บทที่ 7 บทที่ 11 เธอและเธอ

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

ชีวิตมักจะยุ่งวุ่นวายอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังจะแต่งงานก็ยิ่งยุ่งวุ่นวาย 

 

 

บรรดาเพื่อนเก่า เพื่อนร่วมห้องมักจะใช้ข้ออ้างของการจะเข้าสู่สุสานการแต่งงานลากเจ้าบ่าวออกมาสนุก…ในคืนสละโสด   

 

 

แต่ทุกคนล้วนแต่รู้จักนิสัยของเซวียเซ่าดี ดังนั้นเมื่อคิดถึงจุดนี้แล้ว ทุกคนจึงจองบาร์แบบเปิดเล็กๆ ดื่มเหล้ากันเฉยๆ 

 

 

มึนเมากันเล็กน้อย 

 

 

เซวียเซ่าพิงอยู่บนโซฟา ถือเบียร์ มองใบหน้าดีอกดีใจของทุกคน เขากลับมาจากทำงานนอกสถานที่ได้สองวันแล้ว แต่รู้สึกว่าสองวันนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน…ที่สำคัญก็คือเหนื่อยมาก 

 

 

เวลานี้หัวหน้าห้องตอนมัธยมปลายเดินเข้ามาหาเขา ใช้ขวดเบียร์ในมือชนกับขวดเบียร์ในมือของเขา “ไม่ไปดื่มกับพวกเขาเหรอ ไม่ไหวแล้วเหรอ” 

 

 

หัวหน้าห้องนั่งลงข้างกายเซวียเซ่าและเอ่ยถาม 

 

 

 “อืม…อยากนั่งพักเงียบๆ สักหน่อย” เซวียเซ่ายิ้มและพูดว่า “ดูแบบนี้ก็ไม่เลว” 

 

 

 “ทอดถอนใจกับชีวิตเหรอ ช่วงถัดไปของชีวิตคนเนี่ยแตกต่างจริงๆ นะ” หัวหน้าห้องแสดงท่าทีเข้าใจนั่งกับเซวียเซ่ามองเพื่อนร่วมห้องที่กำลังสนุกกันและหัวเราะเป็นพักๆ  

 

 

 “เออใช่ วันนั้นฉันช่วยนายส่งการ์ดเชิญไปให้ครูประจำชั้นแล้วนะ” หัวหน้าห้องคิดขึ้นมาได้ 

 

 

เซวียเซ่าชะงัก พูดอย่างแปลกใจว่า “นายไปส่งเหรอ…อ๋อ ฉันคิดออกแล้ว ตอนฉันออกไปทำงานนอกสถานที่ จื่อซานบอกกับฉันเรื่องนี้แล้ว ลำบากนายแล้วนะ เดิมทีควรจะเป็นฉันไปส่งเองแท้ๆ” 

 

 

 “พูดอะไรกัน” หัวหน้าห้องตบไหล่เซวียเซ่า “อาจารย์บอกว่าเขาเกษียณแล้ว มีเวลาเยอะ จะต้องมาแน่” 

 

 

 “งั้นก็ดี” เซวียเซ่าก็ไม่ได้เจออาจารย์นานแล้ว ถึงจะมีคุยกันทางโทรศัพท์บ้างก็ตาม 

 

 

 “อ๋อ ใช่ ยังมีอีกเรื่อง” 

 

 

หัวหน้าห้องมองเซวียเซ่าและพูดว่า “ครั้งก่อนนายให้ฉันหาวิธีติดต่อสวี่เจียอี้ให้ใช่ไหม วันนั้นฉันคุยกับครูประจำชั้น ที่แท้พวกเขาก็ยังติดต่อกันอยู่ ฉันโทรศัพท์ไป แต่ฉันคิดว่าเธอคงไม่มาหรอก คนเขาแต่งงานแล้ว อีกอย่างลูกก็โตหลายขวบแล้วด้วย” 

 

 

 “แต่งงาน…มีลูกแล้ว?” เซวียเซ่าชะงัก จากนั้นก็ถอนหายใจ ดื่มเบียร์อึกหนึ่งและหัวเราะ 

 

 

เขายิ้ม คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะถูกแกล้งอีกครั้ง 

 

