บทที่ 1145 โรงโอสถฟ้าประทาน โดย Ink Stone_Fantasy
พื้นที่ใจกลางเมืองสรรพสิ่งมีร้านค้าระดับสูงสิบกว่าร้าน แบ่งเป็นร้านขายโอสถ ของวิเศษ ค่ายกล คัมภีร์ เป็นต้น ความมั่งคั่งที่แต่ละร้านได้รับในแต่ละปีมีมากจนไม่อาจจินตนาการ แต่ละร้านถูกกุมไว้ในมือกลุ่มอิทธิพลทั้งสิบ ตัวร้านไม่เคยปล่อยเช่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะขาย
‘ที่นี่คือโรงโอสถฟ้าประทาน!’
อี้อวิ๋นเห็นสิ่งปลูกสร้างหน้าตาเหมือนหม้อโอสถจากที่ไกลๆ ด้านบนมีแผ่นป้ายที่เขียนว่าโรงโอสถฟ้าประทานแขวนเอาไว้
โรงโอสถฟ้าประทานนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสรรพสิ่ง บนหม้อโอสถขนาดยักษ์ตกแต่งด้วยอัญมณีนับไม่ถ้วนที่ส่องประกายจ้าตา กลิ่นหอมของโอสถอันหนาแน่นลอยส่งมาไกล จอมยุทธ์ที่เข้าออกอย่างขวักไขว่ ที่นี่พลุกพล่านกว่าตรอกสมบัติสวรรค์เสียอีก
โอสถธาตุกระดูกเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการฝึกของจอมยุทธ์ การเสพสุขเป็นแค่การผ่อนคลาย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นธรรมดาที่โรงโอสถฟ้าประทานจะคึกคักมาก
อี้อวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาสงบจิตสงบใจแล้วเข้าสู่โรงโอสถฟ้าประทาน
เมื่อเข้าสู่ภายในก็เห็นขวดโอสถนับไม่ถ้วนตั้งเรียงรายบนชั้นหยก ลำพังแค่ขวดโอสถบางส่วนก็ราคาไม่ธรรมดาแล้ว
โรงโอสถฟ้าประทานมีหลายชั้น จอมยุทธ์ส่วนใหญ่จะทำการซื้อขายที่ชั้นหนึ่ง ถัดจากชั้นสองขึ้นไปจะมีเพียงผู้มีอิทธิพลที่ขึ้นไปได้
อี้อวิ๋นไม่อาจรออีกแม้แต่วินาทีเดียว เขากวาดสายตาไปในร้านอย่างรวดเร็วแล้วเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งนั่งอยู่หลังตู้สินค้า ชายผู้นี้ถือลูกคิดไว้ในมือและสวมชุดหยวนเป่า
“ข้าต้องการซื้อโอสถ” อี้อวิ๋นเดินเข้าไปพูดด้วย
ชายวัยกลางคนเลิกเปลือกตาขึ้นมองอี้อวิ๋นแวบหนึ่งแล้วพูดช้าๆ ว่า “ทุกคนที่นี่ต่างก็ซื้อโอสถ เจ้ารอสักครู่ เดี๋ยวก็มีพนักงานมาดูแลเอง”
ท่าทีของชายวัยกลางคนเย็นชา เขาเป็นเจ้าของร้าน ดูแลเฉพาะลูกค้าระดับสูง ลูกค้าในร้านต่างก็เดินดูไปก่อนกันทั้งนั้น เมื่อพนักงานว่างก็ย่อมออกมาดูแลสอบถามเอง
พูดตามตรงแล้วโอสถในร้านก็ไม่กลัวว่าจะขายไม่ได้ ทางร้านไม่ได้เป็นฝ่ายร้องขอลูกค้า มีแต่ลูกค้ามาเข้าแถวซื้อเอง
อี้อวิ๋นขมวดคิ้ว ตอนนี้เขามีเวลามาฟังคำพูดวางมาดพวกนี้ที่ไหนกัน
“ขอต้องการธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ” อี้อวิ๋นนำแผ่นหยกสีแดงเข้มออกมาวางบนตู้สินค้าโดยตรง ดวงตาจดจ้องชายวัยกลางคนตรงหน้า
จิตวิญญาณอี้อวิ๋นแข็งแกร่ง แม้ชายวัยกลางคนผู้นี้จะมีระดับยุทธ์สูงมากแต่ก็พัฒนาระดับได้เพราะโอสถ ส่วนความเข้าใจด้านกฎก็อ่อนแอเป็นที่สุด เมื่อถูกอี้อวิ๋นจ้องมองจึงใจกระตุกทันที
คำพูดของอี้อวิ๋นก็ทำให้เขาตกใจเช่นกัน
ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ? นั่นเป็นโอสถระดับสูงที่มีราคามหาศาล เจ้าเด็กนี่จะซื้อธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ?
