บทที่ 7 บทที่ 13-1 ชั่วชีวิตนี้จะไม่

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

ฉันไม่มีชื่อและก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นใคร รู้เพียงว่า อยู่ดีๆ ฉันก็มีความคิดขึ้นมา 

 

 

ฉันสามารถมองเห็นคนมากมาย ต่อมาฉันก็รู้ว่าพวกเขาคือมนุษย์ พวกเขามักเดินผ่านตัวฉันไปอยู่เสมอ มีบางครั้งก็มาหยุดอยู่ข้างตัวฉันและพูดคุยกัน  

 

 

ฉันพบว่าตนเองเริ่มชอบฟังมนุษย์เหล่านี้พูดคุยกันเพราะเวลาที่พวกเขาพูดคุยกันนั้นจะทำให้ฉันรับรู้เรื่องราวมากมาย มีทั้งเรื่องที่น่าสนใจ คำบ่น คำนินทาหรือชมคนอื่น  

 

 

ฉันตั้งใจฟังทุกเรื่อง แม้คนเหล่านี้จะไม่รู้ว่าฉันได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดอยู่ก็ตาม 

 

 

แต่ฉันก็ยังคงตั้งใจฟังเช่นเดิม เพราะว่า…ฉันไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ 

 

 

เพราะฉันรู้ว่าฉันเป็นเพียงแค่ต้นไม้ต้นหนึ่งเท่านั้น รากของฉันอยู่ที่นี่ อยู่ลึกมาก อีกทั้งยังจะลึกลงไปเรื่อยๆ…แต่ทันใดนั้นฉันก็มีความคิดว่าหากสามารถไปจากที่นี่ได้ฉันจะไปเดินเล่นให้รอบเลย 

 

 

ไปดูสถานที่ที่ได้ยินพวกมนุษย์พูดถึง ไปกินของที่พวกเขาพูดว่าอร่อย 

 

 

แต่เมื่อไหร่กันฉันถึงจะไปจากที่นี่ได้ 

 

 

ฤดูร้อนอากาศค่อนข้างร้อน ดังนั้นฉันชอบฝน แต่ฤดูหนาวก็หนาวไปหน่อย อีกอย่างก็ทำให้ใบร่วงเยอะแยะ ฉันไม่ชอบเลย 

 

 

เมื่อไหร่ฉันถึงจะได้ไปจากที่นี่สักที 

 

 

ฉัน…อยู่ที่นี่มากี่ปีแล้ว 

 

 

เหงาจัง 

 

 

… 

 

 

ช่วงนี้ฉันมีเรื่องที่ไม่ชอบใจเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง เฮ้อ ไม่ชอบจริงๆ ไม่ชอบเลย มนุษย์เหล่านี้โยนอะไรมาที่ตัวฉันนะ 

 

 

โยนมาทีละอันๆ หนักจะตายแล้ว มันกดทับกิ่งของฉันรู้บ้างไหม ไม่ชอบเลย ไม่ชอบจริงๆ หยุดโยนได้ไหม 

 

 

เชอะ ฉันไม่ช่วยพวกนายทำให้ความปรารถนาเป็นจริงหรอก 

 

 

ฉัน…ฉันจะช่วยให้ความปรารถนาของพวกนายเป็นจริงได้ยังไง…ฉัน…ตัวฉันเองยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ไปจากที่นี่เลย 

 

 

ถึงฤดูหนาวอีกแล้ว ไม่ชอบเลย 

 

 

นกกระจอกหายไปไหนแล้ว ทำไมถึงไม่มาแล้ว…คนออกจากบ้านก็น้อยลง หวังว่าฤดูร้อนจะมาถึงเร็วๆ 

 

 

เมื่อไหร่กันฉันถึงจะได้ไปจากที่นี่ 

 

 

… 

 

 

ต่อมาฉันเจอกับคนคนหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอคนที่สามารถพูดคุยกับฉันได้…อ๋อ ใช่แล้ว เธอพูดว่าตัวเองนั้นไม่ใช่คน แต่เป็นปีศาจ และก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง 

 

 