 

มีแต่เธอเท่านั้นที่นำพาความประหลาดใจมาให้ฉันได้มากมายขนาดนี้ 

 

 

… 

 

 

 “นายยิ้มอะไร” หัวหน้าห้องถามอย่างแปลกใจ 

 

 

เซวียเซ่าชนแก้วกับหัวหน้าห้อง จากนั้นก็พูดอย่างขบขันว่า “เรื่องราวในโลกล้วนแต่ไม่แน่นอน ยังจะมีอะไรอีกเล่า” 

 

 

หัวหน้าห้องพูดขึ้นในตอนนี้ว่า “ใช่แล้ว เรื่องราวในโลกล้วนแต่ไม่แน่นอน ใครจะคิดว่าสาวสวยประจำห้องของพวกเราจะแต่งงานแล้วแบบนี้ น่าเสียดายจริงๆ แต่พูดแล้วก็ปกติ หลังปิดเทอมฤดูหนาวภาคเรียนที่หนึ่งช่วงมัธยมหกก็ออกจากประเทศแล้ว สอบเข้ามหา’ลัยอยู่ที่นั่นจากนั้นก็ทำงาน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความรักไม่ใช่เหรอ คนต่างประเทศค่อนข้างเปิดกว้าง…ใช่แล้วเซวียเซ่า นายว่าผู้ชายต่างชาตินี่เก่งเรื่องนั้นเป็นพิเศษใช่ไหม เหอะๆ” 

 

 

 “หัวหน้าห้อง สุภาพหน่อยได้ไหม” เซวียเซ่าขมวดคิ้ว รับไม่ได้กับความคิดของหัวหน้าห้องคนนี้จริงๆ 

 

 

เขาก้มลงดื่มเบียร์จากนั้นก็ค่อยๆ ชะงัก คิดถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของหัวหน้าห้องและถามอย่างมึนงงว่า “เมื่อกี้นี้นายพูดว่าอะไรนะ ออกจากไปประเทศก่อนปิดเทอมฤดูหนาวงั้นเหรอ”  

 

 

 “อา ใช่แล้ว ออกจากประเทศ” หัวหน้าห้องพูดว่า “นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนก็รู้กันไม่ใช่เหรอ” 

 

 

 “ไม่ถูก…เป็นไปไม่ได้” เซวียเซ่าขมวดคิ้วและพูดว่า “เธอ…เธอออกจากประเทศไปหลังสอบเอนทรานซ์ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนไม่ใช่เหรอ” 

 

 

 “นายเมาแล้วเหรอ” หัวหน้าห้องลูบๆ หน้าผากของเซวียเซ่า “ไม่ร้อนนี่ ความทรงจำสับสนงั้นเหรอ” 

 

 

 “จะเป็นไปได้ยังไง” เซวียเซ่าตื่นเต้นขึ้นมา “เป็นไปไม่ได้ งั้นตอนเทอมถัดมาของมัธยมหกฉันอยู่กับใคร” 

 

 

 “เทอมถัดมาของมัธยมหก” หัวหน้าห้องคิดและพูดขึ้นว่า “อ๋อ สวี่อะไรนะ…อ๋อๆๆ สวี่ซิน ฉันคิดออกแล้ว สวี่ซิน ไม่ผิด ชื่อนี้แหละ” 

 

 

 “สวี่…สวี่ซิน?” เซวียเซ่ารู้สึกสงสัย 

 

 

หัวหน้าห้องพยักหน้า “ฉันคิดว่านายคงเมาแล้วจริงๆ สวี่ซินไง นายลืมแล้วจริงๆ เหรอ เด็กใหม่ที่เข้ามาห้องเราหลังจากปิดเทอมฤดูหนาวไง สวยด้วย ตอนนั้นพวกนายแอบกุ๊กกิ๊กกันอย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้นะ แต่ก็นะ นายก็เก่งนะ สาวสวยประจำห้องเพิ่งจากไป ก็ได้สาวสวยคนใหม่มาไว้ในมือแล้ว ฮิๆ…แกล้งทำเป็นเข้ม ใช่แล้ว ต่อมานายกับสวี่ซินเป็นยังไงบ้าง ไม่เคยได้ยินนายพูดถึงเลย เลิกกันยังไง สอบมหา’ลัยเดียวกันไม่ติดหรือว่าอะไร” 

