนี้ สมาชิกในครอบครัวร่าเริงแจ่มใส่มีความสุขสนุกสนาน อยู่ร่วมกันด้วยความรักใคร่กลมเกลียว นี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

 

 

“ข้าเองก็ชอบพวกเขามากเช่นกัน!”

 

 

อวี้เฟยเยียนยิ้มกว้าง

 

 

เมื่อข้ามาถึงที่นี่ รู้สึกผ่อนคลายสบายตัวเป็นพิเศษ ราวกับได้กลับบ้านอย่างไรอย่างนั้น คงเป็นเพราะมีสัมพันธ์ทางสายเลือดกระมัง

 

 

“อื้ม!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนอ้าปาก งับใบนิ้วมือของอวี้เฟยเยียนเบาๆ

 

 

“เจ้ากัดข้าทำไมกัน เป็นหมาหรืออย่างไร!”

 

 

“ถ้าพี่เป็นหมาน้อย เจ้าก็เป็นกระดูกให้พี่แทะ!” ซย่าโหวฉิงพลิกตัวขึ้นคร่อมทับอวี้เฟยเยียนเอาไว้

 

 

“แมวน้อย มีลูกให้พี่นะ! พี่รับปากท่านตาเอาไว้แล้วว่าจะมีสี่คน!”

 

 

“เฮอะ! ใครรับปากคนนั้นก็มีเองสิ! ข้าเบ่งไม่ไหวหรอกมากขนาดนั้น——”

 

 

“ดี! พี่รับปาก พี่จะเบ่งเอง! เด็กดี โอบรอบเอวของพี่เอาไว้ พี่จะเริ่มแล้วนะ!”

 

 

“คนร้ายกาจ…”

 

 

ด้วยเกรงว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกไป ซย่าโหวฉิงเทียนจึงสร้างกำแพงแก้วขึ้นมาโอบล้อมห้องของพวกเขาเอาไว้

 

 

ซึ่งอวี้เฟยเยียนรู้สึกพูดไม่ออกกับการกระทำนี้ของเขายิ่งนัก

 

 

ทว่า ไม่รอให้นางได้ต่อต้านได้ นางก็ถูกเขากลืนกินจนหมดไม่มีเหลือแม้แต่เศษซากเสียแล้ว

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น ซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนตื่นแต่เช้าตรู่ ด้วยพักอยู่ที่บ้านผู้เป็นตาของอวี้เฟยเยียน ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนยังมีความยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง มิได้ทำศึกรักจนกระทั่งฟ้าสว่าง

 

 

ทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อยละ! ท่านป้าสามของอวี้เฟยเยียน เฮ่อเหนียงเมื่อเห็นคนทั้งสองตื่นนอน ก็ทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม

 

 

“ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์นะค่ะ! ท่านป้า มีอะไรให้ข้าช่วยไหมค่ะ?” อวี้เฟยเยียนกล่าวถาม

 

 

“ไม่มีๆ!” เฮ่อเหนียงรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ อวี้เฟยเยียนและซย่าโหวฉิงเทียนคือแขกที่น่ารัก แล้วจะให้พวกเขามาทำงานได้อย่างไรกัน!

 

 

“พวกเจ้าลองเดินเล่นรอบๆนี้ดูละกันนะ ที่ๆพวกเราอาศัยอยู่นี่จะห่างไกลเสียหน่อย แต่ทิวทัศน์ไม่เลวทีเดียว! เฮ่ออี้ พาน้องสาวและน้องเขยของเจ้าออกไปเดินเล่นหน่อยสิ!”

 

 

“ครับ! ท่านแม่!”

 

 

ตี้อู่เฮ่ออี้น้ำอวี้เฟยเยียนและซย่าโหวฉิงเทียนเดินชมหมู่บ้าน เนื่องด้วยเมื่อคืนวานนี้พวกผู้ชายของหมู่บ้านถูกซย่าโหวฉิงเทียนหมอมเหล้าจนเมามายสลบไหลไปตามๆกัน แม้ว่าพวกเขาจะได้รับยาเพื่อให้สร่างเมาแล้ว แต่เพราะฤทธิ์ของเหล้าที่กินเข้าไปนั้นรุนแรงนัก มันคือเหล้าชั้นดีที่ตี้อู่เจ๋อซ่อนเอาไว้เป็นเวลานาน ดังนั้นทุกคนจึงยังไม่สร่างเมา ยังคงหลับใหลไม่ได้สติดังเดิม

 

 

ส่วนพวกบรรดาผู้หญิงในหมู่บ้านตื่นนอนกันหมดแล้วทุกเริ่มออกมาช่วยงานต่างๆ เมื่อเห็นซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนเดินผ่านมา พวกนางต่างก็ทักทายพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ อบอุ่นและเป็นกันเองยิ่งนัก เด็กๆก็ติดสอยห้อยตามพวกนางอู่ด้านหลัง เมื่อมีแขกมาเยือนหมู่บ้าน ทำให้พวกเขาอยากรู้อยากรู้จักอยากรู้อยากเห็นยิ่งนัก

 

 

ดังนั้นไม่นาน ซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนจึงมีผู้ติดตามเป็นขบวน ต้องรอให้มารดาของพวกเขาเรียกให้ไปกินข้าวนั่นแหละ พวกเขาถึงได้กลับเข้าไป

 

 

“น้องเขย เจ้านี่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!” ตี้อู่เฮ่ออี้ยกนิ้วให้กับซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

“เท่าที่ข้าจำความได้ ท่านปู่ไม่เคยเมามายมาก่อนเลย เจ้าสามารถมอมจนท่านปู่เมาได้ ยอดเยี่ยม! นับถือ!”

 

 

ซึ่งซย่าโหวฉิงเทียนก็ตอบกลับการชื่นชมของตี้อู่เฮ่ออี้ไปหนึ่งประโยค

 

 

“ชมถูกคนแล้ว!”

 

 

ซึ่งตี้อู่เฮ่ออี้ก็เคยชินเสียแล้วกับท่าทางและการโต้ตอบที่แสนจะกวนอารมณ์เช่นนี้ของซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

ตี้อู่เฮ่ออี้ยังพาคนทั้งสองชมหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ครั้นเมื่อเตรียมจะพาพวกเขาขึ้นไปเดินเที่ยวชมบนเขา ก็ได้ยินเสียงเฮ่อเหนียงร้องเรียกให้กลับบ้านไปกินข้าวเสียก่อน

 

 

อาหารเช้าที่นี่เรียบง่าย โจ๊กขาว หมั่นโถว ผักดอง ยำผักต่างๆ ในตอนนั้นเองที่หนุ่มในบ้านต่างทยอยกันตื่นนอน แต่ละท่าทางยังเมาค้างไม่หาย ทุกคนหน้าตายับยู่ยี่ ดวงตายังหรี่เล็กลืมไม่ขึ้น ท่าทางสะลึมสะลือโงนเงน

 

 

“พวกเจ้าชอบนักเที่ยวไปท้าดวลสุรากับเขา คราวนี้เจอคนเก่งเข้าให้แล้วละสิ!”