ชายวัยกลางคนมองอี้อวิ๋นอย่างพิจารณาอีกครั้ง “ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณมีราคาไม่ธรรมดา หากเจ้าจะซื้อจริงๆ ข้าก็จะไปเชิญปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนให้ ตอนนี้ในร้านมีธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณขายแค่เม็ดเดียว คนที่หลอมธาตุกระดูกนี้ก็คือปรมาจารย์โอสถฮูเหยียน”
“ต้องเชิญปรมาจารย์โอสถด้วย?” อี้อวิ๋นไม่อยากเตะถ่วงเวลา
“เจ้าไม่รู้อะไร โอสถในโรงโอสถฟ้าประทานของเราไม่เคยกังวลว่าจะขายไม่ออก แม้แต่ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณที่เป็นโอสถระดับสูงเช่นนี้ก็มีลูกค้าหลายคนอยากได้ โอสถระดับสูงถูกปรมาจารย์โอสถนำมาฝากขายที่นี่ หากจะขายก็ย่อมต้องผ่านการเห็นชอบของพวกเขา” เจ้าของร้านวัยกลางคนพูดอย่างทะนงตน คำพูดเขาตั้งใจบอกอี้อวิ๋นว่าอย่าคิดว่าซื้อโอสถราคาหลายแสนอักขระแล้วจะมีอะไรวิเศษ โรงโอสถฟ้าประทานไม่ขาดแคลนลูกค้าระดับสูง
อี้อวิ๋นรู้ว่าคนผู้นี้ไม่ได้โกหก โอสถหลายอย่างที่นี่มีราคาแต่ไม่มีขาย เมื่อเวลาผ่านไปนาน เจ้าของและผู้ดูแลเหล่านี้จึงหยิ่งทะนง
“เช่นนั้นก็รีบไปเชิญปรมาจารย์โอสถเถอะ” อี้อวิ๋นพูด
“ตามข้ามา” ชายวัยกลางคนพาอี้อวิ๋นมาที่ชั้นสอง บนชั้นสองตกแต่งเหมือนห้องรับรองอันงดงาม สภาพแวดล้อมหรูหรามาก เตาหอมหม้อหนึ่งส่งกลิ่นหอมคลุ้งออกมา
อี้อวิ๋นนั่งรอบนเก้าอี้ด้วยใจที่ร้อนดั่งไฟอยู่สักพักก็ไม่เห็นว่าปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนจะออกมา
“เหตุใดปรมาจารย์โอสถจึงยังไม่ออกมา? ข้ามีเรื่องด่วน ซื้อโอสถเพื่อช่วยชีวิตคน” อี้อวิ๋นพูดกับเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านออกไปดูแล้วกลับมาพูดว่า “ปรมารย์ฮูเหยียนกำลังคุยเล่นกับสหาย ข้ารายงานให้แล้ว เขาบอกให้เจ้ารอสักครู่”
คุยเล่น!
ใจอี้อวิ๋นโมโหขึ้นมาทันที เขากำลังรอเพื่อช่วยชีวิตคน แต่ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนอะไรนั่นกลับกำลังคุยเล่นกับสหายอย่างสบายใจ
หากไม่ใช่เพราะที่นี่คือโรงโอสถฟ้าประทานซึ่งเป็นหนึ่งในเขตแดนของหนึ่งในกลุ่มสิบอิทธิพลใหญ่แห่งเมืองสรรพสิ่ง เช่นนั้นอี้อวิ๋นคงทนไม่ไหวและลงมือชิงโอสถแล้ว
ในที่สุดชายหน้าตาเฉื่อยชาที่สวมชุดคลุมยาวหรูหราคนหนึ่งก็เดินลงมาจากชั้นบน “เจ้าคือคนที่จะซื้อโอสถ?”