 

 

สวี่ซิน…สวี่เจียอี้ 

 

 

จะเป็นไปได้ยังไง 

 

 

เซวียเซ่าลูบหน้าผากของตนเอง “ฉัน ฉันเป็นอะไร…ไม่ถูก เห็นได้ชัดว่าฉัน…เธอเป็นใคร หัวหน้าห้อง สรุปแล้วนายเมาหรือว่าฉันเมากันแน่” 

 

 

หัวหน้าห้องลูบหน้าของตนเองและพูดว่า “ฉันเหรอ ตอนนี้เพิ่งเริ่มอุ่นเครื่องเอง…เซวียเซ่า นายเป็นอะไร ลูบหัวอยู่นั้นแหละ ไม่สบายเหรอ” 

 

 

สวี่ซิน…สวี่เจียอี้…สองชื่อนี้หมุนวนไปมาในหัวของเขาไม่หยุด เหมือนกับเกลียวคลื่น 

 

 

 “ฉัน…ฉันคงดื่มมากไป” เซวียเซ่าส่ายหัว 

 

 

 “ฉันก็ว่าใช่ พูดอะไรก็ไม่รู้” หัวหน้าห้องพยักหน้า “นายรออยู่ที่นี่ก่อน ฉันจะไปเอาน้ำอุ่นมาให้” 

 

 

เซวียเซ่าเห็นหัวหน้าห้องจากไปแล้วก็ลุกขึ้นมาในทันที เดินไปยังกลุ่มเพื่อนร่วมห้อง จับมาคนหนึ่งและถามว่า “อาหมิง นายจำสวี่เจียอี้กับสวี่ซินได้ไหม” 

 

 

 “สวี่เจียอี้เหรอ…จำได้สิ สาวสวยผู้เย็นชาในห้องพวกเราไง” คนที่ชื่ออาหมิงคงดื่มไปเยอะ จับไหล่ของเซวียเซ่าและพูดว่า “สวี่ซิน…อืม ฉันจำได้แล้ว เป็นเด็กสาวที่ย้ายเข้ามาห้องพวกเราหนึ่งเทอมไม่ใช่เหรอ ดูเหมือนจะสวยด้วย…ใช่แล้ว พวกนายเคยเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นพวกนายแอบทำลับๆ ล่อๆ อยู่ตลอด ตอนเรียนอยู่ก็เหมือนกัน” 

 

 

สวี่ซิน… 

 

 

เซวียเซ่าจับมาอีกคน “ลู่ข่าย ถามหน่อยสิ นายจำสวี่ซินได้ไหม” 

 

 

 “แฟนนายไม่ใช่เหรอ” 

 

 

สวี่ซิน… 

 

 

เซวียเซ่าจับมาอีกคน ยังไม่ทันได้ถามอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็พูดว่า “ฉันรู้จักสวี่ซินและก็รู้จักสวี่เจียอี้…อย่ามาหาฉัน ฉันอยากเมา ฮ่าๆๆ…” 

 

 

สวี่ซิน… 

 

 

เขามองดูบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานแล้วก็เหมือนอยู่คนละโลก…ทำไมถึงมีแค่เขาที่จำเด็กสาวที่ชื่อสวี่ซินไม่ได้ 

 

 

 “พวกนาย…ใครมีวิธีติดต่อสวี่ซินบ้าง” เซวียเซ่าถามทุกคนโดยไม่รู้ตัว 

 

 

เพื่อนร่วมชั้นที่ดื่มเหล้าพูดว่า “ฉันมีเบอร์โทรศัพท์ของอาหง เอาไหม…เหอๆ หนึ่งพันตลอดคืน” 

 

 

 “เฮ้ๆ ฉันมีเสี่ยวลี่ ทำงานดีมาก” มีคนยกมือขึ้นเหมือนนักเรียนยกมือตอบคำถามอาจารย์ 

 

 

 “ฉันก็มี ฉันก็มี ฮ่าๆ…ฮิๆ…” 

 

 