เธอบอกว่าเธอแซ่หลง ตั้งใจจะมาอยู่ที่นี่ระยะยาว 

 

 

เธอยังบอกฉันว่าที่จริงแล้วฉันเป็นจิตวิญญาณต้นไม้ บอกให้ฉันรอคอยอยู่ที่นี่ จะต้องมีสักวันที่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ 

 

 

ในที่สุดฉันก็รู้ว่าตนเองคืออะไรแล้ว ฉันมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ในสักวัน 

 

 

จากนั้นก็ผ่านไปห้าสิบปีโดยไม่รู้ตัว 

 

 

เป็นเหมือนที่ผู้หญิงแซ่หลงบอกฉัน ฉันสามารถไปจากสถานที่แห่งนี้ได้แล้วจริงๆ…แต่สามารถออกไปได้เล็กน้อยเพียงแค่รอบบริเวณสิบกว่าเมตรเท่านั้น 

 

 

แต่ฉันก็ดีใจมากแล้ว ดีใจมากจริงๆ…สิ่งเดียวที่ไม่ดีใจก็คือของที่พวกมนุษย์เหล่านั้นห้อยไว้บนตัวของฉันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

ที่เก่าแล้วตกลงมา อันใหม่ก็ห้อยขึ้นไป 

 

 

เอาเถอะ ฉันจะไม่รำคาญใจกับเรื่องนี้แล้ว ฉันต้องการบำเพ็ญเพียร ฉันต้องการออกไปจากที่นี่ ไปที่ที่ไกลออกไป 

 

 

… 

 

 

ฮ่าๆ ในที่สุดฉันก็สามารถออกมาไกลๆ ได้แล้ว วันนี้สามารถออกมาได้ไกลถึงสิบกิโลเมตร เป็นครั้งแรกที่ฉันเดินเล่นไปรอบๆ 

 

 

ในระหว่างนี้ก็ผ่านไปอีกห้าสิบกว่าปี 

 

 

หากพูดตามคำพูดของมนุษย์ ฉันก็คงเป็นยายแก่คนหนึ่ง…แล้วสินะ 

 

 

เมื่อไหร่พวกมนุษย์จะเลิกโยนของขึ้นมาบนตัวฉันสักที ฉัน ฉันช่วยพวกนายไม่ได้จริงๆ…ดังนั้น อย่าโทษฉันจะได้ไหม 

 

 

… 

 

 

ช่วงนี้มีมนุษย์เด็กที่ซุกซนมากคนหนึ่ง ซุกซนเกินไปจริงๆ…ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เจ้าเด็กคนนั้นกำลังทำอะไรกันถึงปีนขึ้นมาบนตัวฉัน 

 

 

ถึงจะพูดว่าหลายปีมานี้มีคนปีนขึ้นมาบนตัวฉันไม่น้อย แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ซนแบบนาย นายกลับยืนบนตัวฉันและฉี่ใส่คนด้านล่าง 

 

 

ฉี่สาดกระจายบนตัวฉัน! โอ๊ย! ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ! 

 

 

น่ารังเกียจ! น่ารังเกียจ! น่ารังเกียจจริงๆ! 

 

 

ฮ่าๆ ถูกตีแล้วใช่ไหม เจ้าเด็กซนนี่ถูกตีแล้ว 

 

 

เจ็บใช่ไหมล่ะ รู้จักผิดแล้วใช่ไหม สมน้ำหน้า ร้องไห้ ร้องไห้แล้ว ตอนเห็นนายร้องไห้แล้วฉันมีความสุขจริงๆ ฮ่าๆๆๆ 

 

 

เขาชื่อว่าเซวียเซ่า 

 

 

… 

 

 

ฉันไม่เคยเจอคนที่น่ารำคาญและดื้อมากขนาดนี้มาก่อน เซวียเซ่า นายรู้หรือเปล่าว่าที่นายมาปีนบนตัวของฉันทุกวันนั้นทำให้กิ่งไม้และใบไม้ใหม่ของฉันร่วงลงไปเท่าไหร่ นายรู้บ้างไหม 

 

 

แต่ว่าเห็นแก่ที่นายช่วยฉันโยนป้ายขอพรเหล่านั้นทิ้ง ฉันจะยอมนายชั่วคราว 

 