ดูแล้วคนผู้นี้คงเป็นปรมาจารย์โอสถฮูเหยียน เขามีสีหน้าหยิ่งทะนงและเย็นชา คงคุยด้วยไม่ง่าย
อี้อวิ๋นลุกขึ้นยืน ดูจากภายนอกแล้วปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนผู้นี้ดูอายุแค่ยี่สิบกว่าปี อี้อวิ๋นเดาว่าในฐานะที่อีกฝ่ายเป็นปรมาจารย์โอสถก็คงมีโอสถลับที่ทำให้ดูอ่อนเยาว์
“ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียน ข้าจำเป็นต้องรีบใช้ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ ได้ยินว่าท่านเป็นผู้หลอมโอสถเม็ดนี้ ขายให้ข้าได้หรือไม่?”
“ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ? ถูกต้อง ข้าเป็นผู้หลอมเอง เมืองสรรพสิ่งมีปรมาจารย์โอสถที่หลอมโอสถประเภทจิตวิญญาณแค่ไม่กี่คน ข้าเพิ่งหลอมธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณหม้อหนึ่งไปเมื่อไม่กี่วันก่อนพอดี หลอมสำเร็จออกมาแค่สองเม็ด”
ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนพูดอย่างทะนงตน ส่วนใหญ่แล้วหม้อโอสถหนึ่งหม้อจะหลอมโอสถสำเร็จสิบสองเม็ดขึ้นไป แต่ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนหลอมสำเร็จแค่สองเม็ด นับว่าล้มเหลวเป็นอย่างยิ่ง แต่ฟังน้ำเสียงอีกฝ่ายแล้วเหมือนไม่อายแต่ภูมิใจด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณหลอมยากเป็นที่สุด หม้อหนึ่งหลอมได้สองเม็ดก็เพียงพอให้โอ้อวดแล้ว
“หักจากที่ข้าจะใช้เองไปหนึ่งเม็ดก็จะขายเพียงเม็ดเดียว ราคาห้าแสนห้าหมื่นอักขระ” ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนพูด
ห้าแสนห้าหมื่น? ราคานี้แพงกว่าราคาที่องค์หญิงจิ้งจอกขาวรู้มาก่อนหน้านี้ห้าหมื่น แต่ตอนนี้อี้อวิ๋นไม่มีเวลามาใส่ใจแล้ว
ขณะที่เขากำลังจะตอบตกลง ในตอนนี้เองที่มีเสียงไม่เร็วไม่ช้าดังมาจากชั้นบน
“ข้าก็คิดว่าใครกันที่ซื้อธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ ที่แท้ก็เจ้านี่เอง”
เสียงนี้ฟังดูคุ้นหูเล็กน้อย
อี้อวิ๋นเลิกคิ้วขึ้น จั่วชิวเฮ่าอวี้!
จั่วชิวเฮ่าอวี้มีรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าเมื่อเห็นอี้อวิ๋น
“ทำไม พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?” ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนกวาดตามองทั้งคู่อย่างเกียจคร้าน
จั่วชิวเฮ่าอวี้ยิ้มบางๆ “เคยเจอกันครั้งหนึ่ง”
เขามองมาที่อี้อวิ๋นอีกครั้งเมื่อพูดจบ “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีเงินมากขนาดนี้ ทั้งยังจะซื้อธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ ทำไม วิญญาณเสียหายหรือ?”
จั่วชิวเฮ่าอวี้ถามด้วยความสนใจ หากจิตวิญญาณเสียหายก็ไม่ใช่จะรักษาได้ง่ายๆ นี่เป็นบาดแผลขั้นร้ายแรง ถ้าวิญญาณอี้อวิ๋นเสียหายจริงๆ ก็คงสนุกแล้ว
สีหน้าอี้อวิ๋นจมลง เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าสหายที่คุยเล่นกับปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนก่อนหน้านี้จะเป็นจั่วชิวเฮ่าอวี้
จั่วชิวเฮ่าอวี้ไม่ได้สร้างความประทับใจที่ดีอะไรให้อี้อวิ๋น เขาไม่อยากพูดกับคนผู้นี้ให้มากความ
“ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียน โปรดทำการขายทันทีเถอะ ข้ายอมรับราคานี้…” อี้อวิ๋นพูด
ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนไม่ตอบอะไร อี้อวิ๋นเห็นว่าเขากับจั่วชิวเฮ่าอวี้สบตากัน ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที…
……………………………………