เซวียเซ่าส่ายหน้า ถอยหลังไปชนกับหัวหน้าห้องที่เพิ่งรินน้ำร้อนมา เขารู้สึกเหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ได้ จับมือของหัวหน้าห้องและพูดว่า “หัวหน้าห้อง นายติดต่อสวี่ซินได้ไหม” 

 

 

 “อา ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นสวี่ซินแล้วเหรอ” หัวหน้าห้องถาม “จะว่าไป นายอยากจะทำอะไรกันแน่ หาแต่คนรักเก่าเนี่ย” 

 

 

 “อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ บอกฉันก่อน” 

 

 

หัวหน้าห้องพูดอย่างหมดทางเลือกว่า “ฉันจำได้ว่าเธอมาขอเรียนชั่วคราว สอบเอนทรานซ์ก็กลับไปเรียนที่เดิม อืม…งานวันจบการศึกษาก็ไม่ได้มา ไม่มีวิธีติดต่อ แต่นายลองถามครูประจำชั้นดู เขาอาจจะหาเจอ พวกเอกสารข้อมูลอะไรอย่างนี้” 

 

 

… 

 

 

… 

 

 

 “สวี่ซิน?” ชายแก่ผมสีดอกเลาสวมแว่นตาสายตายาวมองเซวียเซ่าอย่างสงสัย 

 

 

นักเรียนคนนี้เขาจำได้อย่างแม่นยำ เพราะเป็นนักเรียนที่เขาอบรมบ่มเพาะออกมา เป็นนักเรียนที่สอบติดมหาวิทยาลัยฉงชิ่ง ทั้งยังติดต่ออยู่บ้างบางครั้ง 

 

 

 “ใช่ครับ อาจารย์ นึกอะไรออกบ้างไหมครับ” เซวียเซ่าถามอย่างจริงจัง 

 

 

 “อืม…นึกไม่ค่อยออก” อาจารย์ส่ายหน้า ทันใดนั้นก็ยืนขึ้น “นายรอเดี๋ยว ฉันจะไปหาดู พวกนายรุ่นที่เท่าไหร่นะ” 

 

 

 “ศูนย์สามครับ” 

 

 

 “รุ่นศูนย์สาม…ศูนย์สาม อา หาเจอแล้ว อยู่นี่เอง” อาจารย์ถือหนังสือเล่มหนาเดินมาข้างเซวียเซ่า เปิดมันออกไปหน้าหน้าหนึ่ง 

 

 

 “สวี่ซิน…อ๋อ หาเจอแล้ว” อาจารย์เปิดหน้านี้ “อืม นายดูสิ สวี่ซิน ไม่ผิดใช่ไหม” 

 

 

‘นักเรียนขอเข้าเรียนชั่วคราว สวี่ซิน เวลาขอเรียน หนึ่งเทอม’…เมื่อเซวียเซ่าดูข้อมูลบนหน้านี้แล้วก็รู้สึกเหมือนมือเท้าเย็นขึ้นมา “อาจารย์…ทำไมถึงมองไม่เห็นรูปภาพของเธอ”  

 

 

 “เบลอไปเหรอ” อาจารย์เช็ดแว่นตาและพูดว่า “เก็บไม่ดีก็จะเกิดจุดเล็กสีดำขาวแบบนี้แหละ อืม…นายก็เตือนฉันพอดี ต่อไปฉันต้องเก็บรักษาให้ดีแล้ว” 

 

 

 “อาจารย์…มีคนที่ชื่อสวี่ซินจริงๆ น่ะเหรอครับ” 

 

 

 “ข้อมูลอยู่นี่ทั้งหมด จะไม่มีได้ยังไง” อาจารย์มองเซวียเซ่าอย่างแปลกใจ 

 

 

เซวียเซ่าไม่พูดอะไร พลิกดูข้อมูลของอาจารย์ต่อ ในที่สุดก็เปิดไปถึงชื่ออีกชื่อหนึ่ง ‘สวี่เจียอี้ ลาออกตอนมัธยมหกเทอมสอง เหตุผล ไปเรียนต่างประเทศ’ 

 

 

ที่แท้…ก็มีแต่ฉันที่ไม่รู้จริงๆ