 

ชิ ขอบคุณฉันล่ะสิ 

 

 

… 

 

 

วันนี้…เซวียเซ่าไม่มา 

 

 

รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ไม่มีความสุขเลย 

 

 

… 

 

 

ที่แท้ก็เป็นหวัดเหรอ…มนุษย์ช่างอ่อนแอจริงๆ แต่ดูเหมือนจะตัวสูงขึ้นหน่อยแล้ว 

 

 

อา รีบๆ โตเร็วๆ เถอะ อย่ามาวุ่นวายกับฉันทั้งวันอีกเลย 

 

 

นายดูสิ ฉันต้องแบ่งสมาธิมาคอยกังวลกับนายทั้งวันจนช่วงนี้ฉันไม่สามารถตั้งใจบำเพ็ญเพียรได้เลย 

 

 

โอ๊ย…เจ้าเด็กดื้อคนนี้ วันนี้ปีนขึ้นสูงขนาดนั้นเดี๋ยวตกลงไปตายหรอก นาย…นายตกลงมาจริงๆ เจ้าเด็กดื้อ 

 

 

ฉันกัดฟันหักกิ่งของตนเอง ในที่สุดก็ห้อยตัวเจ้าเด็กนี่เอาไว้ได้ 

 

 

เจ็บ เจ็บ เจ็บจริงๆ! 

 

 

เจ้าเด็กดื้อคนนี้ รู้จักแต่ก่อความวุ่นวาย ทำเอาฉันเจ็บเกือบตาย ถ้ารู้ว่าจะเจ็บขนาดนี้ฉันไม่ช่วยนายหรอก ปล่อยให้ตกลงไปตายเสียเลย ดูสิว่านายยังจะกล้าดื้อขนาดนี้อยู่ไหม 

 

 

แต่…ไม่เป็นไรก็ดีมากจริงๆ 

 

 

ครั้งหน้าอย่าปีนสูงขนาดนี้อีกนะ เจ้าเด็กโง่ 

 

 

… 

 

 

นี่ เจ้าเด็กดื้อ ทำไมวันนี้ไม่ปีนขึ้นมาแล้วล่ะ เมื่อวานเกือบตกลงไป ในที่สุดก็เลยรู้จักกลัวใช่ไหม ไม่เลว ไม่เลว ยังสั่งสอนได้ 

 

 

รอเดี๋ยว เจ้าเด็กดื้อ นายทำอะไร นายเองก็จะโยนของขึ้นมาบนตัวฉันงั้นเหรอ เจ้าเด็กดื้อ นายกล้าเหรอ 

 

 

 ‘ต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ แม่บอกว่าสวรรค์ช่วยฉัน แต่ฉันคิดว่าไม่ใช่ เป็นเธอช่วยฉันถึงจะถูก ขอบคุณนะ ฉันช่วยเธอขอพรดีกว่า’ 

 

 

ไม่เคย…มีใครขอพรให้ฉันมาก่อน 

 

 

ไม่เคยมีเลย 

 

 

เจ้าเด็กดื้อ…ฉันร้องไห้ได้ยังไงกันนะ 

 

 

เจ้าเด็กดื้อ ฉันเกลียดนาย นายทำฉันร้องไห้ 

 

 

แต่ก็ ขอบคุณนายนะ 

 

 

… 

 

 

วันนี้เซวียเซ่าไม่มา 

 

 

ไม่มีความสุขเลย 

 

 

… 

 

 

วันนี้เซวียเซ่ามาแล้ว…มาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ไป 

 

 

ช่วงนี้ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร 

 

 

นายเริ่ม…เริ่มไปเล่นของอื่นๆ แล้ว เตะบอลเอย วิดีโอเกมเอย เชอะ รู้จักแต่เล่นสนุก จะให้ดีก็อย่ามาอีกนะ 

 

 

เกลียดๆๆๆ เซวียเซ่าน่ารังเกียจที่สุด 

 

 

พรุ่งนี้…นายจะมาอีกไหม 

 

 

… 

 

 

ฉันคิดว่าหากฉันไปปรากฏตัวต่อหน้านายตอนนี้…นายจะเป็นยังไง 

 

 

หงุดหงิดจริงๆ 

 

 

… 

 

 

ในเมื่อนายไม่มา งั้นฉันไปดูนายก็ได้ใช่ไหม ฉันไม่ได้บำเพ็ญเพียรมาตั้งหลายปีเปล่าๆ หรอกนะ เชอะๆๆ ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ 

 

 

… 

 

 

นี่คือโรงเรียนมัธยมต้นของเซวียเซ่าเหรอ เข้าเรียนเป็นอารมณ์ยังไงกัน 

 

 

ตายแล้ว เจ้าเด็กดื้อ อย่าพุ่งตัวเร็วขนาดนั้น เตะบอลป่าเถื่อนขนาดนี้ไปทำไม นายดู ล้มแล้วเห็นไหม 

 

 

ใครใช้ให้นายเล่นแรงขนาดนั้น 

 

 

เจ็บหรือเปล่า 

 

 

… 

 

 

เซวียเซ่า สู้ๆ เซวียเซ่า พุ่งไปเลย พุ่งไป แซงไปเลย ใช่ๆๆ แบบนั้นแหละ ได้คะแนนแล้ว! 

 

 

ฉันดีใจจนกระโดดขึ้นมา 

 

 

มนุษย์ด้านข้างล้วนแต่มองไม่เห็นฉัน ดังนั้นฉันจะดีใจยังไงก็ได้ เย้! 

 

 

ถ้าหาก…ถ้าหากฉันเองก็สามารถไปอยู่ข้างๆ นายแบบพวกเขาและได้โยนนายขึ้นไปด้วยกัน จะดีแค่ไหนกันนะ 

 

 

… 

 

 

วันนี้ถูกแม่นายด่าแล้วใช่ไหม ใครให้นายดื้อตลอดเลยล่ะ 

 

 

เชอะ เห็นแก่ที่สภาพนายอนาถขนาดนี้ ฉันจะช่วยนายสักหน่อยแล้วกัน ด้านข้างมีรูต้นไม้ มีอะไรอยากพูดก็พูดเลย 

 

 

เปิดรูต้นไม้อันเดียวเท่านั้น…ฉันไม่เจ็บหรอก 

 

 

… 

 

 

นาย…ไม่ค่อยมาอีกเลย 

 

 

มัธยมปลายแล้วใช่ไหม 

 

 

… 

 

 

‘สวี่เจียอี้ ฉันชอบเธอ’ 

 

 

นาย…กำลังพูดอะไรที่รูต้นไม้ สวี่เจียอี้คือใคร…คือใคร 

 

 

ฉัน…ครั้งนี้ฉันไม่อยากฟังแล้ว 

 

 

นายหยุดพูดจะได้ไหม… 

 

 

… 

 

 

ฉันรู้ว่านายมีผู้หญิงที่ชอบแล้ว นายแอบตามคนเขาทั้งวัน นายคิดว่าฉันไม่รู้งั้นเหรอ ดูนายแล้วโมโห 

 

 

อย่ามาทางนี้ 

 

 

ฉันไม่อยากมองเห็นนาย 

 

 

ชอบขนาดนี้ นายก็จีบเขาสิ เลวๆ คนเลว 

 

 

… 

 

 

 ‘ต้นไม้แห่งความปรารถนา ได้ยินมาว่าที่นี่ขอพรอะไรก็ได้ ศักดิ์สิทธิ์มาก งั้นก่อนไปฉันก็ขอพรสักหน่อยดีกว่า ฉันขอให้ต่อไปฉันสอบได้มหาวิทยาลัยดีๆ’ 

 

 

เธอ…เธอมาขอพรอยู่ที่นี่ทำไม 

 

 

เธอมาครั้งแรกหรือว่าได้ยินคนเล่าต่อกันมาถึงมาขอให้ฉันช่วย ล้อเล่นอะไร เธอ ยัยผู้หญิงขี้เหร่   

 

 

เธอ…ถ้าเธอไปแล้ว เซวียเซ่าจะทำยังไง เขายังไม่ได้สารภาพรักกับเธอเลย 

 

 

อย่าไปเลย เซวียเซ่าจะเสียใจ ขอร้องล่ะ 

 

 

… 

 

 

เจ้าคนโง่ นายยังจะมาเดินทางเส้นนี้ทำไม คนเขาใกล้จะไปแล้ว นายรู้ไหม 

 

 

… 

 

 

 ‘เธอไปแล้ว ไปต่างประเทศแล้ว ไปทั้งอย่างนี้เลย’ 

 

 

ฉันรู้แล้ว ไม่ต้องพูดกับรูต้นไม้ของฉัน ฉันก็รู้แล้ว…เจ้าโง่ 

 

 

‘ปวดใจจังเลย อยากร้องไห้…ฉันอยากร้องไห้จริงๆ’ 

 

 

นายร้องไห้แล้วนี่ 

 

 

เซวียเซ่า หยุดร้องไห้ดีไหม…ได้โปรดอย่าร้องไห้เลยดีไหม ได้โปรด… 

 

 

ฉัน จะให้ฉันทำยังไงก็ได้ ขอร้องล่ะ อย่าให้ฉันต้องมองเห็นนายเศร้าขนาดนี้เลย 

 

 

ขอร้องนายล่ะ… 

 

 

… 

 

 

‘ขอร้องเธอ ช่วยฉันสักครั้งได้ไหม’ 

 

 

ฉันทนเห็นดวงตาอันเจ็บปวดเศร้าสร้อยของเซวียเซ่าไม่ได้ หลายวันมานี้ฉันแอบมองเขาอยู่นอกบ้านของเขา เขาเอาแต่หลบอยู่ในห้องคนเดียว 

 

 

ฉันตัดสินใจไปหาปีศาจแซ่หลงคนนั้นและขอให้ช่วย 

 

 

แต่ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจ ดังนั้นฉันจึงต้องขอร้องเธอเรื่อยๆ จนเธอรำคาญ 

 

 

‘ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ต่อไปห้ามอีก’ 

 

 

แต่สุดท้ายเธอก็ยังกำชับฉันอย่างเคร่งขรึมอีกว่า ‘คนนั้นมีโลกของคน ปีศาจและจิตวิญญาณก็มีโลกของใครมัน เธอข้ามเส้น สุดท้ายคนที่จะเจ็บก็คือตัวเธอเอง’ 

 

 

‘ไม่หรอก ฉันจะไม่เสียใจทีหลังแน่’ 

 

 

ฉันขอให้เธอผนึกความทรงจำเรื่องสวี่เจียอี้ไปต่างประเทศของเซวียเซ่า ทำให้เขาจำเรื่องนี้ไม่ได้ 

 

 

… 

 

 

วันนี้ฉันสวมชุดกระโปรงแสนสวยและเผยรูปลักษณ์ของตัวเองต่อหน้ามนุษย์เป็นครั้งแรก…ไม่ถูก เป็นเพียงรูปลักษณ์ของมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น 

 

 

มนุษย์คนนี้ชื่อว่าสวี่เจียอี้ 

 

 

ฉันยืนพิงอยู่ที่ร่างของตัวเอง รออยู่นานมาก นายมาแล้ว…ตื่นเต้นจริงๆ 

 

 

ฉันมองเห็นเขาแล้ว 

 

 

ฉันยังตื่นเต้นอยู่ กลัวว่าเขาจะมองอะไรออก แต่ฉันก็ยังแข็งใจพูดออกไปว่า ‘เซวียเซ่า นายอยากซื้อเค้กเลี้ยงฉันไหม’ 

 

 

… 

 

 

เพื่อนร่วมชั้นเรียนล้วนแต่คิดว่าฉันคือสวี่ซิน มีเพียงเซวียเซ่าเท่านั้นที่จะเห็นฉันเป็นสวี่เจียอี้ 

 

 

ฉันรู้ว่าใต้เท้าหลงเป็นคนปากแข็งแต่ใจอ่อน ปากพูดว่าจะช่วยฉันเพียงแค่ครั้งเดียวแต่ก็ยังช่วยฉันถึงขนาดนี้…ขอบคุณมาก